บทที่ 454 ยังไม่ได้รับการสั่งสอนเพียงพอ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

บทที่ 454 ยังไม่ได้รับการสั่งสอนเพียงพอ
“พี่ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว ขอร้องได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ฉันไม่กล้าอีกแล้ว”

หลี่เซียงหลันถูกมู่ซิ่วหลินตบหน้าจนได้สติกลับคืนมา รีบคุกเข่าต่อหน้าหลี่หลานและขอความเมตตา

ในที่สุดเธอก็รู้ว่าตนเองได้สร้างปัญหาใหญ่แล้ว

ถ้าหลี่หลานไม่ให้อภัยตนเอง ซิ่วหลินกรุ๊ปของสามีจะต้องล้มละลายแน่นอน ท่านเฒ่าหลี่จะต้องขับไล่ครอบครัวของพวกเขาออกไปจากตระกูล!

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดสำหรับการแข่งขันของสามตระกูลใหญ่ และตอนนี้ถ้าเกิดเรื่องกับซิ่วหลินกรุ๊ป มันเป็นการให้โอกาสอีกสองตระกูล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั้งหมดของตระกูลหลี่

เวลาเช่นนี้ แม้แต่หลี่เฟิงก็ไม่กล้าขอเงินจากตระกูล ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซิ่วหลินกรุ๊ปซึ่งมีความสำคัญต่อตระกูลหลี่มาก

มู่ซิ่วหลินตบหน้าตนเองอย่างแรงหลายครั้ง และอ้อนวอนขอความเมตตา “พี่ใหญ่ ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย พวกเรามีลูกตาแต่หามีแววไม่ พวกเราอาศัยบารมีคนอื่นอวดเก่ง พวกเราผิดไปแล้ว”

หลี่เซียงหลันตบหน้าตนเองหลายครั้งเช่นกัน เธอตกใจจนร้องไห้ กอดขาหลี่หลานและขอความเมตตา

“ฮึ่ม ไสหัวออกไป พวกคุณไม่คู่ควรที่จะคุกเข่าให้ฉัน เพราะฉันไม่เคยเห็นพวกคุณอยู่ในสายตา!”

หลี่หลานอุ้มซือซือด้วยความหยิ่งยโส ราวกับว่าเธอได้กลับไปเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่อีกครั้ง

เธอหันไปมองเย่เซิ่งเทียนและกล่าวว่า “เซิ่งเทียน ไม่จำเป็นต้องโกรธคนพวกนี้ พวกเขาไม่มีคุณสมบัติ คนหนึ่งเป็นลูกเมียน้อย ส่วนอีกคนเป็นเขยแต่งเข้า ฉันไม่เคยเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวว่า “คุณแม่ ให้คุณแม่เป็นคนตัดสินใจ ผมจะเชื่อฟังคุณแม่”

หลี่หลานพยักหน้า เธอรู้สึกดื่มด่ำกับคำเยินยอของเย่เซิ่งเทียนเป็นอย่างมาก

ถือว่าเจ้าหมอนี้สายตากว้างไกล ถ้ากลับไปบ้านแล้วตนเองจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้เขาทาน และต่อไปจะด่าเขาให้น้อยลง

หวางซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกคุณลุกขึ้นเถอะ อย่าคิดว่าพวกเรารังแกได้ง่าย ถ้ามีครั้งต่อไป พวกเราจะไม่ปล่อยพวกคุณไปง่าย ๆ แบบนี้หรอก”

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่หลี่หลานได้กลับมาที่บ้านของพ่อแม่ เย่เซิ่งเทียนและหวางซีถึงได้แสดงความเมตตา เพื่อให้ตระกูลหลี่รู้ว่าการที่ไม่ให้หลี่หลานกลับตระกูลหลี่ เป็นความสูญเสียของตระกูลหลี่

ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนคนของตระกูลหลี่ว่าถ้าอยากจะเหยียบย่ำพวกเขา มันเป็นการรนหาความตาย

“ขอบคุณพี่ใหญ่ ขอบคุณพี่ใหญ่”

ในที่สุด มู่ซิ่วหลินและหลี่เซียงหลันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ภายใต้ดวงตานั้นมีประกายความชั่วร้าย

เมื่อพวกเขาสืบความสัมพันธ์ระหว่างหยูฝานและเย่เซิ่งเทียนอย่างชัดเจน แล้วค่อยแก้แค้นมันก็ยังไม่สายเกินไป

หวางซีพยักหน้าขอบคุณจ้าวปิงและคนอื่น ๆ เธอรู้ว่าการที่จ้าวปิงและคนอื่น ๆ สุภาพกับเธอขนาดนี้ เป็นเพราะเกาเจี๋ยเคยเป็นลูกน้องของเย่เซิ่งเทียน และเป็นสหายรบของเย่เซิ่งเทียน

นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาสุภาพขนาดนี้

แต่สำหรับหยูฝานและภรรยาแล้ว หวางซีรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านั้นหยูฝานต้องการทำลายบริษัทหัวหยวน แต่ตอนหลังมายอมรับผิดแล้ว แต่หวางซียังคงระมัดระวัง

เมื่อสักครู่หยูฝานและภรรยาบอกว่าเย่เซิ่งเทียนได้ช่วยชีวิตสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาไว้ และหวางซีตัดสินใจว่าจะถามเย่เซิ่งเทียน ซึ่งมันอาจเกี่ยวข้องกับโครงสร้างต่อไปของบริษัทหัวหยวน

เหตุการณ์เล็ก ๆ นี้ไม่มีผลกระทบต่องานเลี้ยงวันเกิดท่านเฒ่าของตระกูลหลี่ เพราะคนมากมายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่

มู่ซิ่วหลินและ หลี่เซียงหลันสามีภรรยาคู่นี้ เดินเข้าไปในห้องโถงด้วยความสิ้นหวัง และไปฟ้องท่านเฒ่าและนายหญิงใหญ่

หลังจากนั้นสักครู่ หลี่เฟิงก็ออกมาต้อนรับแขก และท่านเฒ่าหลี่ก็กำลังจะออกมาแล้ว

“พี่ใหญ่ เมื่อไหร่คุณพ่อจะออกมา?”

หลี่หลานถามด้วยความประหม่า เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เธอนั้นเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่ แต่นับตั้งแต่ตอนที่เธอหนีตามพ่อของหวางซี เธอก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านพ่อแม่อีกเลย

ชั่วพริบตา ลูกสาวของตนเองก็แต่งงานแล้ว ยังมีหลานสาวอีกคน ตอนนี้เมื่อเธอกลับบ้านพ่อแม่ เธอรู้สึกกระสับกระส่าย

“ฮึ่ม!”

หลี่เฟิงพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเหยียดหยาม ไม่สนใจหลี่หลานและคนอื่น ๆ

หลี่หลานยืนอยู่ที่เดิมด้วยความอึดอัด ตอนแรกเธอต้องการจะกลับไปหลังเวที แต่ตอนนี้เธอทำได้เพียงแค่รอ

เย่เซิ่งเทียนหรี่ตาลง ดูเหมือนว่าหลี่เฟิงหลี่เซียงหลันและ มู่ซิ่วหลินยังได้รับการสั่งสอนไม่เพียงพอ