ตอนที่ 281 เจอเครื่องประดับเงินแล้ว + ตอนที่ 282 ตบอีกสองฉาด โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 281 เจอเครื่องประดับเงินแล้ว
“เหมยเหมยหยุดโวยวายได้แล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้!” อู่เจิ้งซือตวาดเสียงต่ำ อู่เหมยค้นหาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ทำให้เขาไม่สบายใจจริงๆ
อู่เหมยร้อนใจอยู่ในใจเงียบๆ อู่เยวี่ยเอาเครื่องประดับเงินไปซ่อนไว้ที่ไหนกันแน่ คงจะไม่โยนออกไปข้างนอกหรอกนะ?
แค่เสียดายที่ฉิวฉิวไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าอู่เจิ้งซือได้ ถ้าไม่อย่างนั้นคงให้ฉิวฉิวช่วยหา ไม่นานต้องหาเจอแน่นอน อู่เหมยบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ เธอหวนคิดอย่างช้าๆ ของต้องอยู่ในห้อง ซึ่งเป็นที่ลับตามากแน่ๆ ที่นั่นต้องมีเพียงอู่เยวี่ยคนเดียวเท่านั้นที่รู้ หากไม่อย่างนั้น เธอคงไม่นิ่งสงบได้ขนาดนี้
อู่เหมยไม่สนใจอู่เจิ้งซือ หัวสมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว หวนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้ว ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน
เหอปี้อวิ๋นเห็นอู่เหมยท่าทางเช่นนี้ เธอก็เริ่มยุยงให้ทะเลาะกัน “เหล่าอู่ คุณดูสิ ฉันพูดไว้ไม่มีผิด ตอนนี้แม้แต่คำพูดของคุณ ยายตัวดีนี่ก็ไม่ฟังแล้ว นี่เธอปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ!”
อู่เจิ้งซือโมโหขีดสุด จึงตะโกนเรียกอู่เหมยอีกครั้ง อู่เหมยยังคงไม่โต้ตอบ เหอปี้อวิ๋นก็ยุยงไม่หยุด อู่เจิ้งซือโกรธจนจะเข้าไปในห้องลากอู่เหมยออกมา ขณะที่เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยเผยรอยยิ้มที่พอใจออกมาพร้อมกันทั้งคู่
หากเพียงอู่เจิ้งซือได้ตบอู่เหมยสักสองฉาดก็คงจะดี!
อู่เหมยเกิดความคิดแวบขึ้นมาในหัว ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ในชาติก่อนมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ตอนนั้นเธออายุสิบห้าปี จู่ๆ ในบ้านมีหนูหลายตัว ทั้งผ้าห่มและเสื้อผ้าถูกกัดขาดหมด กระเป๋าเงินของเหอปี้อวิ๋นก็ถูกหนูคาบไป เหตุการณ์ครั้งนั้นแย่มาก เหอปี้อวิ๋นโมโหสุดขีด ในบ้านฉีดพ่นยาไล่หนูเยอะมาก ก็เงียบสงบลงไปเยอะ
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ในบ้านก็เริ่มส่งกลิ่นเหม็น กลิ่นของเนื้อเน่าคละคลุ้งมาก โดยเฉพาะห้องนอนของเธอกับอู่เยวี่ย จนทั้งคู่อยู่ต่อไปไม่ได้ ครั้นแล้วในบ้านจึงได้เริ่มทำความสะอาดครั้งใหญ่ ย้ายสิ่งของในห้องของพวกเธอออกมาจนหมด ในที่สุดถึงได้พบแหล่งที่มาของกลิ่นเหม็นเน่า รูผนังที่อัดแน่นไปด้วยหนูเน่าสามตัว เน่าจนหนอนขึ้น
รูผนังนั้นอู่เยวี่ยเป็นคนหาเจอ เพราะว่ารูนั้นอยู่ด้านล่างเตียงของเธอ
อู่เหมยโล่งอกขึ้นมาทันที
บางทีตอนนี้อู่เยวี่ยก็อาจจะพบรูผนังนั่นแล้ว!
เธอรีบไปขยับเตียงของอู่เยวี่ยพร้อมกับกัดฟัน แอบสังเกตสีหน้าของอู่เยวี่ย กลับเห็นสายตาแพรวพราวไม่หยุด นิ้วมือก็เกี่ยวพันกัน ใจเธอหล่นวูบ ขยับเตียงออกอย่างเร่งรีบ เมื่อพบว่ามีหนังสือพิมพ์แผ่นหนึ่งน่าจะเพิ่งโปะลงไปใหม่ๆ เธอก็ยิ่งมั่นใจ
“พี่สาวซ่อนของเก่งจริงๆ ก็ไม่รู้นะว่าไปเรียนมาจากไหน” อู่เหมยหัวเราะอย่างเย็นชา
มืออู่เยวี่ยยิ่งเกี่ยวกันแน่น “เหมยเหมยเธออย่าใส่ร้ายคนอื่นสิ พี่ซ่อนของอะไร?”
“ฮึ! เรื่องมาถึงตัวแล้วยังจะปากแข็งอีก!”
อู่เหมยฉีกกระดาษหนังสือใหม่ออก ทันใดนั้นก็ปรากฏรูผนังกว้างประมาณปากถ้วย เธอล้วงมือเข้าไปในรูดำ ในนั้นค่อนขว้างกว้าง เธอคลำไปมา ก็คลำโดนถุงผ้าแข็งๆ แล้วก็ดึงออกมาทันที
“ขอให้พี่สาวช่วยอธิบายสักหน่อย เครื่องประดับสามชิ้นนี้มันคืออะไรกัน?”
ทันทีที่เปิดถุงผ้าออก เครื่องประดับเงินที่เปล่งประกาย สะท้อนสายตาทุกคน อู่เยวี่ยใจหล่นวูบ หน้าถอดสี ทว่าเธอรู้ว่า เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด ตราบใดที่เธอยืนกรานไม่ยอมรับก็เป็นอันสำเร็จ
อู่เยวี่ยที่พอคิดได้ ก็สงบอารมณ์ทันที ทั้งยังยิ้มออกมาแล้วกล่าว “พี่จะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องประดับเงินเหล่านี้? แล้วมาอยู่ใต้เตียงพี่ได้ยังไง เธอจะให้พี่อธิบายยังไงเหรอ?”
อู่เหมยคิดไม่ถึงว่าอู่เยวี่ยเห็นโลงศพแล้วยังไม่หลั่งน้ำตา โกรธมากแต่ยิ้ม “ความสามารถในการพูดจาโกหก ปั้นน้ำเป็นตัวของพี่เก่งขึ้นเรื่อยๆ นะ อย่างที่พี่พูด เครื่องประดับเงินเหล่านี้คงมีขางอกออกมาแล้วมาอยู่ที่นี่เอง?”
สีหน้าของอู่เยวี่ยยังคงเหมือนเดิม กล่าวเสียงเรียบ “จะยังไงก็ช่าง พี่ไม่รู้ว่าเครื่องประดับเงินเหล่านี้มาได้ยังไงเหมือนกัน บางทีเหมยเหมยจงใจเอามาวางไว้นี่หรือเปล่า?”
…………………………………………………………………………………..
ตอนที่ 282 ตบอีกสองฉาด
“เยวี่ยเยวี่ยพูดถูก ต้องเป็นยายตัวดีนี่จงใจเอามาวางไว้ที่นี่ อยากจะปั้นเรื่องใส่ร้ายพี่สาว แกมันจิตใจไม่ปกติตั้งแต่เด็กแล้ว”
เหอปี้อวิ๋นไม่เชื่อว่าลูกสาวสุดรักจะก่อเรื่องลักเล็กขโมยน้อยได้ อู่เหมยใส่ความเยวี่ยเยวี่ยแน่นอน ช่วงนี้ยายตัวดีนี่มีอู่เจิ้งซือคอยปกป้อง นับวันยิ่งกล้ามากขึ้น
อู่เหมยไม่โกรธ กล่าวอย่างช้าๆ “ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไรก็ตาม ต้องมีหลักฐาน แม่ไม่มีหลักฐานก็อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า”
“ฉันจะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง? แกว่าพี่สาวขโมยของ แล้วแกมีหลักฐานไหม?” เหอปี้อวิ๋นตวาด
อู่เหมยยิ้ม “หนูมีหลักฐานอยู่แล้ว ตอนที่สยงมู่มู่มาตามหนู เครื่องประดับเงินนี้ยังอยู่กับหนู สยงมู่มู่ เขาก็เห็น และยังมีภาพวาดนั้นอีก ตอนที่หนูกับสยงมู่มู่ออกไป เครื่องประดับเงินกับภาพวาดอยู่ในลิ้นชักห้องนอนของหนู ตอนนั้นพี่ก็อยู่ในห้องนอนของพี่ตลอด หนูหายตัวได้รึไง? หรือว่าพี่สาวหูหนวก ตาบอด?”
อู่เยวี่ยรู้สึกหนักอึ้งอีกครั้ง จู่ๆนังโง่นี่ก็มีหลักการขึ้นมาได้อย่างไร?
ไม่ได้ ไม่ว่าอู่เหมยจะพูดอย่างไร เธอก็จะยอมรับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แค่เธอยืนกรานว่าไม่ได้เอาไป พ่อก็จะตำหนิเธอไม่ได้
เหอปี้อวิ๋นยังอยากจะด่าอู่เหมย อู่เจิ้งซือที่สีหน้าดูแย่ผิดปกติแอบจ้องเธอด้วยสายตาที่ดุร้าย เหอปี้อวิ๋นหุบปากอย่างเชื่อฟัง เธอเสียวสันหลังวาบที่ด้านหลัง ภายในใจรู้สึกกังวลใจ
“เผียะ”
เกิดเสียงดังชัดอีกครั้ง อู่เหมยกะพริบตาปริบๆ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ให้ตายเถอะ คนที่ขโมยของไปคืออู่เยวี่ย อู่เจิ้งซือตบเหอปี้อวิ๋นทำไม?
แน่นอนอยู่แล้ว ตบเหอปี้อวิ๋นเธอก็รู้สึกเบิกบานใจมาก แต่หากตบอู่เยวี่ย เธอก็ยิ่งสะใจ
“เธอดูลูกสาวแสนดีที่เธอเลี้ยงมาสิ ลักเล็กขโมยแล้วยังพูดปดจนเป็นนิสัย ช่างขายขี้หน้านัก!” อู่เจิ้งซือพูดพร้อมกัดฟันกรอดๆ
ตอนที่อู่เหมยเจอรูผนังนั่น เขาก็รู้แล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น อู่เหมยมีสยงมู่มู่กับเหยียนหมิงซุ่นเป็นพยาน จะโกหกได้อย่างไร?
มีเพียงอู่เยวี่ยเท่านั้นที่พูดโกหก!
เดิมทีเจิ้งซือยังคิดว่าอู่เยวี่ยจะยอมรับผิดเอง ใครจะไปคิดว่าลูกสาวคนโตที่เขาเฝ้าฝากความหวังไว้ คาดไม่ถึงว่าจะหน้าด้านทำผิดจนเป็นนิสัย ความสามารถในการปั้นน้ำเป็นตัวของเธอเก่งเสียยิ่งกว่านิสัยขี้ขโมยหลายเท่า หากเขาไม่ได้ยินที่สยงมู่มู่พูดที่บ้านสยงมาก่อน อาจเป็นไปได้ที่จะถูกอู่เยวี่ยหลอกจริงๆ
สิ่งนี้ทำให้อู่เจิ้งซือโมโหเป็นพิเศษ สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือ คนที่ลักเล็กขโมยน้อย
ถ้าเป็นนักเรียนของเขามีความประพฤติแย่อย่างนี้ แม้แต่จะมองหน้าตรงๆ คงจะมองไม่ลงเด็ดขาด แต่ตอนนี้หัวขโมยกลับเป็นลูกสาวที่เขาให้กำเนิด ยิ่งทำให้เขาผิดหวัง
“เผียะ”
อู่เจิ้งซือเดินไปหยุดตรงหน้าอู่เยวี่ยที่ตะลึงงัน และตบเธอหนึ่งฉาดเช่นกัน เห็นอู่เหมยแอบเบิกบานใจ เธอประทับใจต่ออู่เจิ้งซือมากมาย อู่เจิ้งซือที่อยู่ในช่วงเวลานี้ มุมมองและทัศนคติตรงไปตรงมามาก ถูกใจเธอจริงๆ
“เหล่าอู่ คุณตบเยวี่ยเยวี่ยทำไม? คุณยังตรวจสอบเรื่องราวไม่ชัดเจนเลยก็ตีลูกแล้ว ทำไมคุณถึงใจร้ายอย่างนี้?”
เหอปี้อวิ๋นปวดร้าวใจดั่งถูกมีดกรีด รีบขึ้นมาปกป้องอู่เยวี่ย เธอยังไม่เชื่อว่าอู่เยวี่ยขโมยของ เพียงแต่ยืนยันว่าอู่เหมยยัดเยียดโยนความผิดให้อย่างแน่นอน ยายตัวดีนี่ทำให้อู่เจิ้งซือเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนหัวตาพร่ามัว ตั้งใจแค่จะปกป้องยายตัวดีนี่ แล้วพยายามเหยียบย่ำเธอกับเยวี่ยเยวี่ยสองแม่ลูกอย่างสุดขีด
อู่เจิ้งซือเห็นเหอปี้อวิ๋นถึงตอนนี้ยังจะปกป้องอู่เยวี่ย ก็ยิ่งโมโหมากขึ้น ผลักเหอปี้อวิ๋นออกอย่างแรง มองอู่เยวี่ยที่น้ำตานองหน้าอย่างเย็นชา พูดช้าๆ ทีละประโยค “ตั้งแต่นี้ต่อไป พ่อจะหักเงินค่าขนมครึ่งหนึ่ง และลูกต้องซักเสื้อผ้าเอง แล้วการล้างจานก็เป็นหน้าที่ของลูก”
เขาก็หันหน้าไปทางเหอปี้อวิ๋น พูดน้ำเสียงที่เย็นชายิ่งกว่า “หากผมจับได้ว่า คุณให้เงินค่าขนมอู่เยวี่ยเพิ่ม หรือช่วยเธอทำงานบ้าน คุณก็ไสหัวกลับบ้านแม่ของคุณไปเลย ไม่ต้องกลับมาอีก”
………………………………………………………………………….