ตอนที่ 716 ความจริงของตระกูลลึกลับ
ขณะที่ชายผมสีฟ้ายังคงรักษาระดับการเคลื่อนไหวแบบสุ่มและรวดเร็วของเขาเอาไว้ เขาก็เดินทางมาถึงภูเขาอีกลูกภายในการก้าวเท้าเพียงไม่กี่ก้าว เศษฝุ่นที่ปลิวว่อนในอากาศค่อยๆสลายตัวลงพื้น โลกเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง มีเพียงเสียงขึ้นจมูกตรงหน้าให้ได้ยิน
มีชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนที่ก้อนหินใหญ่ห่างออกไปสิบเมตร ผมสีน้ําตาลเหลืองรุงรังราวกับรังนกเสื้อผ้าอย่างดีราคาแพงบนตัวก็มีสีเหลือง ลักษณะที่ปรากฏเด่นชัดจนเป็นที่สนใจของผู้ที่พบเห็นรองเท้าบูทสีดําพร้อมกับตัวอักษร เกา” ตรงตัวรองเท้านั้นคือสัญลักษณ์ที่หมายถึงสถานะคงไม่มีใครคิดว่าชายที่นอนหลับอยู่บนก้อนหินใหญ่คนนี้จะเป็นคนเดียวกับในห้องประชุมซางจิงเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ เกาช้าวฮุย นายน้อยที่ทําลายอาคารที่ซางจิง
ชายผมสีฟ้ายืนนิ่งห่างออกไปสิบเมตร มองดูเกาช้าวฮุยที่หลับอยู่ตรงหน้าตัวเองเงียบๆ
เกาช้าวฮุยที่กําลังหลับสบายจนน้ําลายเกือบไหล ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาหาชายผมสีฟ้าที่ยืนมองตัวเองอยู่นานแล้ว สูดน้ํามูกเข้าลึก ตามมาด้วยนัยน์ตาสีน้ําตาลอ่อนที่ค่อยๆปรือขึ้น
เมื่อลืมตาขึ้น เกาช้าวฮุยก็หรี่ตามองอีกฝ่ายก่อนจะอ้าปากหาว จากนั้นก็ขยี้ตาและผุดขึ้นยืนก้าวเท้าเข้าไปหาชายผมสีฟ้าสองก้าว กวาดสายตามองขึ้นลง สูดน้ํามูกอีกรอบ ไม่มีการรักษามารยาทต่อหน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด
“ไม่ฆ่าใครเหรอไง?” เกาช้าวฮุยเปิดขึ้นก่อน น้ําเสียงแฝงไปด้วยความอันตราย
“แล้วถ้าฉันฆ่าใคร ฉันจะมายืนต่อหน้าคุณมั้ย?” ชายผมสีฟ้าดูเหมือนจะคุ้นเคยกับโหมดการสนทนาแบบนี้กับเกาช้าวฮุยดี เขาเพียงตอบออกมาทันที หากนัยน์ตาสีน้ําเงินเข้มกับมีร่องรอยของความระมัดระวัง
เกาช้าวฮุย นายน้อยแห่งตระกูลเกาลึกลับ หลับอยู่บนภูเขาในเวลาเดียวกับที่เขาเจอกับเหยจือโปเรื่องบังเอิญ? นี้!
“หึ!” เกาช้าวฮุยแสยะยิ้ม ไม่สนใจท่าทางระวังตัวของอีกฝ่ายที่แสดงออก เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอีกสองก้าว เอามือปัดไหล่ของชายผมสีฟ้าเบาๆ
ขณะที่เกาช้าวฮุยกําลังจะถอยหลังออกไป ชายผมสีฟ้าก็ก้าวเท้าตามมา ทําให้ทั้งสองต้องยืนประจันหน้ากันทันที ชายผมสีฟ้ายืนนิ่งปล่อยรัศมีพลังของตัวเองออกมา ส่วนเกาช้าวฮุยดูเหมือนจะสบายๆแต่ความจริงเขาซ่อนจิตสังหารเอาไว้
“โลกาวินาศ สนามแม่เหล็กของโลกได้กลับตาลปัตร คําสาปและข้อจํากัดของตระกูลลึกลับของเราได้เจือจางลงไปเยอะมากตั้งแต่มันเริ่มเข้าสู่ยุคโลกาวินาศ แม้ว่ามันจะไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงเราจะยังฆ่าใครไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทําร้ายใครไม่ได้” เสียงของเกาช้าวฮุยยังคงดูเล่นๆสบายๆอยู่ “เหม็นกลิ่นเลือดชะมัด! อย่าบอกนะว่าคุณพึ่งเชือดหมูปามา”
เมื่อได้ยินถึงความอัปยศของตระกูลลึกลับ คิ้วของชายผมสีฟ้าก็ขมวดเล็กน้อย น้ําเสียงเริ่มหมดความอดทนและหงุดหงิด “แล้วมันเกี่ยวกับคุณยังไง?”
“มันไม่สําคัญ ฉันสนแค่เรื่องการเป็นน้องเขยในอนาคตของฉัน งานแต่งงานระหว่างตระกูลปายและตระกูลเกา มันเกือบจะหนึ่งปีแล้วตั้งแต่ที่ฉันหมั้นกับน้องสาวของคุณ คุณคิดว่างานแต่งจะจัดขึ้นเมื่อไหร่?” เกาช้าวฮุยพูดพร้อมกับยิ้ม จากนั้นก็ท่าทางก็เริ่มเย็นชาขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะ “เอ…ต้องเรียกว่านายท่านหรือนายน้อยปายยูล่ะ?”
ปายยู เป็นนายน้อยแห่งตระกูลปาย และก็ยังเป็นทายาทโดยตรงที่จะสืบทอดตําแหน่งนายท่านแห่งตระกูลปาย เนื่องจากปายยูนั้นได้รับการปลูกฝังให้รับผิดชอบดูแลตัวเองมาตลอดปายยูจึงเป็นคนที่รับหน้าที่จัดการตระกูลปายมาด้วยตนเองเป็นเวลาหลายปีแล้ว
นายท่านหรือนายน้อยเป็นสถานะสําหรับคนรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติของทายาทของตระกูลลึกลับ เหมือนกับเกาช้าวฮุยที่สามารถทําลายอาคารในซางจิงได้ แต่เกาช้าวฮุยยังเป็นเพียงแค่นายน้อยเท่านั้น คุณสมบัติของเขายังไม่ถึงสถานะนายท่าน
ด้วยน้ําเสียงเย็นชาของเกาช้าวฮุยที่พูดคําว่า “นายท่านหรือนายน้อย” ทางเดินพลันเต็มไปด้วยบรรยากาศเย็นยะเยือก ให้ความรู้สึกราวกับวิกฤตรุนแรงกําลังจะเกิดขึ้น ลมพัดปลิวอย่างรุนแรงจนต้นไม้สั่นเพิ่มราวกับจนโค่นลงมา
มือข้างขวาของปายยูค่อยๆยกขึ้นช้าๆ ทันใดนั้นเสียงหวีดร้องของแรงลมก็พลันสลายไปทันที“วันสิ้นโลก สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลง คําสาปของตระกูลลึกลับเริ่มสลายวิธีการรักษาความเข้มข้นของสายเลือดของตระกูลลึกลับพัฒนาขึ้น เราต้องเลือกคนที่มีความเข้มข้นสูงสุดในตระกูลเกากับฉันที่เป็นทายาทสายตรงของตระกูลปาย เมื่อเด็กเกิดมามันจะรวมตระกูลลึกลับทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียวกัน”
เกาช้าวฮุยเลียริมปาก เอามือล้วงในกระเป๋า ”ว่าต่อสิ”
ปายยูแสยะยิ้มชั่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มก้าวเท้าออกเดินไปข้างหน้าช้าๆ “ตราบใดที่ไม่มีคนจากตระกูลเกาและตระกูลปายทําลายการรวมสองตระกูลด้วยกันในครั้งนี้ ฉันจะรีบดําเนินการทุกอย่างให้เร็วที่สุด คุณเกาจะเดินผ่านประตูของตระกูลปายเข้ามาโดยไม่ต้องนึกเสียใจกับการแต่งงานครั้งนี้เลย”
เกาช้าวสู่ยหมุนตัวกลับไปหาปายยุที่หายไปแล้ว คิ้วขมวดเข้าหากันจนเกิดรอยย่นที่หน้าผาก “คิดว่ามันจะได้ผลเหรอไง? คิดว่าทุกคนจะยอมตกลง? พวกเราก็เป็นเหมือนหยินกับหยางที่ไม่มีวันรวมเป็นหนึ่งได้!”
ปายยูและเกาช้าวฮุยเผชิญหน้าเพียงแค่สนทนาสั้นๆ จากนั้นต่างฝ่ายก็เดินแยกกันไปคนละทางราวกับว่าพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกันเลย
สําหรับปายยู ในเย็นวันนั้นเขาได้เดินทางกลับมาถึงคฤหาสน์โบราณของตระกูลปายที่ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกลับ
ตระกูลลึกลับนั้นอยู่ในสภาะที่กําลังจะตาย พวกเขาต้องคําสาปมาเป็นนานจนนับไม่ได้ จํานวนของตระกูลลึกลับค่อยๆลดลงเรื่อยๆ นอกเหนือจากปัญหาที่เกิดจากการแต่งงานกับญาติสนิท มันยังมีข้อห้ามที่ติดมากับเลือดดั้งเดิมของพวกเขา
ในตอนนี้ มันมีคนในตระกูลปายเหลือไม่ถึงหนึ่งร้อยคนด้วยซ้ํา ซึ่งมันได้รวมถึงสมาชิกตระกูลทั้งหมดที่แตกแขนงแยกไปอาศัยตามที่ต่างๆ คฤหาสน์หลังใหญ่ที่เคยมีสมาชิกในตระกูลนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ ในตอนนี้กลับว่างเปล่าและแทบไม่มีใครอยู่
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ ปายยูก็เดินเข้ามาส่วนที่ลึกที่สุดของบ้าน มันเป็นห้องรับแดดขนาดใหญ่ ตัวผนังปละหลังคา ทุกอย่างสร้างจากคริสตัลจากธรรมชาติ
ซึ่งวัตถุดิบสถาปัตยกรรมราคาแพงนี้มีเพียงแค่เฉพาะตระกูลลึกลับเท่านั้นที่จะมีได้
ห้องรับแดดนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้พืชพรรณนานาชนิด บางชนิดไม่เคยได้รับการยืนยันว่ามีตัวตนบนโลกนี้ด้วยซ้ํา แต่มันกลับออกดอกเต็มไปทั่วห้องอย่างสวยงาม
ปายยยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าห้องรับแดด ยิ้มอ่อนๆที่มุมปาก จากนั้นก็เอื้อมไปผลักประตูให้เปิดออก “น้องสาว ฉันกลับมาแล้ว”