ตอนที่ 404 หักหน้า

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 404

หักหน้า

“ชิงชิว เกิดอะไรขึ้น”แม่ของชิงชิวตื่นตกใจเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ๆเหล่าองค์ชายของอาณาจักรอื่นเริ่มลุกขึ้นทีละคนเพื่อคัดค้านการหมั้นหมายของชิงชิวกับไป๋หลิน

“ท่านแม่ใจเย็นขอรับ ไม่มีอะไรหรอก”ชิงชิวตอบพลางมองไปทางเหล่าองค์ชายทั้งหลาย

“ไม่เป็นอะไรได้ยังไง พวกมันเป็นองค์ชายเชียวนะ”แม่ของชิงชิวยังไม่หายตกใจ ตัวนางนั้นยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของอาณาจักรต่างๆที่มีกับอาณาจักรไป๋ดีเท่าไหร่ คนบ้านนอกอย่างนางรู้แต่ว่าเมื่อก่อนอาณาจักรของตนสมัยที่ยังเป็นอาณาจักรโฮอยู่นั้นตามหลังอาณาจักรอื่นๆมากมายหลายเท่า เพียงชาวบ้านธรรมดาในอาณาจักรอื่นยังมีฐานะดีกว่าเจ้าเมืองในอาณาจักรโฮเสียอีก

ภายหลังไป๋จูเหวินเข้ามาเปลี่ยนแปลงทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่คนธรรมดาที่ไม่เคยออกไปดูอาณาจักรอื่นอย่างแม่ของชิงชิวนั้นไม่ทราบเลยว่าอาณาจักรตนเองนั้นล้ำหน้าและมีอำนาจเหนือกว่าอาณาจักรอื่นมากมายหลายเท่า ทำให้นางยังกลัวว่าจะมีเรื่องหากพวกองค์ชายของอาณาจักรอื่นๆลุกขึ้นต่อต้านเช่นนี้อยู่

“พวกท่านต้องการจะพูดอะไรกันแน่”ไป๋จูเหวินพูดพลางลุกขึ้นยืนต่อหน้าเหล่าองค์ชายทั้งหลาย ตัวไป๋จูเหวินยามนี้ไม่ได้เกรงกลัวเหล่าองค์ชายเหล่านี้เลย แม้แต่จักรพรรดิหรือบิดาของพวกมันยังต้องเกรงใจไป๋จูเหวิน พวกมันทำไมถึงกล้าลุกขึ้นต่อว่าพิธีหมั้นของบุตรสาวมันได้

“องค์จักรพรรดิไป๋ ข้าคิดว่าการให้องค์หญิงหมั้นกับสามัญชนไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมขอรับ”องค์ชายคนหนึ่งพูดพลางชี้ไปมาทางชิงชิว ทำให้แม่ของชิงชิวสะดุ้งโหยง

“ไม่ต้องไปสนพวกนั้นหรอกเจ้าค่ะ”ไป๋หลินที่นั่งอยู่ข้างๆแม่ของชิงชิวว่าพลางเอามือแตะไปที่แขนของนางเอาไว้

“หนูไป๋หลิน..”แม่ของชิงชิวยิ้มบางๆออกมาพลางพยักหน้าช้าๆ เมื่อวันก่อนแม่ของชิงชิวได้เห็นไปแล้วว่าไป๋หลินนั้นรักบุตรชายคนเองจริงๆ การที่นางตัดสินใจจะหมั้นกับชิงชิวนั้นย่อมหมายความว่าพวกนางก้าวผ่านคำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะสมมานานแล้วนั่นเอง

“ตัวข้าแต่เดิมก็เป็นเพียงสามัญชน ไม่ได้มีฐานะเป็นองค์ชายเช่นพวกท่านเสียด้วยซ้ำ เช่นนั้นบุตรสาวของข้าก็ไม่เหมาะสมกับพวกท่านงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามย้อนกลับไปเพราะใครๆก็ทราบดีว่าไป๋จูเหวินแต่เดิมเป็นประชาชนของอาณาจักรอู๋ ภายหลังเข้าช่วยเหลืออาณาจักรโฮโค่นล้มจักรพรรดิอาณาจักรโฮจนได้ครองอาณาจักรโฮและเปลี่ยนเป็นอาณาจักรไป๋ พูดกันตามตรงไป๋จูเหวินแต่เดิมก็คือสามัญชนคนหนึ่งเท่านั้น

“หามิได้องค์จักรพรรดิ ตัวท่านเองก็มีเชื้อสายของราชวงศ์ชินอยู่ขอรับ”องค์ชายคนหนึ่งพูด เรื่องที่ไป๋จูเหวินมีเชื้อสายของราชวงศ์ชินเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว

“เช่นนั้นแล้วตัวข้าล่ะ แต่เดิมข้าก็เป็นเพียงบุตรสาวของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร ไม่ได้เป็นขุนนางเสียด้วยซ้ำ”เหม่ยหลินเองก็ลุกขึ้นประกาศตนเช่นกัน ตัวนางไม่ได้มีเชื้อสายมาจากราชวงศ์ใด รวมถึงไม่ได้เป็นขุนนางของอาณาจักรอู๋เสียด้วยซ้ำ หากบอกว่าชิงชิวไม่เหมาะสม ก็เท่ากับบอกว่าตัวนางนั้นไม่ได้เหมาะสมกับไป๋จูเหวินอย่างนั้นหรือ

“ไม่ใช่อย่างนั้นขอรับองค์มเหสี”เหล่าองค์ชายที่ยกเรื่องฐานะขึ้นมาเถียงเริ่มหน้าเสีย พลางหันไปมองหน้ากันทันที

“ใครๆก็ทราบว่ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรอู๋นั้นยิ่งใหญ่เพียงไร ถึงจะไม่ได้เป็นขุนนาง แต่ก็ครองเมืองใหญ่ทั้งเมือง ฐานะของท่านไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าบุตรสาวขุนนางหรอกพระเจ้าข้า”องค์ชายคนหนึ่งพูดพลางประสานมือคารวะมาทางเหม่ยหลิน

“เช่นนั้นพวกท่านต้องการจะบอกว่าบุตรสาวเจ้าเมืองมีคุณสมบัติพอจะหมั้นหมายหรือแต่งงานกับองค์หญิงและองค์ชายได้งั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางเหม่ยหลินภรรยารักของตน หากพวกองค์ชายบอกว่าไม่ใช่ก็เท่ากับเป็นการเหยียดหยามเหม่ยหลินเลยทีเดียว

“ขอรับ เมื่อเทียบกับทหารองครักษ์แล้วบุตรสาวเจ้าเมืองย่อมสูงศักดิ์เพียงพอขอรับ”องค์ชายที่ยกเรื่องเหม่ยหลินเหมือนบุตรสาวเจ้าเมืองขึ้นมาตอบรับด้วยท่าทีสุภาพ

“เช่นนั้น..”ไป๋จูเหวินยิ้มออกมาพลางเดินเข้าไปหาแม่ของชิงชิวที่นั่งอยู่กับโต๊ะโดยไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี

“คุณนายชิง เชิญทางนี้ขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นมือไปให้แม่ของชิงชิว ทำเอาแม่จองชิงชิวเอ๋อไปหลายวินาที ก่อนจะเลื่อนมือไปจับมือของไป๋จูเหวินช้าๆก่อนจะโดนไป๋จูเหวินดึงให้ลุกขึ้นไปยืนต่อหน้าแขกร่วมงาน

“นับแต่นี้ไปข้าขอแต่งตั้งชิงหยงหลิงผู้นี้เป็นเจ้าเมืองของเมืองหลวงเก่าแห่งอาณาจักรไป๋ รับตำแหน่งแทนสหายของข้าเพิร์ลผู้กลับไปยังบ้านเกิด”ไป๋จูเหวินพูดพลางนำตราประจำตำแหน่งของเจ้าเมืองขึ้นมา และมอบมันให้กับแม่ของชิงชิวไป

“อะ องค์จักรพรรดิ….”แม่ของชิงชิวเบิกตากว้าง อยู่ๆนางก็โดนมอบหมายตำแหน่งเจ้าเมืองมาให้ทำเอานางทำอะไรไม่ถูก

“ไม่ต้องกังวลหรอกขอรับ ข้าเชื่อว่าท่านสามารถทำงานนี้ได้แน่ๆ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ แน่นอนว่าแม่ของชิงชิวไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น แต่เพราะงานของเจ้าเมืองที่เมืองหลวงเก่านั้นมีไม่มากเพราะมีเจ้าเมืองอสูรคอยดูแลอยู่แล้ว แต่เดิมที่เพิร์ลรับตำแหน่งก็ทำหน้าที่ดูแลห้องทดลองของรูบี้เท่านั้น

“องค์จักรพรรดิ ท่านทำแบบนี้เพื่อจงใจหักหน้าพวกเราอย่างนั้นหรือ”องค์ชายคนหนึ่งพูดพลางกำหมัดแน่น พวกมันพึ่งบอกไปว่าตำแหน่งบุตรสาวเจ้าเมืองนั้นสามารถแต่งงานกับเจ้าหญิงหรือเจ้าชายได้ ก็เท่ากับว่ายามนี้ชิงชิวเป็นบุตรชายเจ้าเมืองก็สามารถหมั้นหมายกับไป๋หลินที่เป็นองค์หญิงได้อย่างไร้ข้อกังขา เพียงแต่การแต่งตั้งกันหน้างานเช่นนี้ออกจะจงใจไปเสียหน่อย

“หักหน้า….”ไป๋จูเหวินพูดพลางยิ้มออกมาเล็กน้อยแต่พริบตานั้นพลังวิญญาณของมันและตัวเหม่ยหลินกลับแผ่ออกไปโดยรอบในทันที พลังระดับเจ้าสวรรค์ของทั้งคู่ยามนี้คงเหลือไม่กี่อาณาจักรที่พอจะต้านรับได้ ยิ่งเป็นอาณาจักรที่ไม่มีคนระดับเจ้าสวรรค์เลยแม้แต่คนเดียวนั้นยิ่งต้องหวาดกลัว

“พวกท่านจงใจลุกขึ้นเพื่อคัดค้านพิธีหมั้นของบุตรสาวข้ากลางงานเลี้ยงต้อนรับแขกที่จะมางานหมั้น ข้าขอถามพวกท่าน ใครกันแน่ที่หักหน้ากัน”ได้ยินคำถามของไป๋จูเหวินเหล่าองค์ชายก็มีท่าทีสั่นสะท้านไปทันที ไม่ทราบเพราะความอยากที่จะหมั้นหมายกับองค์หญิงไป๋หลินเข้าบังตาหรืออย่างไรพวกมันถึงกล้าก่อเรื่องในงานขององค์จักรพรรดิไป๋ ถึงขั้นไม่รู้ตัวเลยว่าพวกมันพึ่งทำเรื่องเสียมารยาทกับพระองค์ไป

“พวกเจ้า ก้มหัวเดี๋ยวนี้”องค์จักรพรรดิของอาณาจักรต่างๆเริ่มรู้สึกตัวว่าเรื่องราวมันบานปลายเกินไปแล้ว แต่เดิมมันพอเข้าใจว่าพวกลูกชายของตนเสียใจที่องค์หญิงที่พวกมันหลงรักกำลังจะหมั้นเลยคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปชั่วครู่ ไม่นึกว่าจะถึงขั้นหวังล้มพิธีหมั้นของไป๋หลินจนไปหมิ่นองค์จักรพรรดิไป๋และองค์มเหสีเข้า

“ท่านพ่อ แต่…”เหล่าองค์ชายยังไม่ทันได้ทอะไรต่อพวกองค์จักรพรรดิก็เข้ามาหยุดเอาไว้และบังคับให้เหล่าองค์ชายก้มหัวลงทันที พวกมันล้วนเคยเห็นสภาพของอาณาจักรที่ต่อต้านอาณาจักรไป๋มาแล้ว อาณาจักรหลิวโดนยึดรวมเป็นอาณาจักรไป๋แทบจะทันที ส่วนอาณาจักรกู่ก็ตกเป็นเมืองขึ้นต้องคอยส่งบรรณาการมาให้ทุกเดือน แล้วอาณาจักรของพวกมันเล่ามีอะไรแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรกู่และหลิวบ้าง

“องค์จักรพรรดิไป๋ ข้าต้องขอภัยด้วย”องค์จักรพรรดิอาณาจักรต่างๆเข้ามาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ด้วยใบหน้าหงอยๆราวกับสุนัขกระทำผิด

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เป็นวันหมั้นของบุตรสาวข้า อย่าได้ให้มีเรื่องไปมากกว่านี้เลย”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปทาง คำตอบของมันทำให้องค์จักรพรรดิอาณาจักรต่างๆมีท่าทีโล่งใจขึ้นมากทีเดียว แน่นอนว่าเหล่าองค์ชายไม่มีท่าทีจะก่อเรื่องอีกแต่อย่างไร

“แน่นอนองค์จักรพรรดิไป๋ อ่อ ข้าขอแสดงความยินดีกับท่านด้วยท่านเจ้าเมืองชิง”องค์จักรพรรดิคนหนึ่งเหมือนจะอยู่เป็นไม่น้อย มันรีบหันไปแสดงความยินดีกับแม่ของชิงชิวทันที ทำให้เหล่าองค์จักรพรรดิอื่นๆเริ่มหันไปแสดงความยินดีกับแม่ของชิงชิวกันยกใหญ่ ทำเอาแม่ของชิงชิวตัวแข็งไม่กล้าทำอะไรเลย

“มีบุตรสาวงดงามมากก็เป็นแบบนี้ล่ะ”อูหมิงยิ้มพลางพูดแซวไป๋จูเหวินที่เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้อย่างอารมณ์ดี

“อย่าให้ถึงคราวของเทียนหมิงบ้างก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินค้อนใส่อู๋หมิงทันทีพลางนั่งลงด้วยท่าทีเหนื่อยใจ แต่หลังจบพิธีหมั้นในวันพรุ่งนี้ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องของไป๋หลินอีกแล้วกระมัง

.

.

.

“น้องอี้ ข้าขอโทษด้วยไม่นึกว่าองค์จักรพรรดิจะออกตัวเอง”องค์ชายจินกงหลางว่าพลางเดินเข้ามาหาชินอี้หลังงานเลี้ยงจบลง

“น้องอี้เจ้าอยู่นี่เอง…..”

“น้องอี้ เราจะทำอย่างไรต่อดี” อยู่ๆเหล่าองค์ชายที่ลุกขึ้นประท้วงเรื่องงานหมั้นก็พากันมาชุมนุมกันที่หน้าวังของชินอี้เสียอย่างนั้น

“พวกท่านไม่ทำเต็มที่ต่างหาก พอโดนดุพวกท่านก็ไม่ตอบโต้อีกเลย”ชินอี้พูดพลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจนัก ตอนแรกพวกมันก็ลุกขึ้นต้านอยู่หรอก แต่พอบิดาของมันลุกขึ้นพูดพวกองค์ชายส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำแล้ว เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พยายามต่อ

“พูดอะไรนะน้องอี้ ถ้าข้าต่อต้านองค์จักรพรรดิแล้วข้าจะหมั้นกับองค์หญิงไป๋หลินได้อย่างไรกัน”องค์ชายคนหนึ่งถามด้วยท่าทีกังวล แม้จะมีชินอี้หนุนหลัง แต่หากเป็นศัตรูกับไป๋จูเหวินแล้วจะไปมีสิทธิ์หมั้นหมายกับไป๋หลินได้อย่างไร

“เจ้าว่าอะไรนะ คนที่จะหมั้นกับองค์หญิงคือข้าต่างหาก”องค์ชายอีกคนพูด พวกมันต่างเป็นคนที่ตามจีบไป๋หลินตามงานต่างๆ ทำให้พวกมันต่างรู้จักกันดีและหมายมาดว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหัวใจมานานแล้ว

“ข้าต่างหากที่น้องอี้สัญญาว่าจะช่วยให้ได้หมั้นหมายกับองค์หญิงไป๋หลิน”องค์ชายอีกคนหนึ่งท้วงพลางมองหน้ากันไปมา

“นี่พวกเรา…โดนหลอกงั้นหรือ”อยู่ๆองค์ชายคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาพลางมองไปทางชินอี้ หากทุกคนที่นี่ได้สัญญาว่าจะได้หมั้นกับองค์หญิงไป๋หลิน ก็หมายความว่าชินอี้โกหกพวกมันทุกคนเลยงั้นหรือ

“น่าเสียดายที่พวกท่านไม่ยอมหักกับเสด็จพ่อ ไม่อย่างนั้นอาจจะยังพอเลื่อนพิธีหมั้นออกไปได้”ชินอี้ถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเสียดาย เพราะพวกองค์ชายไม่ใจสู้เอาเสียเหลืออเกินทำให้พิธีหมั้นยังถูกจัดต่อไป แต่ก็ยังไม่ใช่พิธีสมรสเสียหน่อย

“ไป๋ชินอี้ นี้เจ้ากล้าหลอกพวกเรางั้นหรือ”องค์ชายคนหนึ่งถามด้วยท่าทีเดือดดาล

“ข้าหลอกอะไรพวกท่าน ข้าแค่บอกว่าอยากให้พี่หญิงได้หมั้นหมายกับองค์ชายมกว่าเท่านั้นเอง”ชินอี้ตอบพลางมองพวกองค์ชายด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก พวกมันทำงานผิดพลาดแล้วยังจะมาโมโหใส่มันอีกงั้นหรือ

“เจ้า”องค์ชายคนหนึ่งระเบิดอารมณ์ออกมาวิ่งเข้าไปหาชินอี้ทันที

ผลัก!! หมัดขององค์ชายคนนั้นกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของชินอี้อย่างจัง ทำให้ชินอี้ที่มีพลังวิญญาณไม่มากล้มลงไปนอนกับพื้นในทันที

“กงหลาง เจ้าจะบ้าไปแล้วหรือไง”พี่ชายขององค์ชายจินกงหลางเข้ามาดึงน้องชายของมันไว้ทันที ถึงจะโดนหลอกแต่อีกฝ่ายคือองค์ชายไป๋ชินอี้ พวกมันล่วงเกินไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“มนุษย์นี่มันยุ่งยากจริงๆ”ชินอี้ถอนหายใจออกมาพลางลุกขึ้นยืน โชคดีที่องค์ชายจินกงหลางเองก็ไม่ได้เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งอะไร ทำให้ชินอี้บาดเจ็บไม่มาก

“ข้าผิดเองที่ไว้ใจพวกท่าน”ชินอี้พูดพลางหันหลังเดินกลับไป แต่ก่อนจะกลับมันเหลือบมองไปทางองค์ชายจินกงหลางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับไปที่ใบหน้าของตนที่โดนต่อย พอดีกับมันไม่มีที่ระบายอารมณ์เรื่องที่พี่หญิงของมันกำลังจะหมั้นกับชิงชิวโดยที่มันทำอะไรไม่ได้อีกต่างหาก ทำให้ชินอี้ได้กาหัวขององค์ชายจินกงหลางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว