บทที่ 666 เกมล่าสัตว์

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 666 เกมล่าสัตว์

“พี่เทียน จะจัดการอย่างไรดี!”

หม่าหงเทาขอคำแนะนำเสียงดัง

คนกลุ่มนี้อย่างไรแล้วก็เป็นคนของมังกรซ่อนรูป หากว่าฉินเทียนให้เขาฆ่าทิ้งทั้งหมดแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เกรงกลัว แต่ว่า กลับกลัวว่าเพราะเหตุนี้จะทำให้ฉินเทียนเกิดปัญหาขึ้นไม่รู้จบ

เพราะว่าบนยุทธภพในอาณาจักรมังกร ยังไม่เคยมีใครสักคนในยุทธภพที่กล้าจะสังหารคนของมังกรซ่อนรูปอย่างโจ่งแจ้งมาก่อน

อีกทั้ง สังหารไปมากมายในคราวเดียวกันเช่นนี้

นี้ก็เท่ากับว่าเป็นการยั่วยุทั้งองค์กรของมังกรซ่อนรูป

หากว่าปล่อยไปก็จะต้องเกิดปัญหาขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด คนกลุ่มนี้ล้วนแต่พกอาวุธปืนที่แสดงถึงสถานะและอำนาจเอาไว้ตรงช่วงเอว

พวกเขาสามารถยิงปืนออกไปโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ

ฉินเทียนเอ่ยออกมาเสียงดัง “เอาปืนของพวกมันมาซะ แล้วมัดรวมก่อนจะนำตัวมาที่นี่!”

“ครับ!”

หม่าหงเทาโบกมือ ให้สมาชิกของมีดม้ง ปลดอาวุธของสมาชิกกลุ่มมังกรซ่อนรูป รวมทั้งเจียงฮั่นที่อยู่ในนั้นด้วย

เหลยเป้านำสมาชิกของเขี้ยวมังกรทั้งหลาย ใช้เชือกไนล่อนชนิดพิเศษจับพวกมันมัดมือไพล่หลังเอาไว้

สำหรับมัดรวมคนเข้าด้วยกันนั้น ไม่อาจที่จะไม่เอ่ยออกมาได้ว่า กลุ่มเขี้ยวมังกรดูชำนาญเป็นอย่างมาก 

ทันใดนั้นเจียงฮั่นและคนอื่นๆ ก็เป็นหมือนราวกับตั๊กแตนที่อยู่บนเชือกเส้นหนึ่ง*

เจียงฮั่นรู้ว่าฉินเทียนไม่กล้าที่จะฆ่าพวกเขา จึงได้ด่าออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ

หม่าหงเทายกมือขึ้นตบลงไปหลายครั้ง จนฟันกรามหลังของเขาหลุดออกมาหลายซี่ ใบหน้าของเขาบวมเป่ง ปิดปากลงด้วยดวงตาที่ยังคงแดงก่ำ

ลานหมายเลข 39 และลานหมายเลข 37 อยู่ห่างกันเพียงแค่ถนนเส้นเดียว

ฉินเทียนนำหม่าหงเทา เหลยเป้าและคนอื่นๆ คอยจับตาพวกเจียงฮั่น ในตอนยามค่ำคืนก็เป็นเหมือนดั่งกลุ่มหมาป่าที่พุ่งเข้าใส่

……

“ไม่นะ!”

“เจ้าพวกปีศาจ อย่าเข้ามานะ!”

“อ่าห์!”

ภายในห้องปิดตายขนาดใหญ่ห้องหนึ่ง ตกแต่งออกมาได้อย่างหรูหรา แสงไฟสว่างไสว ม่านหนารอบทิศถูกดึงลงมาทั้งหมด หากมองจากด้านนอกแล้วก็มีแต่ความมืดมิด

เสียงจากด้านในนั้น ไม่มีทางเล็ดลอดออกมาได้แม้แต่น้อย

หลิวหรูยู่ยังคงสวมใส่ชุดสีขาว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และพยายามดิ้นรนที่จะหลบหนี

เสียงหัวเราะที่ดังราวกับหมาป่าหอนดังขึ้นตามเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวของเธอ

เสียงหัวเราะนั้น มาจากสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง!

เห็นเพียงขาทั้งสี่ของเขาอยู่บนพื้น พร้อมกับขนเต็มตัว บนหัว เป็นหน้ากากหมาป่าร้ายเขี้ยวสีฟ้า

“แม่สาวน้อย ข้าจะกินเจ้าแล้ว!” 

“ยังไม่รีบยอมจำนนอีกหรือ!” 

ท่ามกลางเสียงหัวเราะชั่วร้าย เขากระโดดขึ้นพุ่งตรงไปยังหลิวหรูยู่

“ไม่นะ!”  

หลิวหรูยู่ส่งเสียงกรีดร้องและพยายามหลบหนีไป ชายกระโปรงของเธอถูกคว้าเอาไว้ ส่งเสียงเย้ยหยันดังขึ้น ก่อนที่จะฉีกออกเป็นรู

เมื่อมองเห็นเรียวขาขาว ดวงตาของหมาป่าก็เกิดเปลวเพลิงลุกโชนขึ้น

เขาเหมือนกับคนบ้าคลั่ง ที่เล่นสนุกกับสาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้าอย่างพึงพอใจ

ความตื่นตระหนกอย่างมาก ทำให้หลิวหรูยู่รู้สึกได้ว่าพลังทั่วทั้งกายของเขาถูกดึงออกไปจนหมด

เธอไม่อาจร้องตะโกนออกมาได้แล้ว และก็ใกล้จะไม่อาจวิ่งได้แล้ว

หรือว่า ค่ำคืนนี้ เธอจะถูกเจ้าสัตว์เดรัจฉานตัวนี้ทำลายเข้าจริงๆ หรือ?

ในเวลานี้ เธอเสียใจมากจริงๆ ไม่ควรจะออกมาจากงานเลี้ยงเพียงคนเดียวเลย

เมื่อย้อนเวลากับราวหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น

เดิมทีนั้น เธออยู่ในงานเลี้ยงอย่างเฉิดฉาย จับแขนของฉินเทียนเอาไว้ กลายเป็นจุดสนใจของงาน

แต่ไม่ควรไปพบกับลิฉุนเลย

เธอตั้งใจแนะนำฉินเทียนให้รู้จักกับลิฉุน แต่กลับพบว่า พวกเขาคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เธออับอายเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าตนเองช่างเป็นที่น่าขบขัน

จากนั้น ก็มองเห็นฉินเทียนและลิฉุนเดินไปยังมุมหนึ่งที่ไม่มีคนอยู่ เอ่ยกระซิบกระซาบ เมื่อมองออกไปดูเหมือนสนิทสนมกันมาก

เธอยิ่งรู้สึกว่า ตนเองเป็นเหมือนส่วนเกิน

และเมื่อผิดหวังขึ้นมา เธอถึงได้คิดจะกลับไปให้เร็วขึ้นเสียหน่อย

อันที่จริงแล้ว เธอเข้าใจฉินเทียนผิดไปแล้ว ที่ฉินเทียนกระซิบกระซาบกับลิฉุนนั้น เป็นเพราะว่ากำลังพูดคุยถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลิเหลียงอยู่!

เรื่องลิเหลียงนั้น สำคัญมาก!

ดังนั้น ฉินเทียนจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

เมื่อออกจากโรงแรม ชายชุดดำสองคนก็เดินเข้ามา บอกว่าอานกั๋วส่งพวกเขามารออยู่ที่นี่ เพื่อเตรียมที่จะรับคุณหนูกลับบ้าน

หลังจากที่อานกั๋วตั้งรกรากอยู่ในเมืองจิ่นหูแล้ว ก็ซื้อคฤหาสน์ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีอยู่ชุดหนึ่ง และตั้งใจเก็บห้องเอาไว้ให้หลิวหรูยู่ห้องหนึ่ง

ในใจของหลิวหรูยู่เต็มไปด้วยความว้าวุ่น และก็ไม่ได้ใส่ใจ เมื่อพยักหน้าแล้วก็ตามพวกเขาขึ้นรถไป

ใครจะรู้กันว่า รอเมื่อเธอพบว่าผิดปกติแล้วส่งเสียงถามออกมานั้น ชายชุดดำทั้งสองคนก็แสดงสีหน้าและแววตาที่แท้จริงออกมา แย่งโทรศัพท์ของเธอไป แล้วควบคุมตัวเธอเอาไว้

เธอที่เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลย

จนมาถึงคฤหาสน์ลึกลับแห่งหนึ่ง เธอถูกคุมขังเอาไว้ในห้องลับที่มืดมิดห้องนี้

โศกนาฏกรรมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ภายในห้อง มีผู้ชายวิปริตอยู่คนหนึ่ง เขาปลอมตัวให้กลายเป็นหมาป่าร้าย และยังต้องการให้หลิวหรูยู่ปลอมเป็นกวางน้อยในป่า

เขาต้องการจะล่าสัตว์

ไอ้เจ้าคนโรคจิตนี้ ก็คือพี่จิ้ง ซึ่งมีชื่อว่าไป๋เสี่ยวจิ้ง

เหยื่อรสเลิศเช่นนี้ หากว่ากระโจนเข้าใส่ในคราวเดียวคงจะไม่ค่อยได้อรรถรสนัก ดังนั้น เขาจึงใช้วิธีการล่าสัตว์เช่นนี้ เพื่อมาเติมเต็มความวิปริตในจิตใจของตนเอง

นี้คืองานอดิเรกพิเศษของเขา

ไม่รู้ว่ามีเด็กสาวกี่คนที่ตายเพราะงานอดิเรกพิเศษของเขา

ครั้งนี้ เขาตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา ไม่เพียงแต่สวยแล้ว ยังเป็นดาราชื่อดังอีกด้วย!

ดังนั้น เข้าจึงค่อยๆ เล่นเกมไล่ล่านานกว่าอยู่เล็กน้อย

เมื่อมองไปยังเหยื่อที่ผิวกายขาวใสทว่าเสื้อผ้าดูสกปรกมอมแมม ความปรารถนาของไป๋เสี่ยวจิ้ง ก็ถูกกระตุ้นมาจนถึงขั้นสูงสุด

ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวแล้ว และเริ่มต้นความสนุกขั้นสุดท้าย

เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะถอดชุดหมาป่าบนกายออก ร่างกายเปลือยเปล่าท่อนบน มาพร้อมกับหน้ากากหมาป่า ค่อยๆ เดินไปทางหลิวหรูยู่ทีละก้าวทีละก้าว

“อย่า……อย่านะ……”

หลิวหรูยู่หดตัวเข้ากับมุมผนัง ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น

เธอไม่เหลือเรี่ยวแรงใด ไม่มีทางที่จะหลบหนีหรือต่อต้านได้อีก นอกจากต้องยอมรับกับชะตาที่เล่นตลกกับเธอแล้ว ก็ไม่มีหนทางอื่นใด

“เด็กดี ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะอ่อนโยนให้มาก……”

“เพราะว่า นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เล่นสนุกกับดาราใหญ่ที่สวยมากถึงเพียงนี้ วางใจได้ ฉันจะไม่ทำให้เธอเจ็บ……”

น้ำเสียงของไป๋เสี่ยวจิ้ง เหมือนกับเสียงกระซิบของปีศาจร้ายจากนรก

มือที่สั่นเทาของเขา ค่อยๆ พุ่งเข้าไปคว้าหลิวหรูยู่

ตอนที่เกือบจะคว้าหลิวหรูยู่เอาไว้ได้แล้วนั้น จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังอู้อี้ลอยเข้าหูของเขา

ปัง!

เป็นเสียงปืน!

อีกทั้งไม่ใช่ปืนธรรมดา เป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมากที่พวกเขามังกรซ่อนรูปประกอบขึ้นมาเป็นพิเศษ!

เกิดอะไรขึ้น? เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา

อารมณ์ที่ถูกสั่งสมมานานเมื่อถูกรบกวนเช่นนี้ ทำให้เขาเริ่มที่จะโมโหขึ้นมา

“หม่าเฟิง เกิดอะไรขึ้น? ใครยิงปืนออกไป!”

“หม่าเฟิง ตอบมาเดี่ยวนี้!”

เขารีบวิ่งไปยังด้านข้าง ก่อนจะคว้าไมโครโฟนขึ้นมา ส่งเสียงพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

ไม่คิดเลยว่าหม่าเฟิงที่ดูแลรับผิดชอบความปลอดภัยของลานแห่งนี้ จะไม่ตอบกลับมา

ฉินเทียนและคนอื่นๆ รีบเข้ามายังลานหมายเลข 39 ประตูใหญ่ปิดแน่น รอบทิศเต็มไปด้วยความเงียบสงบ

แต่ว่า เมื่อเขาเพิ่งจะเข้าใกล้ ด้านในก็มีเสียงเคร่งขรึมลอยออกมา

“ใครกัน? หยุดนะ”

มุมประตูถูกเปิดออกมา มีชายชุดดำสองคนกระโดดออกมาอย่างระมัดระวัง

“หัวหน้าเจียง?” เมื่อมองเห็นเจียงฮั่นที่ถูกมัดเอาไว้ และเหล่าสมาชิกในกลุ่มของเจียงฮั่น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และก็ดึงปืนที่เหน็บอยู่ตรงช่วงเอวออกมาในทันที

เมื่อมองเห็นชายชุดดำสองคนนี้ หม่าหงเทาก็รีบพูดออกมาน้ำเสียงเคร่งขรึม “พี่เทียน เป็นพวกเขา!”

“เจ้าหมอสองคนนี่ที่หลอกคุณหนูหลิวขึ้นรถไป!”

ดูเหมือนว่า คงตามหาถูกที่แล้ว

สายตาของฉินเทียนเผยแววสังหารรุนแรงออกมา เขาคว้าปืนกระบอกนั้นที่อยู่ในมือของเหล่าหม่ามา ชี้ขึ้นไปยังกลางอากาศก่อจะเหนี่ยวไกออกไป

*ตั๊กแตนที่อยู่บนเชือกเส้นหนึ่ง – แน่นแฟ้นจนไม่อาจสลัดออกได้