ตอนที่ 1653

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,653 : หลิงเทียน

 

ถึงแม้ว่าหานเฉวี่ยไน่จะเป็นคุณหนูใหญ่คฤหาสน์คลื่นขจี แต่นางก็เป็นเป้าหมายการจับตามองของอาวุโสฝ่ายหานซิ่น!

 

เรื่องที่มีคนพักอาศัยในบ้านพักของหานเฉวี่ยไน่ ทั้งยังเป็นบุรุษแปลกหน้าไม่นานก็ล่วงรู้มาถึงหูหานซิ่น!

 

“บัดซบ! ยาโถวน้อยนั่นถึงแม้นางจักไม่กังวลเรื่องชื่อเสียงที่จะเสียหาย…แต่นางไม่คิดหรือไรว่าหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปจะทำให้นายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องบันดาลโทสะ?”

 

ใบหน้าหานซิ่นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก

 

ตอนแรกที่มันจงใจให้นายน้อยคฤหาสน์เห็นหานเฉวี่ยไน่ ก็เพราะต้องการล้างแค้นเรื่องที่หานเฉวี่ยไน่ไม่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือมันในการตามหาฆาตกรที่สังหารหลานชายคนเดียวของมัน!

 

ในอดีตนั้นมันก็มีความรู้สึกดีๆให้หานเฉวี่ยไน่ไม่น้อย แต่เมื่อรู้ว่าหลานชายของมัน เพราะไปติดพันกับสตรีของต้วนหลิงเทียนที่เป็นสหายอันดีของหานเฉวี่ยไน่ จึงประสบเคราะห์ถึงขั้นตกตายอนาถ มันก็โยนความรู้สึกดีๆดังกล่าวทิ้งไปหมดสิ้น!!

 

และตั้งแต่ที่หานเฉวี่ยไน่ไม่คิดให้ความช่วยเหลือมันตามหาฆาตกรแต่โดยดี มันจึงคิดทำลายหานเฉวี่ยไน่เสีย!

 

แน่นอนว่ามันคิดทำลายหานเฉวี่ยไน่ แต่ไม่คิดทำลายคฤหาสน์คลื่นขจี!

 

คฤหาสน์คลื่นขจีจะอย่างไรก็เป็นขุมพลังที่ชุบเลี้ยงอุ้มชูมันมาจนทำให้มันมีได้ทุกอย่างดั่งวันนี้ หากไม่มีคฤหาสน์คลื่นขจีก็ไม่มีมัน หานซิ่น!

 

ยิ่งไปกว่านั้นที่มันมีอำนาจสูงล้ำเหนือผู้คนมากมายในเขตอิทธิพลล้วนเป็นเพราะคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน!

 

หากไร้คฤหาสน์คลื่นขจีมันก็ไม่ต่างใดจากสุนัขกลางถนน!

 

ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่เคยคิดจะทำลายคฤหาสน์คลื่นขจีแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งหมดที่ต้องการก็คือสร้างความฉิบหายให้หานเฉวี่ยไน่เท่านั้น! เพราะนางเลือกที่จะไม่ร่วมมือกับมันหาตัวฆาตกรเอง!!

 

พอได้ยินว่าเรือนพักของหานเฉวี่ยไน่มีบุรุษหนุ่มแปลกหน้ามาเยือน อีกทั้งยังอาศัยอยู่ในนั้นกว่าเดือนแล้ว หานซิ่นจึงแทบรอไปเยือนที่พักของหานเฉวี่ยไน่ไม่ไหว และคิดฆ่าชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นั้นเสียเพื่อรักษาชื่อเสียง!

 

แน่นอนว่ามันไม่สนใจชื่อเสียงของหานเฉวี่ยไน่

 

แต่มันใส่ใจกับความปลอดภัยของคฤหาสน์คลื่นขจี หากเรื่องที่มีบุรุษอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับสตรีที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับตัว..ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจะพิโรธถึงเพียงใด! เกรงว่าคฤหาสน์คลื่นขจีไม่อาจทานรับความพิโรธนั้นได้แน่!

 

ถึงตอนนั้นน่ากลัวคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจะลงมือล้างบางคฤหาสน์คลื่นขจีทิ้งไปเสียเพื่อรักษาหน้า!

 

หากมีอะไรเกิดขึ้นกับคฤหาสน์คลื่นขจี อาวุโสเช่นมันก็คงเป็นดั่งปลาในบ่อยากหลบหนี!

 

“ไป! รีบไปแจ้งเตือนยาโถวน้อยโง่งมนั่นเสีย ว่าให้รีบขับไล่บุรุษผู้นั้นไปให้พ้น…หากข่าวเรื่องนี้แพร่ออกไปถึงหูนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง นางจักมิได้ตกตายคนเดียว แต่คฤหาสน์คลื่นขจีจะต้องถูกกลบฝังไปพร้อมกับนาง!!”

 

หานซิ่นมองไปยังชายชราในชุดสีเขียวด้านขวา ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม

 

ชายชราในชุดสีเขียวเป็นผู้อาวุโสในคฤหาสน์คลื่นขจขีคนหนึ่ง มันมักรอรับคำสั่งและดูแลเรื่องราวต่างๆให้หานซิ่น ทั้งยังบูชาหานซิ่นราวกับเทพเซียน

 

พอได้ยินคำสั่งของหานซิ่นมันก็เร่งรับคำ และไปหาหานเฉวี่ยไน่ทันที

 

“คุณหนูใหญ่ท่านสมควรรู้ดีว่าบัดนี้ท่านมิได้เป็นแค่คุณหนูใหญ่แห่งคฤหาน์คลื่นขจีเท่านั้น แต่ท่านยังเป็นคู่หมั้นของนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องอีกด้วย…หากผู้อื่นพบว่าท่านให้บุรุษมาร่วมอาศัยใต้ชายคาเดียวกัน ยังฟังดูเป็นอันใดได้? ข้ากลัวว่าหากนายน้อยคฤาหสน์ฟ้าลิ่วล่องมาได้ยินเข้า…คงไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ไปแน่!”

 

เมื่อชายชราชุดเขียวเห็นหานเฉวี่ยไน่ มันก็เปิดประตูเห็นภูผากล่าวออกมาทันที

 

“มาหาข้าเพียงเพราะคิดบอกเรื่องนี้?”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับสุนัขรับใช้ข้างกายหานซิ่น หานเฉวี่ยไน่เพียงกล่าวตอบออกไปอย่างไร้แยแส “เช่นนั้นอาวุโสเค่อเชิญกลับไปเถอะ ข้าไม่ส่งนะ”

 

อาวุโสฝ่ายในของคฤหาสน์คลื่นขจีคนนี้ เรียกว่า หานเค่อ

 

ได้ยินวาจาขับไล่ของหานเฉวี่ยไน่ สองตาหานเค่อทอประกายวูบวาบ อย่างไรก็ตามมันไม่กล้าเผยอารมณ์อะไรออกมาเพราะกริ่งเกรงฐานะหานเฉวี่ยไน่ เพียงกล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ “อาวุโสสูงสุดรู้แต่แรกแล้วว่าท่านต้องมิฟังคำของข้าเป็นแน่ ถึงแม้ว่าท่านมิอาจหักใจขับไล่ชายหนุ่มคนนั้นออกจากคฤหาสน์คลื่นขจี แต่อย่างน้อยท่านสมควรให้เขาไปพักที่อื่นที่มิใช่พักร่วมชายคาเดียวกับท่าน..”

 

“ท่านคิดว่าหากเรื่องฉาวโฉ่พรรค์นี้แพร่ออกไปจะเกิดอะไรขึ้น? หรือท่านอยากให้คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องมาระบายโทสะกับคฤหาสน์คลื่นขจีเรา..คุณหนูใหญ่?”

 

กล่าวถึงจุดนี้หานเค่อก็ใช้ไพ่ตายออกมา…ความชอบธรรม!

 

หานเฉวี่ยไน่ย่อมใส่ใจกับความปลอดภัยของคฤหาสน์คลื่นขจี เรื่องนี้ไม่ใช่แค่มันแต่อาวุโสคนอื่นๆเองก็รู้ดี!

 

หาไม่แล้วหานเฉวี่ยไน่คงเลือกหลบหนีไปเนิ่นนานด้วยความช่วยเหลือของผู้นeคฤหาสน์!

 

หากหานเฉวี่ยไน่คิดจากไปจริงๆ ต่อให้พวกมันอยากจะหยุดนางเพียงใดแต่พวกมันก็คงไม่อาจหยุดยั้งนางได้!!

 

ไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่นใด อาศัยพลังฝีมือของผู้นำคฤหาสน์เพียงคนเดียวก็ทัดเทียมกับหานซิ่นแล้ว

 

ด้วยมีผู้ฝึกสัตว์อย่างมู่อี้เคียงข้างผู้นำคฤหาสน์อีกสักคนลงมือ พร้อมฝูงสัตว์ร้ายอันน่ากลัวเหล่านั้น คงยากที่จะมีใครหยุดยั้งนางได้!

 

แถมคราวนี้หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ของคฤหาสน์คลื่นขจีล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำของหานเฉวี่ยไน่ น่ากลัวผู้นำคฤหาสน์คงมาสั่งสอนพวกมันที่กล้ากล่าววาจาถือดีแบบนี้กับหานเฉวี่ยไน่ไปนานแล้ว!

 

“ไสหัวไป!!”

 

หานเฉวี่ยไน่ขมวดคิ้ว ทั้งตะคอกเสียงใสไล่คนดั่งหมูหมาออกมาดั่งลั่น!

 

เมื่อถูกหานเฉวี่ยไน่ขับไล่มาด้วยท่าทางไม่ไว้หน้า หานเค่อและอาวุโสคนอื่นๆที่มาด้วยก็ชักสีหน้ามีโทสะไม่น้อย หากแต่พวกมันก็ไม่กล้าทำอะไรอื่นอีก เป็นหานเค่อโบกมือพาทุกคนกลับไป

 

หลังจากหานเค่อและคนอื่นๆจากไป ชิงหนูค่อยปรากฏตัวออกมาพร้อมถอนหายใจ “คุณหนู เรื่องนี้พวกมันกล่าวไปก็ถูก…บางทีพวกเราสมควรจัดที่พักอื่นๆให้เขาอยู่ดีหรือไม่?”

 

“ข้าจะไม่ขับไล่พี่ใหญ่หลิงเทียนไปไหนเด็ดขาด!!”

 

หากเป็นตามปกติ หานเฉวี่ยไน่คงฟังคำของชิงหนูอยู่บ้าง

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้ นางเลือกที่จะบอกปัดปฏิเสธออกไปโดยไร้ซึ่งความลังเลแม้แต่นิดเดียว!

 

ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่พี่ใหญ่หลิงเทียนของนาง ทว่าตั้งแต่ที่หานเค่อมาก้าวก่ายเช่นนี้มีหรือหานเฉวี่ยไน่จะทำตามมัน? นับประสาอะไรกับอีกฝ่ายคือพี่ใหญ่หลิงเทียนของนาง!

 

นางเป็นใคร อีกฝ่ายนับเป็นตัวอะไร?!

 

แถมสาเหตุที่หานเค่อกล้ามากล่าววาจาโอหังพรรค์นี้ต่อหน้านาง ไหนเลยนางยังไม่รู้ได้ว่ามันรับคำสั่งผู้ใดมา?

 

“ฮึ! ในที่สุดเจ้าก็นั่งไม่ติดที่แล้วรึไง? เจ้ากลัวว่าข่าวฉาวนี้จะแพร่ออกไปใช่หรือไม่? กลัวว่าเกิดทำให้นายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องน่าตายนั่นไม่พอใจขึ้นมา มันจะมาระบายโทสะลงกับคฤหาสน์คลื่นขจี ทั้งลงหัวพวกเจ้างั้นสิ!”

 

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด หานเฉวี่ยไน่พลันกล่าวเย้ยเยาะออกมา ปากยังเบ้ออกด้วยความชิงชัง

 

ลึกลงไปในแววตายังเผยประกายเย็นชา มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้นางออกอาการจงเกลียดจงชังได้ขนาดนี้…หานซิ่น! อาวุโสสูงสุดคฤหาสน์คลื่นขจี สกุลหาน!!

 

ส่วนอีกด้านนั้น พอหานเค่อนำสิ่งที่หานเฉวี่ยไน่ตอบสนองมารายงานหานซิ่น มันก็หัวร้อนเป็นฟืนไฟ!

 

“บัดซบ! ยาโถวน้อยนั่นคิดก่อกบฏขึ้นมาตอนนี้รึไรกัน!?”

 

ใบหน้าหานซิ่นมืดดำปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก ทั้งยังอัปลักษณ์ปั้นยากนัก ลูกตายังเผยประกายเย็นเยียบเสียดแทงปานจะฉีกผ่าได้ทุกสิ่ง

 

“อาวุโสสูงสุด คราวนี้คุณหนูใหญ่ทำเกินไปแล้วจริงๆ! แล้วพวกเราจักทำอย่างไรกันดีเล่าท่าน? พวกเรามิอาจปล่อยให้นางกระทำเรื่องนี้ตามอำเภอใจของนางได้! เกิดงานวิวาห์ล่มเพาะเรื่องนี้..คฤหาสน์คลื่นขจีเราได้กลบฝังไปพร้อมกับนางแน่!!”

 

หานเค่อกล่าวออกมาด้วยความกังวลใจ

 

“ตอนนี้ก่อนอื่นใด…เจ้าไปเร่งตรวจสอบตัวตนของบุรุษผู้นั้นมาเสีย! ว่ามันเป็นใครแล้วมาหายาโถวน้อยนั่นทำอะไร…หรือที่แท้มันต้องการอันใดจากคฤหาสน์คลื่นขจีของพวกเรากันแน่!”

 

หานซิ่นมองหานเค่อด้วยแววตาลงลึก ค่อยกล่าวออกเสียงเข้ม

 

หานเค่อเร่งรับคำแล้วรีบไปกระทำตามคำสั่งทันที

 

ในฐานะสุนัขรับใช้ของหานซิ่น รวมถึงอาวุโสฝ่ายในของคฤหาสน์คลื่นขจี หานเค่อย่อมมีวิธีการไม่น้อยในการตรวจสอบความเป็นมาของต้วนหลิงเทียน

 

แน่นอนว่าผลการตรวจสอบของมันถูกจำกัดอยู่แค่ เมืองคลื่นขจีเท่านั้น…

 

เพราะไม่ว่ามันจะใช้เส้นสายอย่างไร มันก็พบว่า หลิงเทียนคนนี้คล้ายจะปรากฏตัวออกมาจากอากาศว่างเปล่า อยู่ดีๆก็มาโผล่ที่เมืองคลื่นขจีเพื่อตามหาหานเฉวี่ยไน่เสียอย่างนั้น!!

 

“หลิงเทียน?”

 

เมื่อหานเค่อย้อนกลับมารายงานหานซิ่น ในที่สุดหานซิ่นก็ได้ทราบนามของต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าเป็นนาม เทียน แซ่ หลิง ที่จงใจปลอมขึ้นมา ไม่ใช่ชื่อแซ่ที่แท้จริง

 

“คนนอก? สหายของยาโถวน้อย?”

 

ลูกตาหานซิ่นส่องแสงเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง “เท่าที่ข้ารู้นอกจากติดตามชิงหนูไปเที่ยวเล่นที่ทวีปมนุษย์เมื่อมิกี่ปีก่อน นางก็อยู่แต่ในบ้านมิได้ออกไปที่ใด…แม้จะออกไปข้างนอกบ้าง แต่ก็กลับมาในเวลาอันสั้น มิน่าไปพบพานสหายอันใดได้…”

 

“ชายหนุ่มผู้นั้นสามารถอยู่ร่วมบ้านเดียวกับนางได้ เห็นชัดว่านางมีความสัมพันธ์อันดีกับมันไม่น้อย…ชายหนุ่มผู้นั้นสมควรเป็นคนที่นางไปรู้จักมักคุ้นที่ทวีปมนุษย์”

 

หานซิ่นลองคาดเดาออกมา

 

อนิจจาไม่ว่ามันจะลองคาดเดาจนใกล้เคียงมากมายเพียงไร ก็ยากที่มันจะล่วงรู้ความจริงได้

 

ในตอนแรก สตรีที่หลานชายมันคิดล่วงเกิน…ก็เป็นคู่หมั้นของชายหนุ่มที่ชื่อว่า ต้วนหลิงเทียน

 

และคนที่ฆ่าหลานชายมันก็เป็นข้ารับใช้ ของบิดาชายหนุ่มคนนั้น

 

หากมันสามารถคาดเดาเรื่องนี้ได้ออก เกรงว่ามันคงไม่อาจอยู่เฉยแบบนี้ได้

 

“สมควรเป็นเช่นนั้น”

 

หานเค่อเห็นด้วยกับวาจาคาดเดานี้ของหานซิ่น

 

“จะอย่างไรก็ช่างเถอะ…พวกเราต้องทำให้นางไล่เจ้าหนุ่มนั่นไปให้ได้! อย่างน้อยๆก็ให้ออกมาจากเรือนพักของนางก็ยังดี! นอกจากนั้นให้คนของพวกเราไปจับตาดูสาวใช้ของนางไว้ให้ดี อย่าให้ใครไปกล่าววาจาเหลวไหลนินทาอันใดเด็ดขาด! บังคับให้พวกนางสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ไปเลยก็ดี! ใครที่มันกล้ากล่าวเรื่องนี้ออกมาต้องตาย!!”

 

หานซินมองหานเค่อทั้งสั่งการออกมาฉะฉาน

 

“รับทราบ ท่านอาวุโสสูงสุด”

 

หานเค่อกล่าวรับคำสั่งด้วยความเคารพ “ข้ารับปากท่าน..ว่าสาวใช้เหล่านั้นจักมิมีวันกล่าวถึงเรื่องนี้ออกมาได้!”

 

“ดี! เสร็จเรื่องนี้แล้วเจ้าไปหารือกับอาวุโสคนอื่นๆเสีย! ให้ทั้งหมดรวมตัวกันไปกดดันผู้นำคฤหาสน์ กล่าวบอกความจริงออกไปว่าคุณหนูใหญ่กลับชุบเลี้ยงบุรุษแปลกหน้าไว้ใต้ชายคาเดียวกัน! ตอนนี้สถานการณ์ของคฤหาสน์คลื่นขจีของพวกเราตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงเพียงใดเล่าไปให้ครบ! บอกไปว่าพวกเราเพียงต้องการให้บุรุษผู้นั้นออกจากเรือนที่พักของนางเท่านั้น!”

 

หานซิ่นกล่าวสั่งหานเค่อสืบต่อ “ตอนนี้ยาโถวน้อยนั่นมันเคียดแค้นชิงชังพวกเรา พวกเราจึงต้องกดดันบิดาของนางให้ไปกล่าวบอกกับนางเอง…เพราะหากพวกเราไปบีบนางมากเข้าผู้ใดจะไปรู้ เกิดนางหนีขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

 

“เรื่องนี้ขอท่านอาวุโสสูงสุดวางใจ ข้าจักไปหารือกับอาวุโสท่านอื่นๆ ทั้งพากันไปกดดันให้ท่านผู้นำคฤหาสน์เข้าใจสถานการณ์…ข้าเชื่อมั่นว่าผู้นำคฤหาสน์ย่อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคฤหาสน์คลื่นขจีเป็นที่สุด เพราะเรื่องนี้สำคัญใหญ่หลวงนัก!!”

 

หานเค่อตอบรับ

 

“เหอะ! ให้ความสำคัญกับคฤหาสน์คลื่นขจีงั้นเหรอ?”

 

หานซิ่นยกยิ้มแสยะ “หากให้ความสำคัญกับคฤหาสน์คลื่นขจีจริง ไฉนมันถึงได้มีความคิดส่งบุตรีให้หนีออกไปเสียเล่า? ในใจของมันคฤหาสน์คลื่นขจีแม้สำคัญ..แต่น่ากลัวว่ายังสำคัญไม่เท่าความสุขชั่วชีวิตของบุตรีหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของมัน!!”

 

“ทว่าสำหรับยาโถวน้อยนั่น บิดาของนางก็มีความสำคัญมากกว่าทุกสิ่ง! รวมถึงความสุขชั่วชีวิตของนาง!!”

 

หานซิ่นหัวเราะเยาะออกมา “ดังนั้นงานวิวาห์ครั้งนี้พวกเราไม่ต้องกลัวว่านางจะชิ่งหนี…สิ่งที่พวกเราต้องจัดการดูแลให้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือ…ทำให้การแต่งออกของคุณหนูใหญ่คฤหาสน์คลื่นขจีราบรื่น! เพราะเรื่องนี้ยังจะทำให้คฤหาสน์คลื่นขจีของพวกเราจักได้ชื่อว่ามีสัมพันธ์อันดีกับคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!!”

 

“ถึงแม้นิสัยของนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจักเจ้าชู้กรุ้มกริ่มไปบ้าง แต่จักอย่างไรก็ถือเป็นมังกรในหมู่มนุษย์! อีกทั้งในภายภาคหน้าก็สมควรได้เป็นผู้นำคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!!”

 

กล่าวถึงท้ายประโยคลูกตาของหานซิ่นก็เผยประกายเจิดจ้าออกมา คล้ายมันกำลังเห็นอนาคตอันสดใสของคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานส่องสว่างอยู่รำไร…