บทที่ 979 ฉันสบายดี / บทที่ 980 จะอวดเก่งไปได้อีกแค่ไหน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 979 ฉันสบายดี

ซือเยี่ยหานได้ยินก็ไม่พูดอะไร แต่กลับพลิกตัวจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากหญิงสาว

เยี่ยหวันหวั่นลูบหน้าผาก แล้วพึมพำอย่างไม่ค่อยพอใจ “จะมักง่ายเกินไปแล้ว…”

แววเอือมระอาพาดผ่านดวงตาซือเยี่ยหานแวบหนึ่ง เขาโน้มหน้าเข้าไปจูบมุมปากของหญิงสาวใหม่อีกครั้ง

โอบกอดร่างอันอบอุ่นของหญิงสาว เสียงทอดถอนใจของซือเยี่ยหานดังอยู่ข้างใบหูของหญิงสาว “ฉันสบายดี”

……

กลางดึก ณ บ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งในเมืองหลวง

ฉินเฟิงมองลูกสาวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “วันมะรืนคุณมู่ก็จะมาแล้ว รั่วซี ลูกเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว?”

ฉินรั่วซีพูดอย่างมั่นใจ “คุณพ่อวางใจเถอะค่ะ หนูเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว”

ฉินเฟิงมองลูกสาวที่สวมชุดฝึกสีดำทั้งตัว แล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม คุณมู่หลงใหลในศิลปะการต่อสู้ของจีน ลูกฝีมือดีขนาดนี้ คุณมู่จะต้องประทับใจในตัวลูกแน่นอน”

ฉินเฟิงกล่าว “ครั้งนี้การประชุมแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ระดับโลกจัดที่จีนพอดี คุณมู่จะต้องมาชมการแข่งขันแน่นอน พอถึงตอนนั้นลูกก็พายอดฝีมือไปด้วยหลายๆ คนแล้วกัน”

ฉินรั่วซีตอบรับ “ค่ะ คุณพ่อ”

“พักนี้ผู้หญิงคนนั้นมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม?” ฉินเฟิงถาม

“ได้ยินมาว่ากำลังถ่ายทำภาพยนตร์ค่ะ” ฉินรั่วซีตอบ

“เหอะ…” ฉินเฟิงแค่นเสียงอย่างดูถูก “ผู้หญิงประเภทนั้น ไม่มีทางเข้าตาคุณมู่แน่นอน คุณผู้หญิงก็อายุมากแล้ว ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเลอะเลือน นึกไม่ถึงว่าจะปล่อยให้ผู้นำตระกูลทำตามอำเภอใจ!”

……

เช้าวันต่อมา กวงเย่ามีเดีย

เหล่าพนักงานกำลังล้อมวงกันซุบซิบพูดคุยกัน

“รองประธานเก่งจัง เพิ่งเปิดบริษัทได้ไม่นาน ก็เริ่มมีชื่อเสียงในวงการแล้ว…”

“ขนาดหวงเทียนยังทำอะไรเขาไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าจะฟ้องเขาอยู่เลย ผลปรากฏว่าเป็นไงล่ะ พอถึงเวลากลับกลายเป็นโจรร้องจับขโมยซะอย่างงั้น!”

“ที่สุดยอดที่สุดก็คือ หวงเทียนทำเรื่องราวใหญ่โตเอิกเกริก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าตัดชุดแต่งงาน[1]ให้คนอื่นซะงั้น พวกนั้นต้องโปรโมทภาพยนตร์ของบริษัทรองประธานเยี่ยให้แบบฟรีๆ!”

“ถ้ารองประธานเยี่ยยังรุ่งก็ดี แต่น่าเสียดาย…”

ตอนนั้นเอง ไช่หย่งเซิ่งกับผู้ช่วยก็สาวเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองย่อมได้ยินเรื่องที่คนพวกนั้นกำลังคุยกันอยู่

ผู้ช่วยรีบตวาดตำหนิเสียงดังทันที “พวกคุณทำไมไม่ไปทำงาน มัวสุมหัวคุยอะไรกันอยู่? อยากโดนหักเงินเดือนใช่ไหม?”

ไช่หย่งเซิ่งกวาดสายตาเย็นชามองคนพวกนั้นแวบหนึ่ง

พนักงานที่จับกลุ่มซุบซิบกันเมื่อกี้รีบก้มหน้างุด ไม่กล้าพูดอะไรอีก บรรยากาศในออฟฟิศเงียบกริบทันที

ไช่หย่งเซิ่งเดินเข้าห้องทำงานไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“คนพวกนั้นที่คุยเรื่องเยี่ยไป๋ ไล่ออกให้หมด!” ไช่หย่งเซิ่งพูดอย่างโมโห

ผู้ช่วยได้ยินก็ทำหน้าลำบากใจ “นั่นมัน…ประธานไช่ครับ ช่วงก่อนมีพนักงานลาออกไปเยอะมาก บริษัทเราคนไม่พออยู่แล้ว ถ้ายังมาไล่พวกเขาออกตอนนี้อีก เกรงว่า…”

ก่อนหน้านี้ไช่หยิ่งเซิ่งบีบให้เยี่ยไป๋ลาออก ทำให้ลั่วเฉินกับกงซวี่ แล้วยังมีเฟลิกซ์ของกวงเย่ามีเดียลาออกตามไปด้วย สุดท้ายแม้แต่หานเซี่ยนอวี่ของโกลบอลก็ตามไปด้วย

เพราะเรื่องราวบานปลายใหญ่โตเกินไป ประธานฉู่จึงปลดไช่หย่งเซิ่งออกจากตำแหน่งเพราะทำงานได้ไม่ดี

แต่ว่า ผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน ไช่หย่งเซิ่งก็กลับมาที่กวงเย่ามีเดียอีกครั้ง แล้วยังเข้ามารับตำแหน่งประธานโดยตรงอีก เขาสร้างผลงานชดเชยความผิดในอดีต ทำให้กวงเย่ามีเดียกลับมามั่นคงอีกครั้ง

ไช่หย่งเซิ่งตบโต๊ะเสียงดัง “ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยไป๋ กวงเย่าจะตกอยู่ในสภาพนี้เหรอ!”

ทั้งที่เคยเป็นเนื้อก้อนโตแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแค่เศษเนื้อ แล้วเขายังต้องถูกบังคับให้กลืนมันลงไปอีกด้วย

ที่ทำให้เขาแค้นยิ่งกว่าก็คือ หลังจากเยี่ยไป๋ออกจากกวงเย่าไปแล้วยังได้ดิบได้ดี นั่นไม่เท่ากับตบหน้าเขาหรอกหรือ?

————————————————————————————-

บทที่ 980 จะอวดเก่งไปได้อีกแค่ไหน

ผู้ช่วยเห็นอย่างนั้นก็กลอกตาไปมา จากนั้นก็ชะโงกหน้ากระซิบข้างหูไช่หย่งเซิ่งว่า “ประธานไช่ ความจริงแล้วจะเล่นงานเยี่ยไป๋ไม่ใช่เรื่องยากเลย ทุกวันนี้ในวงการบันเทิง มีใครบ้างไม่มีเส้นสายคุ้มกะลาหัว เยี่ยไป๋ไม่มีอำนาจไม่มีพรรคพวกในเมืองหลวง ยิ่งไม่มีทางมีเส้นสายในวงการบันเทิงแน่นอน กองถ่ายของเขาก็คงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแค่ไม่กี่คน ประธานไปขอให้จางเหล่าซานช่วย ไปหาเรื่องพวกนั้นที่กองถ่ายนิดหน่อย ไม่ให้พวกเขาได้มีโอกาสเปิดกอง…”

ไช่หย่งเซิ่งได้ยิน สายตาก็เป็นประกายขึ้นมา

ใช่แล้ว! ทำไมเขาถึงคิดไม่ได้กันนะ!

แถมพอถึงเวลาถึงแม้จะเอาเรื่อง ก็สืบมาไม่ถึงตัวเขาแน่นอน

“แต่จางเหล่าซานไม่ได้จะขอให้ช่วยกันได้ง่ายๆ น่ะสิ” ไช่หย่งเซิ่งขมวดคิ้ว

ผู้ช่วยบอกว่า “ท่านประธานลืมไปแล้วเหรอครับ จางเหล่าซานเคยมีประเด็นกับกงซวี่ ตอนนี้กงซวี่ไม่สนใจใครหน้าไหนอีกแล้ว แล้วยังออกจากโกลบอลไปอีก แค่ท่านประธานใส่ไข่ใส่สีไม่กี่ประโยค ด้วยนิสัยของจางเหล่าซาน เขาต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปแน่ครับ!”

พอคิดมาถึงตรงนี้ ไช่หย่งเซิ่งก็อารมณ์ดีขึ้นมาก “นายพูดถูก ไป นายไปนัดจางเหล่าซานให้ฉันคืนนี้เลย!”

“ครับ ท่านประธาน ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

ตกเย็น ณ โรงแรมใหญ่ระดับหกดาวแห่งหนึ่งในเมืองหลวง

ชายที่เต็มไปด้วยไขมันทั้งตัว สวมเสื้อกล้ามสีดำพูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ทำไม? นัดฉันมามีเรื่องอะไร?”

ไช่หย่งเซิ่งสั่งให้ศิลปินหญิงที่ตนพามารินเหล้าให้เขา พลางเอ่ยปากด้วยท่าทางสุภาพ “พี่จาง ผมมีเรื่องจะขอให้พี่ช่วยจริงๆ บังเอิญว่าเจอเสี้ยนหนามเข้า หมอนั่นไม่รู้จักเคารพกฎเกณฑ์ เลยอยากขอให้พี่ช่วยไปสั่งสอนซักหน่อย…”

จางเหล่าซานแค่นหัวเราะ “ท่านประธานไช่ นี่คุณเห็นผมเป็นนักเลงหัวไม้เหรอ?”

ไช่หย่งเซิ่งรีบกล่าว “พี่จาง พี่พูดอะไรอย่างงั้นล่ะ! พี่เป็นถึงใคร ในวงการเมืองหลวงมีใครบ้างไม่รู้จักพี่! แม้แต่โกลบอลก็ยังต้องอาศัยบารมีของพี่เลย!”

เดิมทีจางเหล่าซานเป็นโค้ชศิลปะการต่อสู้ซ่านโฉ่วของทีมระดับจังหวัด หลังเกษียณก็อยู่ในวงการต่ออีกช่วงหนึ่ง พอหาเงินได้หน่อยก็วางมือแล้วไปเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย พนักงานรักษาความปลอดภัยของโกลบอลก็ถูกจ้างมาจากบริษัทของเขาทั้งนั้น

พอได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของจางเหล่าซานก็อ่อนลงหลายส่วน

ไช่หย่งเซิ่งพูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้นนะ พี่จาง เจ้าเด็กเหลือขอกงซวี่นั่น เขาเคยหักหน้าพี่ต่อหน้าคนมากมายอย่างนั้น พี่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ? อย่างนั้นก็เข้าทางหมอนั่นเกินไปมั้ง?”

จางเหล่าซานได้ยินก็หน้าบึ้งทันที

ก่อนหน้านี้ เขาถูกใจศิลปินหญิงคนหนึ่ง เลยคิดจะใช้กำลังบังคับมา แต่ปรากฏว่ากลับถูกเจ้ากงซวี่ทำเสียเรื่อง แล้วยังโดนหักหน้ากลางที่สาธารณะอีก

แต่เพราะตอนนั้นกงซวี่เป็นศิลปินของโกลบอล มีฉู่หงกวงคอยไกล่เกลี่ย บวกกับติดตรงที่กงซวี่มีพ่อของเขาคอยคุ้มหัว เขาเลยทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทน

พอเห็นจางเหล่าซานเริ่มเอนเอียง ไช่หย่งเซิ่งรีบส่งสายตาให้ผู้ช่วยเขาทันที

ผู้ช่วยรีบหยิบกระเป๋าใบหนึ่งเดินเข้ามา ข้างในเต็มไปด้วยเงินสดจำนวนหนึ่ง

จางเหล่าซานเหล่มองเงินในกระเป๋าอย่างไม่แยแส “ผมจะถือว่าเห็นแก่หน้าประธานฉู่สักครั้งก็แล้วกัน!”

ไช่หย่งเซิ่งรีบรินเหล้าให้เขา “พี่จาง ขอบคุณพี่มาก! แต่ว่าพี่จาง เจ้าเยี่ยไป๋นั่นเป็นคนเจ้าเล่ห์ พี่ต้องระวังตัวด้วยล่ะ อย่าหลงกลเขาเด็ดขาด!”

ไช่หย่งเซิ่งเตือนสติ

จางเหล่าซานกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวหมด “วางใจ ครั้งนี้ ฉันจะไปด้วยตัวเอง”

ไช่หย่งเซิ่งลิงโลด “พี่จางไปด้วยตัวเอง ย่อมต้องไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว!”

หึๆ ต้องขอบคุณเจ้ากงซวี่จริงๆ ไม่อย่างนั้นจางเหล่าซานคงไม่ใส่ใจขนาดนี้

เหอะ เยี่ยไป๋ ฉันจะคอยดูว่านายจะอวดเก่งไปได้อีกแค่ไหน!

……………………………………………………….


[1] ตัดชุดแต่งงานให้คนอื่น หมายถึงการทำอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์ ผลประโยชน์ที่ตัวเองหวังกลับกลายเป็นของผู้อื่นแทน