บทที่ 388 เรื่องราวสิ้นสุด

The king of War

ไหล่ของหวงจงถูกนิ้วทั้งห้าของหยางเฉินเจาะทะลุ ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาแทบหมดสติไป

เสียงร้องคำรามของเขา ดังสนั่นทั้งโถงใหญ่ประชุมแลกเปลี่ยน สะเทือนประสาทของแต่ละคนในงานอย่างลึกซึ้ง

ในหัวสมองของผู้คนมากมายปรากฏเสียงคำถามที่ดังมากข้อหนึ่งขึ้นฉับพลัน: “ชายวัยกลางคนที่ถูกกดให้คุกเข่าลงที่พื้นคนนี้ เป็นผู้สืบทอดของตระกูลหวง หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยนตูจริงหรือ?”

หยางเฉินมองทางหวงจงจากด้านบนลงมา ในลูกตาสีดำคู่นั้น มีเพียงความหนาวเหน็บที่เหมือนมาจากนรก

“ภายในสิบวินาที ไม่ขอโทษ งั้นก็ตายซะ!”

ทันใดนั้นเสียงของหยางเฉินดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาผู้คนตกใจจนปากอ้าตาค้างกัน

ส่วนหวงจงยิ่งรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนที่มาจากจิตวิญญาณลึก ร่างกายสั่นเทารุนแรง

เขาเป็นผู้นำในอนาคตของตระกูลหวงอันยิ่งใหญ่ คาดไม่ถึงถูกบีบให้คุกเข่าขอโทษต่อหน้าสาธารณชน

ถ้าเรื่องนี้แพร่กลับไปถึงตระกูล ตำแหน่งผู้สืบทอดของเขาคงถูกปลดออกในวินาทีแรก

สำหรับในมุมมองตระกูลหนึ่ง ล้วนไม่มีทางยอมรับให้เกิดเรื่องราวที่ทำเสียชื่อเสียงตระกูลเช่นนี้ได้

การกระทำทุกอย่างของหยางเฉิน ทำให้เขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าหากตนเองปฏิเสธการขอโทษ หยางเฉินคงจะฆ่าเขาจริงๆ

เห็นว่าเวลาสิบวินาทีกำลังจะมาถึงแล้ว!

ในที่สุดหวงจงก็ประนีประนอม ก้มศีรษะที่หยิ่งผยองลงยังทิศทางของหยางเฉินแล้ว กัดฟันแน่น “ขอโทษ! ก่อนที่ไม่ได้เข้าใจความจริงให้ชัดเจนดี ฉันไม่ควรเอาทุกอย่างไปลงที่ตัวนายหมด ยิ่งไม่ควรเกิดจิตอาฆาตแค้นต่อนายด้วย! ขอให้นายอภัยให้ฉันด้วย!”

ปึง!

คนจำนวนหกสิบเจ็ดสิบคนในโถงใหญ่ เวลานี้ตะลึงตัวแข็งเป็นหินอยู่ตรงนั้น!

หวงจงขอโทษจริงอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะ!

ถึงแม้ว่าเขาจะคุกเข่าอยู่แทบเท้าหยางเฉิน กลับไม่มีทางต้านทานพละกำลังของหยางเฉินได้ และถูกบังคับกดจนคุกเข่า

ส่วนขอโทษ เป็นหวงจงพูดออกมาจากปากตัวเอง!

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่อนาคตจะยืนอยู่ยอดสุดของเยนตู มีสถานะสูงศักดิ์ระดับไหน?

เวลานี้กลับคุกเข่าอยู่แทบเท้าชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าๆ คนหนึ่ง กล่าวขอโทษขอความเมตตา!

สายตาที่ทุกคนมองทางหยางเฉินล้วนไม่เหมือนเดิมแล้ว แม้แต่ฉือเจียงเองก็ยังทำหน้าตาตื่นตกใจ

ดวงตาของเขา ทันใดนั้นร้อนแผดเผาอย่างยิ่ง

ถ้าสามารถดึงหยางเฉินเข้ามาในสมาคมบูโดได้ ด้วยศักยภาพของหยางเฉินแล้ว อนาคตคงยาวไกล

แม้กระทั่งเป็นไปได้ว่าเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจของสมาคมบูโดสาขาใหญ่

“ไสหัวไปเถอะ!”

ทันใดนั้นหยางเฉินตะคอกใส่หวงจงทีหนึ่ง

หวงจงอดกลั้นความรู้สึกโกรธไว้ในใจ ดิ้นรนปีนขึ้นมาจากที่พื้น ออกไปแบบกระเซอะกระเซิง

บอดี้การ์ดของเขาตามไปด้านหลังติดๆ เตรียมจะออกไป

“หยุดก่อน!”

ตามองเห็นว่าบอดี้การ์ดของหวงจงกำลังจะเดินออกจากประตูโถงใหญ่ หยางเฉินจึงตะโกนขึ้นกะทันหัน

บอดี้การ์ดของหวงจงตกใจจนตัวสั่น หยุดฝีเท้าลงตรงนั้น หมุนตัวมาแบบกลัวจนตัวสั่นงก

“เอาศพคนตระกูลหวงของพวกแกกลับไปด้วย!”

หยางเฉินพูดจาเย็นชา

บอดี้การ์ดของหวงจงรีบวิ่งไปทันที นำศพของหวงเหมยไปด้วย

ในห้องโถงประชุมแลกเปลี่ยนที่กว้างใหญ่เงียบกริบไปช่วงหนึ่ง สายตาของทุกคนล้วนตกอยู่บนตัวของหยางเฉินทั้งสิ้น

ทั้งหมดในงานเป็นบุคคลสำคัญของแต่ละตระกูลใหญ่ชั้นนำ เวลานี้กลับไม่มีในใจสักใครคนเดียวกล้ามีความคิดใดๆ ต่อหยางเฉิน

คนคนหนึ่งที่แม้แต่ผู้สืบทอดของหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยนตู ยังกล้าบีบให้คุกเข่าขอความเมตตาต่อหน้าสาธารณชน นับประสาอะไรกับตระกูลผู้มีอิทธิพลของมณฑลเจียงผิงอย่างพวกเขาเหล่านี้

ตระกูลสูงสุดสามตระกูลใหญ่ของมณฑลเจียงผิง เมิ่งหงเย่ผู้นำของตระกูลเมิ่ง เมื่อสักครู่โดนบอดี้การ์ดของหวงจงสังหาร ใครๆ ต่างรู้ชัดเจนดี สถานการณ์ตระกูลเมิ่งหมดหวังแล้ว

เมื่อสักครู่ยังมีตระกูลหนิงอีกแห่ง ก็ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับตระกูลหวง ปัจจุบันนี้คนของตระกูลหวงเหมือนหมาหมดหนทาง ถูกขับไล่ออกไป

หนิงจี้หยวนผู้นำของตระกูลหนิง เวลานี้มองทางหยางเฉินอย่างอกสั่นขวัญแขวน

ก่อนหน้านี้ เขาได้ส่งยอดฝีมือในการต่อสู้ที่แกร่งที่สุดของตระกูลออกไปฆ่าหยางเฉินด้วย แต่ถูกหยางเฉินสังหารกลับ

จากนั้นส่งติงซานนักแม่นปืนออกไปอีก ผลปรากฏว่าติงซานหันปากกระบอกปืนกลับก่อนยิง ยอมจำนนต่อหยางเฉิน แต่ทว่าภายใต้การปลุกปั่นของหยางเฉิน จึงฆ่าหนิงเฉินหยู่แล้ว

ตระกูลหนิงคนอื่นๆ เวลานี้หวาดกลัวอยู่ในใจ ตัวสั่นงันงก

ไม่เพียงแค่คนของตระกูลหนิง ยังมีผู้คนตระกูลอื่นที่แสดงตัวติดตามหวงจงต่อหน้าสาธารณชนก่อนหน้านี้ส่วนหนึ่ง เวลานี้สยองขวัญถึงขั้นสุดแล้ว

“ให้เวลาแกหนึ่งนาที สั่งเสียกับลูกหลานของแกซะ!”

ตอนที่หนิงจี้หยวนหวาดวิตก หยางเฉินมองทางเขาอย่างฉับพลัน พูดจาแบบหน้าตาไร้อารมณ์

หนิงจี้หยวนอึ้งทึ่งอยู่ตรงที่เดิมแล้ว คาดไม่ถึงหยางเฉินยังอยากฆ่าตนเองอีกเหรอ?

“ตึก!”

หนิงจี้หยวนคุกเข่าลงกับพื้นทันที พูดอ้อนวอน “คุณหยางครับ เป็นผมที่ตาต่ำดูถูกคน ล่วงเกินท่านแล้ว แต่ผมโดนหวงจงบังคับมานะครับ! ถ้าผมไม่ต่อต้านกับท่าน เขาก็จะฆ่าผมทิ้ง! ขอร้องท่านปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะครับ!”

แม้แต่หวงจงยังคุกเข่าขอร้องได้เลย ตนเองยังมีอะไรต้องลังเลอีก?

“ยังเหลืออีกยี่สิบวินาที!”

หยางเฉินพูดจาหน้าตาไร้อารมณ์

สำหรับเขานั้น หนิงจี้หยวนเป็นเพียงพวกต่ำต้อยคนหนึ่ง แต่ต่อให้เป็นพวกต่ำต้อย อยากจะมาเอาชีวิตของเขา เขาก็จะไม่ใจอ่อนเมตตาโดยเด็ดขาด

หนิงจี้หยวนหน้าตาเซ่อซ่า หยางเฉินยังไม่ยอมปล่อยตนเองไปเหรอ?

คนของตระกูลหนิงล้วนทำหน้าเศร้าสลด

จากความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของหยางเฉินที่แสดงออกมาในวันนี้ หลังจากวันนี้ไป เกรงว่าคงไม่มีตระกูลหนิงอีกแล้ว

คนของตระกูลพวกนั้นที่ติดตามหวงจงก่อนหน้านี้ ต่างก็ทำสีหน้าโศกเศร้า

นี่คือความเศร้าสลดในฐานะตระกูลเล็ก ในหลายครั้ง ไม่เลือกฝั่งก็ไม่ได้ ถ้าเกิดเลือกยืนข้างผิด ที่แพ้ก็คืออนาคตของทั้งตระกูล

ในใจหนิงจี้หยวนเข้าใจดี หยางเฉินไม่อาจปล่อยพวกเขาไปได้ จึงไม่ขอร้องอ้อนวอนอีก

เขาก้มหน้าลง กุมหมัดแน่นขึ้นมาแล้ว ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้

ทั้งในห้องโถงประชุมแลกเปลี่ยนเงียบสนิทพักหนึ่ง ทุกคนล้วนมองที่หนิงจี้หยวน

ทุกคนในตระกูลหนิง แต่ละคนต่างทำท่าทางเศร้าใจ ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างหวาดกลัวไม่สบายใจ รอคอยการพิจารณาและตัดสินของหยางเฉิน

ในเวลานี้เอง หนิงจี้หยวนที่ก้มหน้ามาตลอดเงยหน้าทันใด

เห็นเพียงในดวงตาของเขามีสีแดงเลือดแถบหนึ่ง จ้องหยางเฉินแบบตาไม่กะพริบ ชั่วพริบตาเดียวชักปืนโคลท์คิงคอบร้าสีดำกระบอกหนึ่งออกมาจากในเสื้อ เล็งปากกระบอกปืนดำทะมึนไปยังหยางเฉินแล้ว

“ในเมื่อแกอยากให้ฉันตาย งั้นฉันจะส่งแกลงนรกไปก่อน!”

หนิงจี้หยวนหน้าดุร้ายเต็มที่ มือที่ถือโคลท์คิงคอบร้าสั่นเทาไม่หยุด

เขาไม่ใช่ไม่เคยฆ่าคนตาย แต่ว่าชายหนุ่มตรงหน้า ความสามารถช่างน่าสยองขวัญเกินไป ทิ้งความทรงจำที่ยากจะลบเลือนออกไปให้เขาตั้งแต่แรก

“หนิงจี้หยวน แกกล้า!”

ชั่วขณะนั้นหานเซี่ยวเทียนส่งเสียงตะโกน หลายคนด้านหลังเขาก็ชักปืนทันใด เล็งปากกระบอกปืนไปยังหนิงจี้หยวนแล้ว

ทันใดนั้น สถานการณ์ตึงเครียด!

เวลานี้ ฉือเจียงยืนขึ้นมาแล้ว พูดจาด้วยสีหน้าโกรธเคือง “หนิงจี้หยวน ถ้าแกกล้าลั่นไกปืน ฉันจะให้ทั้งตระกูลหนิงของแกตายตามไปด้วย!”

ก่อนหน้ามีหานเซี่ยวเทียน ยังมีฉือเจียงอีก ทั้งสองล้วนเป็นเจ้านายของอิทธิพลยอดสุดของเจียงผิงทั้งคู่ เวลานี้อยากช่วยชีวิตหยางเฉินอย่างคาดไม่ถึง

ในใจหนิงจี้หยวนเศร้ารันทดอย่างยิ่ง เขาแค่อยากให้ตระกูลหนิงยิ่งใหญ่เกรียงไกรเพิ่มขึ้น แค่อยากมีชีวิตอยู่ ทำไมคนเหล่านี้ถึงอยากพังตระกูลหนิงให้ย่อยยับ?

ยิ่งคิดความโกรธในใจของเขายิ่งเข้มข้น ความเกลียดที่มีต่อหยางเฉินยิ่งลึกลงไปอีก

ถ้าไม่ใช่หยางเฉิน เขาจะมาถูกบีบถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?

ถูกหนิงจี้หยวนเอาปืนมาจ่อศีรษะไว้ หยางเฉินกลับทำท่าทางนิ่งสงบ พูดจาด้วยหน้าตาไร้อารมณ์ “เมื่อกี้ฉันเคยบอกว่าของเล่นพรรค์นี้สำหรับฉันแล้ว ก็แค่เศษเหล็ก แกคิดว่าของแบบนี้ข่มขู่ฉันได้เหรอ?”

พึ่งพูดจบ หยางเฉินก้าวเดินไปยังหนิงจี้หยวนโดยกะทันหัน

“แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ! หยุดเลย! ไม่อย่างนั้นฉันจะลั่นไก!”

หนิงจี้หยวนสั่นเทารุนแรง ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อตั้งนานแล้ว ตะโกนใส่หยางเฉินขึ้นมา

“แม้แต่ปืนยังไม่กล้ายิง แล้วยังอยากจะฆ่าฉัน?” หยางเฉินพูดจาเสียดสี

“สารเลว! แกวอนหาที่ตาย!”

หนิงจี้หยวนส่งเสียงตะโกน นิ้วชี้กดลง

“ปัง!”

เสียงปืนที่แสบแก้วหูดังขึ้นทีหนึ่งโดยฉับพลัน