ตอนที่ 498 ทำลายล้างอาณาจักรอินทรีสวรรค์ (4)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 498 ทำลายล้างอาณาจักรอินทรีสวรรค์ (4)

“เจ้าไม่โกหกข้าจะดีที่สุด” แววตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายน่ากลัวในขณะที่เขามองไปที่ขันที

ร่างของขันทีสั่นเทาตรงที่เขายืนอยู่ที่พื้น ตาของเขาแสดงท่าทีกลัวออกมาในขณะที่เขาพูด “บ่าวผู้นี้ไม่กล้า บ่าวผู้นี้ไม่กล้า ! “

“ถ้างั้นในตอนนี้ องค์ชายรองหนีไปไหน ? ” เจี้ยนเฉินมั่นใจว่า องค์ชายรองนั้นพูดเรื่องเกินจริงกับพระราชาของอาณาจักรอินทรีสวรรค์เพื่อทำให้มันฟังดูเคร่งเครียด ตั้งแต่ที่ตระกูลเจียงหยางเป็นเหยื่อของจากความหายนะเพราะองค์ชายรอง เจี้ยนเฉินคงไม่ปล่อยเขาไปแน่ เจี้ยนเฉินมีปัญหาบางอย่างกับองค์ชายรองที่พระราชวังของอาณาจักรเกอซุน

“องค์ชาย… องค์ชายรอง… เขาออกไปจากพระราชวังเมื่อสองวันก่อน คนใช้คนนี้ได้ยินมาจากพระราชาว่า เจ้าชายคนที่สองอาจจะถูกส่งไปที่อาณาจักรอาทิตย์อัสดง” ขันทีตัวสั่นไปด้วยความกลัว ในขณะที่เขาตอบกลับเจี้ยนเฉิน

“อะไรนะ ! ? องค์ชายรองออกไปจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์แล้วอย่างนั้นหรือ ? ” คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวด ถ้าองค์ชายรองออกไปจากอาณาจักรเมื่อสองวันที่แล้วจริง ๆ ถ้างั้นการตามหาตัวเขาคงยากกว่าที่เจี้ยนเฉินคิดไว้ตั้งแต่แรกมาก

“ชะ ใช่.. บ่าวผู้นี้ได้ยินมาจากปากของพระราชาเอง มันไม่น่า.. ไม่น่าจะผิดได้” ขันทีอธิบาย

เจี้ยนเฉินยังคงขมวดคิ้วและใช้ความคิด เขาให้ทหาร 2 คนของกองทัพเทพดาบตะวันออกพาตัวขันทีไป

“องค์ชายรองนั้นค่อนข้างมีไหวพริบ ข้าไม่คิดว่าเขาจะหนีไปหรอก เจี้ยนเฉิน เจ้าจะทำยังไงในตอนนี้ ? ” หมิงตงถาม สำหรับเขาแล้ว ในใจของเขามีแต่ความเกลียดชังองค์ชายรอง

“ข้าไม่ปล่อยให้เขาหนีไปหรอก แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน รอให้พวกเราสืบหาที่อยู่ขององค์ชายรองให้ได้ก่อน พวกเราจะคิดวิธีรับมือในตอนนั้น ในตอนนี้ พวกเราควรจะอยู่ที่นี่สักพัก คนที่พยายมที่จะหนีไปในทางลับจะถูกนำมาที่นี่ในไม่ช้า” เจี้ยนเฉินตอบ

ในตอนนี้ ทั่วทั้งพระราชวังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นวุ่นวายไปหมด พระราชาได้ถูกจับแล้วและพระราชวังก็ถูกยึดแล้ว แต่มันยังมีองครักษ์นับไม่ถ้วนในนี้อยู่

แม้ว่าองครักษ์กลุ่มหนึ่งได้ยอมแพ้แล้ว แต่ยังมีองครักษ์ที่ซื่อสัตว์บางคนที่ยอมสู้จนตัวตายเพื่อต่อต้านอยู่ พวกเขาต่อสู้กับกองทัพเทพดาบตะวันออก เสียงการต่อสู้ได้ยินดังไปทั่วทั้งพระราชวัง

แต่องครักษ์เหล่านี้จะไปเทียบกับทหารชั้นยอดของอาณาจักรฉินหวงได้อย่างไร ? แม้ว่าองครักษ์ทั้งหมดจะอยู่ในระดับเซียนปฐพี แต่กองทัพเทพดาบตะวันออกก็อยู่ในระดับเดียวกัน ในขณะที่พวกเขามีจำนวนมากกว่าองครักษ์ ถึงแม้ว่าจะมีการต้านทางอย่างสุดกำลังจากองครักษ์ แต่พวกเขาก็ไร้พลังและถูกโจมตีจนต้องยอมแพ้ต่อกองทัพเทพดาบตะวันออก

องครักษ์ทนอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะพ่ายแพ้ ผู้ต่อต้านสุดท้ายที่เหลืออยู่ถูกกำจัดออกไปโดยกองทัพเทพดาบตะวันออกซึ่งได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลังจากที่ผู้ต่อต้านทั้งหมดถูกถอนรากถอนโคนแล้ว กองทัพเทพดาบตะวันออกก็เริ่มค้นไปทั่วทั้งพระราชวัง อย่างไรก็ตาม เหมือนที่เจี้ยนเฉินสั่ง พวกเขาจับเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับนางกำนัลและคนรับใช้

ในการปูพรมค้น ทั่วทั้งพระราชวังมีห้องใต้ดินที่ซ่อนอยู่ สิ่งมีค่าปริมาณเก็บอยู่ในนั้น ยังมีทางลับที่ถูกกลุ่มกองทัพเทพดาบตะวันออกตรวจสอบอีก พวกเขาทั้งหมดเป็นเซียนปฐพี และพวกเขาก็เดินลึกเข้าไปในทางลับ

ในเวลาไม่นาน พวกเขาก็มาสุดทางหนีที่ที่พวกเขาจับคนเป็นพันคนที่ติดอยู่ที่ทางหนีเพราะทางที่ถล่มลงมาเอาไว้ พวกนักโทษรวมตัวกันอยู่ด้านหน้าปราสาทและกำลังรอคำตัดสินจากผู้พิทักษ์จักรพรรดิอยู่ในตอนนี้

ภายในกึ่งกลางของพระราชวังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ มีเชื้อพระวงศ์ประมาณ 2,000 คนคุกเข่าอยู่ตรงที่โล่ง มีชายและหญิง คนหนุ่มและคนแก่ แต่พวกเขาทั้งหมดต่างหวาดกลัวมากจนตัวสั่นไปหมด ทุกคนกลัวในสวัสดิภาพชีวิตของตนและกลัวว่าพวกเขาจะต้องมาตายที่นี่ ความกลัวนี้ทำให้หลายคนเริ่มร้องให้ออกมา

นั่นเป็นเพราะชนชั้นสูงทุกคนของอาณาจักรที่ตายไปแล้วมักจะถูกฆ่าจากศัตรูอย่างไม่มีปราณีเสมอบนทวีปเทียนหยวน แม้แต่พระสนมและเด็กเล็กก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกไว้ชีวิต นั่นเป็นวิธีถอนรากถอนโคนและทำลายวัชพืช

รอบ ๆ เชื้อพระวงศ์ของอาณาจักร ทหารในชุดเกราะขาวหลายคนยืนอยู่เหมือนรูปปั้น พวกเขายืนล้อมนักโทษเชื้อพระวงศ์ 2,000 คนไว้เป็นวงกลม

เจี้ยนเฉินมองไปดูอย่างไร้อารมณ์ไปที่ฝูงคนที่หนาแน่นที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น “ในตอนนี้ ข้าจะถามคำถามชุดหนึ่งกับทุกคน คนที่ตอบคำถามก่อน ข้าจะไว้ชีวิตแล้วปล่อยไป”

เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของทุกคนก็เปล่งประกายไปด้วยความหวัง หัวใจของคนที่เหมือนตายแล้วในตอนแรกได้ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งด้วยไฟปรารถนาแห่งการมีชีวิตอยู่ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะยังเด็กและพวกนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พวกนั้นก็ไม่ได้โง่ สายตาของพวกนั้นสดใสและแหลมคม ในตอนที่พวกเขาเห็นแม่ทัพทั้งสามยืนอยู่ด้านหลังเจี้ยนเฉิน พวกนั้นก็รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นหัวหน้าของเขา คำพูดของเขานั้นก็มีค่าเหมือนดั่งทองคำแน่ ต่อหน้าคนหลายคน ใครจะมาเล่นตลกกับกลุ่มนักโทษกัน

“พระราชาของอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีพระโอรสทั้งหมดกี่คน ? ” เจี้ยนเฉินถามคำถามแรกออกไป

“3 ! “

“3 ! “

“มี 3 คน ! “

….

ทันทีที่เจี้ยนเฉินถามคำถามแรกออกไป คนหลายคนรีบตอบคำถามกันเสียงขรม คำตอบนั้นเหมือนกัน เมื่ออาณาจักรอินทรีสวรรค์ถึงจุดจบ พวกเขาต้องอยากรักษาชีวิตของตัวเองและทิ้งความภักดีที่มีต่ออาณาจักรไปให้ไกลสุดโลก

เมื่อเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกินกว่าที่เขาคาดหวังไว้มาก เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มอย่างพอใจออกมา “ดีมาก ทุกคนร่วมมือดีมาก ถ้ายังเป็นแบบนี้ ข้าจะยินดีมาก และจะปล่อยให้ทุกคนเป็นอิสระ”

“ใต้เท้า ท่านพูดจริงหรือไม่ ? ถ้าพวกเราตอบคำถามทุกอย่าง ท่านจะปล่อยพวกเราไปจริง ๆ หรือ?” บางคนในฝูงชนพูดขึ้นมา พวกเขาพยายามซ่อนความหวังในน้ำเสียงของพวกเขาเอาไว้

เจี้ยนเฉินแสดงสีหน้าอบอุ่นออกมา อย่างไรก็ตาม ในสายตาของชนชั้นสูงในอาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้น รอยยิ้มของเจี้ยนเฉินนั้นก็เหมือนรอยยิ้มของปีศาจ

เจี้ยนเฉินชี้ไปที่กลุ่มคนด้านหลังเขา “ทุกคนเห็นนี่หรือไม่ ? ถ้าคนพวกนี้ไม่ใช่คนชั้นสูงของอาณาจักรเกอซุน พวกนี้ก็เป็นแม่ทัพของอาณาจักรฉินหวง ต่อหน้าคนจำนวนมาก ข้าจะไม่ทำตามสัญญาที่ข้าให้ไว้ได้อย่างไร ? “

คำของเจี้ยนเฉินเหมือนยาระงับความกลัวของพวกเขา ผู้มีอำนาจของชนชั้นสูงของอาณาจักรเกอซุนนั้นไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะเชื่อได้ง่าย ๆ แต่กับแม่ทัพของอาณาจักรฉินหวงแล้วนั้นมันต่างออกไป พวกเขาแต่ละคนมีความแข็งแกร่งด้านกำลังทหารมากกว่าพระราชาของอาณาจักรเกอซุนเสียอีก แม้แต่อำนาจของพวกเขานั้นก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าพระราชาเสียอีก

ในตอนนี้ด้วยการที่มีแม่ทัพของอาณาจักรฉินหวงยืนอยู่ด้านหลังคนหนุ่มนี้ มันก็เห็นได้ชัดเจนว่า สถานะของชายหนุ่มในอาณาจักรฉินหวงนั้นสูงกว่าพวกนั้นเสียอีก

เจี้ยนเฉินพูดต่อ “แน่นอนว่า จะมีกลุ่มคนจำนวนน้อยจำนวนหนึ่งที่ต้องถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่”

ความหมายของเจี้ยนเฉินทำให้เชลยทั้งสองพันคนคิดถึงเรื่องครอบครัวของพระราชาของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ทันที

“มีองค์ชายอยู่ที่นี่หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม

“มี ! มี ! เขาคือองค์ชายใหญ่ ! “

“นี่คือองค์ชายสาม ! “

….

ทันทีที่เจี้ยนเฉินถามจบ หลายคนก็เริ่มชี้ไปที่องค์ชายสามและองค์ชายใหญ่ ทำให้องค์ชายทั้งสองคนหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด

“พาพวกเขาออกมาข้างหน้า ! ” เจี้ยนเฉินสั่ง ทันใดนั้นเอง ทหารในชุดเกราะสีเงินหลายคนนำชาย 2 คนที่กลุ่มชี้และนำพวกเขามาให้เจี้ยนเฉิน

สายตาของเจี้ยนเฉินประเมินองค์ชาย 2 คนที่อยู่ตรงหน้าเขา เพื่อพยายามที่จะซ่อนตัวตนของพวกเขา พวกเขาจึงใส่เสื้อผ้าเหมือนชนชั้นต่ำพร้อมทั้งรอยเปรอะเปื้อนบนตัวพวกเขา ผมของพวกเขากระเซิงเพื่อทำให้พวกเขาเหมือนขอทานบนถนนมากกว่าที่จะเป็นองค์ชาย ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ชายหนุ่มคนหนึ่งดูอายุเกือบ 30 ปี ในขณะที่อีกคนหนึ่งมีอายุประมาณ 20 ปี อายุของเขานั้นไม่ห่างจากเจี้ยนเฉินมากนัก

องค์ชายทั้งสองสั่นด้วยความกลัวต่อหน้าเจี้ยนเฉิน ทั้งสองไม่กล้าจ้องหน้าเจี้ยนเฉิน

“พวกเจ้าคือองค์ชายสามและองค์ชายใหญ่ใช่หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม

“ชะ ใช่ ! “

องค์ชายทั้งสองเป็นคนที่กลัวความตายและห่วงชีวิตมากกว่าเป็นคนที่ภูมิใจและไม่ยอมใคร ต่อหน้าเจี้ยนเฉินแล้ว พวกเขาก็ได้แค่ตอบ ในขณะที่พวกเขาตัวสั่นไปด้วยความกลัว

“บอกข้ามา ว่าองค์ชายรองอยู่ที่ไหน” เจี้ยนเฉินสั่ง

“เขาไปที่อาณาจักรอาทิตย์อัสดง” องค์ชายใหญ่ไม่ลังเลที่จะบอกที่อยู่ขององค์ชายรอง แม้ว่าเขาและองค์ชายรองจะผูกพันธ์กันทางสายเลือด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถูกกันนัก มีความขัดแย้งลับ ๆ ระหว่างพวกเขาหลายเรื่อง ดังนั้นองค์ชายใหญ่จึงกระตือรือร้นที่จะเห็นองค์ชายรองตาย

เจี้ยนเฉินหรี่ตาลง “องค์ชายรองไปทำอะไรที่อาณาจักรอาทิตย์อัสดง ? “

“ขะ… ข้าไม่รู้เรื่องแบบนี้ ข้าเกรงว่ามีจะมีแต่เสด็จพ่อของข้าเท่านั้นที่รู้คำตอบ ถ้าเจ้าอยากรู้..ถ้างั้น…เจ้าต้องถามเขา” องค์ชายใหญ่คายข้อมูลออกมา ในขณะที่เขาผลักภาระไปให้พระราชา

เจี้ยนเฉินใคร่ครวญสักพักก่อนที่จะพูดออกมา “นำตัวองค์ชาย 2 คนนี้ไปและสอบสวนพวกเขาให้ละเอียด สำหรับกลุ่มนี้ ตรวจดูเข็มขัดมิติและแหวนมิติก่อนที่จะปล่อยพวกเขาไป”

ในขณะที่องค์ชายทั้งสองคนถูกพาตัวไป คนที่เหลือ 2,000 คนถูกค้นตัวอย่างละเอียด ในฐานะที่เป็นอาณาจักรที่ร่ำรวยกว่าอาณาจักรเกอซุนมาก ชนชั้นสูงของอาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นจึงมีความมั่งคั่งอย่างมากเมื่อนำทรัพย์สินมากองรวมกัน

เจี้ยนเฉินไม่สนใจที่จะฆ่าพวกเขาและปล่อยให้คน 2,000 คนหนีไป การยึดทรัพย์สินของพวกเขาและปล่อยให้พวกเขาหนีได้นั้นเป็นอะไรที่มากกว่าการมีชีวิตอยู่แล้ว เจี้ยนเฉินรักษาสัญญาและปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไป

ในตอนนี้เรื่องของกลุ่มคน 2,000 คนก็จบลงแล้ว เจี้ยนเฉินก็กลับไปที่แม่ทัพทั้งสาม “ฉินหวู่เทียน ให้คนกลุ่มหนึ่งไล่ตามองค์ชายรองไปที่อาณาจักรอาทิตย์อัสดง เจ้าต้องจับเขามาให้ได้” พูดได้ว่าองค์ชายรองเป็นต้นเรื่องทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เจี้ยนเฉินจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ

“ขอรับ! ข้าจะให้คนไปตามหาเขาทันที ! ” ฉินหวู่เทียนตอบก่อนที่จะออกไปเพื่อส่งหน่วยทหารชั้นดี 100 คนไปที่อาณาจักรอาทิตย์อัสดง

ในตอนนี้ ชายที่ชุดเกราะสีเงินคนหนึ่งก็เดินมาหาเจี้ยนเฉินแล้วคุกเข่าลง “รายงานผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ทรงเกียรติ พวกเราพบคลังสมบัติของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ขอรับ ! “

ตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้างขึ้นก่อนที่เขาจะโบกมือ “นำทางไป ! “