บทที่ 436 เธอกำลังจะตาย

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 436 เธอกำลังจะตาย
เพราะว่าเขา เธอเสียขาไปทั้งสองข้าง ดวงตาก็กำลังจะมองไม่เห็น

หลายปีมานี้ ความจริงแล้วเขาทำเรื่องเลวร้ายต่อเธอมากมาย ความผิดที่มีมากเกินกว่าจะเขียนออกมาได้หมด แต่ว่าเมื่อก่อน ไม่ว่าเขาจะทำร้ายเธออย่างไร เธอก็ไม่เคยจากเขาไปไหน เป็นอย่างที่เขาด่าเธอเมื่อก่อน หมากฝรั่งหนังวัว ยาทาหนังหมา…… (เป็นการเปรียบเปรยว่าติดหนึบไม่ไปไหนสลัดยังไงก็สลัดไม่ออก)

สลัดยังไงก็สลัดไม่ออก!

แต่ตอนนี้ เธอไม่มาเจอเขาแล้ว

ในที่สุดเธอก็จากเขาไป ไม่ต้องการเขาแล้ว

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ร่างกายกระสับกระส่าย ในสมองคิดถึงวันนั้นวันที่เธอมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่าง กะทันหัน เธอพูดกับเขาเหมือนในใจเต็มไปด้วยความหวัง เธอกลับมาแล้ว ในอกของเขา ราวกับว่าจู่ๆ มีที่ไหนสักแห่งได้พังทลายลง

ความจริงแล้วเขาเข้าใจทุกอย่าง ประโยคนี้ของเธอจริงๆแล้วหมายความว่าอย่างไร?

แต่ว่า เขาหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว เขาทำใจไม่ได้ทุกครั้งที่เธอเป็นคนเลือก คนนั้นที่ถูกทอดทิ้งอย่างไม่แยแสคือเขา ดังนั้นเขาจึงทำเป็นใจแข็ง ไม่สนใจ ไม่ถาม ที่สำคัญไม่อยากเจอเธอ

แต่ไม่นึกเลยว่า คืนวันผันผ่าน สุดท้ายแล้วเขาจะถูกทอดทิ้งจริงๆ

แต่ด้วยวิธีแบบนี้

สองมือของเขาไร้เรี่ยวแรงจนร่วงลงมา หลังจากนั้นเหมือนว่าหัวใจและสายเลือดเหมือนหยุดชะงักลง ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยหยดน้ำตา เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความผิดหวัง

เส้นหมี่ พวกเราถือว่าเลิกแล้วต่อกันได้ไหม?

ได้ไหม……ถือซะว่าให้มันผ่านไป?

——

เส้นหมี่ก็อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

แต่ว่า เธอไม่มีทางเลือก

ไม่มีใครรู้หรอกว่า ตอนนั้นที่เธออยู่ในวิลล่า เธอเพื่อที่จะรักษาขาทั้งสองข้างของตัวเองไว้ ทุกวันต้องแอบฝังเข็มให้ตัวเอง

คณาธิปใช้ยาควบคุมเธอ เธอจึงใช้เข็มมารักษาตัวเอง แต่ว่า การทำแบบนี้เป็นอันตรายอย่างมาก จะทำให้หลอดเลือดภายในร่างกายเป็นแผล เพราะยาเป็นต้นเหตุจึงต้องใช้เข็มมากระตุ้นหลอดเลือดเหล่านั้น เพื่อขาจะได้ไม่ถูกยาควบคุมจนทำให้เป็นอัมพาต

ดังนั้น ตอนนั้นเธอฝังเข็มอย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง

แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่า ทำถึงขนาดนี้แล้ว สุดท้ายก็ยังเป็นปัญหาจนได้ ดวงตามืดบอดอย่างกะทันหัน คงเป็นเพราะว่าเส้นเลือดในส่วนสมองเกิดปัญหาแล้ว

เส้นหมี่นั่งอยู่ในห้องพักของโรงแรม

เธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของแสงไฟที่อยู่รอบกาย แต่ด้านหน้าของเธอ มีเพียงความมืด เหมือนอยู่ในท้องทะเลลึกที่มีเพียงความมืดไม่มีกลางวัน ทั้งเหน็บหนาวและมืดมนทำให้เธอสิ้นหวัง

“เส้นหมี่ คุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คุณไปโรงพยาบาลได้แล้วหรือยัง คุณจะมาตายมิตายแหล่หลบอยู่ที่นี่ ให้ใครดู?”

หลังจากที่แสงดาวคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วกลับมา เห็นเธอนั่งอยู่ที่นี่ จึงทนไม่ไหวที่จะด่าออกไป

พูดจริงจากใจจริง ด้วยบุญคุณที่พวกเธอมีต่อกัน เธอสามารถอยู่เป็นเพื่อนเธอจนถึงตอนนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

เส้นหมี่ไม่ส่งเสียงใดออกมา

หญิงสาวผู้นี้พุ่งตรงมาเข็นเธอออกไปอย่างกะทันหัน ส่งไปโรงพยาบาล เธอล็อกล้อวีลแชร์ไว้แน่นใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

“คุณจะทำอะไร”

“ฉันจะทำอะไรล่ะ คุณพูดซิฉันทำอะไรได้ ฉันแม่งจะส่งเธอไปตาย!”

ความอดทนของแสงดาวถูกทำลายลงไปเกือบหมดแล้ว ประโยคที่ด่าออกมาแต่ละประโยคนั้นเพิ่มความหยาบโลนขึ้นเรื่อยๆ

เส้นหมี่ฟังเข้าใจ ในทันที เธอยิ่งออกแรงจับวีลแชร์ของเธอไว้แน่น ไม่ให้ขยับ

“ฉันไม่ต้องไปโรงพยาบาล ฉันเองก็เป็นหมอ”

“งั้นคุณจะตรวจให้ตัวเองเหรอ หลบอยู่ที่นี่ร้องไห้เต็มหน้าไปหมดทำให้ใครดู?”

“ให้ตัวเองดู แสงดาว ฉันรักษาไม่หาย ดวงตาของฉัน เพราะว่าในตอนนั้นคณาธิปให้ยาในปริมาณมากเพื่อให้ขาทั้งสองข้างของฉันเป็นอัมพาต ยาเหล่านั้นได้ทำลายเส้นประสาทการรับรู้ของฉันไปหมดแล้ว ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว”

เส้นหมี่อธิบายคร่าวๆจริงครึ่งไม่จริงครึ่งให้ผู้หญิงคนนี้ฟัง

แสงดาวนิ่งไปอย่างกะทันหัน

เธอยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ บนใบหน้าเต็มไปด้วยอาการตกใจปนอึ้งมองไปที่เธอ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

“ดังนั้น คุณหมายความว่า ดวงตากับขาของคุณ ไอ้คนชั่วเป็นคนทำลายทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่”

“!!!!”

แสงดาวก้าวถอยหลังไปสองก้าว เวลานี้เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของตัวเองอย่างไรดี

เส้นหมี่ที่ฉลาดหลักแหลม ได้ยินเสียงเหล่านั้น ไม่ต้องมอง ก็รู้ว่าหญิงสาวมีอากัปกิริยาอย่างไร แล้วเธอก็ยิ้มออกมา

“เป็นอะไรไปเหรอ คุณนึกสงสารฉันขึ้นมาล่ะสิ”

“ บ้าน่ะ ฉันน่ะเหรอจะสงสารเธอ?!!” หญิงสาวรีบปฏิเสธทันที

เส้นหมี่ส่ายหน้าไปมา ไม่พูดอะไร

ช่วงเวลานี้ที่ใกล้ชิดและใช้เวลาร่วมกัน ความจริงแล้วเธอก็พอเข้าใจหญิงสาวอยู่บ้าง เธอนั้นค่อนข้างหยิ่งยโส แต่หลายครั้งบางครั้ง เธอก็เหมือนเด็กที่ถูกตามใจจนเคยตัว

เพียงแค่เพราะว่าโมโห เธอก็จะด่าทอคุณออกมาทันที ทำให้คุณเจ็บปวด

เธอยังเพราะว่าคุณทำให้เธอไม่พอใจ จะแก้แค้นคุณอย่างไม่นึกถึงผลที่ตามมา ขอแค่เธอสะใจเป็นพอ

แต่ความจริงแล้ว เนื้อแท้ของเธอไม่ใช่คนเลว เธอเองก็รู้ตัว ในข้อนี้ จากเมื่อตอนที่เส้นหมี่กำลังหลบหนีในตอนนั้น ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ก็รู้แล้ว

คนตระกูลหิรัญชา อยู่ในบ้านจะรบเร้ากันยังไงก็ไม่เป็นไร

แต่เมื่อมาอยู่ข้างนอก จะให้คนอื่นมารังแก งั้นต้องถามเธอแสงดาวยินยอมหรือเปล่า?

“ดังนั้น คุณเพราะว่าเหตุผลนี้ คุณจึงไม่ยอมเจอน้องชายฉันงั้นเหรอ”

“ใช่ค่ะ ฉันเสียขาแล้ว ตาก็ยังบอด แล้วจะไปเจอเขาอีกทำไม”

“เขาไม่ได้รังเกียจคุณสักหน่อย!”

“ฉันรังเกียจเขาน่ะ ฉันในตอนนี้เหมือนผีก็ไม่ต่าง คงสมใจเขาปรารถนา ตอนนี้ฉันเกลียดจนอยากจะปาดคอเขาให้ตาย แล้วจะยังไปเจอเขาอีกทำไม”

“……”

แสงดาวอึ้งไปอีกครั้ง!

เพราะว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนที่ผู้หญิงคนนี้เกลียดน้องชายเธอ