เมื่อเห็นเฉินโม่ยื่นมือออกมา จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย ยิ้มด้วยความขมขื่นและกล่าวว่า “เฉินโม่ นายอย่าขวางฉัน!”

เฉินโม่มองเขาด้วยสีหน้าราบเรียบ “นายน่าจะเข้าใจ ถึงแม้นายจะขอร้องเธอ แต่เธอก็ไม่ช่วยนายหรอก แล้วทำไมนายต้องหลอกตนเองด้วย?”

จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกจำใจ และถอนหายใจ มองเฉินโม่ด้วยสายตาหนักแน่น “ฉันเคยพูดแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีความหวังเพียงเล็กน้อย แต่ฉันก็จะพยายาม!”

“เฉินโม่ อย่าขวางฉัน!”

มือของเฉินโม่ยังคงขวางอยู่หน้าจี๋ต๋าจิ่วตู และกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบว่า “พึ่งคนอื่นไม่สู้พึ่งตนเอง ถ้านายอยากจะช่วยเธอ นายก็ต้องลงมือเองจัดการเอง!”

จี๋ต๋าจิ่วตูขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเฉินโม่และถามด้วยความไม่มั่นใจว่า “นายหมายความว่าจะให้ฉันไปหาประธานหลี่?”

“แล้วทำไมจะไปไม่ได้ล่ะ?” เฉินโม่ถามกลับ

“ฮ่า ๆ ๆ ช่างน่าขำสิ้นดี!” หลิ่วอี้เฟยหัวเราะเสียงดัง มองเฉินโม่ด้วยสายตาเหยียดหยาม “เจ้าหนู แกคิดว่าตนเองเป็นใคร? แล้วทำไมประธานหลี่ต้องฟังแกด้วย!”

คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองเฉินโม่ด้วยสายตาเหยียดหยาม

“เจ้าเด็กคนนี้ คิดว่าประธานหลี่เป็นใคร? นักศึกษาที่ยากจนอย่างพวกเขา อยากจะเจอประธานหลี่ ก็จะสามารถเจอได้เหรอ?!”

“ประธานหวาง คุณไม่รู้หรือว่าเด็กสมัยนี้ เป็นคนที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ? สำหรับพวกเขาแล้ว เทพเจ้าเป็นอันดับหนึ่ง แล้วพวกเขาก็เป็นอันดับสอง!”

“ถูกต้อง ต้องให้พวกเขาได้รับบทเรียนบ้าง และทำให้พวกเขารู้ว่าตนเองมีความสามารถแค่ไหน!”

เฉินโม่ไม่สนใจคำพูดถากถางของคนที่อยู่รอบ ๆ ยังคงมองจี๋ต๋าจิ่วตูด้วยสีหน้าราบเรียบและกล่าวว่า “ถ้าอยากได้สิ่งที่ต้องการ ต้องพยายามด้วยตนเอง เพื่อทำให้มันกลายเป็นความจริง ถ้าฝากชีวิตของตนเองไว้กับคนอื่น นายจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่ต้องการ”

“เชื่อในตนเอง นายทำได้!”

เฉินโม่ไม่ได้เกลี้ยกล่อมจี๋ต๋าจิ่วตู แต่กำลังปลูกฝังนิสัยให้จี๋ต๋าจิ่วตู เพื่อให้เขาเป็นคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความยากลำบากง่าย ๆ และไม่ทำเหมือนตอนนี้ ที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีและความเป็นคนของตนเองเพื่อบางอย่าง

เมื่อคนเสียศักดิ์ศรีไปแล้ว ก็จะกู้คืนได้ยาก เขาไม่อยากให้เหตุการณ์วันนี้กลายเป็นรอยด่างในชีวิตของจี๋ต๋าจิ่วตู

ต่อไปถึงแม้ว่าจี๋ต๋าจิ่วตูจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่เหตุการณ์วันนี้จะเป็นความขมขื่นที่อยู่ในใจของเขา

จี๋ต๋าจิ่วตูมองเฉินโม่ สีหน้าของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ความเศร้าและความสิ้นหวังค่อย ๆ หายไป และเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหนักแน่น

ห่าวเจี้ยนและคนอื่น ๆ กล่าวโน้มน้าวว่า “ไอ้อ้วน เฉินโม่พูดถูก ต้องการอะไร ต้องอาศัยความพยายามของตนเอง ไม่ใช่ประจบคนอื่น ลุกขึ้นยืนหยัดสู้ ไปหาประธานหลี่ด้วยตนเองและถามให้ชัดเจน พวกเราจะเป็นกองหนุนที่มั่นคงของนาย!”

กู่หลินเฟิงและเหวินถิงอี้พยักหน้าเช่นกัน

ในที่สุดจี๋ต๋าจิ่วตูก็ไม่ลังเลอีกต่อไป จากนั้นเขาพยักหน้า มองเฉินโม่และกล่าวว่า “เฉินโม่ ขอบคุณ! นายพูดถูก ฉันไม่ควรฝากความหวังไว้ที่คนอื่น ฉันควรพยายามด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะไม่สำเร็จ ฉันก็จะไม่เสียใจภายหลัง!”

“จิ่วตู นายน่าจะคิดแบบนี้ตั้งแต่แรก นี่ถึงจะเป็นจิ่วตูที่ฉันรู้จัก!” หยางบี้ถิงกล่าวด้วยความดีใจ

จี๋ต๋าจิ่วตูมองหยางบี้ถิงและกล่าวด้วยสีหน้าหนักแน่นว่า “เสี่ยวถิง พวกเราพยายามด้วยกันเถอะ พวกเราจะเผชิญทุกอย่างด้วยกัน!”

“ค่ะ!” หยางบี้ถิงพยักหน้า แต่ดวงตากลับมีร่องรอยความหมองหม่น เพราะบางอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด

อย่างไรก็ตาม การที่สามารถเลี่ยงไม่ให้หลิ่วอี้เฟยทำให้จี๋ต๋าจิ่วตูอับอายขายหน้า หยางบี้ถิงก็รู้สึกพอใจแล้ว