ตอนที่ 707 ยังไม่เชื่อว่าตายจนกว่าจะเห็นศพ

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ตอนที่ 707 ยังไม่เชื่อว่าตายจนกว่าจะเห็นศพ

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าสะพานจะถล่มลงมาจริงๆ ตัวสะพานที่ใหญ่ ทนทาน สร้างจากคอนกรีตและเหล็กหนา และด้วยพื้นฐานพละกําลังวิวัฒนาการระยะ 5 ที่ชูฮันมีมันไม่มีทางที่จะถล่มสะพานลงได้ แต่มันสามารถเป็นไปได้ถ้าใช้หลักการฟิสิกส์ที่ถูกต้อง

 

ตอนนี้ ในที่สุดชูฮันก็วิ่งไปหาชินยู่ซวนที่ฝั่งปลอดภัยอีกฝั่ง ขณะที่สะพานค่อยๆพังครืนและหายไปในแม่น้ำพร้อมๆกับซอมบี้ที่อยู่บนสะพาน พวกมันไม่มีสมอง พวกมันไม่รู้ว่าสะพานกําลังถล่มลงแม่น้ำ มันจะจมน้ำไปพร้อมๆกับสะพาน

 

ภาพสะพานที่ค่อยๆถล่มลงนั้นเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก เสียงพังครืนของเศษคอนกรีตที่ค่อยๆตกลงแม่น้ำ เสียงรอยแตกที่เคลื่อนตัวแผ่กระจาย สะพานที่เชื่อมสองฝั่งของเมืองหนานตู้ไม่มีอยู่อีกต่อไป

 

เสี่ยวหยุนเทียนและคนอื่นๆที่อยู่อีกฝั่งตะลึงค้างและไม่ได้สติอยู่พักใหญ่ พวกเขาได้ยืนโง่ๆอยู่ที่เดิม ช็อคจนเสียงหาย!

 

โดยเฉพาะเสี่ยวหยุนเทียน อารมณ์ภายในที่ตีกันยุ่งเหยิงไปหมด เขาพยายามที่จะขัดขวางชูฮันทุกอย่างแทบตาย แต่กลายเป็นว่าเขาไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง แถมยังเสียโอกาสสุดท้ายที่จะออกไปจากพื้นที่นี่อีก ด้านหลังมันมีคือใจกลางเมืองของหนานตู้ซึ่งเป็นที่ที่มีซอมบี้มหาศาลอัดแน่นอยู่ และมันก็ไม่มีทางออกใดที่จะออกไปจากที่นี้ได้แล้วเพราะสะพานไม่มีอีกต่อไป นอกจากผ่านทางใจกลางเมืองไป

 

หัวของเสี่ยวหยุนเทียนจะแทบจะระเบิด ความกลัวพุ่งทะลักขึ้นมา เขารู้สึกเสียดายกับการกระทําของตัวเอง ตอนนี้ชีวิตเขาจบสิ้นแล้วจริงๆ!

 

ชูฮันยืนอยู่กับชินยู่ซวนพร้อมกับมีขวานยักษ์พาดอยู่บนไหล่ด้วยท่าทางสบายๆและหัวเราะเยาะเย้ยใส่กลุ่มเสี่ยวหยุนเทียนด้วยความสะใจ

 

จะปล้นเขางั้นเหรอ?

 

เขาทําลายสะพานแล้ว เพราะฉะนั้นพวกแกก็อยู่ที่ฝั่งนั้นไปละกัน รอคอยให้ซอมบี้ทั้งหลายมารุมทิ้ง!

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ในตอนนั้นเองยู่เว่ยที่ได้สติกลับมาจากอาการช็อคกระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “ดูสีหน้าของเสี่ยวหยุนเทียนสิ นี่มันดียิ่งกว่าได้ฆ่ามันซะอีก!”

 

“พูดถูกที่สุด!” หยางดินที่ถูกเสี่ยวหยุนเทียนเอาเปรียบมานานก็เย้ยหยันด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็หันไปหาชูฮันเพื่อแสดงความเคารพ “ท่านพลเอกชูฮัน วันนี้ท่านได้เปิดตาให้เรามองเห็นความจริง”

 

หยางลานที่อยู่ข้างๆเองก็มีท่าทีตื่นเต้นและมีความสุขเช่นกัน เขาและหยางดินเคารพทัศนคติของท่านพลเอกชูชันจริงๆ

 

ชินยู่ซวนและยู่เว่ยที่ได้ยินก็นิ่งตะลึงค้างไปเลย

 

“ท่านพลเอกชูฮัน?” ชินยู่ซวนเป็นคนที่ตกใจมากที่สุด เขาหันไปมองหน้าชูฮันอีกสองสามครั้ง จากนั้นก็แหกปากลั่น “ไอ้หนุ่มนี่กลายเป็นชูอัน? จริงเหรอ นี่ฉันได้เจอกับพลเอกเข้างั้นเหรอ!”

 

ชินยู่ซวนไม่เคยคิดเลยว่าเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เขาดึงขึ้นมาจากกองซอมบี้มหาศาลจะกลายเป็นชูฮันคนดังคนนั้น!

 

ยู่เว่ยที่ได้สติกลับมาแล้วก็ลืมตาโพรง เขาเม้มปากแน่นราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลังจากคิดทบทวนแล้วเขาก็ได้แต่ปิดปากแน่น

 

หยูเหว่ยหลังจากกลับไปหาพระเจ้าทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายริมฝีปากของเขาพุ่งพรวดและเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลังจากความคิดเขาก็ปิดปาก

 

ชูฮันยืนกวาดสายตามองทั้งสี่คน จากนั้นก็กระชากหวังไคที่ซินยู่ซวนอุ้มไว้กลับมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงชิวๆ “แกตายแน่”

 

ชินยู่ซวนตะลึง เขารู้สึกอับอายจนได้แต่เกาหัวแกรกๆ และหวังไคก็ได้แต่ยิ้มอายๆอย่างขอโทษแก่ชูชัน

 

หยางดินและหยางดินมองหน้ากันและกันไปมาและยิ้มแปลกๆให้กัน ฮันที่พวกเขาได้ยินมาเป็นคนที่เย่อหยิ่งและยโสไม่น้อยเลย แม้ว่าทั้งค่ายซางจิงจะอยู่ตรงหน้า ชูฮันก็ไม่แม้แต่จะให้อยู่ในสายตาสินะ?

 

แต่ตอนนี้เมื่อมองพลเอกชนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า มันดูแตกต่างจากข่าวลือที่ได้ยินอย่างสิ้นเชิง

 

ชูฮันเก็บหวังไคลงไปในกระเป๋าตัวเองเหมือนเดิม เช่นเดียวกับขวานซิ่วโหลที่หายวับไปในพริบตา จากนั้นก็เชิดหน้าขึ้นใส่ทั้งสี่คน “หนทางยังอีกไกล เรามีเวลามากมายที่จะคุยเรื่องความสามารถของพวกคุณ ว่ามั้ย?”

 

หยางลินและหยางดินไม่คัดค้าน พวกเขามีเป้าหมายของตัวเอง และไม่มีความเสียดายใดๆ

 

และทันใดนั้นเองยู่เว่ยก็พูดขึ้นคนแรก “ท่านพลเอกชูชัน ผมเป็นพรสวรรค์ระยะ 3 ความสามารถในการควบคุมกระแสลม สามารถเปลี่ยนพื้นที่เฉพาะเจาะจงให้เป็นสุญญากาศได้ครับ”

 

หลังจากพูดจบ ชินยู่ซวนก็หันไปมองยู่เว่ยด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนหน้านี้เขาดูยู่เว่ยถือดาบยาวจัดการซอมบี้ซึ่งค่อนข้างฝีมือ ยู่เว่ยไม่มีท่าทีหวาดกลัวกับการต้องสู้กับซอมบี้ระยะ 3 เลย ชินยู่ซวนจึงคิดว่ายู่เว่ยเป็นวิวัฒนาการด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นพรสวรรค์ที่มักมีสมรรถภาพทางกายภาพต่ำกว่าวิวัฒนาการได้อย่างไร?

 

นี่หาเจอได้ยาก พรสวรรค์ที่มีสมรรถภาพทางกายภาพสมบูรณ์แบบเทียบกับวิวัฒนาการระยะ 2 ยูเว่ยคนนี้ไม่ธรรดมาและแข็งแกร่งพอควร!

 

หยางดินและหยางลานเองก็มีสายตาแปลกๆเช่นกัน แม้ว่าทั้งคู่จะได้เจอกับยู่เว่ยภายใต้การนําของเสี่ยวหยุนเทียน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของยู่เว่ย

 

กลายเป็นว่ายู่เว่ยมีพลังในการควบคุมอากาศ!

 

ไม่เพียงแค่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยิน แต่ความสามารถที่เปลี่ยนพื้นที่เจาะจงให้กลายเป็นสุญญากาศได้ทําให้ความสามารถนี้โดดเด่นสุดๆ มันอาจจะฟังดูธรรมดาและไม่มีประโยชน์แต่ความจริงมันมีประสิทธิภาพอย่างมากในการต่อสู้

 

ชูฮันเม้มปาก สบตากับยู่เว่ยที่จู่ๆก็แนะนําตัวเองให้กับอย่างละเอียด “ต้องการให้ช่วยอะไร?”

 

ไม่คิดว่าพลเอกอันจะสบตาตรงๆแบบนี้ ทันใดนั้นยู่เว่ยก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนทันที “ครับ”

 

ชูฮันมองยู่เว่ยอย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้รับปากในครั้งแรก เขาต้องการฟังรายละเอียดก่อน “พูดมาก่อน ฉันจะช่วยถ้ามันน่าสนใจ ถ้าไม่น่าสนใจฉันก็จะไม่ช่วย”

 

ทัศนคติที่ชัดเจนและแสดงความเป็นตัวอย่างโดดเด่นของชูฮันทําให้ทั้งสี่คนตะลึงค้างอีกครั้ง ท่านพลเอกชูฮันช่างเป็นคนที่พิเศษจริงๆ

 

ยู่เว่ยทั้งเครียดและคาดหวังก่อนจะพูดขึ้น “น้องสาวของผม เธอถูกลูกผสมจับตัวไว้ ผมอยากช่วยเธอออกมา!”

 

“ไม่ช่วย” ชูฮันเอ่ยปฏิเสธทันทีพร้อมกับหมุนตัวเดินออกไปอีกทางอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงเย็นชาและไร้ความปรานี “ถ้าถูกกลุ่มลูกผสมจับไป และฉันดูจากสภาพของนายที่น่าจะโดนไอ้หมอนั่นจับมาอยู่ด้วยหลายวนแล้ว คาดว่าปานนี้น้องสาวของนายโดนจับกินไปแล้วละ มันเปล่าประโยชน์ที่จะไปช่วย”

 

“ไม่! ผมต้องเห็นศพของน้องผม ผมถึงจะเชื่อว่าน้องผมตายแล้วจริงๆ!” ยูเว่ยกังวลอย่างมาก “ท่านเป็นพลเอกของจีนไม่ใช่เหรอไง? ที่นี้มีลูกผสมเต็มไปหมด ท่านจะไม่แก้ปัญหาหรือไง?”

 

ชูฮันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรําคาญ แก้ปัญหาบ้าอะไรล่ะ ซอมบี้ในจีนมีมากถึงพันล้านตัว ถ้าฉันต้องไล่จัดการปัญหา ฉันต้องฆ่าซอมบี้และลูกผสมทั้งจีนเลยมั้ย?”

 

ยูเว่ยอึดอัดและไม่รู้จะเถียงยังไงต่อ “น้องสาวของผมเป็นวิวัฒนาการ เธอถูกลูกผสมที่มีใบหน้าซีกหนึ่งเหมือนกับคนปกติหลอกไป ไม่แน่เธออาจจะยังไม่ตาย! ถ้าเธอยังไม่ตาย ผมและน้องสาวของผมจะทํางานรับใช้ท่านไปชั่วชีวิต เราจะไม่มีวันทรยศ!”

 

ข้อมูลมากมายที่ยู่เว่ยเล่าออกมาทําให้ชินยู่ซวน หนึ่งในคืนที่ยืนฟังอยู่ชะงักกับสิ่งที่ได้ยิน ใบหน้าซีกหนึ่งเป็นลูกผสม? มันมีลูกผสมแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ?

 

และ โดนหลอก?

 

ลูกผสมจับมนุษย์ไปโดยไม่สนใจว่าจะเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่หรือไม่ จุดประสงค์ของมันคือการกินเพื่อเพิ่มระยะของตัวเองไม่ใช่เหรอไง? ทําไมมันต้องหลอกล่อ? ทําไมต้องหลอกวิวัฒนาการ? แล้วถ้าเป็นเรื่องจริงลูกผสมนั้นต้องระยะสูงมากแน่ แต่ทําไมลูกผสมถึงทําแบบนี้?

 

ในขณะที่ทุกคนต่างขบคิดอยู่ในหัว ชูฮันที่เดินห่างไปไกลแล้วจู่ๆก็หยุดชะงัก และเอ่ยขึ้นจากที่ไกลด้วยน้ำเสียงดิ่งลึก “น้องสาวของนายเป็นวิวัฒนาการ และถูกลูกผสมที่เปลี่ยนครึ่งหน้าเป็นมนุษย์หลอกไป?”