ฉินซินหยิ่งหน้าซีดเผือดทันที ถังซีเกือบสงสาร เป็นความเจ็บปวดอย่างแท้จริงที่ผู้ชายที่เธอรักพูดกับเธอว่า ‘คุณไม่คู่ควรกับผม’ แต่ฉินซินหยิ่งร้องขอแบบนี้เอง หากเธอเลิกคิดเลิกฝันลมๆ แล้งๆ ได้ก่อนหน้านี้ และเลิกทำเรื่องสกปรกเหล่านั้นทั้งหมด ถังซีอาจปล่อยเธอไปตามทาง เพื่อเห็นแก่มิตรภาพเก่าๆ ที่เคยมี แต่ในเมื่อฉินซินหยิ่งไม่ยอมหยุด ก็โทษถังซีไม่ได้หากเธอไม่อ่อนข้อให้
ฉินซินหยิ่งไม่พูดอะไรอีกต่อไป ขณะนี้เครื่องบินเริ่มบินขึ้นแล้ว เฉียวเหลียงเลื่อนที่เท้าแขนระหว่างเก้าอี้ของเขากับถังซี แล้วพยักหน้าเรียกถังซีให้พิงเขาจะได้งีบหลับ ถังซียิ้มให้เฉียวเหลียง เอนตัวพิงอกเขาและกำลังจะหลับ เมื่อจู่ๆ เธอก็รู้สึกได้ถึงประกายวาววับที่ส่งมา เธอขมวดคิ้ว ลืมตา มองไปที่ฉินซินหยิ่ง แน่นอนว่าฉินซินหยิ่งกำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาชั่วร้าย ถังซีเลิกคิ้วถามว่า “ฉันสวยมากเลยใช่ไหม คุณอิจฉาละสิ
“โธ่อย่าอิจฉาเลย ต่อให้คุณจ้องฉันแบบนี้ต่อไป ใบหน้าคุณก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหรอก แต่ฉันจะสวยขึ้นๆ เรื่อยๆ” ถังซีกล่าวพลางแตะที่ใบหน้าตนเอง แล้วถามเฉียวเหลียง “คุณคิดว่าที่ผ่านมา ฉันสวยขึ้นเรื่อยๆ ไหม”
เฉียวเหลียงพยักหน้า ถังซียิ้มอย่างพอใจ หันไปมองฉินซินหยิ่งซึ่งมีสีหน้าเข้มขึ้น ถังซีกล่าวอีกว่า “คุณฉิน โปรดอย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ ผู้หญิงสามารถสวยได้ด้วยจิตใจที่ดี แล้วคุณจะสวยได้ยังไงในเมื่อหัวใจคุณดำสนิทอย่างนี้ ที่รัก คุณเห็นด้วยกับฉันไหม” เธอหันไปหาเฉียวเหลียง
เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี ลูบผมเธอด้วยความรัก และพยักหน้าอีกครั้ง ฉินซินหยิ่งเดือดดาลมากจนแทบกระอักเลือด แม้แต่พนักงานบริการบนเครื่องบินที่แอบฟังอยู่ข้างๆ ก็ยังรู้สึกเสียใจไปกับฉินซินหยิ่ง ทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงมารักผู้ชายที่มีแฟนแล้ว ดูสิ เธอถูกชายหนุ่มที่เธอรักและแฟนของเขาทำให้อับอาย ทำไมเธอถึงทำตัวไร้ค่าเหลือเกิน ที่พยายามแย่งผู้ชายของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
ใบหน้าฉินซินหยิ่งยังคงบึ้งตึงตลอดทางไปเมือง A แต่ถังซีอารมณ์ดี หลังจากได้สั่งสอนบทเรียนแก่ฉินซินหยิ่ง เธอก็หลับตาลง และหลับไปในไม่ช้า
เมื่อเห็นถังซีหลับไปแล้ว เฉียวเหลียงก็เงยหน้าขึ้นมองฉินซินหยิ่ง และกล่าวกับเธออย่างเย็นชา “คุณฉิน ถ้าคุณไม่ต้องการให้เกิดอะไรเลวร้ายกับบริษัทของพ่อคุณละก็ ช่วยประพฤติตัวให้ดี คุณก็รู้ว่าเซียวโหรวคือคนสำคัญที่สุดสำหรับผม ถ้าคุณยังพยายามสร้างความบาดหมางระหว่างเราอีก ผมจะทำให้คุณเสียใจกับการกระทำของคุณ ไม่ว่าเซียวโหรวจะเชื่อคุณหรือไม่ก็ตาม และสำหรับถังซี ผมขอแนะนำให้คุณกับพ่อของคุณอยู่ให้ห่างจากเธอ ผมได้ยินมาว่าพ่อของคุณถูกจับตัวไปเมื่อคืนนี้ คุณควรสวดมนตร์อธิษฐานขออย่าให้เขาถูกผมจับตัวไปบ้าง ไม่อย่างนั้นผมไม่ปล่อยเขาแน่”
ฉินซินหยิ่งมองหน้าเฉียวเหลียงด้วยความตกใจ และเฉียวเหลียงเค้นเสียงคำราม “ผมไม่คิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรอกนะ ที่คุณเจอคุณปู่ถังครั้งล่าสุด ตอนที่ท่านไปเมือง A ถ้าผมรู้ว่าคุณให้คนสะกดรอยตามคุณปู่ถัง หรือถังซีอีกครั้ง คุณก็รู้ว่าผมจะทำยังไง”
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาฉินซินหยิ่ง เธอมองเฉียวเหลียงด้วยความเสียใจ และถามเสียงแหบแห้ง “ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ ทำไมคุณถึงไม่รักฉัน ทำไมคุณถึงรักถังซี ผู้หญิงที่อวดดีเอาแต่ใจตัวเอง รักเซียวโหรว ผู้หญิงบ้านนอกที่เติบโตมาบนภูเขา แต่คุณไม่เคยหันมามองฉัน คนที่แอบอยู่เงียบๆ เคียงข้างคุณ”
เฉียวเหลียงหัวเราะเย้ยหยัน มองหน้าฉินซินหยิ่ง และถามอย่างเย็นชา “คุณเองก็รู้ว่าคุณรักตัวผม หรือแค่รักเงินและอำนาจของผม” เฉียวเหลียงก้มลงมองถังซีที่หลับใหลอยู่ในอ้อมแขนเขา และกล่าวเบาๆ ว่า “มีเพียงเธอเท่านั้นที่รักผมในแบบที่ผมเป็น และหัวใจผมเต้นเพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น”
“คุณไม่เคยลองเปิดใจ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้รักคุณ แต่รักเงินและอำนาจของคุณ”
เฉียวเหลียงหัวเราะเบาๆ มองหน้าฉินซินหยิ่ง พร้อมกับยิ้มเยาะ “คุณคู่ควรที่จะได้รับโอกาสจากผมหรือ”
ฉินซินหยิ่งหน้าซีดเผือดอีกครั้ง นี่แปลว่าเธอไม่คู่ควรแม้แต่จะได้รับโอกาสจากเขาด้วยซ้ำ เธอไม่คู่ควรที่จะได้รับโอกาส!
“แล้วเธอคู่ควรเหรอ” ฉินซินหยิ่งชี้ไปที่ถังซี ซึ่งนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเฉียวเหลียง เธอตะโกนเสียงดังจนถังซีตื่น ถังซีตกใจเสียงกรีดร้องของฉินซินหยิ่ง เธอลืมตาขึ้นถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
เฉียวเหลียงส่ายศีรษะให้ถังซี แล้วตบหลังเธอเบาๆ ราวกับกล่อมเด็กให้นอน จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองฉินซินหยิ่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง สายตาเย็นเยียบของเขาแทบจะทำให้อากาศกลายเป็นน้ำแข็ง เขาหรี่ตามองฉินซินหยิ่ง และกล่าวเสียงเข้ม “คุณไม่คู่ควรเอ่ยชื่อเธอ! อย่างน้อยเซียวโหรวก็รู้ว่าไม่ควรพูดเสียงดังในสภาวะแบบนี้!”
ฉินซินหยิ่งหัวเราะเบาๆ อย่างเหยียดหยาม “ตอนนี้คุณอาจจะรักเธอมาก แต่ในไม่ช้าคุณจะพบว่าเธอไม่ได้มีอะไรดีเลย แค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง เธอคู่ควรแค่เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไร้ประโยชน์ สักวันหนึ่งคุณจะเสียใจที่ผลักไสฉัน”
เฉียวเหลียงไม่ได้เหลือบมองฉินซินหยิ่งอีกเลย และยังคงตบหลังถังซีเบาๆ พยายามกล่อมให้เธอหลับอีกครั้ง ถังซีทำงานหนักมากในวันนี้ และไม่ได้นอนหลับสบายๆ นอกจากนี้ตอนนี้สุขภาพเธอยังไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นเธอควรนอนหลับให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้…
ถังซียังคงหลับสนิทเมื่อเครื่องบินมาถึงปลายทาง อาหกมองดูถังซี แล้วรีบนำกระเป๋าเดินทางลงจากเครื่องบิน ฉินซินหยิ่งมองดูเฉียวเหลียงที่กอดประคองถังซีอย่างทะนุถนอม แล้วส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน “แล้วนี่คุณกำลังทำอะไร จะทำให้ผู้โดยสารทั้งลำต้องมาเสียเวลาเพราะผู้หญิงคนเดียวเหรอ”
เฉียวเหลียงมองฉินซินหยิ่งอย่างเย็นชา และเงยหน้าขึ้นมองพนักงานต้อนรับ หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณเฉียวคะ รถที่คุณต้องการพร้อมแล้วค่ะ คุณสามารถลงจากเครื่องได้เลย ขอบคุณที่ใช้บริการเที่ยวบินนี้นะคะ ดิฉันยินดีที่ได้มีโอกาสให้บริการคุณค่ะ” กล่าวจบ เธอก็เดินนำเฉียวเหลียงพาเขาลงจากเครื่องบิน
เฉียวเหลียงค่อยๆ อุ้มถังซีขึ้นอย่างนุ่มนวล ถังซีรู้สึกตัวและเอนซบอกเฉียวเหลียงแนบแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกับถามอย่างง่วงงุน “เราถึงแล้วเหรอ”
เฉียวเหลียงเอ่ยเบาๆ ว่า “หลับเถอะ ผมเตรียมรถมารับแล้ว”
ขณะเฝ้ามองเฉียวเหลียงอุ้มถังซีเดินผ่านไป ฉินซินหยิ่งกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิด แล้วเดินตามเขาลงจากเครื่องบิน เมื่อเธอเห็นรถอเนกประสงค์คันหรูจอดรออยู่ข้างล่าง เธอก็ตัวสั่นด้วยความเดือดดาล เธอกระทืบเท้าอีก และหันหลังเดินไปยังรถรับส่งผู้โดยสาร
เฉียวเหลียงขึ้นรถโดยยังคงอุ้มถังซีอยู่ เธอเพิ่งตื่นและบอกว่า “พาฉันไปส่งบ้านที”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “กลับไปบ้านผมก่อนดีกว่า วันนี้ดึกเกินไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าผมจะไปส่งคุณที่โรงเรียนเลย”
ถังซีส่ายศีรษะ “จะยุ่งยากเกินไป หนังสือเรียนของฉันอยู่ที่บ้าน ฉันกลับบ้านจะสะดวกกว่า”
“คุณเซียวครับ คุณหมายถึงหนังสือพวกนี้หรือเปล่าครับ” อาห้าซึ่งเดินทางกลับมาถึงเมือง A เมื่อเช้านี้ ส่งกระเป๋านักเรียนให้ถังซีด้วยรอยยิ้มประจบประแจง “ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้วครับ คุณตรงไปโรงเรียนได้เลยเช้าวันพรุ่งนี้ และแฟ้มประจำตัวของคุณผมก็เตรียมไว้พร้อมแล้วเช่นกัน ขอแสดงความยินดีที่ได้เป็นนักเรียนรุ่นพี่ในโรงเรียนมัธยมปลายแล้วนะครับ”
อาหกส่งเสียงดัง “ช่างประจบเก่งเหลือเกิน!”