ตอนที่ 334 โลกดึกดำบรรพ์2

Legend of the mythological genes

กลิ่นอายชั่วร้ายในพื้นลุกขึ้นท่ามกลางไฟ มันเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟเมื่อสัมผัสกับหินและยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อหินไฟ!

เปลวไฟที่พุ่งออกมาจากภูเขาไฟนี้ไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา พวกมันเกิดจากกลิ่นอายชั่วร้ายที่หลอมละลายลงไปในไฟ

ไฟคือปีศาจ

เมื่อระลึกถึงการเล่นแร่แปรธาตุ เขาก็จำได้ทันทีว่านี่คือไฟแท้จริงอสูรโลกีย์ที่หายาก

เปลวไฟชนิดนี้ไม่ได้ครอบครองพลังทำลายล้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเปลวไฟชั้นดีในการเล่นแร่แปรธาตุ

การกลั่นยาเป็นวิชาที่เปลี่ยนโชคชะตา มันไม่ใช่ว่ายิ่งอุณหภูมิสูงขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น มันต้องมีความสมดุลเพื่อสามารถผลิตความลึกซึ้งอย่างไม่รู้จบ

ยกตัวอย่างเช่น ไฟแท้จริงอีกาทองที่เรียกว่าไฟสุริยัน มันเป็นเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดในโลก แต่พลังของไฟนั้นรุนแรงเกินไปและมันจะเผาทุกอย่าง เมื่อมีบางสิ่งเข้ามาอยู่ใกล้จะกลายเป็นขี้เถ้าทันที

แม้ว่าจะมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุ

พลังของไฟแท้จริงอสูรโลกีย์ไม่รุนแรง แต่มันก็คงสมดุลไว้ มันไหลเหมือนน้ำและเผาทุกอย่างช้าๆโดยไม่ทำลายคุณสมบัติที่สำคัญของยา มันช่วยให้ผู้ใช้สกัดแก่นสำคัญทางยาของส่วนผสมได้ดี สามารถกระตุ้นพลังของยาในระดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เฟิงหลินยังคงมีปัญหากับการไม่มีไฟแท้จริง จากนั้นเขาก็พบมันเข้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ใช้ความพยายามใด ๆ เลย

เฟิงหลินเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

แน่นอนจะมีสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ท่ามกลางความบังเอิญ

ในยุคระหว่างดวงดาว มีไฟแท้จริงที่เกิดขึ้นน้อยมาก มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะค้นหาพวกมันเจอ

อย่างไรก็ตามในยุคแรกเริ่มที่มีปราณวิญญาณหนาแน่น วัตถุทางจิตวิญญาณสามารถมองเห็นได้ทุกที่

ไฟแท้จริงมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเหมือนกับเปลวไฟทั่วไป พวกมันไม่ได้มีค่าอะไรเลย

ภูเขาไฟที่สูงหลายหมื่นเมตรปะทุขึ้นและเปลวไฟทั้งหมดเป็นไฟแท้จริงอสูรโลกีย์ กระแสเปลวไฟพุ่งทะลักออกมาจากปากของภูเขาไฟ ดูเหมือนกับไฟฉายขนาดใหญ่ที่ส่องสว่างทั่วทั้งท้องฟ้า

ควันดำเผาไหม้ทำให้ออกซิเจนในอากาศหมดไป การเข้าใกล้จะทำให้รู้สึกว่าหายใจไม่ออก

เฟิงหลินไม่ได้ถอย เขาพุ่งไปข้างหน้า เขาขี่เมฆและเข้าใกล้ภูเขาไฟเรื่อยๆ

พลังวิญญาณของเขากระจายควันดำออกไป เปลวไฟปรากฏต่อหน้าเขา เปลวไฟที่ปรากฏอย่างไม่หยุดหย่อนเหมือนคลื่นยักษ์และมีสีแดงม่วง ฉากนั้นดูหมือนนรก

แม้จะมีร่างกายลิงหินแต่เฟิงหลินก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปในเปลวไฟ

ไฟแท้จริงและเปลวไฟธรรมดานั้นต่างกัน

เปลวไฟธรรมดาเป็นเพียงสถานะพลังงานที่เกิดขึ้น เมื่ออนุภาคปะทุออกมาพวกมันก็ไม่มีรูปแบบวัตถุใดๆ

ในทางตรงกันข้ามไฟแท้จริงมีรูปแบบวัตถุและมีทั้งคุณสมบัติของสสารและพลังงาน พวกมันยังมีพลังลึกลับอีกด้วย

ไฟแท้จริงในภูเขาไฟนี้จะละลายได้แม้แต่กระสวยอวกาศ ทั้งหมดจะกลายเป็นขี้เถ้าถ้าสัมผัสกับมัน

ไม่ว่าร่างกายของเฟิงหลินจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปสู้กับพลังแห่งสวรรค์และโลกได้

ถ้าเขาปราถนาที่จะปราบมันอย่างสมบูรณ์ เขาต้องสกัดเมล็ดไฟแท้จริง

เมื่อเมล็ดไฟอยู่ในมือของใคร คนๆนั้นจะสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ

อย่างไรก็ตามเมล็ดไฟถูกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของไฟที่แท้จริง มันยากมากที่จะจับพวกมันมาได้

เฟิงหลินพยายามส่งพลังวิญญาณของเขาออกไป แต่เมื่อมันเข้าไป เขาจะรู้สึกถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุที่ทำลายพลังวิญญาณของเขาสมบูรณ์

พลังวิญญาณไม่มีรูปแบบหรือสสาร มันไม่เคยพบสิ่งกีดขวาง อย่างไรและก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่มันไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถแม้แต่จะเข้าไปอยู่ในเปลวไฟได้

เฟิงหลินไม่สามารถนึกถึงแผนการใด ๆ ได้ในขณะนี้ และเขายืนอยู่เหนือกองเพลิงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง

นิ้วของเฟิงหลินลูบแหวนและคิด ทันใดนั้นเขาก็คิดออก

เขาจะลืมได้ยังไงกันว่าเขายังคงมีสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่น่าทึ่ง – กระบองศักดิ์สิทธิ์!

กระบองโลหะชิ้นนี้มาจากยุคโบราณในตำนานและไม่ทราบแหล่งที่มาของมัน มันไม่โดนกัดกร่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันสามารถเปลี่ยนแปลงขนาดได้อย่างอิสระ

จนถึงปัจจุบันเฟิงหลินก็ยังไม่ได้ศึกษาความลับทั้งหมด

ถึงแม้ว่าไฟแท้จริงจะร้อนแรง แต่ก็ไม่สามารถละลายโลหะศักดิ์สิทธิ์นี้ได้แน่

ขยาย ขยาย ขยาย!

ด้วยความคิดเดียวของเฟิงหลิน ทำให้กระบองโลหะมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความยาวเกิน 100 เมตร ในไม่ช้ามันก็เจาะทะลุผ่านเปลวไฟดุจเสาสวรรค์

เหมือนเทพเจ้าที่รบกวนทะเล เปลวไฟที่ก่อตัวกลายเป็นวังวนขนาดใหญ่ หมุนวนไม่หยุดและปล่อยเสียงซวบๆ พื้นที่ว่างเปล่าถูกแหวกเปิดออกเผยให้เห็นภายในของเปลวไฟ

อย่างไรก็ตาม ความลึกของกองไฟแห่งนี้นั้นเกินกว่าจินตนาการของเขา มันลึกอย่างน้อยหลายร้อยเมตร

เฟิงหลินสูดลมหายใจเข้าลึก  แล้วเรียกกำลังทั้งหมดของเขา

พายุไฟม้วนตัวใหญ่ขึ้น กระแทกหน้าผารอบภูเขาไฟ ละลายหินและไหลไปทั่ว

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่ได้ละสายตา เขาเพียงแค่จ้องมองที่ก้นพายุไฟ ทันใดนั้น แสงสีม่วงก็ปรากฏตรงหน้าเขา สว่างประดุจดาว

เขาเพ่งสายตาของเขาและเห็นดอกบัวสีม่วงบริสุทธิ์ที่มี 18 กลีบลอยอยู่ที่ด้านล่างของเปลวไฟ มันบานด้วยตัวเอง

กลีบดอกแต่ละกลีบนั้นถูกสร้างขึ้นจากเปลวไฟสีม่วงบริสุทธิ์ มันดูเหมือนว่ามันจะจับต้องได้

“นี่คือเมล็ดพันธุ์ไฟขอไฟแท้จริงอสูรโลกีย์!” เฟิงหลินรู้สึกดีใจมากและเขาก็ส่งพลังวิญญาณของเขาออกไป ต้องการที่จะคว้ามันข้ามอากาศ อย่างไรก็ตามพลังวิญญาณของเขาก็ถูกเผาอย่างสมบูรณ์

(สิ่งนี้ทำไม่ได้!)

เฟิงหลินนึกถึงวิธีการดับไฟแท้จริงที่บันทึกไว้ในการเล่นแร่แปรธาตุ

เขายังคงสร้างรอยประทับด้วยมือของเขาเหมือนผีเสื้อที่พุ่งผ่านท่ามกลางดอกไม้ พลังวิญญาณของเขาเริ่มเปลี่ยนไปขณะที่มือของเขาขยับขึ้นรูปหลายชั้นและปรากฏเป็นทรงกลมที่รวมตัวกันแน่น แสงสีทองย่อลงตรงกลางกลายเป็นอักษรโบราณ เป็นคำว่า’ดูดซึม’

วิญญาณทรงกลมลงบนดอกบัวไฟและเริ่มเผาไหม้ทันที และอย่างรวดเร็วมันมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ

หยดเหงื่อเย็นไหลผ่านหน้าผากของเฟิงหลิน

รู้สึกได้ถึงพลังอันหนักหน่วง ความร้อนจากบัวไฟนั้นอยู่เหนือการควบคุมมากเกินไป และมันก็ไม่ใช่งานง่ายที่จะปราบมัน

อย่างไรก็ตามยิ่งเป็นแบบนี้มันก็ยิ่งจะมีความล่าช้ามากเท่านั้น

เขากัดฟันและส่งพลังวิญญาณทั้งหมดพุ่งเข้าไปในทรงกลมวิญญาณเล็กๆ มันราวกับว่าไข่โลหะกลมถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง แต่ก็ยังคงป้องกันอักษรในแกนกลางไม่ให้ถูกทำลาย

ในตอนท้ายเมื่อมีเพียงชั้นจางๆที่เหลืออยู่ ในที่สุดอักษรก็ร่อนลงในดอกบัวไฟ ในทันใดนั้นเปลวไฟก็ลุกและหลอมรวมกลายเป็นเหมือนแกะเชื่องๆทันที

ทันใดนั้นเฟิงหลินก็รู้สึกว่าเขาได้สร้างการเชื่อมโยงอันบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์กับบัวไฟ ด้วยความคิดเดียวเขาจะสามารถสั่งได้เหมือนสั่งแขนของตัวเองให้ขยับ

ด้วยการโบกมือ ปริมาณพลังที่เขาปล่อยลดลง กระแสของเปลวไฟในบริเวณรอบ ๆ ทะลักไหลวนทันที

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่ได้กังวลอะไรเลย เขายิ้มเล็กน้อย ยื่นมือออกไปและกวักมือเรียก

ซวบ

ดอกบัวไฟลุกไหม้ทะลุผ่านเปลวไฟและตกลงมาในมือของเขา ราวกับเป็นวัตถุ

พลังของไฟถูกยับยั้งและมันไม่ได้เป็นอันตรายต่อเขาเลยแม้แต่น้อย

เฟิงหลินยิ้ม สิ่งนี้อาจดูเป็นเรื่องปกติ แต่ตราบใดที่เมล็ดไฟอยู่รอบๆมันจะสามารถสร้างไฟแท้จริงโดยการใช้พลังงานของเฟิงหลิน มันจะเผาทุกอย่าง

ถอน!

ทันใดนั้นเขาก็สร้างรอยประทับด้วยมือและดอกบัวไฟก็หดขนาดเข้ามาด้านบนของหัวของเขา พิมพ์ดอกบัวสีม่วงปรากฏบนหน้าผากของเขา เพิ่มความลึกลับให้กับใบหน้าที่สง่างามของเขาและทำให้เขาดูเหมือนเทพจากสวรรค์

เฟิงหลินหลับตาและรับรู้อย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ลืมขึ้นและเปลวไฟสีม่วงก็เปล่งประกายจากภายใน

เขาสร้างรอยประทับด้วยมือทั้งสองดูเหมือนเป็นดอกบัวบาน

“ไฟ จงมา!”

ปัง!

ลูกบอลเพลิงถูกยิงออกมาจากฝ่ามือของเขา เผาไหม้ด้วยตัวเองและมีรูปแบบที่อิสระต่าง ๆ : สัตว์ปีก ดอกไม้ นก ปลาแมลง … ไม่มีที่สิ้นสุด

คำใบ้ของความเข้าใจเพิ่มขึ้นในหัวใจของเฟิงหลิน

ในที่สุดเขาก็กำราบไฟแท้จริงได้!