ตอนที่ 722

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ดาบเล่มนี้เกิดมาเพื่อฆ่า

ดาบเล่มนี้ถูกจารึกด้วยอักขระอาคม แต่เป็นรูปแบบอาคมเพื่อสังหารที่สามารถสังหารได้แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติ แต่ตอนนี้รูปแบบอาคมได้กลายเป็นเจตจำนงแห่งดาบและเข้าไปในจิตใต้สำนึกของหลิงฮัน

แต่เมื่อมันเข้าไปในจิตใต้สำนึกของหลิงฮัน คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เปล่งแสงสีทองออกมาอย่างกับเต๋าแห่งสวรรค์ ทำให้จิตสังหารของมันถูกปิดกั้นทำทีและเริ่มถูกกลืนกินหายไป

นี่เป็นส่วนหนึ่งของพลังที่เขาได้รับมาและทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหมื่นปี แม้ว่าดาบเล่มนี้จะน่าสะพรึงกลัวที่สามารถสังหารได้แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติ แต่ก็ยังไม่อาจเผชิญหน้ากับคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ได้

เมื่อจิตสังหารของมันแตกสลาย ดาบไม่ส่องแสงประกายอีกต่อไป ทำให้ดาบเล่มนั้นดูเหมือนกับดาบธรรมดา

ข้าได้มันมาครอบครองแล้ว!

หลิงฮันอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาไม่เพียงแค่จะได้รับดาบเล่มนี้มาเท่านั้น แต่ยังมีความก้าวหน้าทักษะบ่มเพาะกายาด้วย

ครั้งนี้เขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากมาย

เขาจ้องมองไปที่ดาบอย่างใกล้ชิดและสนใจรูปแบบอาคมบนดาบมาก

แต่มันดูซับซ้อนเกินไป แค่เขาจ้องมองดูมันอยู่ชั่วครู่ มันก็ทำให้เขารู้สึกปวดหัวราวกับหัวจะระเบิดเขาหันสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็วและครุ่นคิดอีกครั้ง ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะจ้องมองมันเป็นเวลานาน แต่เขาก็ไม่สามารถจำรูปแบบอาคมได้แม้แต่แบบเดียวราวกับว่ามีพลังบางอย่างปกปิดอยู่

หลิงฮันไม่สนใจสนและเก็บดาบเข้าฝัก แต่ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าวัสดุฝักดาบจะดีมาก แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตัวดาบ – วัสดุของดาบทำมาจากแร่เหล็กระดับสิบ แต่ระดับของรูปแบบอาคมที่จาลึกบนดาบมีแนวโน้มว่าจะเกินระดับสิบ

ส่วนวัสดุที่ใช้สร้างฝักดาบไม่น่าจะมีค่ามากไปกว่าแร่เหล็กระดับเก้า

นอกจากนี้ ฝักดาบไม่สามารถนำไปใช้ต่อสู้ได้ มันคงจะเป็นการสิ้นเปลืองมากหากสร้างมันขึ้นมาด้วยแร่เหล็กระดับสิบ หรือจะให้พูดคือ แม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กระดับเก้า แต่ก็สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความสูงส่ง

“ดาบอันดับหนึ่งของโลก?” หลิงฮันเห็นคำหกคำอยู่บนดาบของเขา หรือว่านี่จะเป็นชื่อของดาบเล่มนี้?

“อันดับหนึ่งของโลกอีกแล้ว มันไม่รู้สึกว่าสูงส่งไปหน่อยหรือ? ซึ่งมันไม่ตรงกับนิสัยของข้า!”เขาโยนฝักดาบเข้าไปในหอคอยทมิฬ มันไร้ประโยชน์ คงจะดีกว่าที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นลูกศรให้มีประโยชน์บ้าง

“จิตสังหารของเจ้าช่างหนักหน่วงยิ่งนัก ถ้างั้นข้าจะเรียกเจ้าว่า ‘ดาบสังหาร’” หลิงฮันยิ้ม

เขาสะบัดดาบเบาๆและเจตจำนงก็หลั่งไหลเข้าไป พรึบ มีอักขระอาคมสองสามตัวส่องแสงออกมาอย่างฉับพลัน และดาบสิบเล่มก็พุ่งออกไป ตู้ม กำแพงรอบตัวเขาปรากฏรอยดาบสิบเล่มตื้นๆเอาไว้

“สุดยอด!” หลิงฮันอุทาน ห้องนี้สามารถต่อการต่อสู้ของเขาและดาบสังหารได้โดยที่ไม่พังทลาย เห็นได้ชัดว่ามันแข็งแรงมาก แต่มันกลับทิ้งรอบดาบไว้บนกำแพงได้

หลิงฮันสะบั้นดาบอีกครั้ง ครั้งนี้เขาใช้รัศมีดาบเข้าไปในการโจมตีด้วย และทันใดนั้นบนกำแพงก็ปรากฏรอยลึกเท่าเท้า แต่เรื่องที่น่าแปลกใจคือกำแพงยังไม่พังทลาย และในไม่ช้ารอยดาบบนกำแพงก็จางหายไป

หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ ตำหนักแห่งนี้มีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองด้วย?

หรือว่าแม้แต่ตัวตำหนักก็เป็นสมบัติ!

ถ้าเขาครอบครองตำหนักนี้ได้ไม่ใช่ว่าสมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของเขาหรอกหรือ?

ตูม ทันใดนั้นประตูที่แต่แรกนั้นปิดอยู่ก็เปิดออกอย่างกะทันหัน

เขาได้รับดาบมาแล้ว มันไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป

หลิงฮันเก็บดาบสังหารเข้าไปในหอคอยทมิฬวางไว้กับดาบกำเนิดมารและแขวนอยู่ในอากาศ แต่ดาบกำเนิดมารกลับเคลื่อนตัวตกไปด้านล่าง ราวกับว่ามันไม่กล้าอยู่เคียงข้างดาบสังหาร นี่แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามของดาบสังหาร

หลิงฮันก้าวเดินออกจากห้องหิน มันมีบันไดอยู่ตรงหน้าเขา เขาหันไปมองรอบข้างและพบว่ายังมีห้องหินห้องอื่นอีกที่อยู่ชั้นนี้ แต่ทุกห้องยังคงปิดอยู่ แม้ว่าเขาจะลองพยายามเปิดดู แต่ก็เปิดไม่ออก

ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาจึงเดินลงบันได ชั้นถัดไปมีห้องหินหลายห้องและบันได เขาไม่พยายามที่จะเปิดประตูอีกต่อไป แต่เลือกที่จะลงไปอีกชั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เขาอยู่ชั้นที่ห้าก่อนที่จะลงมาอยู่ชั้นล่างอีกครั้ง

เขาเดินออกไปและเห็นว่ายังคงมีผู้คนมากมายอยู่รอบตำหนักเพื่อทดสอบเข้าไปด้านใน

“หลิงฮัน! หลิงฮัน!”  ฮูหนิวกระโดดเข้ามาหาและพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนและกอดเขาทันที “หลิงฮันไปนานมากจนเกือบทำให้หนิวต้องตาย!”

หลิงฮันไม่รู้ว่าเขาฝึกฝนอยู่ในหอคอยทมิฬนานแค่ไหน และเมื่อเขาเห็นจูเสวี่ยนเอ๋อเดินเข้ามาเลยถามออกไปว่า “ข้าอยู่ด้านในนานแค่ไหน?”

“ยี่สิบวัน” จูเสวี่ยนเอ๋อตอบกลับ

นานมาก!

หลิงฮันหดม่านตาลง เขารู้สึกว่ามันยังไม่ถึงหนึ่งวันเลย แล้วมันจะผ่านไปยี่สิบวันได้อย่างไร?

“พวกเจ้าเองก็ได้รับสมบัติมาเหมือนกัน?” หลิงฮันถามด้วยรอยยิ้ม

“ใช่แล้ว!” ฮูหนิวกระโดดออกมาจากอ้อมแขนของเขาอย่างกะทันหัน “หนิวมีอะไรน่าสนใจให้ดู!”

“นี่มันกรรไกรเขี้ยวมังกร ข้าเคยเห็นมันมาก่อน มันเป็นสมบัติที่แท้จริง!” เจ้ากระต่ายกล่าว “ในตำนานมีมังกรตายอยู่ในทวีปเทียนฮง โลหิตของมังกรกระจัดกระจายไปทั่วและกลายเป็นสมบัติมากมายนับไม่ถ้วน กระดูกของมันได้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของห้านิกายใหญ่ และเมื่อมีหายนะครั้งใหญ่เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคือเขี้ยวมังกร”

“เมื่อนานมาแล้ว ปรมจารย์อาคมได้รับเขี้ยวมังกรนี่มาและใช้มันสร้างกรรไกรเขี้ยวมังกร ด้วยความพยายามทั้งหมดของเขา เขาทำให้มันมีพลังของมังกรที่แท้จริง!”

ทุกคนรู้สึกตกตะลึง และสมบัติแบบนั้นกลับตกอยู่ในมือของฮูหนิว!

หลิงฮันยิ้ม เขาเองก็ได้รับดาบสังหาร ซึ่งมันจะทำให้เขาสามารถรับมือกับกระบี่ไร้เทียมทานของฉือชิ่วเหรินได้ และฮูหนิวเองก็ได้รับกรรไกรเขี้ยวมังกร และความแข็งแกร่งของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นมาก

จูเสวี่ยนเอ๋อ เหวินเหรินเซียนเซียน เหยียนเฮิงเหอ ต่างได้รับสมบัติมากกันทุกคน แต่พวกเขาได้รับแค่อาวุธระดับแปดเท่านั้น ซึ่งยังห่างชั้นจากหลิงฮันและฮูหนิว

แม้แต่เจ้ากระต่ายยังได้รับสมบัติ แต่มันกลับไม่เปิดปากพูดว่าได้อะไรมา ดังนั้นทุกคนจึงอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก

หลิงฮันไม่เห็นจักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิง แต่หลังจากที่ถามจูเสวี่ยนเอ๋อทำให้รู้ว่าทั้งสองคนมาถึงที่นี่และจากไปก่อนแล้ว ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนต่างมีกลุ่มเป็นของตัวเองโดยที่พวกเขาเป็นผู้นำกลุ่ม

“หลิงฮัน!” เจี่ยหมิงปรากฏตัวและจ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยดวงตาแดงก่ำ