บทที่ 459 เสียใจ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

บทที่ 459 เสียใจ
หลี่หลานพูดขู่ขวัญก่อน ทำให้หลี่เฟิงที่กำลังจะพูด แต่ทันใดนั้นเขาก็พูดอะไรไม่ออก

ประกอบกับน้ำเสียงเผด็จการของหลี่หลานแล้ว ทำให้หลี่เฟิงไม่รู้จะพูดอะไรดี

เมื่อก่อนในตระกูลหลี่ หลี่หลานเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจ ทุกคนล้วนต่างรักและเอ็นดูเธอ โดยเฉพาะเธอในฐานะลูกสาวคนโตของท่านเฒ่าหลี่คนปัจจุบัน เธอยังเป็นแก้วตาดวงใจของหลี่กั๋วหรงท่านเฒ่าหลี่อีกด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะเขารักหลี่หลานมากเกินไป และถ้าหลี่หลานไม่มีความสำคัญกับตระกูลหลี่ท่านเฒ่าหลี่คงไม่โกรธจนถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาล เพราะเรื่องที่หลี่หลานหนีตามผู้ชาย

ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ยิ่งตำหนิมากขึ้นเท่านั้น!

“คุณแม่ พูดได้ดีมาก!”

เย่เซิ่งเทียนปรบมือให้หลี่หลาน

ไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางตอนนี้ของหลี่หลาน ถึงได้ทำให้เย่เซิ่งเทียนรู้สึกอยากจะร้องไห้

เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหมิงยู่แม่ของตนเอง

ตอนนั้น แม่ของตนเองเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหมิงเหมือนกัน!

เวลานั้น แม่ของตนเองเป็นแก้วตาดวงใจของครอบครัวเหมือนกัน

แต่เพราะคนสารเลวอย่างเย่ห้าว ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป

บางทีส่วนลึกในหัวใจของเย่เซิ่งเทียน เขาคาดหวังว่าตอนนั้นแม่ของตนเองจะเข้มแข็งเหมือนหลี่หลาน และถ้าเธอเผด็จการเหมือนหลี่หลานนั้นคงจะดีมาก

ถ้าตอนนั้นแม่เผด็จการและเห็นแก่ตัวมากกว่านี้หน่อย หมิงฮุยและคนอื่น ๆ คงจะไม่กล้าทำอะไรเธอ

แต่แม่เป็นคนใจอ่อนเกินไป

แม่ทำเพื่อตระกูลหมิงมากมาย แต่ผลที่ได้มาคือความเนรคุณ

ถ้าตอนนั้นแม่เป็นคนที่โหดเหี้ยมหน่อย แล้วสลัดตระกูลหมิงออกไป คิดว่าพวกเขาคงไม่กล้าทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนั้น

สถานการณ์ตอนนั้นของแม่คล้ายกับแม่ยายมาก เพียงแต่แม่ยายโชคดีกว่าแม่ของตนเอง

บางทีอาจเป็นเพราะเขาคิดถึงแม่ ดังนั้นเย่เซิ่งเทียนถึงได้ต้องการให้แม่ยายปรากฏต่อหน้าตระกูลหลี่ด้วยความสง่าผ่าเผย เพื่อทำให้คนที่ดูถูกแม่ยาย คุกเข่าอยู่บนพื้นและขอร้องให้แม่ยายกลับมา

นี่อาจเป็นสิ่งที่เย่เซิ่งเทียนต้องการทำเพื่อแม่

ขณะนี้ เย่เซิ่งเทียนถือว่าหลี่หลานเป็นแม่ตนเองโดยไม่รู้ตัว

“คุณ…คุณช่างกล้ายิ่งนัก!! หลี่หลาน คุณจะต่อต้านหรือ? วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณพ่อ คุณคิดจะทำอะไร!”

การระเบิดอารมณ์อย่างกะทันหันของหลี่หลาน ทำให้หลี่เฟิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย ตอนนั้นไม่มีใครในตระกูลหลี่ที่ไม่กลัวคุณหนูใหญ่คนนี้!

ก่อนหน้านี้ หลี่หลานทำตัวอ่อนแอ ซึ่งทำให้หลี่เฟิงรู้สึกว่าตนเองสามารถสยบหลี่หลานได้

แต่ตอนนี้เขาถึงได้ตระหนักว่าตนเองยังไม่รู้นิสัยของหลี่หลาน!

“หุบปากซะ! ถ้าจะขับไล่ฉัน ต้องเป็นหลี่กั๋วหรงเท่านั้น เพราะคุณยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!”

ตอนนี้หลี่หลานเต็มไปด้วยรัศมี เธออุ้มซือซือไว้และกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ เซิ่งเทียน ตามฉันเข้าไปข้างในเถอะ!”

หวางซีแอบกลืนน้ำลาย เธอไม่คิดว่ารัศมีของแม่ตนเองจะแข็งแกร่งขนาดนี้

เมื่อสักครู่เธอคิดว่าแม่กำลังคุยโวต่อหน้าตนเองและเย่เซิ่งเทียน แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง

“คุณเย่”

ขณะนี้ ซุนเฮ่อพาหลี่เสี่ยวปิงเดินมาถึงแล้ว และพวกเขาเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่

หลี่หลานทำให้หลี่เสี่ยวปิงตกใจ แล้วเธอก็รู้ได้ว่าเจ้าเทพมีแม่ยายที่ยอดเยี่ยมมาก จนทำให้เธอรู้สึกกลัวและไม่กล้าเดินมาทักทาย

เมื่อเห็นว่าเป็นหลี่เสี่ยวปิงและซุนเฮ่อ เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า “บังเอิญจริง ๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหลี่เสี่ยวปิงเปลี่ยนเป็นสีแดงระรื่น

บังเอิญจริง ๆ หรือ?

เพราะเธอนั้นตั้งใจมา การที่เธอมาที่เมืองเฉียนถังนั้น ก็เพื่อดูว่าจะสามารถพบหน้าเจ้าเทพอีกครั้งได้หรือไม่?

ซุนเฮ่อรีบกล่าวว่า “คุณเย่ ผมได้ยินมาว่าบริษัทหัวหยวนของภรรยาคุณ มีความตั้งใจจะพัฒนาทางด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์เช่นกัน ผมจึงพาเสี่ยวปิงมาที่นี่ หวังว่าจะสามารถได้ร่วมงานกับบริษัทหัวหยวน และหวังว่าคุณเย่จะสามารถให้โอกาสสักครั้ง”

หลังจากกล่าวจบ ซุนเฮ่อรู้สึกประหม่าจนเหงื่อเต็มหน้าผาก

“ซีเอ๋อร์ พวกเขามาหาคุณ”

เย่เซิ่งเทียนรู้ว่าซุนเฮ่อคิดอะไรอยู่ แต่เขาไม่ใส่ใจ

แต่คนรอบ ๆ ต่างตกใจ เขาคือผู้กำกับซุนผู้กำกับหมื่นล้านคนแรกในต้าเซี่ย แต่เขากลับแสดงความเคารพเย่เซิ่งเทียนที่เป็นเขยแต่งเข้ามากขนาดนี้ได้อย่างไร?

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

“ผู้กำกับซุนคุณอย่าถูกเขาหลอก ครอบครัวนี้เป็นนักตุ้มตุ๋น และเย่เซิ่งเทียนคนนี้เป็นแค่เขยแต่งเข้าเท่านั้น”

ขณะนี้ หลี่เย็นหรานได้สติกลับมา เมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่หลี่หลานทำให้ตนเองตกใจ เธอรู้สึกอับอายและโกรธทันที ตอนนี้เธอลุกขึ้นยืนทันที เพื่อคิดที่จะกู้หน้ากลับคืนมา