ตอนที่ 590 เซียวเหยี่ยนโกรธจริงๆ แล้ว
คำนวณว่าได้เวลาแล้ว กำลังเตรียมจะผลักเฉินเสี้ยวหรูออก จู่ ๆ ก็มีคนผลักประตูห้องเปิดออก
คนที่เดินเข้ามาคือเซียวเหยี่ยน หลิงอวี้จื้อรู้สึกเพียงแต่มีลมจากฝ่ามือพัดมาวูบหนึ่ง เธอรีบผลักเฉินเสี้ยวหรูออก
เฉินเสี้ยวหรูก็ปล่อยหลิงอวี้จื้อ รับฝ่ามือของเซียวเหยี่ยน กำลังภายในของสองคนปะทะกัน ทุกอย่างในห้องร่วงกราวลงพื้นเพราะกำลังภายในที่แข็งแกร่ง แม้แต่หลิงอวี้จื้อก็ล้มลงกับพื้น เห็นหลิงอวี้จื้อล้มลงพื้น เซียวเหยี่ยนก็เก็บฝ่ามือ รีบเข้าไปประคองหลิงอวี้จื้อ
เฉินเสี้ยวหรูก็ไม่ได้คิดจะลงมือกับเซียวเหยี่ยนที่นี่ จุมพิตเมื่อสักครู่ทำให้เขารู้สึกพึงใจมาก เซียวเหยี่ยนได้เห็นกับตาตนเองก็ยิ่งถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ดีมาก แตกต่างกันอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับใบหน้าหม่นหมองของเซียวเหยี่ยน
“เซียวเหยี่ยน ไม่นานอวี้จื้อก็จะเป็นของข้าแล้ว ทะนุถนอมเวลานี้ไว้ เอ่ยลาอวี้จื้อให้ดี ๆ เถิด! ข้าขอตัวลาก่อน”
เฉินเสี้ยวหรูพูดจบก็เตรียมจะไป เซียวเหยี่ยนยังอยากจะลงมือ แต่ถูกหลิงอวี้จื้อรั้งไว้
“เอวข้าเจ็บมากเลย”
ถึงแม้ที่นี่จะเป็นจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ วิทยายุทธของทั้งสองคนก็สูสีกัน หากลงมือที่นี่กันจริง ๆ ก็ไม่เป็นผลดีต่อใคร สู้กันจริง ๆ เซียวเหยี่ยนก็เสียเปรียบ ที่สำคัญที่สุดคือเซียวเหยี่ยนโดนพิษ หลิงอวี้จื้อกลัวว่าถ้าเขาลงมือแล้วจะไปเร่งให้พิษออกฤทธิ์เร็วขึ้น
ประโยคนี้ใช้ได้ผลกับเซียวเหยี่ยนตามคาด ได้ยินว่าหลิงอวี้จื้อเจ็บเอว เซียวเหยี่ยนก็รีบประคองหลิงอวี้จื้อลุกขึ้น
“ชนโดนเอวหรือ”
หลิวอวี้จื้อพยักหน้า น้ำตารื้น
มือใหญ่ของเซียวเหยี่ยนนวดเอวของหลิงอวี้จื้อ ออกแรงเบามาก แต่สีหน้าก็ดูไม่ได้เลย หน้าตึงเช่นนั้นอยู่ตลอด ปกติเขาเป็นคนที่ทุกข์สุขก็ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า คราวนี้ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ก็ต้องดูออกว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
หลิงอวี้จื้อนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเขาจะกลับมาเวลานี้ ครั้งที่แล้วเธอเห็นฉากระหว่างเขากับเฉินปี้ คราวนี้เซียวเหยี่ยนก็เห็นฉากระหว่างเธอกับเฉินเสี้ยวหรู ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีเหตุผล แต่คนที่เป็นฝ่ายเห็นย่อมรู้สึกไม่ดี เธอเคยมีประสบการณ์นี้แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจความรู้สึกเช่นนั้นดี
เธอยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของเซียวเหยี่ยน เหมือนเด็กที่ทำผิดมา
“อาเหยี่ยน ข้า…”
เซียวเหยี่ยนยังคงหน้าบึ้งตึง หยุดนวด นัยน์ตาดำขลับนั้นลึกจนมองไม่เห็นปลายทาง
“อวี้จื้อ เจ้าเห็นข้าเป็นอะไร”
หลิงอวี้จื้อก้มหน้าต่อ เสียงยิ่งต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“ท่านเป็นผู้ชายของข้า”
“ในเมื่อรู้เช่นนี้ เหตุใดยอมให้ชายอื่นมาแตะต้องตัวเจ้า ข้ากลัวเจ้าจะเกิดเรื่อง เมื่อรู้ว่าเฉินเสี้ยวหรูมาที่จวน ก็รีบกลับมาทันที แล้วเจ้าให้ข้าเห็นสิ่งนี้หรือ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากช่วยชีวิตข้า แต่เจ้าใช้วิธีนี้ได้อย่างไร ข้าไม่ได้ตกต่ำถึงขนาดต้องให้ผู้หญิงของตนเองมาช่วยชีวิตเช่นนี้”
เซียวเหยี่ยนโกรธจริง ๆ แล้ว มิหนำซ้ำยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ เห็นฉากนั้นเข้า เขาก็โกรธจนแทบจะกระอักเลือด ราวกับมีอะไรบางอย่างเข้ามาบดทุบใจของอย่างแรง เจ็บปวดมาก
“อาเหยี่ยน ข้าไม่มีวิธีอื่นแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตา ข้าเพียงแต่อยากให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไปเท่านั้น”
“อยู่ไปเช่นนี้ก็เป็นความอัปยศ ข้าไม่ได้เป็นเพียงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่ข้าเป็นผู้ชายคนหนึ่งด้วย”
แววตาของเซียวเหยี่ยนแอบแฝงความผิดหวัง
“เจ้าไม่เข้าใจข้าเช่นนี้เชียวหรือ เราเคยตกลงกันไว้ว่าจะไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ข้าเข้าใจว่าทำเช่นนี้จะเป็นการทำร้ายจิตใจเจ้า ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือไม่”
เซียวเหยี่ยนพูดจบก็หมุนตัวจากไป หลิงอวี้จื้อยืนอยู่ที่เดิม หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อแล้วเช็ดปาก เธอย่อมเข้าใจ เธอรู้ว่าเซียวเหยี่ยนโกรธจริง ๆ แล้ว เรื่องนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องโกรธ ในใจได้แต่รู้สึกผิดอย่างมหันต์ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง
ตอนที่ 591 อาเหยี่ยน ข้าหิวแล้ว
เซียวเหยี่ยนออกไปจากห้องแล้วก็อยู่ที่ห้องทำงานตลอด แม้แต่ข้าวเย็นก็ไม่ได้กิน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าห้องทำงานด้วย
ส่วนหลิงอวี้จื้อก็อยู่ในห้องของตัวเอง ไม่ได้กินอะไรเช่นกัน
เห็นอยู่ว่าท้องฟ้ามืดมิดหมดแล้ว เจ้านายทั้งสองยังไม่ได้กินอะไรเลย หรูเยียนก็ร้อนใจ รายงานอยู่ข้างนอกห้อง
“พระชายา ท่านอ๋องยังไม่ได้ทานอะไรทั้งบ่ายเลยนะเพคะ ร้ายดีอย่างไรก็กินอะไรสักหน่อยเถิดเพคะ!”
“ท่านอ๋องยังไม่ได้ทานอะไรหรือ”
หรูเยียนถอนหายใจเบา ๆ หนึ่งครั้ง
“จนถึงตอนนี้ท่านอ๋องก็ยังไม่ทานอาหารเย็นเลยเพคะ และไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ด้วย บ่าวไม่กล้าไปส่งอาหารเย็นเพคะ”
ทุกคนในจวนนี้ต่างกลัวเซียวเหยี่ยน เขาอ่อนโยนลงมากเวลาต่อหน้าหลิงอวี้จื้อเท่านั้น ต่อหน้าคนอื่น เขาก็ยังเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการผู้สูงส่งเกินเอื้อมเช่นเดิม
ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาพูดว่าไม่อนุญาตให้ใครรบกวน คนทั้งจวนก็ไม่มีใครกล้าไป แต่หลิงอวี้จื้อก็ยังกล้าไป
หลิงอวี้จื้อเดินไปถึงธรณีประตู เปิดประตู ถอนหายใจเบา ๆ
“หรูเยียน เจ้าให้คนเตรียมอาหารเย็นให้เรียบร้อย ข้าจะส่งไปที่ห้องทำงาน อาหารเย็นข้าจะทานกับท่านอ๋องในห้องทำงาน”
หรูเยียนขานรับ และไปเตรียมอย่างรวดเร็ว เช่นนี้ดีที่สุดแล้ว เวลาเซียวเหยี่ยนโมโห มีเพียงหลิงอวี้จื้อเท่านั้นที่ปลอบใจเขาได้
หลิงอวี้จื้อยกถาดอาหารเข้าไปในห้องทำงานของเซียวเหยี่ยน บนนั้นมีกับข้าวสี่อย่างและข้าวสองจาน ทั้งสองคนต่างไม่มีความอยากอาหาร ด้วยเหตุนี้อาหารทั้งหมดจึงเป็นอาหารรสชาติอ่อน ๆ และมีหัวไชเท้าเปรี้ยวอีกอย่าง
หลิงอวี้จื้อหิวนานแล้ว ได้กลิ่นเปรี้ยวของหัวไชเท้า ก็ยิ่งทำให้ท้องหิว เมื่อเข้าไปในห้องทำงานแล้ว เธอก็ยกถาดวางลงบนโต๊ะ
เซียวเหยี่ยนพิงเก้าอี้ ไม่ได้มองหลิงอวี้จื้อ แต่รู้ว่าหลิงอวี้จื้อมาแล้ว
“คืนนี้เจ้ารีบพักผ่อน ข้ายังมีงานต้องจัดการ”
“งานของท่านอ๋องคือการดูเพดานหรือ”
หลิงอวี้จื้อพูดจบก็เดินไปตรงหน้าโต๊ะดื่มชาของเซียวเหยี่ยน มองเซียวเหยี่ยนด้วยท่าทางน่าสงสาร
“อาเหยี่ยน ท่านยังโกรธอยู่หรือ”
เซียวเหยี่ยนไม่ตอบ และไม่มองหลิงอวี้จื้อด้วย ทำเหมือนหลิงอวี้จื้อไม่มีตัวตน
หลิงอวี้จื้อพิงโต๊ะดื่มชา
“ข้ารู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว เมื่อคืนวาน ข้าไม่ได้นอนทั้งคืน ในหัวมัวแต่คิดเรื่องว่าจะทำอย่างไรดี ข้าคิดวิธีการอะไรดี ๆ ไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะใช้ตัวเองแลกกับชีวิตของท่าน ข้ารู้ว่าท่านไม่ยอมให้ข้าทำเช่นนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอัปยศสำหรับท่าน
คำพูดเหล่านั้นข้าจงใจพูด ข้าทายาพิษไว้ที่ริมฝีปาก ไม่มีวิธีวางยาอย่างอื่นแล้ว ทำได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น ข้ารู้ว่าทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง และรู้ด้วยว่าทำเช่นนี้ผิดต่อท่าน ดังนั้นข้าจึงไม่กล้าบอกท่าน…”
พูดจนถึงประโยคสุดท้าย เสียงของหลิงอวี้จื้อก็ต่ำลงเรื่อย ๆ ศีรษะก็ก้มต่ำลงเรื่อย ๆ
“ข้าไม่อยากให้ท่านเห็นภาพนั้นเลยจริง ๆ ในใจข้าเองก็รับไม่ค่อยไหว อาเหยี่ยน อย่าโกรธอีกเลยนะ ได้หรือไม่”
เซียวเหยี่ยนนึกไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อจะมีความคิดเช่นนี้ เขาไม่พูดอะไรอยู่นาน หมัดภายใต้แขนเสื้อกำแน่น
สำหรับเขา หลิงอวี้จื้ออยู่เหนือจินตนาการของเขาเสมอ ก่อนหน้านี้เขาโกรธมากจริง ๆ ตอนนี้ใจเย็นลงแล้ว ได้ยินคำอธิบายของหลิงอวี้จื้อ ความโกรธในใจก็ละลายหายไปหมด เพียงแต่ยังไม่เปลี่ยนสีหน้าเท่านั้น
หลิงอวี้จื้อยังก้มหัวอยู่ เห็นเซียวเหยี่ยนยังไม่พูดอะไร หลิงอวี้จื้อก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างน่าเวทนา
“อาเหยี่ยน ข้าหิวแล้ว”
ในที่สุดเซียวเหยี่ยนก็ทนต่อไปไม่ไหว ยื่นมือออกมาจับมือหลิงอวี้จื้อ น้ำเสียงอ่อนโยนลงมาก
“หิวแล้วหรือ”
“อืม หิวมาก ท่านทานเป็นเพื่อนข้าสิ! มิเช่นนั้นข้าทานไม่ลง”
“มีเวลาที่เจ้าทานไม่ลงด้วยหรือ”
“มีสิ ก็ตอนนี้ไงเพคะ ท่านดูสิ จนบัดนี้ข้ายังไม่ทานอาหารเย็นเลย”