แดนนิรมิตเทพ บทที่ 762
หลายคนเริ่มค้นหาชื่อบนหน้าจอขนาดใหญ่ เฉินโม่เหลือบมองหน้าจอขนาดใหญ่ สิบห้าชื่อตราตรึงอยู่ในใจของเขา แต่ไม่มีชื่อของหยางบี้ถิง

“จิ่วตู น่าเสียดายที่แฟนของนายไม่ผ่านการคัดเลือก!” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มองเฉินโม่แล้วขมวดคิ้ว และถามว่า “เฉินโม่ ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะคะแนนที่ผู้ชมโหวตให้เสี่ยวถิงสูงที่สุด แต่ทำไมเธอถึงไม่มีรายชื่ออยู่ในสิบห้าชื่อที่ผ่านการคัดเลือกล่ะ เธอน่าจะผ่านการคัดเลือกน่ะ!”

เฉินโม่ไม่ตอบ ชาติที่แล้วตอนที่เขารับช่วงต่อธุรกิจของเหม่ยหวา กรุ๊ป เขาก็เคยจัดงานประกวดที่คล้ายกันแบบนี้ด้วยเช่นกัน ว่ากันว่ากระบวนการทั้งหมดโปร่งใส และผู้ชมสามารถโหวตให้คะแนนได้ แต่ความจริงแล้วมันเป็นการใช้อำนาจจากตำแหน่งอย่างลับ ๆ โดยปกติแล้วผู้ประกวดจะผ่านการคัดเลือกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้จัดงาน

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวถิงไม่สามารถผ่านด่านสำคัญที่สุด นั่นก็คือด่านของผู้จัดงาน

เหตุผลที่ไม่ผ่านนั้นมีมากมาย จุดนี้แม้แต่เฉินโม่ก็ไม่สามารถเดาได้

แต่เฉินโม่ไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้ให้จี๋ต๋าจิ่วตูทราบ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดออกมา แต่จี๋ต๋าจิ่วตูก็อาจจะไม่เชื่อ

หลังจากประกาศรายชื่อคนที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ลำดับต่อไปของการประกวดออดิชั่นก็เริ่มต้นขึ้น นั่นก็คือการเต้นรำ

พนักงานจัดห้องโถงใหม่ เก็บโต๊ะเก้าอี้ทั้งหมด ตอนนี้พื้นที่ตรงกลางมีช่องว่างวงกลมขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยไฟหลากสี และกลายเป็นเวทีเต้นทันที

เฉินโม่และคนอื่น ๆ ยืนอยู่ข้างจี๋ต๋าจิ่วตูที่สีหน้าเศร้าเล็กน้อย จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “ต้องมีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน อีกสักครู่ถ้าเสี่ยวถิงออกมาแล้ว ฉันต้องถามเธอต่อหน้า!”

พวกเขาเหลือบมองจี๋ต๋าจิ่วตู แต่ไม่ได้พูดอะไร เจี่ยจวินซื่อตบไหล่จี๋ต๋าจิ่วตูเป็นการปลอบโยน

หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวถิงที่เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา เดินออกมาจากหลังเวที เดินตรงมาหาเฉินโม่และคนอื่น ๆ

เมื่อเห็นหญิงสาว จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันทีและตะโกนว่า “เสี่ยวถิง!”

“เสี่ยวถิง ผมจะแนะนำเพื่อนให้คุณรู้จัก พวกเขารูมเมทของผม ไอ้เบื๊อกเฉิน ห่าวเจี้ยน เหวินถิงอี้ เจ้าอารมณ์ เจี่ยจวินเซี่ย!”

หยางบี้ถิงยืนอยู่ข้างจี๋ต๋าจิ่วตู ทักทายเฉินโม่และคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะทุกคน!”

“สวัสดีครับ!”

ทุกคนทักทายตอบ

เฉินโม่เป็นคนสายตาเฉียบแหลม แค่มองแวบเดียวเขาก็เห็นดวงตาของเสี่ยวถิงแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้ ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามปกปิด แต่สามารถปกปิดสายตาของคนธรรมดาทั่วไปได้ แต่ไม่สามารถปกปิดเฉินโม่ได้

จี๋ต๋าจิ่วตูถามด้วยความเสียใจว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณถึงไม่เข้ารอบ? กรรมการพวกนั้นตาบอดเหรอ? คุณเป็นคนที่มีคะแนนโหวตของผู้ชมสูงที่สุด!”

มีประกายความเศร้าอยู่ในดวงตาของเสี่ยวถิง แต่หายไปอย่างรวดเร็ว เธอแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อาจเป็นเพราะฉันไม่ตรงตามข้อกำหนดของพวกเขา! ไม่เป็นไร เดิมทีฉันก็ไม่ได้คาดหวังมาก แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่พวกคุณมาช่วยสนับสนุน!”
หลังจากนั้น เสี่ยวถิงโค้งคำนับให้เฉินโม่และคนอื่น ๆ
“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องของไอ้อ้วนคือก็เรื่องของพวกเรา พวกเราหวังว่าเขาจะเป็นคนแรกที่เพิ่มสมาชิกครอบครัวของหอพักห้อง 306 ของพวกเรา” ห่าวเจี้ยนกล่าวอย่างเปิดเผย
ห่าวเจี้ยนกล่าวอย่างรวดเร็ว เสี่ยวถิงที่เป็นคนไร้เดียงสายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง และถามด้วยความเก้อเขินว่า “ขอโทษด้วย ฉันไม่เข้าใจ คุณช่วยพูดอีกครั้งได้ไหม?”
ตอนแรกห่าวเจี้ยนคิดจะอธิบาย แต่จี๋ต๋าจิ่วตูรีบเหยียบเท้าห่าวเจี้ยนทันที ห่าวเจี้ยนรู้สึกเจ็บปวด จนลืมไปว่าจะพูดอะไร
“ฮ่า ๆ ไม่มีอะไร คุณอย่าไปสนใจเขาเลย เขาเป็นคนที่ชอบพูดจาเหลวไหล” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ!” เสี่ยวถิงยิ้ม มีความอิจฉาอยู่ในดวงตาของเธอ “จิ่วตู เพื่อน ๆ ของนายเป็นคนดีจริง ๆ!”
“ครับ ผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน! พวกเขาเป็นคนดี พวกเราล้วนเป็นพี่น้องกัน!” จี๋ต๋าจิ่วตูเกาศีรษะและยิ้มด้วยความเขินอาย จนทำให้ห่าวเจี้ยนอยากจะอาเจียน
ขณะนี้ ผู้หญิงรูปร่างสูงเพรียวหน้าตาดีและแต่งหน้าจัด เดินมาพร้อมกับถือแก้วไวน์อยู่ในมือ
เมื่อเสี่ยวถิงเห็นเธอจากระยะไกล สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบกล่าวกับจี๋ต๋าจิ่วตูว่า “การประกวดออดิชั่นสิ้นสุดแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!”
“ไม่รอสักครู่เหรอ? ผมอยากรอให้คนที่รับผิดชอบงานประกวดออกมาก่อน แล้วถามเขาว่าทำไมเขาถึงไม่ให้คุณผ่านการคัดเลือก?” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยความจริงจัง