ตอนที่ 493 เงื่อนไข
“เสด็จพ่ออยากที่จะถามความเห็นของลูกจริงๆ หรือเพคะ” อวี้อาเหราเงยหน้าขึ้น ดวงตาส่องประกายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“แน่นอนสิ” หลิงอ๋องพยักหน้าอย่างหนักแน่น
อวี้อาเหราชะงักไปชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยว่า “ท่านพี่ใส่ร้ายลูกเช่นนี้ หากพูดตามเหตุผลแล้วก็ไม่ควรปล่อยนางออกมา แต่ลูกไม่อาจทนมองเสด็จพ่อที่อายุมากถึงเพียงนี้แล้วยังต้องมาวิตกกังวลเช่นนี้ได้ เพราะเช่นนั้น หากเสด็จพ่อปรารถนาเช่นใดก็ตามแต่พระทัย ลูกไม่มีความคิดเห็นอะไร เพียงแต่มีเงื่อนไขหนึ่งข้อเพคะ…”
“เงื่อนไขอะไร เจ้าว่ามาเถิด” หลิงอ๋องรีบถามขึ้นมาในทันที
“หากต่อไปท่านพี่หาเรื่องลูกอีก จะต้องทรงลงโทษอย่างยุติธรรม มิเช่นนั้นผู้คนคงดูเบาสถานะธิดาเอกของลูกไปกันหมด หากเพียงครั้งสองครั้งก็สามารถอ้างได้ว่าไม่รู้ความ แต่หากมีครั้งที่สามครั้งที่สี่หรือมากกว่านั้น นั่นก็หมายความว่านางเป็นคนจิตใจชั่วร้าย จงใจที่จะทำร้ายกันจริงๆ เสด็จพ่อก็ไม่ควรที่จะละเว้นโทษใช่หรือไม่เพคะ” อวี้อาเหราจ้องตาอีกฝ่ายขณะที่พูด แล้วถามกลับพร้อมทั้งกะพริบตาปริบๆ
นางรู้ดี แม้ว่าจะบอกปัดความปรารถนาของหลิงอ๋องในตอนนี้ ต่อไปอวี้จื่อเยียนก็ต้องกลับมาอยู่ดี และจะต้องสร้างความไม่สบายใจให้กับทุกคน นางต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน ต่อไปอวี้จื่อเยียนจะได้ไม่สามารถหาข้ออ้างอะไรได้อีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หลิงอ๋องก็คงไม่สามารถที่จะแก้ตัวแทนอวี้จื่อเยียนได้แล้ว
พวกนางได้รับการลงโทษเช่นนี้ คงจะไม่กล้าก่อเรื่องอะไรขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นี้หรอก
และตัวของอวี้จื้อเองก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางเพียงแค่ได้ยินชื่อผ่านๆ แต่ไม่เคยพบหน้า จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไร หากมีนิสัยใจคอโหดร้ายเช่นเดียวกับอนุรองและพี่สาว นางก็คงจะไม่ปล่อยเอาไว้แน่
ไม่กลัวศัตรู แต่ที่น่ากลัวคือศัตรูที่ลอบกัด
ครั้งนี้อวี้อาเหราไม่ทำเรื่องอะไรที่จะปกปิด แต่จะทำให้เห็นต่อหน้า จะทำเรื่องอะไรก็ให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน นางไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ขอเพียงควบคุมทุกอย่างเอาไว้ในมือ แน่นอนว่านางจะไม่มีวันแพ้
หลิงอ๋องไม่รู้ว่าในใจของอวี้อาเหรากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นว่านางตอบรับ เช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้นอย่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง “อาเหราช่างเข้าใจเรื่องต่างๆ ได้ดีนัก วางใจเถิด หากปล่อยตัวเยียนเอ๋อร์ในครั้งนี้แล้วนางกล้าที่จะก่อเรื่องอะไรอีก พ่อจะไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ๆ!”
“เพคะ” อวี้อาเหราพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็ย่นคิ้ว “แต่เสด็จพ่อเพคะ หากปล่อยตัวท่านพี่ออกมาเช่นนี้คงจะไม่ดีนัก เพราะนางได้รับโทษจึงถูกส่งตัวเข้าไปที่หนานย่วน ทว่าเพียงไม่กี่วันก็ปล่อยตัวนางออกมาเสียแล้ว ต่อไปหากคนในจวนรู้เข้า ระเบียบภายในจวนคงจะวุ่นวาย ไม่อาจสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นได้”
“แล้วเจ้าคิดเห็นอย่างไรหรือ” หลิงอ๋องเอ่ยถามต่อ
อวี้อาเหราลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยปากออกมาว่า “เอาเช่นนี้ดีหรือไม่เพคะเสด็จพ่อ ตอนนี้ให้ท่านพี่อยู่ในหนานย่วนก่อน เมื่อน้องสามกลับมาแล้วจึงค่อยปล่อยตัวออกมา เพื่อจะได้ไม่มีใครกล้าดูแคลนจวนหลิงอ๋องของเราได้ว่าไม่มีความยุติธรรม และเป็นการทำให้ท่านพี่รับรู้ถึงความผิดของตัวเอง ต่อไปจะได้ไม่กล้าทำผิดอีก”
“แต่พ่อได้ยินอนุรองกล่าวว่า ตอนนี้เยียนเอ๋อร์ที่โดนเฆี่ยนนั้นเจ็บปวดจนหายใจรวยริน ตอนนั้นพ่อโกรธจึงมือหนักไปเสียหน่อย ตอนนี้จึงรู้สึกผิดขึ้นมา กลัวว่าหากนางยังอยู่ที่หนานย่วนเพื่อรักษาตัว เช่นนั้นคงจะลำบากไปกันหมด” คิ้วของหลิงอ๋องขมวดมุ่น
อวี้อาเหรายิ้มแล้วส่ายหน้า “เสด็จพ่ออย่าได้ทรงวิตกไปเลย ที่จริงแล้วหลังจากที่เสด็จพ่อเฆี่ยนตีท่านพี่ ลูกก็ได้ไปเยือนหนานย่วนด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่ไปส่งยาเท่านั้น อีกทั้งยังเรียกสาวใช้ของท่านพี่ไปช่วยรักษาท่านพี่ด้วย ตอนนี้บาดแผลของนางคงใกล้จะหายดีแล้ว ไหนเลยจะบาดเจ็บหนักจนหายใจรวยรินเช่นนั้นอีก”
“แต่อนุรองบอกว่า…” หลิงอ๋องยังคงไม่วางใจ
ตอนที่ 494 แลกเปลี่ยน
“อนุรองเข้าไปในหนานย่วนไม่ได้ แล้วนางจะทราบได้อย่างไรเพคะว่าอาการบาดเจ็บของท่านพี่เป็นเช่นไร คาดว่าในใจของนางคงเป็นกังวลจนไม่อาจวางใจได้ ด้วยเพราะคิดว่าท่านพี่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่อันที่จริงแล้วเสด็จพ่อก็ยังไม่นับว่าลงมือหนักมากนัก เพียงต่าทางเช่นนั้นอาจจะทำให้คนตกใจอยู่บ้าง นางบาดเจ็บเพียงผิวหนังชั้นนอก หากรักษาดีๆ ก็จะหาย ขอให้เสด็จพ่อโปรดวางพระทัยเพคะ” อวี้อาเหราตัดบทคำพูดของบิดา และยังพูดต่อไป
“ก็ได้” ในที่สุดหลิงอ๋องก็ถอนหายใจออกมาอย่างวางใจ
เมื่ออวี้อาเหรากล่าวออกมาเช่นนี้ เขาก็วางใจลง อวี้อาเหรามีนิสัยอย่างไร เขาที่เป็นบิดาก็จำต้องรู้ดี นางไม่ใช่คนที่คำพูดและการกระทำไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นนางจะไม่พูดไปเรื่อยเปื่อย หากนางไม่อยากให้อวี้จื่อเยียนหายดีจริงๆ เช่นนั้นก็คงไม่ยอมปล่อยให้อวี้จื่อเยียนออกมาแน่
เมื่อเห็นว่าหลิงอ๋องไม่กล่าวอะไรอีก อวี้อาเหราก็ค่อยๆ เงียบลงไปด้วย
จะว่าไปแล้วหลิงอ๋องก็ค่อนข้างเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความเป็นธรรมพอๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นอวี้จื่อเยียนหรือว่านางเองก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุตรสาวของเขา แน่นอนว่าไม่อาจที่จะปล่อยปละละเลยได้ แต่เพราะนางเป็นลูกของพระชายา เช่นนั้นจึงรักใคร่เอ็นดูนางมากกว่าอวี้จื่อเยียน หากเป็นท่านอ๋องตระกูลอื่น ก็คงนึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตระกูลตัวเองเป็นหลัก
หลิงอ๋องผู้นี้ก็ถือว่าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนัก
เพียงแต่ว่าเขาออกจะหูเบาไปสักหน่อย เพียงอนุรองเป่าหูแค่ไม่กี่คำก็ถูกจูงจมูกเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงจวนหลิงอ๋องแล้ว หลิงอ๋องก็กล่าวขึ้นมาอีกอย่างไม่วางใจ “พรุ่งนี้เจ้าก็เข้าวังไปตามพระเสาวนีย์ของไทเฮาเสีย ต้องทำตัวให้เรียบร้อยตามคำสั่ง อย่าได้ไปหาเรื่องผู้ใดเข้า โดยเฉพาะองค์รัชทายาท แม้ว่าเขาจะเป็นคนเช่นนั้น แต่อย่างไรเขาก็เป็นรัชทายาทแห่งวังตะวันออก ไทเฮาย่อมรักใคร่เขาเป็นอย่างมาก เจ้าอย่าไปโต้เถียงกับเขา ต้องพยายามที่จะหลบเลี่ยงให้ถึงที่สุด”
“เพคะ ลูกเข้าใจแล้ว” อวี้อาเหราพยักหน้ารับรอง
เช่นนั้นหลิงอ๋องจึงค่อยคลายความกังวลใจลง แล้วเอ่ยขึ้นอย่างจนใจอยู่บ้าง “ทุกครั้งเจ้าก็พูดว่าเข้าใจเช่นนั้นเข้าใจเช่นนี้ แต่สุดท้ายก็ยังออกไปก่อเรื่องก่อราวที่ข้างนอกเสมอ จนพ่อไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแล้ว เรื่องอื่นๆ พ่อก็ขี้เกียจรำคาญจะว่ากล่าว แต่ขอให้เจ้าเก็บอารมณ์เอาไว้บ้างเถิด ยามนี้เจ้าดีกว่าเมื่อก่อนมาก แต่นิสัยกลับไม่อ่อนโยนเฉกเช่นเมื่อก่อนเลย”
แน่นอนว่าย่อมไม่อ่อนโยนสิ ก็นางไม่ใช่คุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องตัวจริงเสียหน่อย
อวี้อาเหราคิดในใจ แล้วจึงยิ้มออกมาอย่างประจบประแจงต่อท่าทีรำคาญใจของหลิงอ๋อง
หลิงอ๋องไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เมื่อรถม้าหยุดลง จึงเดินลงจากรถไป
อวี้อาเหราเดินตามไปติดๆ มองไปทางด้านหลังของหลิงอ๋อง จากนั้นก็หยุดสายตาเอาไว้
เจาเอ๋อร์หันกลับมาถามอย่างแปลกใจ “คุณหนู เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องคุยอะไรกับท่านหรือเจ้าคะ”
“เสด็จพ่อต้องการที่จะปล่อยตัวอวี้จื่อเยียนออกมา จึงถามความคิดเห็นของข้า” อวี้อาเหราตอบเรื่อยๆ
“หา เหตุใดท่านอ๋องจึงทำกับท่านเช่นนี้ได้เจ้าคะ” เจาเอ๋อร์มองสีหน้าของนางอย่างละเอียด มองไม่เห็นว่าสีหน้าของนางจะเปลี่ยนแปลงไปตรงไหน ในใจก็อดไม่ได้ที่จะลังเลขึ้นมา คุณหนูของนางนั้นรังเกียจคุณหนูใหญ่มากมิใช่หรือ? แต่เหตุใดถึงไม่เห็นว่านางจะโกรธหลิงอ๋องที่พูดเช่นนี้เลยเล่า?
“เสด็จพ่อคิดถึงความสัมพันธ์ จึงไม่อาจทนเห็นอวี้จื่อเยียนทนทุกข์อยู่ในหนานย่วนได้ อีกอย่าง อวี้จื้อกำลังจะกลับมา คงไม่อาจรังแกอนุรองและพี่สาวต่อหน้าเขาได้ เช่นนั้นจึงอยากจะปล่อยตัวอวี้จื่อเยียนออกมา” อวี้อาเหราอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
เมี่ยวอวี้ได้ยินบทสนทนาของพวกนาง ก็เดินเข้ามาถามอย่างระมัดระวัง “แล้วคุณหนูยอมรับคำขอของท่านอ๋องหรือไม่เจ้าคะ”
“ยอมรับ” อวี้อาเหราตีหน้าขรึม แต่น้ำเสียงกลับผ่อนคลาย ราวกับพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองแม้แต่น้อย
เจาเอ๋อร์ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “คุณหนู เหตุใดถึงตอบรับท่านอ๋องเช่นนั้นเล่าเจ้าคะ? คุณหนูใหญ่ทำกับท่านถึงเพียงนี้ หากปล่อยนางออกมาอีกต้องเกิดเรื่องขึ้นอีกแน่ นางคงไม่ปล่อยท่านเอาไว้ น่าโมโหยิ่งนัก”