บทที่ 251 บรรยายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 251 บรรยายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์

หลังจากผ่านไป 2 เดือน ในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็เสร็จสิ้นการสร้างกระบี่ของจ้าวเหมิงลู่

เขาแทงกระบี่ลงบนพื้นดินอย่างไม่ใส่ใจในลานของจ้าวเหมิงลู่และพูดว่า “วัสดุที่ใช้จัดเป็นสมบัติสวรรค์ แต่เนื่องจากมันยังไม่มีกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ ดังนั้นจึงเป็นได้แค่ อาวุธระดับราชวง์ขั้นต่ำ แต่เมื่อเจ้าค่อย ๆ เลี้ยงดูมัน ในอนาคตมันสามารถกลายเป็นสมบัติระดับสวรรค์ที่สมบูรณ์ได้”

“ตอนนี้อย่าเพิ่งดึงมันออกมาและปล่อยให้มันยืมพลังของอักขระเวทย์ภายในคฤหาสน์เพื่อหล่อเลี้ยงตัวมันเอง และเจ้าควรสื่อสารกับมันทุกวันเพื่อเพิ่มความใกล้ชิดและมันจะช่วยเจ้าให้สั่งสมเจตจำนงแห่งกระบี่ของเจ้าเข้าไปในร่างได้ง่ายขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่เจ้าจำเป็นต้องใช้ เจ้าก็ค่อยดึงมันขึ้นมาจากพื้น เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะรู้ว่ากระบี่เล่มนี้ทรงพลังเพียงใดและเจ้าก็จะยังได้รู้ว่าเพลงกระบี่สองท่าที่ข้าสอนเจ้าทรงพลังแค่ไหน”

“ขอบคุณ สามี!” จ้าวเหมิงลู่กอดหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “สามีคืนนี้อยู่กับข้านะ เดี๋ยวข้าจะตอบแทนสามีที่ทนทุ่มเทพยายามทำงานหนักให้ข้า ข้ารับรองว่าคืนนี้ข้าจะปรนริบัติท่านเป็นอย่างดีเลยล่ะ”

นางรู้ว่าหลิงตู้ฉิงลำบากเพียงใดในการสร้างกระบี่ เพราะถ้าหากวัดจากการปรับแต่งรถม้าเมื่อก่อนหน้านี้มันใช้เวลาพอ ๆ กันเลยทีเดียว

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก แต่การสร้างมันต้องละเอียดสักหน่อยมันเลยใช้เวลาค่อนข้างเยอะ แต่น่าเสียดาย วัสดุระดับสวรรค์ที่ใช้สร้างกระบี่เล่มนี้มันถูกหล่อเลี้ยงโดยเจ้าของเก่าน้อยไปสักหน่อย ไม่เช่นนั้นกระบี่เล่มนี้คงจะกลายเป็นอาวุธระดับสวรรค์โดยสมบูรณ์ไปแล้ว”

*เจ้าของเก่า คือ หลู่หยุนตี๋

“อืม” จ้าวเหมิงลู่พยักหน้าและพยุงพาหลิงตู้ฉิงไปเข้านอน

วันถัดมา หลิงตู้ฉิงปรากฏตัวอีกครั้งในลานฝึกของคฤหาสน์สราญรมย์

ทันทีที่เขาปรากฏตัว หลิงยี่เทียนก็เดินมาข้างหน้าและถามว่า “ท่านพ่อ เมื่อครั้งล่าสุดท่านบอกว่าจะอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้พวกเราทุกคนฟังไม่ใช่เหรอ? แล้วตอนนี้ท่านว่างหรือยัง?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “อันที่จริงพ่อก็ยังมีบางอย่างที่ต้องทำอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรในเมื่อเจ้าพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ถ้างั้นพ่อจะอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้พวกเจ้าฟังกันก่อนก็แล้วกัน”

หลิงตู้ฉิงเองก็จำสัญญานี้ได้ แต่มันช่วยไม่ได้ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเวลาว่างเลยเนื่องจากเขามัวแต่ยุ่งเรื่องของจ้าวเหมิงลู่ทั้งการสร้างกระบี่และการถ่ายทอดเพลงกระบี่

และตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะมีอย่างอื่นให้ทำต่ออีกแต่ในเมื่อลูกของเขาได้มาทวงสัญญาแล้ว เขาจึงตั้งใจว่าจะทำเรื่องนี้ให้จบไปในวันนี้เลย

หลิงยี่เทียนพูดอย่างตื่นเต้น “ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกให้ทุกคนรู้โดยเร็ว! ท่านพ่อ ท่านรู้ไหม เมื่อตอนที่ทุกคนได้ยินว่าท่านรับปากจะสอนกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้กับทุกคน บรรดาคนอื่น ๆ ก็ดีใจกันมาก! แต่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี่ท่านไม่มีเวลาว่างเลย…”

หลิงตู้ฉิงโบกมือให้หลิงยี่เทียน บอกให้เขานั่งข้าง ๆ แล้วค่อย ๆ พูดกับเขาว่า “ที่พ่อจะอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้พวกเขาฟังเพราะพ่อกำลังจะเดินทางไกล พ่อกังวลว่าหลังจากที่จากไปแล้วจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเจ้าจะผ่านมันไปไม่ได้ ดังนั้นพ่อจะหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สัก 2-3 คนไว้ข้าง ๆ เจ้า นอกเหนือจากนั้น คฤหาสน์สราญรมย์ของเราจะอนุญาตให้สมาชิกในตระกูลอาศัยเท่านั้นและไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้ามา พ่อจะเสริมพลังแห่งกฎของคฤหาสน์เราให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์คนอื่น ๆ ที่เจ้าอาจจะต้องเผชิญในอนาคต ไม่กล้าที่จะก้าวเข้ามาอย่างผลีผลาม”

“ท่านพ่อ นี่ท่านกำลังจะออกเดินทางไกลงั้นเหรอ?” หลิงยี่เทียนถามขึ้นด้วยอาการตกตะลึง

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พ่อต้องไปที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ มีหลายสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพ่อและสำหรับเจ้า พ่อต้องไปหาพวกมัน แม้ว่าพวกเจ้าทุกคนจะมีความสามารถและได้เริ่มบ่มเพาะตามเส้นทางของตัวเอง แต่ด้วยความพิเศษของพวกเจ้า พวกเจ้าจึงจำเป็นจะต้องใช้สมบัติต่าง ๆ มากมายที่หาได้จากที่นั่นเพื่อช่วยในเส้นทางการบ่มเพาะของพวกเจ้า”

หลิงยี่เทียนครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะพูดว่า “ท่านพ่อไม่ต้องกังวลเรื่องทางนี้ ข้าจะให้ท่านปู่สามเป็นผู้นำกองทัพปกป้องที่นี่ ข้าจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครกล้ารบกวนความเงียบสงบของคฤหาสน์สราญรมย์ นอกจากนี้ข้าจะมอบทรัพยากรในการบ่มเพาะให้กองทัพของท่านปู่สามด้วย พวกเขาจะได้กลายเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุด”

*ปู่สาม คือ หลิงฉุยฟง

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและยิ้ม “เจ้าก็จงตัดสินใจเองเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ก็แล้วกัน แต่พ่อจะยังอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักพัก เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านความปลอดภัยของที่นี่ และเมื่อพ่อเตรียมความพร้อมจนเสร็จทุกอย่างพ่อถึงจะค่อยออกเดินทาง เอาล่ะ! ไปบอกข้ารับใช้ของเจ้ามาที่นี่ พ่อจะอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้พวกเขาฟัง”

“ท่านพ่อจะไม่ไปบรรยายที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์เหรอ?” หลิงยี่เทียนถามอย่างสงสัย

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “คนพวกนั้นยังไม่มีความเข้าใจในขอบเขตนภาเลยด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาจะมาเข้าใจอะไรในกฎแห่งขอบเขตสวรรค์? สิ่งที่พ่อกำลังจะบรรยายมันเหมาะสำหรับเหล่าข้ารับใช้ของเจ้า เยว่เฟิง พ่อบ้านโม่ และคนอื่น ๆ ที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตนภาเท่านั้น นอกจากนี้พ่อยังต้องใช้ความช่วยเหลือจากอักขระเวทย์ของคฤหาสน์สราญรมย์เพื่อที่จะสำแดงตัวอย่างของกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ มิฉะนั้นหากใช้ความแข็งแกร่งของพ่อเพียงอย่างเดียวมันจะไม่เพียงพอ”

หลิงยี่เทียนพยักหน้า เขาส่งคนไปแจ้งข้ารับใช้ของเขาให้มาที่คฤหาสน์สราญรมย์ทันที

สำหรับหลิงตู้ฉิง เขาเองก็เรียกโจวจื่อซินและเสี่ยวเยว่เฟิงมารอฟังบรรยาย

แน่นอนว่ายังมีกลุ่มพิเศษที่มาเช่นกัน พวกเขาก็คือหลิงฉุยฟงกับกองทหารของเขาอีก 750 คนและอู่หยุนจี๋

เนื่องจากทั้งสองกองทัพสามารถใช้กฎแห่งขอบเขตสวรรค์ได้ทั้งคู่ การฟังบรรยายในเรื่องนี้ย่อมเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามาก

ส่วนคนอื่น ๆ แม้ว่าพวกเขาต้องการฟัง แต่พวกเขาก็ถูกหลิงตู้ฉิงเชิญออกไป

หลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว หลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ พูดกับทุกคน “พวกเจ้าหลายคนเป็นผู้ที่อยู่ขอบเขตครึ่งสวรรค์ ซึ่งได้สัมผัสกับกฎแห่งขอบเขตสวรรค์มาบ้างแล้วหรือบางคนเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตนภาที่จะเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์สวรรค์ในไม่ช้า เหตุผลที่ข้าเรียกพวกเจ้าให้มารวมกันที่นี่ในวันนี้ก็เพราะ ข้าจะแสดงกฎแห่งขอบเขตสวรรค์เพื่อช่วยให้พวกเจ้าเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ได้ง่ายขึ้น”

“แต่เมื่อพวกเจ้าได้รับผลประโยชน์จากข้า เมื่อเวลาที่กำหนดในสัญญาให้เจ้าต้องเป็นคนรับใช้ของลูกข้าหมดลง พวกเจ้าจะจากไปหรือจะอยู่ต่อก็ได้ แต่ข้าขอเตือน หากข้าสามารถสอนบางอย่างให้พวกเจ้าได้ ข้าก็มีวิธีที่จะเอาพวกมันคืนได้ทั้งหมดหรือแม้แต่จะฆ่าพวกเจ้าทิ้งซะ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึม ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ

โดยพื้นฐานแล้วตอนนี้พวกเขาคือคนที่อยู่ในเรือลำเดียวกัน แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับพวกเขาในฐานะอาจารย์และศิษย์ แต่พวกเขาก็ต้องจดจำความเมตตานี้ให้ขึ้นใจ

เพราะแม้แต่ในสำนักของพวกเขา ก็ไม่มีใครยอมที่จะอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้คนอื่นเข้าใจได้ง่าย ๆ

เว้นแต่พวกเขาจะเป็นอาจารย์และศิษย์หรือผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักถ่ายทอดมันให้กับศิษย์รุนน้อง

ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงเตือนทุกคนแล้วเขาก็ค่อย ๆ พูดว่า “กฎแห่งขอบเขตสวรรค์คืออะไร? สิ่งที่เรียกว่ากฎแห่งขอบเขตสวรรค์คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ เข้าใจในวิถีพลังของสวรรค์ ซึ่งนับได้ว่าเล็กน้อยเป็นอย่างมากและยืมรูปแบบพลังของมันมาใช้เพื่อสร้าง ‘อาณาเขตสวรรค์’ ของตัวเอง ซึ่งนี่คือกฎแห่งขอบเขตสวรรค์”

“แต่ความเข้าใจในวิถีพลังของสวรรค์ของแต่ละคนก็มีหลายแบบ บางคนมีความเข้าใจกฎแห่งขอบเขตสวรรค์เพียงเรื่องเดียว ตัวอย่างเช่น เสี่ยวเยว่เฟิงซึ่งเป็นเผ่านกฟีนิกซ์แห่งภูเขาฟีนิกซ์ นางได้ค้นคว้าและเข้าใจกฎแห่งไฟอย่างสมบูรณ์และได้เข้าใจแก่นแท้ของเส้นทางแห่งมหาเพลิง”

“อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่ซับซ้อนกว่านั้น บางคนเมื่อศึกษากฎแห่งขอบเขตสวรรค์แล้ว พวกเขานำมันมาหลอมรวมเข้ากับร่างกายของตัวเองหรือหลอมรวมเข้ากับวิชาของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าคนประเภทนี้เมื่อใช้กฎแห่งขอบเขตสวรรค์ พลังของพวกเขาย่อมจะแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ มากเช่นกัน”

“แต่แบบไหนมีพลังมากกว่ากัน? คำตอบนั้นมันอยู่ที่การรับรู้และความเข้าใจที่มีต่อกฎแห่งขอบเขตสวรรค์และโลก ใครเข้าใจพวกมันได้ลึกซึ้งกว่าคนผู้นั้นย่อมจะแข็งแกร่งกว่า ฉะนั้นหากพวกเจ้าต้องการแข็งแกร่งกว่า พวกเจ้าควรเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับพวกเจ้าที่สุดและมุ่งตรงไปยังเส้นทางนั้นเพียงอย่างเดียว การเรียนรู้หลายกฎไปพร้อม ๆ กันมันเป็นประโยชน์ก็จริง แต่มันจะเป็นข้อได้เปรียบเป็นอย่างมากที่สุดก็เมื่อพวกเจ้าสามารถเข้ามันได้อย่างลึกซึ้งที่สุดในทุกกฎที่พวกเจ้าเรียนรู้ ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเจ้าเข้าใจอยู่สิบกฎ แต่เข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ และเมื่อเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจกฎเพียงกฎเดียวแต่อยู่ในระดับสูงสุด พวกเจ้าจะต้องพ่ายแพ่อย่างย่อยยับ!”

“ตอนนี้ข้าจะสาธิตกฎแรกแห่งเก้าสวรรค์ให้กับพวกเจ้าได้ชม นั่นคือ‘สวรรค์สามัญ’ ”

“สวรรค์สามัญ คือชื่อเรียกของผู้ที่ผ่านขอบเขตนภาและสร้าง ‘อาณาเขตสวรรค์’ ของตัวเองได้ด้วยกฎแห่งขอบแขตสวรรค์ ซึ่งคนเหล่านี้ยังคงอยู่ในระดับแรกของการปรับแต่งร่างของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมที่จะบอกลาชีวิตความเป็นมนุษย์ธรรมดา”

“กฎแห่งขอบเขตสวรรค์สามัญมีอยู่จริงในชีวิตของคนทั่วไปและสามารถมองเห็นและสัมผัสได้…”

ขณะที่หลิงตู้ฉิงพูด อำนาจแห่งกฎต่าง ๆ ก็ปะทุขึ้นบนฝ่ามือของเขา

ในขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ให้ทุกคนฟังอย่างช้า ๆ

เขาก็ใช้อักขระเวทย์ภายในคฤหาสน์สราญรมย์แสดงให้เห็นถึงกฎแห่งขอบเขตสวรรค์และโลกต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดเพลิงไหม้ กฎแห่งเพลิงก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจนทุกคนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ทุกคนค่อย ๆ ปิดตาและตั้งใจฟังเสียงของหลิงตู้ฉิง พวกเขาใช้ประสาทสัมผัสจดจ่อกับกฎที่หลิงตู้ฉิงกำลังสำแดง

ในตอนท้ายหลิงตู้ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ช่วยงานลูกชายของข้าให้ดี สำหรับผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นข้าจะแสดงกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ระดับที่สองให้กับคนผู้นั้นเห็น”