Sign in Buddha’s palm 315 (II) เข้ามาหาเรื่องตาย!
“แล้วตอนนี้พวกเราควรทําเช่นไร?”
“ควรจะบอกพี่สามหรือไม่?”
จักรพรรดิถังเดินไปเดินมา ถามออกด้วยน้ําเสียงที่ลึกล่า
“ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรอ” นักพรตเฒ่าสํานักเอกะวิถีและกล่าวออกมา
เมื่อเป็นการต่อสู้ระหว่างเซียนเทพปฐพี แม้จะเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดนับร้อยก็จะไม่มีผลกับการต่อสู้
ดังนั้นต่อให้กังวลแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทางเดียวคือต้องรอผลอย่างเงียบๆ
“เหลยเฉียนจือ?”
“อีกเจ็ดวันจะมาหาข้า?”
ที่ด้านหน้าของพระราชวังตะวันออก ซูฉินในชุดดํามีแววตาอันสงบประดับอยู่บนใบหน้าไม่มีความกังวลใดๆ เลย
ด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา แม้ว่าซูฉินจะยังไม่ทะลวงขั้น แต่ก็สามารถเทียบเคียงกับเซียนเทพปฐพี่ได้ ไม่ต้องพูดถึงตอนที่ซูฉันสามารถทะลวงขอบเขตได้แล้ว
“อีกเจ็ดวันต่อจากนี้ คงจะได้ทดสอบกําลังของข้าดูเสียที”
ซูฉินสายศีรษะ จากนั้นก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรต่อไป
ในเวลานี้ ความสนใจของซุฉินเกือบจะมุ่งเน้นไปที่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งหมด
ส่วนการมาเยือนของเหลยเฉียนจือ?
ซูฉันไม่ได้เอามาใส่ใจเลย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
เจ็ดวันผ่านไปในพริบตา
และในวันนี้ จอมยุทธต่างแดนจํานวนนับไม่ถ้วนก็ได้มาอยู่นอกเมืองฉางอันอยากจะเห็นการต่อสู้อันน่าตกตะลึงระหว่างเซียนเทพปฐพี่ทั้งสองคนด้วยตาของตนเอง
แม้แต่นิกายใหญ่ก็ไม่มีข้อยกเว้น มีผู้นํานิกายหลายคนที่มารอที่นี่ล่วงหน้าสองสามวัน
ในที่สุด
วันนี้
ทุกคนต่างได้เห็นชายร่างสูงเดินมาทีละก้าว
ด้านหลังของชายร่างสูงสะพายดาบยาวสองเมตร แม้ว่าจะเดินมาเงียบๆ แต่ทะเลปราณอันไร้ที่สิ้นสุดก็ยังได้รับผลกระทบ รัศมีที่อธิบายไม่ได้แผ่ออกไปทั่วทิศทาง
“เหลยเฉียนจือ”
“เขาคือเหลยเฉียนจือ”
จอมยุทธหลายคนจ้องมองไปที่เหลยเฉียนจือด้วยดวงตาอันร้อนแรง
“นี่คือเซียนเทพปฐพงั้นหรือ?
มันทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าจะไม่ได้ปลดปล่อยไอพลังอะ ไรออกมา แต่สภาวะการรวมกันระหว่างมนุษย์และสวรรค์นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ตํานานยุทธขั้นสูงสุดไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย…”
จอมยุทธบางคนอทานและกระซิบอยู่กับตัวเอง
“มิผิด”
จอมยุทธที่เหลือพยักหน้ากันทีละคน ชัดเจนว่าเห็นด้วย
รัศมีที่เหลยเฉียนจือแสดงออกมาในตอนนี้แตกต่างจากตํานานยุทธขั้นสูงสุดหรือแม้แต่ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีโดยสิ้นเชิง
หากเทียบกับความรู้สึกกดขี่ยามเผชิญกับครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ความรู้สึกกดขี่ในยามนี้ก็เป็นความห่างชั้นที่ใหญ่ยิ่ง
ดังนั้นเหลยเฉียนจือในยามนี้จึงทําให้พวกเขารู้สึกตกใจอย่างมาก และความรู้สึกนี้ไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งส่วนตนเท่านั้น แต่มาจากโลกทั้งใบ
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เหลยเฉียนจือก้าวเดินไปหลายสิบลี้ ในที่สุดก็หยุดอยู่นอกเมืองฉางอันฉับพลัน
ทุกคนก็ปิดปากเงียบ สงบจิตสงบใจ ด้านนอกเมืองฉางอันภายในรัศมีหลายสิบลี้เงียบกริบจนแม้แต่เสียงเข็มตกก็ยังไม่มี ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เหลยเฉียนจืออยากรู้ว่าเขาจะทําอะไรต่อไป
“นิกายเทพเจ้าสายฟ้าเหลยเฉียนจือมาขอพบมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถัง”
เสียงของเหลยเฉียนจือนั้นลึกซึ้งและทรงพลังอย่างมาก มันเข้าไปถึงหูทุกคนในทันที
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นาน
ไม่มีการตอบสนองใดในเมืองฉางอัน ราวกับเหลยเฉียนจือถูกละเลยโดยสิ้นเชิง
“ฮ่าฮ่า…”
เมื่อเหลยเฉียนจือเห็นดังนี้ การแสดงออกบนใบหน้าก็กลายเป็นเย็นชา “ในเมื่อมนุษย์สวรรค์ไม่ต้องการจะพบข้าก็อย่าโทษข้าเลยเวลาที่ข้าสังหารเจ้า”
คําที่กล่าวออกมา
จิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็ออกมาจากเหลยเฉียนจือ เสียงฟ้าร้องก้องคํารามนับพันราวกับต้องการจะทําลายโลก
เมื่อจอมยุทธคนอื่นๆ นอกเมืองฉางอันได้ยินสิ่งนี้ หนังศีรษะของพวกเขาก็ชาวาบ
แม้ว่าเหลยเฉียนฉือจะกล่าวออกอย่างใจเย็น แต่ก็เป็นการข่มขู่ซูฉินโดยไม่มีการปิดบังใดๆ
ขณะที่จอมยุทธทั้งหลายจ้องมองไปที่เมืองฉางอันด้วยใบหน้าซีดเผือด พวกเขาต้องการจะรู้ว่าซูฉันจะตอบสนองอย่างไร
ปัง!
ประตูเมืองฝั่งที่ใกล้กับที่เหลยเฉียนจ่อยืนอยู่มากที่สุดพลันเปิดออก
นํามาด้วยเสียงที่สงบนิ่งไร้ซึ่งความผันผวนใดๆ
“เข้ามาหาเรื่องตาย!”