บทที่ 1417 ร่วมมือกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น…” เมื่อเวลาผ่านไป เทพธิดาซุ้ยป๋อก็อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาง

 

ตามที่นางบอก นางพยายามค้นหามรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแต่นางบังเอิญพบผู้อมตะของวังสวรรค์

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้ว่านางเป็นสนมของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

เทพธิดาซุ้ยป๋อใช้ชื่อของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงข่มขู่ แต่นั่นยิ่งเพิ่มความเกลียดชังให้กับพวกเขา

 

ในการต่อสู้ เทพธิดาซุ้ยป๋อเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

โชคดีที่นางได้พบกับหลิวกวนซื่อและคนอื่นๆ

 

ปรากฏว่าวังสวรรค์กำลังไล่ล่าหลิวกวนซื่อ

 

ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร หลิวกวนซื่อช่วยเทพธิดาซุ้ยป๋อและหลบหนีมาพร้อมกัน

 

แต่เนื่องจากพวกเขาถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของวังสวรรค์ พวกเขาจึงไม่สามารถแยกทางเนื่องจากศัตรูจะสามารถสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

 

โดยสรุปแล้วอิงอู๋เซี่ยสามารถอธิบายรายละเอียดได้อย่างไร้ที่ติ คำกล่าวของเขาแทบจะทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาประสบกับสถานการณ์นี้มาจริงๆ

 

ในความเป็นจริงตั้งแต่ฟางหยวนและคนอื่นๆจับตัวเทพธิดาซุ้ยป๋อ พวกเขาก็วางแผนไว้แล้ว

 

คำอธิบายของอิงอู๋เซี่ยเป็นการผสมผสานระหว่างความจริงและคำลวง ฟางหยวนและคนอื่นๆถูกเปลี่ยนสถานะจากศัตรูเป็นมิตร ในขณะที่ฟงจิวเก้อที่ปรากฏตัวขึ้นในคำอธิบายเหล่านี้ก็สมจริงมาก

 

มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

 

ปัญหาเดียวคือเทพธิดาซุ้ยป๋อสูญเสียวิญญาณอมตะทั้งหมดและวิญญาณระดับมนุษย์ส่วนใหญ่ของนางในการต่อสู้

 

เรื่องนี้บังเอิญเกินไป

 

แต่ไม่มีทางเลือก

 

หากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต้องการให้อิงอู๋เซี่ยแสดงวิญญาณอมตะของเทพธิดาซุ้ยป๋ออกมาเพื่อเป็นการพิสูจน์ นั่นจะกลายเป็นหายนะ

 

ท้ายที่สุดวิญญาณของเทพธิดาซุ้ยป๋อก็เต็มไปด้วยเจตจำนงของนาง อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถใช้งานพวกมัน

 

ในความเป็นจริงตั้งแต่เทพธิดาซุ้ยป๋อถูกจับโดยไป่หนิงปิง นางก็ระเบิดทำลายวิญญาณอมตะทั้งหมดของนางไปแล้ว

 

ไม่เหลือทรัพยากรทิ้งไว้ให้ศัตรู!

 

ดังนั้นฟางหยวนและคนอื่นๆจึงต้องกล่าวเช่นนี้เพื่อชดเชยข้อบกพร่องดังกล่าว

 

นางรำหงหยุนตกใจมากกับเรื่องนี้

 

นางมองเทพธิดาซุ้ยป๋อโดยไม่คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะพบอันตรายที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้

 

และความจริงก็คือกระทั่งไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และคนอื่นๆก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

 

การแสดงของอิงอู๋เซี่ยยอดเยี่ยมมาก เขาไม่มีข้อบกพร่อง มันดูธรรมชาติและสมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

‘อิงอู๋เซี่ยได้รับทักษะนี้มาตั้งแต่เมื่อใด?’ ไห่ลั่วหลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

 

มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่ไม่แปลกใจกับทักษะการแสดงของอิงอู๋เซี่ย

 

เหตุผลเป็นเพราะเขาให้อิงอู๋เซี่ยยืมวิญญาณทัศนคติ ด้วยวิญญาณอมตะระดับแปดดวงนี้ การแสดงของอิงอู๋เซี่ยจึงดูเป็นธรรมชาติมาก

 

โดยเฉพาะเมื่อเขาแสดงต่อหน้าผู้อมตะระดับเจ็ดและเจตจำนงของผู้อมตะระดับแปด

 

หากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงมาด้วยตัวเอง มันอาจมีปัญหา แต่อิงอู๋เซี่ยสามารถจัดการเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงได้อย่างสมบูรณ์

 

ประสบความสำเร็จ!

 

ไม่ว่าจะเป็นนางรำหงหยุนหรือเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ทั้งสองไม่สงสัยในคำกล่าวของอิงอู๋เซี่ย

 

ฟางหยวนเห็นสิ่งนี้และเริ่มกล่าว “บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและเทพธิดาหงหยุน ผู้อมตะจากวังสวรรค์กำลังไล่ล่าพวกเรา แต่เทพธิดาซุ้ยป๋อได้รับความช่วยเหลือจากพวกเรา นั่นเป็นเรื่องจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธ”

 

เขากล่าวด้วยความหยิ่งยโส กระทั่งต่อหน้าผู้อมตะระดับแปด เขาก็ไม่เกรงกลัว

 

ฟางหยวนไม่มีวิญญาณทัศนคิตแต่ทักษะการแสดงของเขายอดเยี่ยมมาก เขาสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย

 

เขาทำให้เทพธิดาซุ้ยป๋อตายแต่เขากลับแสดงตัวเป็นผู้มีพระคุณต่อนาง

 

นี่เป็นเรื่องไร้ยางอาย แต่ฟางหยวนทำตัวราวกับมันเป็นเรื่องจริง

 

เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเงียบ

 

แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่ชื่อเสียงของหลิวกวนซื่อทำให้เขาสามารถพูดคุยได้อย่างเท่าเทียมกับเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

หากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงมาด้วยตนเอง ฟางหยวนอาจไม่สามารถกล่าวในลักษณะนี้

 

แต่เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและตัวบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน

 

หลังจากคิด เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจึงเปิดปากกล่าว “เจ้าต้องการสิ่งใดเป็นรางวัล?”

 

ริมฝีปากของฟางหยวนโค้งงอขึ้น

 

เขายิ้ม

 

รอยยิ้มที่สดใสราวกับดวงตะวันของเขาทำให้นางรำหงหยุนกลายเป็นมึนงง เขาหล่อมาก!

 

‘ข้าไม่ต้องการรางวัล แต่ข้ามีข้อเสนอ” ฟางหยวนกล่าว

 

“มันคือสิ่งใด?”

 

“พันธมิตร” ฟางหยวนกล่าว

 

“พันธมิตร?” เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเงียบลงอีกครั้ง

 

ฟางหยวนกระตุ้น “บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ท่านได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ท่านถูกจับตามองโดยวังสวรรค์ ทัศนคติที่พวกเขามีต่อท่านสามารถบอกได้จากการโจมตีเทพธิดาซุ้ยป๋อ”

 

“เพราะเกราะหวนคืน ข้าจึงถูกวังสวรรค์ไล่ล่ามาจนถึงที่นี่ เรามีศัตรูร่วมกัน นั่นคือวังสวรรค์”

 

“การช่วยเหลือซึ่งกันและกันคือการช่วยเหลือตนเองถูกต้องหรือไม่?”

 

“ข้ามีวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีประสิทธิภาพ ข้าสามารถชะลอเวลาในมิติช่องว่างของท่านเพื่อผลักภัยพิบัติออกไป”

 

“นอกจากนี้ข้ายังมีมรดกบนเส้นทางแห่งโชค หม่าหงหยุนเสียชีวิตในมือของข้า ข้าได้รับมรดกโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดส่วนหนึ่งของเขา นี่เป็นมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด”

 

“สามี?” นางรำรู้สึกประทับใจอย่างมากกับลิ้นสองแฉกของฟางหยวน

 

“สามี ข้าคิดว่าเราสามารถสร้างพันธมิตร” อิงอู๋เซี่ยพยายามโน้มน้าวเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

ในที่สุดเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงก็เปิดปากกล่าว แต่สิ่งที่เขากล่าวคือ

 

“เราสามารถเป็นพันธมิตร”

 

“แต่ความร่วมมือของเราต้องค่อยเป็นค่อยไป”

 

“หลิวกวนซื่อ เจ้าต้องการใช้ข้าจัดการผู้อมตะจากวังสวรรค์ แล้วเหตุใดเจ้าไม่บอกแผนการของเจ้า?”

 

“เราสามารถร่วมมือกันอย่างช้าๆ หากมันเป็นไปได้ด้วยดี ข้าสามารถออกไปปิดกั้นผู้อมตะจากวังสวรรค์ให้เจ้า หากความร่วมมือของเราไม่น่าพอใจ ข้าต้องขอดูความจริงใจของเจ้าก่อนที่เราจะร่วมงานกันต่อไป”

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาไม่ใช่ตัวตนที่จะหลอกลวงได้โดยง่าย

 

เขาเป็นนักวางแผนเช่นกัน เขาพยายามเปิดเผยแผนการของฟางหยวนและยังใช้แรงกดดันจากวังสวรรค์เพื่อบังคับให้ฟางหยวนสละผลประโยชน์บางอย่าง

 

“ความจริงใจ?” ฟางหยวนยิ้ม “มันควรเป็นความจริงใจจากทั้งสองฝ่าย เราช่วยเทพธิดาซุ้ยป๋อ นั่นคือการแสดงความจริงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา แล้วความจริงใจของท่านคือสิ่งใด?”

 

ฟางหยวนหลีกเลี่ยงหัวข้อเกี่ยวกับวังสวรรค์และใช้คำกล่าวของเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตอบโต้กลับไป

 

เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงคิดก่อนกล่าว “เราสามารถทดลองการร่วมมือกันก่อนเช่นการทำธุรกรรม เจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะพยายามเติมเต็มความพึงพอใจของเจ้า”