ตอนที่ 714 เขาถนัดซ้าย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 714 เขาถนัดซ้าย

 

โดยที่ซุนอี้เจียไม่รู้เรื่องราวใดๆ หลูอี้ได้แอบวางแผนลับๆกับค่ายเขี้ยวหมาป่าเพื่อขุดหลักใหญ่ดักรอให้ขุนอี้เจียกระโดดลงมาในสถานการณ์ที่ทั้งค่ายเจี้ยนอีและค่ายเขี้ยวหมาปาไม่สามารถจัดการฆ่าซุนลี่เจียทิ้งหรือส่งกลับไปได้ พวกเขาจึงทําเป็นเหมือนยอมให้ซุนลี่เจียคิดว่าตัวเองทํางานสําเร็จ

 

นี้ไม่ใช่แค่แผนการชั้นเดียว เพราะการติดต่อระหว่างกูเหลียงเฉินและเหยู่จือโปก็อยู่ภายใต้การควบคุมของซูฮันเช่นกัน อาจดูเหมือนว่ากูเหลียงเฉินเป็นสายลับของเหยู่จือโปแต่ที่จริงแล้วกูเหลียงเฉินปฏิบัติทุกอย่างตามคําสั่งของซูฮันต่างหาก

 

ดังนั้น กูเหลียงเฉินที่ต้องรับหน้าที่หลายอย่างจึงจะต้องถูกส่งตัวไปค่ายเจี้ยน ซึ่งเหมาะสมที่สุดแล้ว ไหนจะข่าวสารที่จะต้องส่งไปให้ซุนอี้เจียเพื่อส่งต่อไปยังคนบงการกูเหลียงเฉินจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด

 

วิธีนี้แน่นอนว่ามันอาจจะทําให้เจ้าหน้าที่ของค่ายเขี้ยวหมาป่าหายไปคนหนึ่ง แต่โชคดีที่ชูชันได้วางแผนการพัฒนาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อหกเดือนที่แล้ว ซึ่งทุกอย่างมันก็ดําเนินไปตามแผน

 

หลูอิ่มองเสาหินยักษ์ตรงหน้าอย่างสดชื่น เมื่อเดือนที่แล้วเขายังมีปัญหาขัดแย้งกับซูฮันอยู่เลยแต่ตอนนี้เขากลับตกลงร่วมมือแผนการเดียวกับชูฮัน

 

หลังจากออกมา ตวนเจียงเหว่ยก็กลับถึงค่ายตวนในช่วงเวลาบ่าย หน้าตาบูดเบี้ยวเดินเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ที่อยู่ศูนย์ใจกลางของค่ายตวน

 

“ไม่ราบรื่น?” หลูชูซเวที่เห็นก็เอ่ยถามทันที ในเมื่อสีหน้าของตวนเจียงเหว่ยมันชัดเจน ซะขนาดนี้

 

ตวนเจียงเหว่ยมองไปรอบๆและพูดขึ้น “สองวัน ค่ายตวนถูกชูฮันหลอกเอาเงินไปเกือบ400,000 เหรียญล่มสลาย! ซึ่งมันคือ ขีดจํากัดที่ค่ายตวนรับได้ ชูฮันได้ไปทั้งหมด!”

 

ทันทีที่ได้ยิน เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนก็ตกใจกันหมด…. ความหมายของคําพูดตวนเจียงเหว่ยนั้นชัดเจน การเดินทางไปเมืองอันลุครั้งนี้ไม่ได้อะไรเลย กลับกันมันยังเป็นกับดักล่อให้เสียเงินหลายแสนอีก

 

“ท่านพลเอก” หลูชูซเวตะลึง

 

” พูดตรงๆ” ตวนเจียงเหวยนั่งลงที่เก้าอี้ตําแหน่งสูงสุด สีหน้าดําทมึน เห็นได้ชัดว่าอา รมณ์ของตวนเจียงเหว่ยมาถึงขีดจํากัดแล้ว

 

“ด้วยเงินจํานวนมากที่หายไป ค่ายตวนจะต้องอยู่ในสถานะดําเนินการเฉพาะภายในไปอีกเป็นเวลานาน และเราอาจจะไม่สามารถรักษาระดับการช่วยเหลือขั้นพื้นฐานภายในค่ายไว้เหมือนเดิมได้ และถ้ามีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาอีก ค่ายตวนอาจจะล้มได้” หลูชูชเวไม่สามารถพูดได้ตรงๆว่าการตัดสินใจของตวนเจียงเหว่ยเป็นเรื่องผิดมหันต์ เธอทําได้แค่พูดสถานการณ์อ้อมๆที่แสดงออกถึงความเป็นกังวลของสถานะในปัจจุบัน

 

ตวนเจียงเหว่ยไม่ได้พูดตอบอะไรครั้งนี้ เขาปิดเปลือกตา ความหงุดหงิด ความขุ่นเคืองข้างในนั่นถูกปล่อยออกมาด้วยการถอนหายใจอย่างรุนแรง จากนั้นก็เปิดตาขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองอย่างเต็มที่ แววตาเย็นชา “ซูฮัน ในเมื่อแกเริ่มก่อน อย่าหาว่าฉันไม่ยุติธรรมละกัน…”

 

เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายตวนภายในห้องประชุมต่างตกใจกันหมด ความกลัวปรากฏขึ้นในใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าตวนเจียงเหว่ยจะทําอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ตวนเจียงเหว่ยโกรธมากจริงๆ!

 

หลังจากความเงียบพักใหญ่ หลชูซเวที่สนิทสนมกับตวนเจียงเหว่ยมากที่สุดก็ตัดสินใจเปิดนําก่อน “ท่านพลเอก พวกเราเชื่อฟังท่านค่ะ”

 

ตวนเจียงเหว่ยแสยะยิ้มเบาๆกับตัวเอง “ฉันจําได้ว่าซางจึงส่งผู้ชายนามสกุลเหย มาคุยกับเรา?”

 

“ไม่ได้นะค่ะท่านพลเอก” หลูชูซเวตกใจและรีบพูดขึ้นทันที “เราไม่รู้ที่มาของอีกฝ่านเลยสักนิด ที่สําคัญกว่านั้นคือเขาไม่ใช่คนของค่ายซางจิงจริง ถ้าเราร่วมมือกับเขา มันจะมีค่าเท่ากับเราทําการกบฏกับค่ายซางจิงนะคะ!”

 

ตาของตวนเจียงเหว่ยมีประกายวาบ เขายิ้มบางๆ “ใครบอกว่าฉันจะร่วมมือกับเขา?”

 

หลูชูซเวตะลึงอย่างงุนงง “อะไรนะคะ?”

 

“ที่มาและประวัติของเหยู่จือโปยังไม่แน่ชัด แต่แน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเหยู่จือโปจะต้องมีอํานาจมากแน่ๆ” ตวนเจียงเหว่ยค่อยๆอธิบาย “ฉันจะไม่ร่วมมือกับเหยู่จือโปและก็จะไม่ยอมหลับหูหลับตายอมเออออไปกับชูฮัน พลเอกที่ทรงอํานาจที่สุดสองคนของจีน ไม่ว่าจะร่วมมือกันหรือเป็นพันธมิตรกัน ยังไงมันก็ต้องเกิดการนองเลือดอย่างรุนแรงตามมา”

 

ทุกคนในห้องประชุมยิ่งกว่าประหลาดใจ ได้แต่จ้องตวนเจียงเหว่ยด้วยสายตาแปลกๆกับสิ่งที่ได้ยิน การร่วมมือและเป็นพันธมิตร ไม่ใช่ค่ายตวนเป็นเส้นขนานกับซูฮันมาตลอดเวลาที่ผ่านมาหรอกเหรอ? หรือเพราะครั้งนี้ตวนเจียงเหว่ยตกหลุมกับดักขนาดใหญ่จนความคิดผิดเพี้ยนไปหมด

 

“ท่านพลเอก ท่านบอกฉันที่?” หลูชูซเวตามไม่ทัน “ฉันไม่เข้าใจจริงๆค่ะ!”

 

“เหยู่จือโปมีเงินและมีคนสนับสนุน ส่วนเราก็ขาดแคลนเงิน ถ้าพวกเขาอยากจะจัดการซูฮันเราก็แค่ขายข่าว” ตวนเจียงเหว่ยเอ่ยเสียงนิ่ง

 

“ข่าวของเสาหินพิเศษเหรอคะ?” หลูชูซเวพยายามคิดตาม

 

“ไม่” แววตาของตวนเจียงเหว่ยแข็งกร้าว “เราจะให้คนแอบติดต่อเหยู่จือโปไปอย่างลับๆเพื่อขายข้อมูลว่าซูฮันถนัดซ้ายในราคา 500,000 เหรียญล่มสลาย!”

 

ทันทีที่พูดจบ ทันใดนั้นห้องประชุมที่เคยตกอยู่ในความเงียบก็หายไปทันที ทุกคนหันขวับมองไปที่ตวนเจียงเหว่ยทันที

 

หลังจากเสียงฮือฮาเพราะความตกใจ ใครคนหนึ่งในห้องประชุมก็เอ่ยขึ้น ” ข้อมูลว่าชูฮันถนัดซ้ายสามารถขายได้ถึง 500,000 เลยเหรอครับ?”

 

“จากข้อมูลของเหยู่จือโปฉันรู้ ดูเหมือนว่าเขาจะกระตือรือร้นที่จะจัดการชูฮันได้ให้” ตวนเจียงเหว่ยหลุบตาลงต่ํา จิตสังหารอ่อนๆพวยพุ่งออกมารอบตัว เสียงเรียบนิ่งหากแฝงไปด้วยอํานาจ “เขาต้องการฆ่าซูฮันและคงลงมือไปแล้ว แต่ซูฮันกลับไม่มีการเจ็บเลยสักนิดอีกทั้งยังพึ่งชนะอันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ 4 มา”

 

ตวนเจียงเหว่ยชะงัก ท่าทางหยิ่งผยองอย่างถือตัว “ทําไมเหยู่จือโปถึงต้องอยากจะฆ่าชูฮันให้ได้? มันเร่งด่วนขนาดนั้นเลย? ทําไมคนที่เขาส่งไปฆ่าซูฮันถึงล้มเหลวตลอด?แล้วถ้าสมมติเขายอมจ่ายค่าข้อมูลว่าชูชันถนัดซ้ายด้วยราคา 500,000 เหรียญล่มสลายทันทีเพราะเขามั่นใจว่าเขาจะได้รับมันกลับคืนถ้างานสําเร็จล่ะ”

 

ในเมื่อซูฮันไม่เหลือเงินไว้ให้ค่ายตวนเท่าไหร่ ตวนเจียงเหว่ยจึงไม่จําเป็นต้องเก็บความลับไว้ในใจอีกต่อไป ในเมื่อแกเริ่มก่อน ถ้างั้นก็เตรียมตัวรับมือล่ะ!

 

ชูอันมันหาเรื่องคนไปทุกที่เพราะงั้นสักวันมันจะต้องตกหลุมของสักคนเข้า

 

“เข้าใจแล้วค่ะ” ตาของหลูชูชเวเป็นประกาย “ข้อมูลนี่จะเพิ่มโอกาสในการฆ่าซูฮันถึง 90%ฉันจะรีบทําการติดต่อทันทีค่ะ!”

 

ตวนเจียงเหว่ยยิ้มและดึงสายตากลับมา

 

หลูชูชเววิ่งออกผ่านประตูออกไป หากจู่ๆเธอก็หมุนตัวกลับมามองตวนเจียงเหว่ย เอ่ยถามคําถามที่สงสัยอย่างมาก “ท่านพลเอก ท่านอยากจะฆ่าชูฮันจริงๆเหรอคะ?”

 

ตวนเจียงเหว่ยสบตากับหลูชูซเวและเอ่ยประโยคที่ไม่มีสามารถทําความเข้าใจได้ออกมา “ถ้าซูฮันตายภายใต้การลอบสังหารของเหยู่จือโปในครั้งนี้ ถ้างั้นฉันก็อยากฆ่าเขา แต่ถ้าเขาไม่ตายถ้างั้นฉันก็ไม่อยากฆ่าเขา”