อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 514 นักหลอมยาอัจฉริยะ
ครั้นเห็นจอมมาร เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันก็ปวดศีรษะหนึบ เกรงว่าจอมมารจะหาเรื่องเรื่องที่นั่งอีก

ดีที่จอมมารเพียงถีบเจ้าสำนักที่อยู่ที่นั่งด้านข้างกระเด็น ส่วนตัวเองก็สะบัดแขนเสื้อนั่งลง ไม่สนใจว่าใบหน้าเจ้าสำนักผู้นั้นจะแย่แค่ไหน

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี

จอมมารมิได้เอาเรื่องที่นั่งมาหาเรื่องอีก แต่เขาถีบคนโดยตรง จะไม่ไว้หน้าเกินไปแล้ว ต่อไปคนที่ถูกเขาถีบคนนั้นยังเป็นเจ้าแห่งสำนักหนึ่งอีก

เจ้าสำนักสวี่โมโหแต่ไม่กล้าพูด ได้แต่จากไปอยากฉุนเฉียว เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันรีบขอขมา จัดที่นั่งดีให้เขาใหม่ นี่ถึงจะยุติ

ฮัวฉีหลัวเปิดกล่องออก ชี่ทิพย์ที่ฉุนยิ่งกว่าเดิมโถมเข้าจมูก อบอวลทั่วสนามประลอง

ทุกคนต่างสูดลมเย็น การดูแคลนแต่เดิมของแต่ละคน กลับเป็นความเหลือเชื่อในภายหลัง

“ยาจื่อหยาง เป็นยาจื่อหยางเชียวหรือนี่ ข้าไม่ตาฝาดไปนะ?”

ทุกคนขยี้ตา นึกว่าตัวเองกำลังละเมอ อดหยิกต้นขาตัวเองไม่ได้ เจ็บจนพวกเขาสูดลมเย็นทีหนึ่ง

ครืนเสียงหนึ่ง เกิดความโกลาหลทั่วงาน

“ยาจื่อหยางเป็นยาระดับสามเชียวนะ นักหลอมยาที่ทำยาระดับสามได้แผ่นดินนี้ก็มีไม่มาก และถึงจะเป็นผู้อาวุโสหุบเขาตันหุย กลัวว่าจะทำได้ยากมากเหมือนกัน แต่นางกลับทำสำเร็จ แล้วยังเป็นระดับสามขั้นกลางอีก สวรรค์ นางไม่รู้วิชาหลอมยาจริงหรือ?!”

“ระ ระดับ สาม สาม สาม สาม…ระดับสาม…ถ้าเป็นผู้ที่วรยุทธ์อยู่เพดานระดับสอง ขอเพียงกินยาเม็ดนี้ มิใช่เลื่อนเป็นระดับสามได้เลยหรือ?”

“ก็นั่นนะสิ พวกเราสำนักอู๋โยวมีศิษย์มีเก่งหลายคน บัดนี้ถึงเพดานระดับสองแล้ว แต่กลับขึ้นระดับสามไม่ได้ แม่นางกู้ ยาเม็ดนี้ขายให้ข้าได้ไหม? เจ้าว่าราคามาได้เลย”

“ขายให้ข้าเถอะๆ บุตรชายข้าก็ขึ้นระดับสามไม่ได้สักที เขาต้องการยาเม็ดนี้มากกว่า”

“ไปๆๆ พวกเจ้าพวกนี้นับอะไร บิดาข้าอายุปูนนี้แล้ว ยามนี้ก็ใกล้จะหมดเวลาแล้ว เขาบอกข้าหลายครั้ง ความหวังสูงสุดชีวิตนี้คือสามารถขึ้นระดับสามได้ แต่บิดาข้ากลับไม่สำเร็จมาโดยตลอด แม่นางกู้ ขอเพียงเจ้ายอมขายยาจื่อหยางเม็ดนี้ให้ข้า ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ข้าก็จะซื้อ!”

“ให้ข้าๆ ข้าก็ต้องการ”

นอกจากขั้วอิทธิพลใหญ่อย่างเผ่าเทียนเฟิ่นและเผ่าหยกแล้ว คนกลุ่มอิทธิพลขนาดกลางและขนาดเล็กต่างช่วงชิงหัวร้างข้างแตก แทบอยากให้กู้ชูหน่วนขายยาจื่อหยางให้พวกเขา

กู้ชูหน่วนผิดหวังเล็กน้อย “ระดับสามขั้นกลางเองหรือ? ข้านึกว่าอย่างน้อยต้องระดับสามขั้นสูงหรือระดับสี่”

ครั้นกล่าวออกมา คนทั้งงานต่างตะลึงงัน

ระดับสี่?

นางคิดว่ายาสามารถหลอมได้ง่ายๆ หรือ?

ถึงจะเป็นเจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันแห่งหุบเขาตันหุย ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถหลอมยาระดับสี่ได้

ต้องรู้ว่าการเพิ่มแต่ละระดับขั้น ก็คือการเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า

ผู้ที่สามารถหลอมยาระดับสองได้ก็เก่งกาจมากแล้ว

แถมนางยังอายุอานามน้อยก็สามารถหลอมยาระดับสามได้ นั่นเป็นอัจฉริยะแห่งอัจฉริยะ

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันมองกู้ชูหน่วนใหม่

ท่วงท่านางผู้นี้เป็นเลิศ รูปร่างอรชร ทุกอากัปกิริยามีความทะนงและความเป็นผู้นำอย่างหนึ่ง

เขารู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่ธรรมดาเสมอมา เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่านางจะน่าอัศจรรย์เพียงนี้ แค่อาศัยตัวเองตำๆ บดๆ นิดหน่อย ก็หลอมยาระดับสามได้แล้ว

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “หลิงลั่ว แม่นางกู้ผู้นี้ เมื่อก่อนนางเคยเรียนวิชาหลอมยาหรือ?”

“เรียนพ่อบุญธรรม นางไม่เคยเรียนขอรับ เพียงแต่ก่อนหน้านั้นที่อยู่ที่จัดประมูลเฟิงเซียง ประมูลได้หนังสือวิชาหลอมยาที่ไม่สมบูรณ์มาได้เล่มหนึ่ง วิชาหลอมยาของนางน่าจะศึกษาด้วยตัวเองขอรับ”

“ศึกษาเอง? อาศัยหนังสือวิชาหลอมยาที่ไม่สมบูรณ์ก็หลอมยาระดับสามได้? หลิงลั่ว สายตาเจ้าแหลมคมนัก นางยอดเยี่ยมมาก”

“ขอบคุณพ่อบุญธรรม”

มุมปากน่าหลันหลิงลั่วเจือรอยยิ้มหนึ่ง

ผู้หญิงที่เขาชอบ ก็ต้องประเสริฐที่สุดอยู่แล้ว

“เพียงแต่สตรียิ่งยอดเยี่ยมยิ่งจีบยาก หากเจ้าต้องการแต่งกับนาง เกรงว่าต้องใช้ความสามารถสักหน่อย” เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันกล่าว

รอยยิ้มน่าหลันหลิงลั่วจางลงหลายส่วน มือกำเป็นหมัดแน่น “หลิงลั่วทราบแล้ว หลิงลั่วต้องพยายามคว้ามาให้ได้แน่ขอรับ”

“ไม่ใช่พยายาม แต่ต้องได้ พวกเราหุบเขาตันหุยต้องการนักหลอมยาอัจฉริยะเช่นนี้มากเหลือเกิน”

นาทีนี้ ไม่เพียงเจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันที่ให้ความสำคัญ แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหลายของหุบเขา กระทั่งบรรดาสุดยอดผู้อาวุโสก็เคลื่อนไหวด้วย จับตามองกู้ชูหน่วน

จอมมารปรบมือหัวเราะเอ่ย “พี่สาวองอาจเกรียงไกร ข้ารู้ว่าท่านต้องหลอมยาได้แน่”

สายตาเย่จิ่งหานและเวินเส้าหยีซับซ้อน ในใจพลุ่งพล่านหนัก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร เพียงแต่สายตาที่พวกเขามองกู้ชูหน่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

สีชิ่น ไป๋จิ่นรวมถึงเผ่าหยกเห็นเรื่องแปลกจนไม่แปลกแล้ว เพียงแต่แทะเม็ดแตงดูเรื่องสนุกเงียบๆ เตรียมรอฮัวฉีหลัวเปิดกล่องที่เหลือของกู้ชูหน่วน

“แม่นางกู้ ทำไมเจ้าไม่พูดเลยล่ะ ยาจื่อหยางนี้ขายให้ข้าได้ไหม? ข้าต้องการมากจริงๆ”

กู้ชูหน่วนโบกมือ “เรื่องประมูลเอาไว้ค่อยคุยกันเถอะ อีกอย่างที่นี่เป็นพื้นที่ของหุบเขาตันหุย ถึงพวกเจ้าต้องการซื้อ ก็ต้องไปหาเจ้าของหุบเขาตันหุย”

เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันผงะ

เมื่อครู่เพิ่งจะชมนาง ตอนนี้นางกลับโยนเรื่องหนักอกมาให้เขาเสียแล้ว?

ไม่ว่าจะขายให้ใคร สุดท้ายก็ต้องล่วงเกินคน ได้แต่รอให้จบงานชื่นชมยาชั้นเลิศแล้ว ค่อยดำเนินการประมูล

นางผู้นี้ ใจดำยิ่ง

ส่วนเขากลับไม่สามารถโต้แย้งได้

แต่ไหนมาหุบเขาตันหุยมีกฎ หากวัตถุดิบยาที่หลอมเป็นของหุบเขาตันหุย เช่นนั้นขึ้นรูปแล้วยากก็จะตกเป็นของหุบเขาตันหุย

หากเป็นของที่พวกเขาเก็บหาเอง เช่นนั้นได้ยาแล้ว ยาก็จะเป็นของพวกเขา

ยาจื่อหยางเม็ดนั้นของกู้ชูหน่วน นอกจากเตาหลอมแล้ว อย่างอื่นแล้วเป็นวัตถุดิบของนางเอง เขามีสิทธิ์อะไรไปประมูล หาเรื่องให้เขาอีกแล้ว

“รบกวนเจ้าเปิดกล่องที่สองเถอะ” กู้ชูหน่วนเอ่ย

ฮัวฉีหลัวสีมือ หัวเราะคิกคักเอ่ย “ได้เลย ยินดีอยู่แล้ว!”

ว่าแล้วนางก็หยิบกล่องขึ้น แล้วไม่สนใจว่าจะมีดวงตากี่คู่จับจดอยู่กับนาง เปิดกล่องออกทันที

ครั้นเปิดกล่องแล้ว กลับไม่มีกลิ่นหอม และไม่มีชี่ทิพย์ แต่กลับมีคนตะโกนขึ้น

“สวรรค์! เป็นยาเทวะไท่ชิง! นี่เป็นถึงยาระดับสามขั้นสูงเชียวนะ ทั้งปฐพีมีเพียงไม่กี่เม็ด ครั้งที่แล้วขณะปรากฏยาเทวะไท่ชิง โลกาถูกทำจนเกิดความโกลาหล ตระกูลใหญ่เท่าไรต้องประสบกับการฆ่าล้างทั้งตระกูลเพราะยาเม็ดนี้”

“ก็นั่นนะสิ ปีนั้นทีแรกเราก็อยากซื้อยาเม็ดนั้น แต่ราคาสูงหูฉี่ เราซื้อไม่ไหว”

“เรายังอยากหาผู้หลอมยาเม็ดนั้นด้วย แต่น่าเสียดายที่ไร้ผลลัพธ์”

ผู้ที่หลอมยาเม็ดนั้นอันตรธานไร้ร่องรอย ไม่ว่าทุกคนจะหาอย่างไรก็ไม่พบประหนึ่งเวทมนตร์

ฮัวฉีหลัวเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง ดื่มด่ำกับการชมเชยจากผู้อื่นมาก

นี่พวกเขามิใช่พูดพล่ามหรือ? เดิมทียาเทวะไท่ชิงก็เป็นยาที่พี่ธิดาเทพหลอมขึ้นอยู่แล้ว

เพียงแต่จุดประสงค์เดิมของพี่ธิดาเทพไม่ได้อยากหลอมยาเทวะไท่ชิง แต่เป็นยาเทวะระดับหก

เพียงแต่ล้มเหลว ดังนั้นพี่ธิดาเทพก็เลยทิ้งไปเสีย