ตอนที่ 414 ใช่ลูกแท้ๆ หรือเปล่า / ตอนที่ 415 คนคนนั้นพ่อกับแม่ก็รู้จักครับ

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 414 ใช่ลูกแท้ๆ หรือเปล่า

 

 

           เจียงมู่เฉินกระวนกระวายใจ เขาถูกซือเหยี่ยนลากออกมาจากโรงพยาบาล ผ่านประตูบานใหญ่ของโรงพยาบาล เจียงมู่เฉินมองเขาด้วยสีหน้าวิตกกังวลทันที “นี่นายจะไม่เป็นห่วงพวกเขาเลยเหรอ”

 

 

           ผู้ใหญ่สี่คน ยังมีคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ นี่ถ้าอีกสักพักตีกันขึ้นมา ใครจะได้เปรียบกว่าล่ะ

 

 

           ซือเหยี่ยนสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีท่าทีเป็นห่วงเลยสักนิด เขายกมุมปากล่างขึ้นด้วยอาการสงบนิ่ง “ไม่เป็นห่วง”

 

 

           เจียงมู่เฉินอดจะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ “นายใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อแม่นายหรือเปล่า”

 

 

           เขาชักจะสงสัยแปลกๆ เจ้าหมอนี่ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ หรือเปล่า ถึงได้ไม่เป็นห่วงพ่อแม่ได้ขนาดนี้

 

 

           แต่ว่าตอนเด็กๆ ก็ไม่เคยจะได้ยินแม่เขาบอกเลยว่าซือเหยี่ยนถูกเก็บมาเลี้ยง

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจอย่างจนปัญญา “วางใจเถอะ คลอดมาจากท้องแม่เอง ไม่มีการถูกสลับตัว”

 

 

           “ในเมื่อนายเป็นลูกแท้ๆ นายก็ยังจะไม่เป็นห่วงอีกเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ใจใหญ่จริงๆ ความเป็นความตายของพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเองยังไม่สนใจอีก

 

 

           “มีอะไรให้ต้องน่าเป็นห่วง ต่อให้ตีกันขึ้นมา นี่ก็อยู่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ มีหมอออกตั้งเยอะแยะ หามาสักคนก็ช่วยได้แล้ว”

 

 

           เจียงมู่เฉินตะลึงงันไปหลายวินาที จ้องมองซือเหยี่ยนอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

 

 

           ‘คำพูดของเมื่อครู่นี้เป็นซือเหยี่ยนพูดจริงๆ เหรอ’

 

 

           ‘ซือเหยี่ยนแฟนมาดหัวสูงขี้เก๊กของเขาล่ะ’

 

 

           น้ำเสียง ท่าทางเมื่อครู่นี้ ไม่เหมือนซือเหยี่ยนเลยสักนิด เจียงมู่เฉินยื่นมือไปบีบแก้มของซือเหยี่ยน “เป็นนายจริงๆ ใช่ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนสีหน้าดำคร่ำเคร่ง ยกมือขึ้นมาดึงมือเขาที่บีบแก้มตัวเองลง

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นสีหน้าดำคร่ำเคร่งตามปกติแล้วถึงได้วางใจ เมื่อครู่นี้เพียงชั่วพริบตานั้น เขายังคิดว่าซือเหยี่ยนถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว

 

 

           หรือว่าแบบสลับร่างอะไรพวกนั้น

 

 

           ซือเหยี่ยนขบกรามอย่างเสียไม่ได้ รู้สึกว่าจินตนาการของเจียงมู่เฉินทัดเทียมหลุมดำได้แล้ว

 

 

           “ไปเถอะ กลับบริษัทกัน”

 

 

           เจียงมู่เฉินเดินอยู่ข้างๆ ซือเหยี่ยน ถามประโยคเดียวอยู่ตลอดเวลา “นายว่าพวกท่านจะไม่ตีกันจริงๆ เหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ยังไงกัน คุณอยากให้พวกท่านตีกันขึ้นมาเป็นพิเศษเลยใช่ไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินกรอกตาไปมา “ได้ยังไงกัน ฉันไม่เหมือนกับนาย ฉันเป็นลูกแท้ๆ จะอยากให้พวกเขาตีกันได้ยังไง”

 

 

           “หึ” ซือเหยี่ยนทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ รู้สึกว่าคำพูดของเจียงมู่เฉินเมื่อครู่นี้ ไม่มีอะไรสลักสำคัญเลยแม้แต่น้อย

 

 

           ตามที่เขาเห็น เจียงมู่เฉินแทบอยากจะให้พวกท่านตีกันขึ้นมา ดีที่สุดก็คือแพ้กันทั้งคู่ หลังจากนั้นจะได้ไม่มีเวลามาสนใจพวกเขา

 

 

           ทั้งสองคนเดินกันมาถึงที่ลานจอดรถ ซือเหยี่ยนขับรถพาเจียงมู่เฉินไปที่บริษัท

 

 

           เขาขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย สาเหตุก็เพราะเขารู้ว่าในห้องพักผู้ป่วยไม่มีทางจะตีกันได้อยู่แล้ว

 

 

           ……

 

 

           หนึ่งวันก่อน พ่อแม่ของซือเหยี่ยนมาถึงที่ถานโจว ซือเหยี่ยนไปรับพวกท่านกลับมาจากสนามบินด้วยตัวเอง

 

 

           พอกลับมาก็ขับรถมุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์ของซือเหยี่ยนในถานโจว

 

 

           บรรยากาศเงียบสงัดแปลกๆ อยู่ไม่น้อยทีเดียว คุณพ่อซือ คุณแม่ซือ มองดูลูกชายที่มีอุดมการณ์ของตัวเองนั่งเงียบไม่พูดจาอยู่ต่อหน้าพวกเขา

 

 

           เหวินฮุ่ยเห็นสีหน้าแบบนั้นของซือเหยี่ยน ก็อดจะกลืนน้ำลาย เอ่ยถามเสียงต่ำไม่ได้ “เจ้าลูกชาย นี่ลูกเป็นอะไรไปแล้ว”

 

 

           คุณพ่อซือเองก็เสริมอีก “คงจะไม่ใช่ว่ารู้สึกว่าตอนนี้พ่อทิ้งบริษัทให้ลูก แล้ววันๆ เอาแต่ออกไปเที่ยวกับแม่ลูก แล้วทำให้ลูกโกรธหรอกใช่ไหม”

 

 

           เพิ่งสิ้นเสียงของคุณพ่อเจียง จู่ๆ ซือเหยี่ยนก็ยืนขึ้นมาเดินเข้าไปหาพวกเขา แล้วคุกเข่าลงต่อหน้าพวกเขา

 

 

           เหวินฮุ่ยและคุณพ่อซือต่างก็ตะลึงงัน ลูกชายผู้เย่อหยิ่งของพวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะคุกเข่าให้พวกเขากะทันหันอย่างนี้ ทำเอาทั้งสองคนตกอกตกใจเหลือเกินจะทนจริงๆ

 

 

           “เจ้าลูกชาย ลูกอย่าทำแบบนี้สิ ทำเอาตกอกตกใจหมด”

 

 

           ซือเหยี่ยนเงยหน้ามองพวกเขาสองคน สีหน้าเคร่งขรึมและจริงจัง เขาเอ่ยคำต่อคำอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “พ่อครับ แม่ครับ ผมมีคนที่ชอบแล้วครับ”

 

 

           ทันทีที่เหวินฮุ่ยได้ยิน ก็รีบพูดขึ้น “มีคนที่ชอบแล้ว เป็นเรื่องที่ดีเลย แม่กับพ่อก็เฝ้าคอยจะเห็นลูกแต่งงาน”  

 

 

 

 

ตอนที่ 415 คนคนนั้นพ่อกับแม่ก็รู้จักครับ

 

 

           สีหน้าซือเหยี่ยนไม่ได้คลายความตึงเครียด ยังคงเคร่งขรึมจริงจังอยู่อย่างนั้น “เขามีลูกไม่ได้ครับ”

 

 

           เหวินฮุ่ยชะงักงันไป มีลูกไม่ได้เหรอ งั้นก็ยุ่งยากนิดหน่อยแล้ว แต่ตอนนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าขนาดนี้ ตัวเองมีลูกไม่ได้ก็ยังมีวิธีอื่นนะ

 

 

           “เสี่ยวเหยี่ยน เทคโนโลยีก้าวหน้าขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ พ่อกับแม่คิดหาวิธีให้พวกลูกดีไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนส่ายหัว “ไม่มีวิธีใดทำได้หรอกครับ ถ้าพวกเราคบกัน ทั้งชีวิตนี้ก็มีลูกไม่ได้ครับ”

 

 

           สีหน้าเหวินฮุ่ยเคร่งขรึมขึ้น เหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างจริงจังอย่างไรอย่างนั้น ผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงเล็กของเธอถึงได้เอ่ยขึ้น “นี่ลูกต้องการจะคบกับเขาให้ได้เลยใช่ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนพยักหน้ารับ “ทั้งชีวิตนี้ ผมต้องการแค่เขาครับ”

 

 

           เหวินฮุ่ยลำบากใจแล้ว ซือเหยี่ยนมีคนที่ชอบแล้วก็ควรจะดีใจ แต่ว่าปัญหาคือคนที่ชอบมีลูกไม่ได้

 

 

           เหวินฮุ่ยรู้สึกว่าในใจตอนนี้มีตาชั่งวางอยู่ ฝั่งหนึ่งคือคนที่ซือเหยี่ยนชอบ อีกฝั่งหนึ่งคือลูก

 

 

           ‘ลูก’ กับ ‘ชอบ’ ทำให้เธอเลือกยากเสียจริง

 

 

           “พ่อครับ แม่ครับ ถ้าพ่อกับแม่ไม่เห็นด้วยที่ผมจะคบกับเขา ทั้งชีวิตนี้ผมก็จะไม่แต่งงาน แล้วก็ไม่มีทางจะมีลูกเหมือนกัน”

 

 

           เหวินฮุ่ยสบตากับคุณพ่อซือแวบหนึ่ง

 

 

           “ผลสุดท้ายก็มีลูกไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าพ่อกับแม่เห็นด้วย ผมก็จะมีคนที่ผมรักคนหนึ่ง”

 

 

           ตาชั่งฝั่ง ‘ลูก’ ในใจของเหวินฮุ่ยค่อยๆ เบาลงอย่างช้าๆ

 

 

           เธอครุ่นคิด แล้วเอ่ยถาม “แล้วเขาชอบลูกไหม”

 

 

           “เขาชอบผมมากกว่าใครๆ” ไม่มีใครจะรักเขาได้เท่าเจียงมู่เฉินแล้ว

 

 

           ได้ยินประโยคนี้ ตาชั่งในใจของเหวินฮุ่ยน้ำหนักเอียงมาอีกนิดแล้ว ถ้าพวกเขาบังคับให้ซือเหยี่ยนเลิกกับเขาให้ได้ ตามนิสัยของซือเหยี่ยนแล้ว ทั้งชีวิตนี้ก็อาจจะพูดคำไหนคำนั้นจริงๆ ว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่มีลูก

 

 

           ก็เหมือนกับที่ซือเหยี่ยนพูดแบบนั้น ถ้ากำหนดไว้แล้วว่าจะไม่มีลูก อย่างน้อยก็ยังมีคนรักคนหนึ่ง

 

 

           ถึงอย่างไรอายุอานามพวกเขาก็ค่อยๆ มากขึ้นแล้ว อีกอย่างพวกเขาก็ไม่อาจจะอยู่กับซือเหยี่ยนไปตลอดชีวิตได้ ตัดความเห็นแก่ตัวออก จะมากจะน้อยเธอก็หวังให้มีใครสักคนหนึ่งร่วมเดินเคียงข้างไปกับซือเหยี่ยนได้ตลอดชีวิต

 

 

           รักลูกชายคนนี้ของเธอไปตลอดชีวิตได้

 

 

           คุณพ่อซือเห็นเหวินฮุ่ยท่าทางลำบากใจ ก็เอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้แน่น “เสี่ยวฮุ่ย พวกเราไม่ใช่ไม้แก่อะไร ถึงจะอายุปูนนี้แล้ว ก็อยากมีหลานบ้างอะไรบ้าง”

 

 

           เขาถอนหายใจลึกๆ “แต่เทียบกับซือเหยี่ยน ก็ยังต้องเลือกลูกชายเราอยู่ดี”

 

 

           เหวินฮุ่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็เงียบงันไม่พูดจาอยู่หลายนาที เพียงชั่วขณะเธอมองซือเหยี่ยนด้วยท่าทีจริงจังมาก “ถ้าหากว่าแม่กับพ่อเห็นด้วยแล้ว ต่อจากนี้ลูกจะเสียใจทีหลังหรือเปล่า”

 

 

           ซือเหยี่ยนส่ายหัวอย่างไม่ต้องคิด “ผมไม่มีทางจะเสียใจทีหลัง ทั้งชีวิตนี้ของผมอยากจะอยู่กับเขา พวกเรารอกันมานานเกินไปแล้วครับ”

 

 

           ต่อให้ในใจเหวินฮุ่ยยังมีความกังวลอีกมากแค่ไหน แต่พอเห็นซือเหยี่ยนเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ถึงเพียงนี้ อย่างอื่นก็ไม่สำคัญทั้งนั้นแล้ว

 

 

           พวกเขาเป็นพ่อแม่ ก็ควรจะเคารพทางเลือกของลูก

 

 

           ขอเพียงแต่ต่อจากนี้ซือเหยี่ยนจะไม่มาเสียใจเองทีหลัง เธอก็ต้องเห็นด้วยได้เป็นธรรมดา

 

 

           เธอทำใจไว้แล้ว ก่อนจะเอ่ยกับซือเหยี่ยนต่อ “ในเมื่อลูกคิดดีแล้ว แม่กับพ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดได้ วันไหนว่างก็พาเขากลับมากินข้าวกันสักมื้อนะ…

 

 

           …ถึงตอนนั้นก็มานัดเจอพ่อแม่ทางฝ่ายนั้นอย่างจริงจัง พวกเราทั้งสองฝ่ายจะได้มาคุยกันเรื่องแต่งงาน”

 

 

           ได้ยินมาถึงตรงนี้ อารมณ์บนใบหน้าของซือเหยี่ยนก็บึ้งตึงขึ้นมาก ดูไม่ผ่อนคลายเลยสักนิด

 

 

           “พ่อครับ แม่ครับ ยังมีอีกเรื่องครับ คนที่ผมชอบเขาไม่ใช่ผู้หญิง”

 

 

           เหวินฮุ่ยกับคุณพ่อซือต่างก็ตะลึงตาค้างกันไปหมดแล้ว ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่กล้าจะเชื่อได้ เหมือนว่าตัวเองกำลังฟังผิดอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           “เมื่อกี้ลูกว่าอะไรนะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนเอ่ยซ้ำอีกครั้ง “คนที่ผมชอบเขาเป็นผู้ชาย”

 

 

           ไม่ทันรอให้เหวินฮุ่ยกับคุณพ่อซือมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ซือเหยี่ยนก็กล่าวต่อ “คนคนนั้นพ่อกับแม่ก็รู้จักครับ เจียงมู่เฉิน”