หลังจากที่ทุกคนเก็บกวาดทุกอย่างในป้อมปราการไปหมดแล้ว พวกเขาก็เดินออกอุโมงค์จนมาโผล่ที่ด้านนอก

เย่เทียนมองไปที่บริเวณโดยรอบๆ และรู้ตำแหน่งของพวกเขาทันที นี่เป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตของเย่ฉาง มันอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขาคาร์โรล หลังจากที่ยืนยันตำเหน่งแล้ว พวกเขาทุกคนก็กลับไปยังแม่น้ำใต้ดิน และแล่นเรือไปยังพื้นที่ส่วนกลางของแม่น้ำ เมื่อคำนวณความเร็วจากการแล่นเรือแล้ว พวกเขาน่าจะมาทันเวลาสำหรับอาหารค่ำของพวกโจรพอดี

เมื่อพวกเขามาถึง พวกโจรก็กำลังล้อมวงกินอาหารค่ำอยู่พอดี ดังนั้นเย่ฉางและ SpyingBlade จึงปลอมตัวเป็นพวกโจรอีกครั้ง และหม้อสตูว์ทั้งสองจึงกลายเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของพวกโจรไปโดยปริยาย การซุ่มลอบโจมตีเกิดขึ้นมาอีกครั้ง และก็จบลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างถอนหายใจก็คือว่า คราวนี้เย่ฉางสามารถเข้าไปค้นศพของบอสได้ แต่ก็ไม่ได้อะไรอีกเหมือนเดิม อูนาเฝ้ามองเย่ฉางที่สาบานอย่างจริงจังว่า ครั้งต่อไปจะได้รับอุปกรณ์ระดับพระเจ้าอย่างแน่นอน เขาไม่ได้แสดงท่าทางของการกลับตัวกลับใจเลย แววตาที่เขามองหัตถ์แห่งพระเจ้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เรื่องนี้ทำให้เธอโกรธมาก จนเธอขยี้เท้าของเธอกับพื้นอย่างฉุนเฉียว ความเพียรพยายามของพวกเขาในครั้งนี้สูญเปล่าโดยที่ไม่ได้อะไรเลย!

ทุกคนเดินออกมาจากอุโมงค์ใต้ดินอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้มันเป็นเวลาตอนเย็นแล้ว พวกเขาปีนขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เย่เทียนคำนวณว่าที่นี่ควรจะอยู่ในหุบเขาที่ไหนสักแห่งหนึ่งใกล้ๆกับเมืองไวท์สโตน เมื่อพวกเขาปีนขึ้นไปบนยอดเขา พวกเขาก็สามารถมองเห็นอาณาเขตของเมืองไวท์สโตนได้ บริเวณนี้ไม่ค่อยมีนักเดินทาง และมีพวกมอนเตอร์เพียงไม่กี่ตัว

“ไปกันเถอะคะ ไปดูกันสิว่าแม่น้ำใต้ดินสายนี้จะสิ้นสุดลงที่ไหน” เย่เทียนพูดขึ้นมา ทุกคนจึงเดินกลับมาที่ถ้ำใต้ดินอีกครั้งและแล่นเรือไปตามแม่น้ำ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่ฉางก็เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างอยู่ข้างหน้าพวกเขา ข้างหน้ามันคือน้ำตก!? ถ้าพวกเขายังคงฝืนแล่นเรือต่อไป พวกเขาจะต้องตายกันหมดทุกคนแน่ๆ พวกเขาจึงช่วยกันหยุดเรือทันที เย่ฉางสั่งให้เจ้าฟ้าน้อยบินไปสำรวจข้างหน้า เขาใช้สกิล [Eagle Eye] เพื่อใช้การมองเห็นร่วมกันกับเจ้าฟ้าน้อย เขามองลงไปที่น้ำตก “น้ำตกนี้ มันลึกมากๆ มันอาจจะลึกไปถึงแกนกลางของโลกเลยทีเดียว ถ้าเราขืนยังไปต่อ เราต้องตายแน่ๆ เรากลับกันเถอะ …”

“ลึกไปถึงแกนกลางของโลก?” เย่เทียนเริ่มวาดภาพในใจของเธอ ‘ถ้ามันลึกไปถึงแกนกลางของโลกจริงๆแล้วล่ะก็ อาจจะมีแม่น้ำใต้ดินอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่นั่น แต่ถ้าเรายังขืนไปต่อ ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ ในอนาคตเอาไว้ค่อยมาสำรวจที่นี่ใหม่ดีกว่า’ เธอถอนหายใจ “คุณพ่อพูดถูก เราไปที่เมืองไวท์สโตนกันก่อนดีกว่า …”

พวกเขาล่องเรือกลับไปที่เดิมและเดินออกจากอุโมงค์ใต้ดิน พวกเขาใช้เวลาเดินทางกันทั้งคืนเพื่อมุ่งไปยังเมืองไวท์สโตน สิ่งก่อสร้างต่างๆในเมืองไวท์สโตนมีลักษณะคล้ายกับเมืองแบล็กร็อคมาก แต่ส่วนใหญ่จะทาด้วยโทนสีพาสเทิล เมื่อผู้เล่นหลายคนเห็นกลุ่มของเย่ฉางเดินเข้าเมืองมา พวกเขาต่างอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ CloudDragon รับรู้อย่างรวดเร็วว่าเย่ฉางได้เข้ามาในเมืองไวท์สโตนแล้ว เขาจึงสั่งให้คนติดตามดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างใกล้ชิด

เย่ฉางมุ่งหน้าไปยังสำนักงานว่าการเมืองไวท์สโตน เขาใช้เงินเป็นจำนวนมากในการซื้อที่ดินสองแห่งที่อยู่ห่างจากตัวเมืองมากๆ เมื่อเขาเห็นพนักงานมองมาด้วยสายตาที่ดูถูก เขาหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ‘เหอะๆ ในอนาคตนายจะรู้เองว่า ที่ดินที่ฉันซื้อไป มันมีมูลค่ามากแค่ไหน!’

จากนั้นเขาก็มองหาร้านค้าที่ว่างอยู่ในเมืองไวท์สโตน ยังคงมีร้านค้าขนาดใหญ่ที่ต้องมียศไวส์เคาน์ขึ้นไปถึงจะซื้อได้เหลืออยู่ แต่มันมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น และราคาแห่งล่ะ 400 เหรียญทอง เขาตัดสินใจซื้อโดยทันที จากนั้นเขาก็เดินออกมาจากสำนักงานว่าการ ด้วยผ้าคลุมเสือโคร่งของเขา ทำให้เขาดูเหมือนนายน้อยผู้หยิ่งยโส…

ในขณะเดียวกัน เย่เทียนสามารถแก้ไขปัญหาทางด้านการเงินของคริสตจักรได้อย่างรวดเร็ว โดยการหาผู้กระทำความผิดพบ ทำให้เธอได้รับรางวัลเป็นสกิล [Circle Healing Healing] (ฟื้นฟูพลังชีวิตของเป้าหมายในระยะพื้นที่) อาร์คบิชอปแห่งเมืองไวท์สโตน – คาร่า พยายามชักชวนให้เย่เทียนย้ายมาเข้าสังกัดที่เมืองนี้แทน เธอยังพูดจาใส่ร้ายอาร์คบิชอปมากิอย่างเสียๆหายๆอีกด้วย เย่เทียนหลังเหงื่อเย็นออกมา ‘ดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนนี้ จะมีความบาดหมางกันอยู่’

สำหรับหลินหลี่นั้น เขาเข้าไปรายงานตัวยังสมาคมพ่อค้าอาวุธแห่งเมืองไวท์สโตน และเขายังโชว์ความสามารถในด้านการทวงหนี้ให้ดูอีกด้วย จนได้รับคำชื่นชมยกใหญ่จากรองหัวหน้าสมาคมพ่อค้าอาวุธแห่งเมืองไวท์สโตน – คาร์ลอส “สมกับเป็นคนที่เอดอสน่ายกย่องจริงๆ นายมีความสามารถที่น่าประทับใจมากๆ …”

สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาแยกย้ายกันไปยังสมาคมอาชีพของแต่ล่ะคน เย่ฉางก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน แต่เขาใช้ร้านค้าที่เพิ่งซื้อมาตั้งเป็นสมาคมเทพธิดาแทน โดยการติดรูปภาพเทพธิดาทั้งสามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมเอาไว้ตรงหน้าร้าน พร้อมกับเขียนป้ายบอกไว้ว่า ‘หาหุ้นส่วนร่วมลงทุน’ จากนั้นเขาก็โทรบอกให้ Little Jade ส่งพวกอาจารย์และพนักงานต้อนรับชั้นหนึ่งจากเมืองแบล็กร็อคมายังสาขาแห่งนี้ นอกจากนี้ เขายังบอกให้คุณยายริก้าส่งคนไปเปิดร้านค้า Happy Firmaments อีกแห่งหนึ่งด้วย

“เออ หัวหน้าทีมคะ มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ? …” Little Jade พูดเบาๆ เธอกลัวเย่ฉางมากๆ เพราะเธอได้เห็นแล้วว่า เย่ฉางได้ทำลายพวกเทพธิดาอย่างไรบ้าง

“เธอกล้าที่จะขัดคำสั่งฉัน!?” คำพูดของเย่ฉางทำให้ Little Jade รีบตะโกนสรรเสริญเขาทันทีแม้กระทั่งเปรียบเทียบเขากับเหล่าทวยเทพ!

“ดีมาก สมาคมเทพธิดาที่นี่จะต้องได้รับการจัดการที่ดี … บอกให้ลินดาเป็นคนจัดการเรื่องนี้” เย่ฉางพูดจบ แล้วก็วางสายอย่างพอใจ

Little Jade นำคำพูดของเย่ฉางไปบอกลินดาทันที ทำให้ลินดารู้สึกไม่พอใจมาก พวกเขาเพิ่งตั้งตัวในเมืองแบล็กร็อคได้ไม่เท่าไหร่เอง แต่นี่ยังจะขยายสาขาไปที่เมืองไวท์สโตนอีกหรือ!? ถึงแม้ว่าเมืองแบล็กร็อคและเมืองไวท์สโตนจะอยู่ใกล้กันก็ตาม แต่พวกเขาไม่ได้มีอาจารย์เพียงพอที่จะสอนทั้งสองแห่ง … เธอส่ายหัว ในฐานะที่เธอตัวแทนของเทพธิดา เธอควรมีความคิดของตัวเอง

ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายของคุณยายริก้าทำงานมีประสิทธิภาพมาก เพราะเธอเพิ่งได้พบกับผู้ช่วยที่มีความสามารถและมีประสบการณ์สูง อีกทั้งยังค่อนข้างน่าเชื่อถือได้ เธอจึงแต่งตัวให้เขาเป็นผู้จัดการร้านที่นี้แทนเธอ เธอรีบพาพวกลูกน้องคนอื่นๆไปยังเมืองไวท์สโตนทันที แต่เธอยังกังวลเรื่องการขนส่งสินค้าจำนวนมากแบบนี้ เพราะเมื่อเร็วๆนี้ ได้มีกองคาราวานถูกโจมตีหรือสูญหายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนในเมืองยังหาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย

เย่ฉางกำลังคิดหาคนที่จะพาพวกคุณยายริก้ามาส่งที่เมืองไวท์สโตน โดยที่คนๆนั้นจะต้องเชื่อถือได้และมีความแข็งแกร่งมากพอ เพราะเย่ฉางได้เลือกเส้นทางที่สามารถมาถึงเมืองไวท์สโตนได้ไวกว่าปกติมาก แต่เส้นทางนี้มันค่อนข้างอันตราย พวกคุณยายริก้าต้องเดินทางมาในเทือกเขาคาร์โรล และลงเรือที่เขาทิ้งไว้ให้ในอุโมงค์ใต้ดิน และแล่นเรือจนมาถึงที่เมืองไวท์สโตน เขาถอนหายใจ เพราะเขาไม่สามารถหาคนอื่นได้ นอกจากหญิงบ้าคนนั้นเท่านั้น “สวัสดี เธอเป็นอย่างไรบ้าง?”

“……” ThornyRose รู้สึกแน่นหน้าอกและถามว่า “นายมีธุระอะไร?”

เย่ฉางเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับแม่น้ำใต้ดิน และขอให้เธอพาพวกคุณยายริก้ามาที่เมืองไวท์สโตนจากนั้นเขาจึงส่งพิกัดให้เธอ

ThornyRose ยกคิ้วขึ้น ‘แม่น้ำใต้ดิน!? ผู้ชายคนนี้ต้องการสร้างท่าเรือและธุรกิจการขนส่ง นี่จะเป็นรายได้มหาศาล อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเทือกเขาคาร์โรลแล้ว ทางออกอื่นๆไม่ควรเป็นอาณาเขตของเขา ถ้าคนอื่นๆรู้สถานที่แบบนี้แล้วล่ะก็ คงจะไม่มีใครขายเลยแน่ๆ’

“แล้วทางออกอีกสองแห่งล่ะ …” ThornyRose ถาม

“ฉันได้ซื้อที่ดินอีกสองแห่งมาแล้ว …” คำพูดของเย่ฉางทำให้ ThornyRose คิดถึงเย่เทียนทันที ถ้ามีเด็กสาวคนนี้อยู่ข้างๆตัว ไม่มีทางที่เขาจะพลาดอะไรไปได้ ‘ครอบครัวนี้มีแต่คนร้ายกาจ’

“ฉันเข้าใจแล้ว …” ThornyRose ตอบ

“โอ้ เดี๋ยวก่อนนะ เธอช่วยนำคำพูดของฉันไปบอกครอสมาร์หน่อย แต่มันต้องเป็นแบบส่วนตัวนะ …” เย่ฉางบอกเธอ

“รู้แล้ว ไว้ค่อยเจอกันที่เมืองไวท์สโตน” ThornyRose พูดเสร็จก็วางสายทันที และเริ่มมุ่งหน้าไปยังร้านค้าทั่วไปของคุณยายริก้า

เมื่อสะสางทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จึงทำให้เย่ฉางไม่มีอะไรทำ เขาจึงตัดสินใจไปเดินเล่น รอบๆเมือง อันดับแรกคือเขามองหาบ้านประมูลระดับไฮเอนด์ของเมืองไวท์สโตน ซึ่งจะมีการจัดงานประมูลในช่วงดึก การประมูลเหล่านี้มักจะมีสิ่งที่ดีๆ … ดังนั้นเขาจึงต้องการไปตรวจสอบดูเสียหน่อย แต่จู่ๆเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง “น้องชาย Pale Snow ฉันรู้ว่านายเพิ่งได้รับอะไรดีๆมา …”

เย่ฉางหันมาและยิ้ม เมื่อเห็นว่าคนๆนั้นเป็นใคร “พี่ชาย CloudDragon ไม่ได้เจอกันนานนะ…”