ตอนที่ 442 โทษนางเองที่โชคร้าย / ตอนที่ 443 ร้อนรุ่มกลุ้มใจ

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 442 โทษนางเองที่โชคร้าย

 

 

“นางเป็นลูกสาวของจ้าวพิษ เวลานี้จ้าวพิษเผยไป่ชวนเป็นพันธมิตรกับองค์รัชทายาท นางชื่อเผยปิงปิง เดิมทีนางรับใช้ใกล้ชิดองค์รัชทายาท เป็นคนที่องค์รัชทายาทวางใจมาก วรยุทธยอดเยี่ยม ครั้งนี้นางบังเอิญตกอยู่ในมือของพี่ใหญ่

 

 

พี่ใหญ่ให้ข้ามอบแม่นางให้คุณชายกู้จัดการ ถือว่าเป็นความจริงใจของจวนซิ่นอ๋อง”

 

 

กู้จื่อหยวนเคยได้ยินเรื่องราวของจ้าวพิษ รู้ว่าจ้าวพิษชำนาญการใช้พิษ ฟู่เฉินหรงมีผู้หญิงอย่างนี้อยู่ใกล้ชิด คงช่วยเขาได้ไม่น้อย

 

 

จวนซิ่นอ๋องยกเผยปิงปิงให้เขาเป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง แสดงว่าต้องการร่วมมือกับเขา

 

 

“ได้พบคุณชายกู้เมื่อวาน ได้ยินคำพูดของคุณชายกู้ ข้ารู้สึกประทับใจมาก จวนซิ่นอ๋องเวลานี้ก็ไม่ต่างจากที่คุณชายเคยประสบมา องค์รัชทายาทคงไม่ปล่อยจวนซิ่นอ๋องแน่

 

 

ท่านพ่อกับพี่ใหญ่ต้องปกป้องตนเอง บางเรื่องก็ไม่มีทางเลือก ข้าเป็นเพียงแม่นางคนหนึ่ง ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก องค์รัชทายาทหาพันธมิตรไปทั่ว พี่ใหญ่อยากจะร่วมมือกับคุณชายกู้ ไม่รู้ว่าคุณชายกู้ยินดีหรือไม่?

 

 

เผยปิงปิงเป็นความจริงใจที่จวนซิ่นอ๋องมอบให้คุณชายกู้ แล้วแต่คุณชายกู้จะจัดการ”

 

 

ความจริงแล้วฟู่เยว่อี้เพิ่งสืบรู้ฐานะของเผยปิงปิงได้ไม่นาน นางดูออกว่ากู้จื่อหยวนไม่พอใจและมีความแค้นต่อฟู่เฉินหรง ความไม่พอใจกับความแค้นนี้ต้องมีที่ระบาย ถ้ามอบเผยปิงปิงให้เขา กู้จื่อหยวนคงจะทำอะไรลงไป

 

 

พอถึงตอนนั้นถ้าฟู่เฉินหรงจะแก้แค้นก็สาวไม่ถึงนาง เพราะคนที่ตัดเอ็นมือของเผยปิงปิงไม่ใช่นาง

 

 

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น ต่อไปนางจะสนับสนุนให้กู้จื่อหยวนทำผิดแบบแผนมากขึ้นเรื่อยๆ การจะควบคุมกู้จื่อหยวนไม่ใช่เรื่องยาก

 

 

นางเองก็อยากดูว่าฟู่เฉินหรงจะโหดเ**้ยมเพียงไร กล้าสังหารกู้จื่อหยวนหรือไม่

 

 

“คุณชายกู้ยินดีหรือไม่?”

 

 

ฟู่เยว่อี้มองกู้จื่อหยวนด้วยสีหน้ารอคอย รอให้กู้จื่อหยวนรับปาก

 

 

พอรู้ฐานะของเผยปิงปิง กู้จื่อหยวนก็นึกขึ้นได้ ไม่ว่าฟู่เยว่อี้พูดอย่างนี้เพื่ออะไร แต่จวนซิ่นอ๋องกับฟู่เฉินหรงเป็นศัตรูคู่แค้นกัน

 

 

นี่เป็นโอกาสดีสำหรับเขา เขาต้องสั่งสอนฟู่เฉินหรงบ้าง ส่วนเผยปิงปิง ก็ได้แต่โทษนางเองที่โชคร้าย

 

 

กู้จื่อหยวนพยักหน้า “ได้รับความรักจากคุณชายใหญ่ ข้ายินดีอย่างยิ่ง ขอบใจคุณชายใหญ่กับองค์หญิง”

 

 

“เราต่างถูกทำร้ายอย่างหนัก เป็นพันธมิตรกันก็เพื่อให้มีทางรอด องค์รัชทายาททำการบางอย่างเกินเลยไป พวกเราก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน

 

 

เผยปิงปิงเคยวางยาพี่สะใภ้ ทำให้พี่สะใภ้ได้รับความอับอายต่อหน้าผู้คน กลายเป็นที่เย้ยหยัน ถ้าข้าไม่ห้าม พี่สะใภ้คงฆ่าตัวตายไปแล้ว

 

 

องค์รัชทายาทส่งคนมาสืบจวนซิ่นอ๋องตลอดเวลา การจะส่งเผยปิงปิงออกไปโดยไม่ให้ใครรู้ไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าจะให้คนหลอกล่อคนขององค์รัชทายาทไปทางอื่น กลางดึกคืนนี้ค่อยพาเผยปิงปิงไปที่เรือนหลังหนึ่งทางทิศตะวันออกของเมือง

 

 

คุณชายกู้อยู่รอที่นั่น ต่อไปเรือนหลังนั้นก็เป็นของคุณชายกู้”

 

 

“องค์หญิงระวังตัว ฟู่เฉินหรงเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้ากล”

 

 

ฟู่เยว่อี้พยักหน้า ยิ้มให้กู้จื่อหยวนอย่างร่าเริง “ใช่ คุณชายกู้เตือนถูกต้อง ข้าจะระวัง คุณชายกู้เองก็ต้องระวัง อย่าให้องค์รัชทายาทรู้ ไม่เช่นนั้นข้ากลัวว่าเขาจะไม่นึกถึงความเป็นพี่น้อง”

 

 

กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน “แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยนึกถึงความเป็นพี่น้องอะไร”

 

 

“คุณชายกู้ลำบากแล้ว”

 

 

ฟู่เยว่อี้ถอนหายใจเบาๆ น้ำเสียงเห็นใจกู้จื่อหยวนอย่างล้ำลึก แววตาจริงใจ ราวกับถือว่ากู้จื่อหยวนเป็นสหายที่ไว้วางใจได้ กู้จื่อหยวนประสานสายตากับฟู่เยว่อี้ ในใจรู้สึกเหมือนเจอคนรู้ใจ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 443 ร้อนรุ่มกลุ้มใจ

 

 

หลายเดือนมานี้ ในใจของเขาหนักอึ้งด้วยความรู้สึกต่างๆ นานา ฟู่เยว่อี้ดูเหมือนเข้าใจเขามาก นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ทำให้เขาดีใจมาก

 

 

“ใช่ คุณชายกู้ พี่ใหญ่เอายาให้แม่นางเผยกิน เวลานี้กำลังภายในของนางหมดแล้ว คุณชายกู้ระวังไว้บ้างก็ดี ว่าไปแล้วเผยปิงปิงเป็นคนสวย สวยกว่านางโลมชั้นดีในหอชุ่ยหงเสียอีก”

 

 

ฟู่เยว่อี้ทำเหมือนกับพูดเปรยๆ กู้จื่อหยวนนึกขึ้นได้ รับคำพูดของนางไว้ทันที เขามองเผยปิงปิง หน้าตาท่าทางสะสวยโดดเด่น เดิมทีเขาไม่รู้จะจัดการกับเผยปิงปิงอย่างไร เวลานี้เขารู้แล้ว

 

 

ยังไม่ได้ข่าวคราวของเผยปิงปิง คนที่ร้อนใจที่สุดคือกู้หลียวน

 

 

เขาไม่ได้พักมาตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีใจจะดูแลร้านเหล้าเทียนหยา มอบหมายงานทั้งหมดให้ผู้จัดการ ส่วนเขาออกไปตามหาเผยปิงปิงข้างนอกตลอด ทุกที่ที่น่าจะหาก็หาหมดแล้ว แต่เผยปิงปิงเหมือนหายไปจากโลก ไม่มีร่องรองอะไรเลย

 

 

พอนึกถึงว่าเผยปิงปิงหนีไปเพราะตนทำให้นางโกรธ เขาก็เสียใจมาก ถ้าไม่มีเขา ก็คงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ เขาเป็นห่วงว่าเผยปิงปิงจะเป็นอันตราย

 

 

ขณะที่เขาออกไปตามหาข้างนอกทั้งวันทั้งคืน ยังมีอีกคนหนึ่งก็ไม่ต่างกัน คือมู่หยาง เขาชอบเผยปิงปิงอยู่ก่อนแล้ว พอรู้ว่าเผยปิงปิงหายไป ก็ร้อนใจมาก ส่งคนออกไปตามหา ตัวเขาเองก็ไปตามหาด้วย และไม่ได้ข่าวอะไรเช่นกัน

 

 

รุ่งเช้าซูจิ่วซือกับมู่หยางเดินทางมาที่ร้านเหล้าเทียนหยาด้วยกัน กู้หลียวนเพิ่งกลับเข้ามา สภาพเหมือนคนไร้วิญญาณ

 

 

เวลานี้ร้านหยุดกิจการ กู้หลียวนนั่งที่โต๊ะยาวอย่างเหม่อลอย แม้กระทั่งตอนที่ซูจิ่วซือกับมู่หยางเดินเข้ามาเขาก็ยังไม่รู้

 

 

“พี่กู้ สบายดีหรือไม่!”

 

 

สองวันมานี้มู่หยางไม่พบหน้ากู้หลียวนเลย พอเห็นกู้หลียวนหนวดเคราเริ่มงอก ขอบตาช้ำ ก็ตะลึง กู้หลียวนก็ใส่ใจเผยปิงปิงปานนี้

 

 

พอได้ยินเสียงมู่หยาง กู้หลียวนเงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองไร้ชีวิตชีวา เพียงแต่พยักหน้าอย่างแข็งทื่อ “พี่มู่ มาแล้วหรือ”

 

 

เมื่อเห็นลูกชายเป็นอย่างนี้ ซูจิ่วซือซึ่งยืนอยู่ข้างหลังมู่หยางก็เป็นห่วงมาก รีบก้าวเข้าไปหา ยืนอยู่หน้าโต๊ะยาว ความใส่ใจเผยออกมาทางสายตาอย่างเห็นได้ชัด “หลียวน เจ้าไปพักก่อนเถอะ ทำอย่างนี้ทั้งวันทั้งคืนคงไม่ไหว เฉินหรงกับพี่รองส่งคนไปตามหาปิงปิงแล้ว ถ้าได้ข่าวจะรีบบอกเจ้าทันที ปิงปิงคงไม่มีอันตรายอะไร”

 

 

กู้หลียวนส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร ไม่ได้ข่าวปิงปิง ข้าจะหลับได้อย่างไร ข้ายังทนได้”

 

 

“หลียวน เจ้าทำอย่างนี้ร่างกายจะรับไม่ไหว ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ยังไม่ทันเจอปิงปิง เจ้าก็ล้มป่วย” ซูจิ่วซือยังคงเตือน อยากให้กู้หลียวนไปนอนสักครู่ ความเหนื่อยล้าปรากฏออกมาทางดวงตาอย่างชัดเจนจนไม่รู้จะชัดเจนอย่างไร

 

 

“พี่กู้ เชื่อซือซือเถอะ!”

 

 

ในใจของมู่หยางเริ่มเข้าใจบางอย่าง เมื่อก่อนเขาเคยถามกู้หลียวน แต่เวลานั้นกู้หลียวนปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้ชอบเผยปิงปิง เวลานี้การแสดงออกของกู้หลียวนปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

 

 

เขาถือกู้หลียวนเป็นเพื่อนสนิท อีกทั้งกู้หลียวนเป็นลูกผู้พี่ของซูจิ่วซือ ดูออกว่าพี่น้องคู่นี้รักกันมาก เขาไม่อยากจะแย่งชิงกับกู้หลียวน

 

 

แย่จริง อยู่ดีๆ ทำไมคิดเรื่องนี้ เวลานี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือตามหาเผยปิงปิง เรื่องอื่น ค่อยว่ากันหลังจากตามเจอ ถ้าเผยปิงปิงยังชอบกู้หลียวนอยู่ เขาก็จะถอยออกไปอวยพรให้ทั้งสอง

 

 

“ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ”

 

 

กู้หลียวนฝืนพูดต่อ พูดยังไม่ทันจบ ก็มีกรวดก้อนหนึ่งดีดเข้าใส่จุดของกู้หลียวน กู้หลียวนสลบทันที

 

 

“เขาเหนื่อยเกินไป ให้พักก่อน”