ตอนที่ 500 พบหินขาวอีกครั้ง (2)
ในขณะที่ทังสเตนนั้นเป็นโลหะที่ทนทานมาก พลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณกระบี่นั้นก็เป็นอะไรที่แม้แต่อาวุธเซียนหรือเซียนสวรรค์ก็ไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นพลังงานดั้งเดิมจึงแทงทะลุเข้าไปในทังสเตนได้โดยง่าย
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่เจี้ยนเฉินก็รู้สึกถึงแรงต้านที่รุนแรงที่ออกมาจากทังสเตน ในขณะที่มันพยายามที่จะต่อต้านพลังงานดั้งเดิม ทำให้เจี้ยนเฉินแน่ใจว่าหากเขาไม่ใช้พลังงานดั้งเดิมล่ะก็ เขาก็คงไม่มีโอกาสที่จะทำลายประตูให้เปิดออกมาได้
ทังสเตนนั้นหายากอย่างเหลือเชื่อบนทวีปเทียนหยวนด้วยราคาที่สูงลิบ ดังนั้น เจี้ยนเฉินจึงเกือบไม่อยากที่จะทำลายทังสเตน แทนที่กันเขาใช้พลังงานดั้งเดิมในการตัดกรอบประตูเพื่อไม่ให้ประตูได้รับความเสียหาย และพวกเขาก็ยังสามารถเข้าไปในคลังสมบัติได้อยู่
“ปัง ! ” เสียงระเบิดดังออกมา ในขณะที่ประตูล้มลงบนพื้น ในตอนนี้เอง ทุกคนก็จ้องมองด้วยความตกใจ เมื่อพวกเขารู้ว่าความหนาของประตูนั้นหนาเกือบสองในสามของเมตรเลยทีเดียว
“สวรรค์ ถ้าประตูทังสเตนหนาขนาดนี้ มันน่าจะหนักอย่างน้อย 1,500 ร้อยกิโลกรัมนะ!” คาร์เฟอร์นิ่งอึ้งไป ทังสเตนหนักขนาดนี้มีค่าประมาณ 150,000 เหรียญม่วง แค่ประตูบานเดียวก็มีค่ามากขนาดนี้
“อาณาจักรอินทรีสวรรค์ค่อนข้างมั่งคั่งจริง ๆ ” ฉินหวู่หมิงถอนหายใจอย่างอิจฉา
เจี้ยนเฉินเอาอาวุธพลังงานดั้งเดิมออกมาจากกรอบประตูที่เสริมเหล็ก เหลือทิ้งไว้เพียงก้อนทังสเตนเท่านั้น ก้อนทังสเตนนี้ดูเหมือนเสามากกว่าที่จะเป็นประตู มันสูง 2 เมตร กว้าง 1 เมตร และหนาสองในสามเมตร
“ข้าไม่คิดว่าอาณาจักรอินทรีสวรรค์จะไม่มีอะไรที่มีค่ามากกว่านี้แล้วหลังจากที่ข้าเข้าไปในคลังสมบัติ” เจี้ยนเฉินหัวเราะคิกคัก ในขณะที่เขามองไปที่ประตู เขายกมันขึ้นมาช้า ๆ เส้นเลือดที่แขนของเขาปูดขึ้นมาจากการใช้แรง ในขณะที่เขายกประตูทังสเตนขึ้นมากลางอากาศ ด้วยน้ำหนักของมันที่มีมากถึงเกือบ 1,500 กิโลกรัม ขาของเจี้ยนเฉินจึงจมลงไปในดินเล็กน้อย
“ช่างแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ ! “
เมื่อได้เห็นเจี้ยนเฉินยกประตูทังสเตนที่แข็งแกร่งขึ้นมา ทุกคนก็ร้องออกมา พละกำลังของเจี้ยนเฉินนั้นน่าเหลือเชื่อ
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ได้ดูกำยำและดูเปราะบาง อ่อนแอ แต่พลังบรรพกาลก็เสริมพลังให้ร่างของเขา ดงันั้นเขาจึงแข็งแกร่งมากกว่าปกติหลายเท่า กล้ามเนื้อของเขาใหญ่ขึ้นและเขาสามารถสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้อย่างสูสีในด้านพละกำลังอย่างเดียว ด้วยการที่กล้ามเนื้อของเจี้ยนเฉินเพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน การยกอะไรที่มีน้ำหนักขนาดนี้จึงไม่ใช่อะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา
เจี้ยนเฉินวางประตูกลับลงไปที่พื้น ทำให้พื้นสั่นพร้อมกับเกิดเสียงดังเหมือนระเบิดในขณะที่ประตูกระทบกับพื้น
“พวกเราประเมินความมั่งคั่งของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ต่ำไป พวกเราทุกคนไม่คาดว่าพวกเขาจะมีทังสเตนปริมาณขนาดนี้ ประตูนี้ไม่ได้หนัก 1,500 กิโลกรัม ข้าประเมินว่าจริง ๆ แล้วมันน่าจะหนักประมาณ 2,500 กิโลกรัม” เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างมีความสุข เจี้ยนเฉินมีความสุขเพราะนี่เป็นทังสเตนที่มีค่าจำนวนมาก
เมื่อได้ยินว่ามันมีน้ำหนักประมาณ 2,500 กิโลกรัม ทุกคนก็ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
ในตอนนี้ประตูของคลังสมบัติก็ได้ถูกเปิดออกมาแล้ว เจี้ยนเฉินและที่เหลือก็เดินเข้าไปในคลังสมบัติ
คลังสมบัติของอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกนั้นใหญ่มาก พร้อมทั้งมีเข็มขัดมิติวางอยู่อย่างเป็นระเบียบโดยที่มีสัญลักษณ์ด้านบนบอกว่าอะไรอยู่ในเข็มขัดมิติ ทั่วทั่งชั้นแรกส่วนใหญ่เหมือนจะมีเสบียงทหารและเกราะชั้นยอด
พระราชาของอาณาจักรเกอซุนเข้าไปใกล้หนึ่งในเข็มขัดมิติที่ใกล้ที่สุดและเอาเกราะสีดำชุดหนึ่งออกมาจากมัน ตาของเขาเป็นประกายและเขาก็ร้องออกมา “เกราะนี้ทำมาจากทังสเตน ! พวกอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีทังสเตนมากมายขนาดไหนกันนะ ? “
เมื่อได้ดังนั้น เจี้ยนเฉินก็เดินเข้าไปที่เข็มขัดมิติและเอาชุดเกราะออกมาเช่นกัน น่าประหลาดใจที่ชุดเกราะนี้ก็ทำมาจากทังสเตนด้วยเช่นกัน ชุดเกราะที่ทำมาจากทังสเตนนั้นบางมาก มันมีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัมและมีความสามารถในการป้องกันมากกว่าเกราะที่ทำมาจากเหล็กเสริมเกร่งนัก ถ้าทหารสวมใส่เกราะนี้ มันจะเพิ่มความสามารถในการต่อสู้และโอกาสในการรอดชีวิตของพวกเขาได้มาก เพราะว่าน้ำหนักที่เบาของเกราะทังสเตน น้ำหนักที่เป็นภาระของทหารจึงลดลงอย่างมาก
พระราชาตบไปที่เกราะทังสเตนแล้วถอนหายใจ “เกราะนี้ค่อนข้างยอดมาก ไม่เพียงแต่มันจะเบาเท่านั้น แต่การป้องกันของมันนั้นยังมากกว่าเกราะดำที่กองทัพชุดเกราะดำของข้าใส่หลายเท่า”
เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อยในขณะที่เขาฟัง “ฝ่าบาท พวกเราอาจจะให้เกราะพวกนี้เพื่อให้กองทัพชุดเกราะดำใส่ก็ได้ พวกเขาเป็นทหารชั้นดีของอาณาจักรเกอซุน ดังนั้น พวกเราจึงต้องเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาให้ดีที่สุด”
พระราชาอดไม่ได้ที่จะซ่อนความยินดีบนใบหน้าเอาไว้ แต่ในตอนที่เขาเห็นฉินหวู่หมิงที่ยืนอยู่ถัดจากเขา เขาก็ค่อนข้างอาย นั่นคงจะมากไป การบุกรุกอาณาจักรอินทรีสวรรค์ทั้งหมดเนื่องมาจากความร่วมมือของอาณาจักรฉินหวง เกราะพวกนี้ควรจะเป็นของพวกเขามากกว่า
ฉินหวู่หมิงหัวเราะ “แม้ว่าทังสเตนจะมีค่ามาก แต่มันก็ไม่ค่อยมีประโยชน์กับอาณาจักรฉินหวงหรอก หน่วยชั้นดีทั้งห้าของอาณาจักรฉินหวงนั้นไม่ได้ใช้ทังสเตน แต่ความแตกต่างของมันก็ไม่ได้มากนัก นอกเหนือไปจากนั้น พวกเราจำเป็นต้องมี 10 ล้านชุดเพื่อที่จะให้ทุกคนได้สวมใส่ นอกเหนือไปจากนั้น อาณาจักรฉินหวงของพวกเราก็ยังมีเกราะที่มีระดับสูงกว่าทังสเตน ดังนั้นพวกเราจึงใช้ประโยชน์พวกมันไม่ได้มากหรอก”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอรับเกราะนี้เพื่อให้กับกองทัพชุดเกราะดำของข้าละกัน” พระราชาของอาณาจักรเกอซุนไม่ได้โต้แย้งและเอาเกราะไปอย่างพึงพอใจ
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินให้ทหารหลายคนของกองทัพเทพดาบตะวันออกช่วยเขารวบรวมเข็มขัดมิติส่วนมากเอาไว้ มีชุดเกราะทังสเตนทั้งหมด 300 ชุดด้วยกัน แต่ละชุดมีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม เท่ากับทังสเตนทั้งหมด 1,500 กิโลกรัม ในการเดินทางมาที่คลังสมบัติครั้งนี้ ปริมาณทังสเตนที่พวกเขาได้มานั้นค่อนข้างมากทีเดียว
นอกเหนือไปจากเกราะที่ทำมาจากทังสเตน ก็ไม่มีอะไรในชั้นแรกที่เตะตาเจี้ยนเฉินเลย ดังนั้น เจี้ยนเฉินจึงนำกลุ่มไปยังชั้นที่สอง
ชั้นที่สองส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยเงินและแกนอสูร มันถูกแบ่งอยู่ในเข็มขัดมิติหลายร้อยอัน เจี้ยนเฉินไม่ได้ยุ่งกับพวกมัน เขาให้กองทัพเทพดาบตะวันออกเก็บพวกมันไว้ในเข็ดขัดมิติของพวกเขา เขาเดินต่อไปยังชั้นที่สาม
ชั้นที่สามนั้นค่อนข้างแตกต่างจากสองชั้นแรก สมบัติทุกประเภทถูกเก็บอยู่ที่นี่ สิ่งของแปลก ๆ ถูกเก็บอยู่รอบ ๆ และไม่มีหมวดหมู่ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือมันค่อนข้างมีราคาแพง
ทันใดนั้นเอง ในตอนที่เจี้ยนเฉินเข้ามาถึงชั้นที่สาม ทั้งจือหยิงและฉิงโซวก็พูดขึ้นมาในใจของเจี้ยนเฉิน
“ฮาวไลท์อยู่ที่นี่ ! “
“ฮาวไลท์ ! มีฮาวไลท์อันหนึ่งอยู่ที่นี่ ! นายท่าน นายท่าน ไปเอาฮาวไลท์มาเร็ว ! “
จือหยิงและฉิงโซวตื่นเต้นมาก และดูเหมือนว่าพวกเขาอดทนรอไม่ไหว
เสียงที่เกิดขึ้นกะทันหันในหัวของเจี้ยนเฉินทำให้เขาอ้ำอึ้งไปสักพัก จิตวิญญาณกระบี่สีม่วงและสีฟ้านั้นพูดกับเจี้ยนเฉินน้อยครั้งมาก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าพวกนั้นจะพูดขึ้นมาในตอนนี้
“ฮาวไลท์ ? มันคืออะไรกัน ? ” เจี้ยนเฉินคิดอย่างสับสน หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยนเฉินก็รู้สึกถึงสัมผัสแปลก ๆ ในหัว ทำให้เขากันไปที่หนึ่งในมุมห้องคลังสมบัติ
ทั้งหมดที่เขาเห็นทีเพียงหินสีขาวชิ้นหนึ่งตั้งอยู่บนสุดของโต๊ะ หินนี้ดูไม่มีอะไรสำคัญทำให้มันดูธรรมดามาก ในแว่บแรก ใครก็คงคิดว่ามันไม่ต่างอะไรไปจากหินธรรมดา ถ้ามันถูกโยนเข้าไปในหินกองใหญ่ มันก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นเลย
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายเพราะเขาจำได้ ก่อนที่เขาจะไปที่โต๊ะนั้นอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่หินสีขาว และความทรงจำถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลายปีก่อนที่เมืองเวคก็แว่บเข้ามาในใจของเขา ในตอนนั้นที่เขายังไม่รู้ว่าแสงสองสีที่สว่างอยู่ในตันเถียนของเขาคือจิตวิญญาณกระบี่ แต่เขาก็สงสัยในหินสีขาวแทนว่ามันไม่ใช่หินธรรมดา เพราะสัมผัสแปลก ๆ ที่มาจากมันในตอนที่เขาเดินอยู่ที่ถนนนของเมืองเวค มันเป็นเพราะความสงสัยนี้ทำให้เขาซื้อหินสีขาวนี้มา
เจี้ยนเฉินไม่เคยคิดถึงหินขาวเลยในแหวนมิติของเขาเลย เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าหินขาวเอาไว้ทำอะไร เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าไม่ใช่เพราะเจี้ยนเฉินมาเจอหินก้อนที่สองและจิตวิญญาณกระบี่เอ่ยถึงมัน เจี้ยนเฉินก็คงลืมเรื่องที่เขาเคยซื้อมันมาครั้งหนึ่งแล้ว
หินสีขาววางอยู่บนสุดของโต๊ะเหล็ก เจี้ยนเฉินหยิบมันมาด้วยมือทั้งสอง ทันใดนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็ตกใจในน้ำหนักของหิน หินสีขาวขนาดเท่ากำปั้นนี้หนักเกือบ 500 กิโลกรัม ถ้าไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเขา มันก็คงยากที่เขาจะยกมันขึ้นมาจากโต๊ะได้
“จือหยิง ฉิงโซว หินสีขาวนี่มันคืออะไรกัน? ถ้ามันทำให้พวกเจ้าตื่นเต้นขนาดนี้ หมายความว่ามันเป็นสมบัติบางอย่างอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสอง คำถามนี้อยู่ในใจของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาซื้อหินขาวมาก ในตอนนั้น จิตวิญญาณกระบี่ไม่ได้สื่อสารในตัวเขา ดังงั้น เขาจึงไม่รู้เรื่องความแปลกและที่มาของหินสีขาวนี้
“นายท่าน ฮาวไลท์เป็นวัตถุดิบที่หายากมากที่ใช้ในการสกัดวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้สำหรับสิ่งประดิษฐ์ระดับสูง มันใช้ในการสร้างอาวุธ” จือหยิงพูดด้วยความยินดีมาก
“โอ้ ถ้างั้นนี่ก็เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างอาวุธอย่างนั้นหรือ?” เจี้ยนเฉินผิดหวังไปสักพัก “ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่ได้มีค่ามากอะไร ด้วยการที่จะคนบนทวีปเทียนหยวนนั้นใช้อาวุธเซียน มันจึงไม่มีความจำเป็นที่จะใช้อาวุธอื่นใดใด ไม่ว่ามันจะทำมาจากวัตถุดิบอะไร มันก็อ่อนแอต่อหน้าเซียนสวรรค์ และมันคงป้องกันอาวุธเซียนไม่ได้”
“นายท่าน ท่านประเมินสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ต่ำไป สิ่งประดิษฐ์นี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้ รอให้ท่านเข้าไปถึงขอบเขตนั้นก่อน ท่านจะเข้าใจความแข็งแกร่งของอาวุธมหัศจรรย์นี้” จือหยิงพูด
“ใช่แล้ว นายท่าน จือหยิงพูดไม่ผิด สิ่งประดิษฐ์นี้มหัศจรรย์มาก มันแข็งแกร่งกว่าอาวุธเซียนที่ท่านใช้มาก” ในครั้งนี้ ฉิงโซวพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะราวกับร้องเพลง
“มันวิเศษขนาดนั้นเลยหรือ ? ” ความสงสัยเกิดขึ้นมาในตัวเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งประดิษฐ์นี้คืออะไร แต่เขาก็เดาได้ว่ามันเป็นอีกทางที่ใช้เรียกอาวุธ