ตอนที่ 528: มาถึง

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 528: มาถึง

 

หลังจากบันไดเทวะเปล่งแสงออกมาแล้ว นอกจากอี้เทียนหยุน ผู้ฝึกตนคนอื่นต่างก็ถูกดีดกลับไปหมด ไม่มีเหลือ บนทางเดินของบันไดที่กว้างขวาง เหลือก็แต่อี้เทียนหยุนอยู่คนเดียว ดูแล้วราวกับผู้สูงส่งและเหล่าลูกเจี๊ยบ

 

ป้าหลงกับพวกที่ตอนแรกไม่สนใจ คิดว่ายังไงอี้เทียนหยุนก็ต้องถูกดีดกลับไปอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่ข้างบนมีคนครบ 30 พวกที่เหลือที่ยังมาไม่ถึงก็จะต้องถูกดีดกลับไป เท่ากับถูกกำจัดออกจากการทดสอบ

 

และตอนนี้พวกเขาจะไม่สามารถปีนขึ้นมาต่อได้อีก ทำได้เพียงแค่มองดูจากข้างล่างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมมันไม่ถูกดีดกลับไปล่ะ?” พวกหมิงเฉินพากันตาถลน หลังจากได้สติ พวกเขาก็พากันจ้องหน้ากัน คิดว่าเรื่องนี้ช่างแปลกประหลาดนัก

 

ก่อนหน้านี้ที่ทำการทดสอบ ตราบเท่าที่คนครบ 30 พวกที่เหลือก็จะถูกดีดออกไป ดังนั้น ต่อให้จะมีคนเข้ารับการทดสอบมากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็จะมีเพียงแค่ 30 คนเท่านั้นที่จะสามารถผ่านบททดสอบนี้ไปได้

 

และก็อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ขนาดอี้เทียนหยุนเองยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นผู้ฝึกตนจำนวนมากถูกดีดกลับไป เขาก็แอบสะดุ้งอยู่ในใจเหมือนกัน

 

“ดูเหมือนว่าหากขึ้นไปครบ 30 คนแล้ว การทดสอบนี้ก็จะสิ้นสุดลงทันที แต่ว่าทำไมข้าไม่เป็นอะไรเลยล่ะ เป็นไปได้ไหมว่าผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงรวบรวมวิชายุทธ์ในบททดสอบจะไม่ถูกดีดออกไป?” อี้เทียนหยุนคิดว่านี่มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่นี่จะต้องสร้างไว้เพื่อหาผู้สืบทอดหรืออะไรทำนองนั้นอย่างแน่นอน หากแม้แต่ผู้ฝึกตนที่มีคุณสมบัติที่จะสืบทอดยังถูกดีดออกไป งั้นก็คงไม่มีผู้มีคุณสมบัติคนไหนที่จะเอาชนะพวกที่เอาแต่เร็วเข้าว่าได้

 

เขาต้องการที่จะตระหนักรู้ในวิชาให้สำคัญ แล้วค่อยปีนขึ้นต่อ หากว่าที่นี่มีไม่การตระหนักรู้อะไร คนที่จะผ่านบททดสอบนี้ไปได้ ก็คงจำกัดอยู่ที่ 30 คนที่ขึ้นไปได้ไวที่สุด!

 

“แปลกจริง ทำไมมันไม่เป็นอะไรเลย?” จากนั้น ป้าหลงก็ได้ตะโกนออกมา “เจ้าลองปีนขึ้นมาใหม่สิ!”

 

ป้าหลงสั่งให้ลูกน้องที่อยู่ข้างล่างปีนขึ้นมา แต่ในขณะที่กำลังจะเดินมาที่บันไดเทวะนั้น ก็ปรากฏว่าไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้ เพราะได้ถูกม่านแสงป้องกันไว้ ทำให้ผ่านเข้ามาไม่ได้

 

“ป้าหลงต้าเหริน พวกเราเข้าไปไม่ได้ ทางเข้าถูกป้องกันไว้หมด” เหล่าลูกน้องต่างก็พากันส่ายหัว ไม่ว่าจะทำยังไงก็ผ่านเข้าไปไม่ได้ ต่างก็ถูกม่านแสงกั้นไว้ให้อยู่แต่ข้างนอก

 

“ไม่เพียงแต่ข้างล่างจะขึ้นมาไม่ได้เท่านั้น พวกเราก็ไปต่อไม่ได้เหมือนกัน….” หมิงเฉินหันกลับไปมองข้างหลัง ที่ด้านหลังพวกเขามีประตูอยู่ ซึ่งตอนนี้ได้ปิดแน่น เห็นได้ชัดว่ายังไม่สามารถเข้าไปได้

 

หากเป็นเพราะว่าอี้เทียนหยุนยังไม่ขึ้นมา ทำให้ประตูนี้ไม่เปิดออก ก็กลัวว่าตอนนี้คงยังเปิดไม่ได้ชั่วคราว

 

“หรือว่าพวกเราจะต้องรอให้มันปีนขึ้นมาก่อนอย่างงั้นเหรอ?” สีหน้าของป้าหลงกลายเป็นน่าเกลียด พวกเขาคิดว่าจะได้เห็นสีหน้าร้องขอความเมตตาของอี้เทียนหยุน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องรอให้อี้เทียนหยุนปีนขึ้นมาถึงที่นี่ไวๆ แทน

 

“รีบๆ ปีนขึ้นมาให้ถึงที่นี่ได้แล้ว ไอ้โง่!” หมิงเฉินตะโกนลงไป “หากปีนไม่ไหวก็ไสหัวลงไปซะ!”

 

พวกเขาพากันตะโกนไม่หยุด ต้องการยั่วยุอี้เทียนหยุน ให้รีบปีนขึ้นมาให้ถึงพวกเขาไวๆ

 

อี้เทียนหยุนมองไปยังพวกเขาอย่างเกียจคร้าน และพูดอย่างสบายว่า “จะเร่งหาอะไร พวกเจ้าก็พักไปสิ ถึงยังไงก็มีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้ว”

 

เขาค่อยๆ ปีนขึ้นไปทีละน้อย โดยไม่สนว่าข้างบนจะเกิดอะไรขึ้น เขาจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับวิชาของที่นี่ ไม่สามารถปล่อยให้โอกาสนี้เสียเปล่าได้

 

สิ่งที่คนอื่นไม่ทำ เขาต้องทำให้สำเร็จ!

 

“เจ้า!” พวกเขาพากันโมโหแทบคลั่ง ตอนนี้ต้องมารออี้เทียนหยุนปีนขึ้นมาด้วยท่าทางเกียจคร้าน นี่ยิ่งทำให้พวกเขาเดือดดาลจนยากที่จะระงับ

 

แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากว่าสามารถโจมตีได้ เกรงว่าป่านนี้อี้เทียนหยุนคงถูกพวกเขาจัดการจนแยกเป็นส่วนๆ ไปแล้ว

 

อี้เทียนหยุนทำเป็นหูทวนลม พร้อมกับค่อยๆ ปีนไปทีละขั้น ขณะที่ทำความเข้าใจต่อวิชายุทธ์ของที่นี่ทีละน้อย คนรอบๆ ทำได้เพียงมองดูเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำอะไรได้

 

ในที่สุด หลังจากทำความเข้าใจอยู่สองสามวัน อี้เทียนหยุนก็ปีนขึ้นมาบนสุดได้สำเร็จ เพิ่งจะเหยียบย่างเข้ามายังบันไดขั้นบนสุด ก็ได้มีลำแสงศักดิ์สิทธิ์ฉายออกมาจากรอบๆ พร้อมกับแทรกซึมเข้าไปในร่างของพวกเขา

 

ผู้ทดสอบบางคนได้ บ้างคนไม่ได้ นับคร่าวๆ ก็มีมากกว่าครึ่ง และลำแสงที่ปกคลุมยังตัวอี้เทียนหยุนก็เป็นลำแสงที่เจิดจ้าที่สุด แต่ก็แค่เจิดจ้าที่สุดเท่านั้น ไม่ได้ให้ความรู้สึกอะไรมากนัก

 

อี้เทียนหยุนก็ไม่ได้รู้สึกถึงความต่างแม้แต่น้อยเช่นกัน เป็นแค่ลำแสงทั่วไป ไม่คิดว่าเขาจะไม่ได้รับอะไรพิเศษเลย แต่ยังไงก็ตาม ในหัวของเขาก็ได้ปรากฏหน้ากระดาษของวิชายุทธ์อยู่สามหน้า ทำให้รู้ว่าเป็นหัวข้อเกี่ยวกับอะไร

 

“เคล็ดวิชาเฉียนคุน!”(สวรรค์และโลก, หยินและหยาง,จักรวาล)

 

ในที่สุดเขาก็รู้ว่าชื่อของวิชานี้คืออะไร และหน้ากระดาษ 3 หน้านี้ ก็เป็นเพียงแค่บทแรกเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ายังมีบทที่ตามหลังอยู่อีกมาก

 

แม้ว่าจะเป็นแค่บทแรก แต่เขาก็สามารถรู้ว่าเป็นวิชายุทธ์ระดับอะไร เคล็ดวิชาเฉียนคุนนี้ เป็นวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นสูง!

 

ซึ่งนี่ไม่ได้ผิดไปจากที่เขาคาด เป็นวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นสูงจริงๆ ไม่ใช่วิชายุทธ์ระดับปฐพีทั่วๆ ไป และก็ไม่ใช่วิชายุทธ์ระดับสวรรค์ขั้นต่ำ

 

“ต้องทำให้พวกเจ้ารอนานแล้ว” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา เขารู้ว่าที่นี่ไม่สามารถโจมตีได้ ตราบเท่าที่มีลำแสงปกคลุมร่างอยู่ ก็ไม่มีใครสามารถโจมตีได้ นอกเสียจากว่าจะอยากตาย

 

“แม้จะไม่รู้ว่าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ก็ถือว่าเจ้าโชคดีไป!” พวกหมิงเฉินพากันจับจ้องไปยังอี้เทียนหยุน สายตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร หวังว่าจะสามารถตัดอวัยวะในร่างกายของอี้เทียนหยุนออกเป็นส่วนๆ แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำได้

 

“ข้าโชคดีมาตลอดอยู่แล้ว” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ

 

“แท้จริงแล้ว เจ้าเอาพวกสัตว์อสูรไปซ่อนไว้ที่ไหน!” ป้าหลงถามด้วยน้ำเสียงกร้าว

 

“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย? หากเก่งจริงก็ไปหาเองสิ อย่ามาถามข้า” อี้เทียนหยุนหัวเราะ พร้อมกับเดินไปข้างหน้า แต่ก็เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก่อนที่จะหันมาพูดกับพวกเขาว่า “เอ่อใช่ ก่อนหน้านี้ใครพูดว่าข้าไม่สามารถปีนขึ้นมาได้? คงต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะว่าข้าขึ้นมาแล้ว แต่ว่าการที่มีคนจำนวนมากจ้องมาที่ข้า มันทำให้ข้ารู้สึกไม่ดีจริงๆ แต่ก็ขอบคุณมากที่สนใจในตัวข้า”

 

“ทำเป็นพูดดีไปเถอะ ข้าจะต้องทำให้เจ้าตายอย่างทรมานให้ได้คอยดู!” หมิงเฉินสายตาเย็นชา ในสายตาปรากฏลำแสงชั่วร้ายวาบผ่าน พวกเขารู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นดี แม้ว่าในใจจะรู้สึกโกรธ แต่ก็จำเป็นต้องระงับเอาไว้ก่อนชั่วคราว ไว้เมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่ อี้เทียนหยุนจะต้องเจ็บปวดจนต้องร้องขอความเมตตาอย่างแน่นอน!

 

“ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกเจ้าจะทำยังไง” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นประตูที่ปิดสนิทก็ได้มีเสียงดังมา พร้อมกับเริ่มเปิดออกอย่างช้าๆ ทำให้เห็นเส้นทางหลักที่กว้างขวางปรากฏขึ้นตรงหน้า

 

พวกเขารู้ว่านั่นคือที่ไหน แต่อี้เทียนหยุนกลับไม่รู้ แต่ยังไงที่นั่นก็มีลำแสงศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา

 

หลังจากพวกเขาเข้าไป “ปัง” เสียงประตูปิดก็ดังมา แยกผู้ฝึกตนคนอื่นไว้ด้านนอก

 

พวกเขาอยากจะรู้สถานการณ์ด้านในด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ทำได้เพียงมองหน้ากันอยู่ด้านนอก โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้

 

“คนล่ะ?”

 

ในตอนนี้เอง ก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณสองคนตามมาจากด้านนอก เมื่อมาถึง พวกเขาก็พบว่าที่บนบันไดเทวะนั้น ไม่มีคนอยู่

 

“เรียนต้าเหริน ทุกคนไปกันแล้ว….” ผู้คุ้มกันตอบด้วยน้ำเสียงหวาดๆ

 

“นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงไม่รอให้พวกเรามาก่อน!?” ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณและวิญญาณเที่ยงแท้ที่มาใหม่พากันตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

 

พวกเขาอุตส่าห์เดินทางมาอย่างยากลำบาก แต่ปรากฏว่าที่นี่ได้เริ่มไปแล้ว?

 

“คือว่า บังเอิญมีผู้บุกรุกเข้ามา ทำให้บททดสอบถูกเปิดขึ้นก่อนเวลา…..”

 

“ผู้บุกรุก…..”

 

พวกเขาพากันตกใจ รู้สึกว่าเรื่องนี้จะไม่ธรรมดาซะแล้ว