ตอนที่ 543: ความโกลาหล

Crazy Leveling System

ตอนที่ 543: ความโกลาหล

 

คําพูดของอี้เทียนหยุนทําให้พวกเขาตกใจจนรู้สึกหวาดกลัว ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเห็นกระบี่เทพเทียนหมิงถูกเอาไป จึงอดไม่ได้ต้องตะโกนออกไป แต่มาตอนนี้กลับสํานึกเสียใจแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายจะเอากระบี่เทพเทียนหมิงไป พวกเขาก็ไม่สามารถห้ามได้อยู่ดี

 

ตัดสินจากความดุร้ายของอีกฝ่าย เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะต้านทานไหว แล้วยิ่งตอนนี้มีกระบี่เทพเทียนหมิงอยู่ในมือด้วยแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งน่ากลัว

 

“ผ่านบททดสอบเรียบร้อยแล้ว จากนี้จะเข้าสู่บททดสอบสุดท้าย!”

 

น้ําเสียงที่คุ้นเคยดังลงมาจากฟ้า ในที่สุดหลังจากที่พวกหมิงเฉินถูกจัดการไป ก็ปรากฏเสียงนี้ขึ้น มหาค่ายกลในวิหารเทพพากันเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา พริบตา ทั่วทั้งมหาค่ายกลก็สว่างไสว อึดใจต่อมา “ฟรีบ” อี้เทียนหยุนก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่ ไม่รู้ว่าถูกส่งไปที่ไหน

 

หลังจากผู้คนเห็นขี้เทียนหยุนหายไป ก็พากันมองกันด้วยสีหน้าว่างเปล่า ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายถูกส่งไปที่ไหน พวกเขาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปไหนทั้งยังไม่สา มารถขึ้นตามไปดูได้

 

เพราะตราบใดที่เข้าไปใกล้ ก็จะถูกทําให้ตกลงไป ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้แม้แต่อิฐก้อนเดียวเพราะแรงกดดันจากข้างบนนั้นหนักมาก หากคิดในขึ้นไป ก็จะถูกแรงกดดันบดจนบี้แบน

 

ดังนั้น ผู้คนที่คิดจะขึ้นมายังวิหารเทพแห่งนี้ได้ จําเป็นต้องผ่านบททดสอบแล้วเท่านั้น โดยการบินผ่านบันไดเทวะ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะได้เข้าไป

 

“คนๆ นั้นไปไหนแล้ว รีบไปรายงานท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์เร็ว บอกท่านถึงสถานการณ์ของที่นี่

 

เรื่องของที่นี่ยังไม่ได้ส่งไปยังเมืองหลวงเทียนหมิง เนื่องเพราะกลัวว่าจะต้องรับกับความพิโรธ ดังนั้นจึงได้ทําการปกปิดไว้ชั่วคราว รอให้รู้สถานการณ์ของที่นี่กระจ่างก่อ รู้ว่าผู้บุกรุกเป็นใคร และหลังจากจับกุมได้แล้ว จากนั้นจึงจะกุมตัวผู้บุกรุกไปเพื่อขอรับความอภัย

 

แต่ตอนนี้ภายใต้สายตาของทุกคน ผู้บุกรุกได้ทําการสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณของพวกเขาอย่างต่อเนื่องไปถึง 4 คน ทําให้ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทําการปกปิดเรื่องราวเอาไว้ ได้แล้ว จําเป็นต้องรายงานเรื่องนี้ออกไปให้เร็วที่สุด

 

ส่วนอี้เทียนหยุนจะถูกพาไปที่ไหนนั้น พวกเขาไม่รู้เลย เป็นเหมือนกับการตบหน้ากันโดยสมบูรณ์

 

อย่างรวดเร็ว ข่าวของที่นี่ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเผ่าฟีนิกซ์ได้ฟังข่าวนี้ ก็พากันตกใจจนตาตั้ง

 

“สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณไป 4 คน รวมถึงหมิงเฉินด้วย ทั้งยังผ่านบททดสอบอะไรนั่นได้สําเร็จ ทูตศักดิ์สิทธิ์ช่างทรงพลังอย่างมาก แท้จริงแล้ว เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?” ผู้อาวุโสคั่วกับพวกกลับมาอย่างปลอดภัย โดยไร้เรื่องราว พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวให้ไปสุ่ยหวงฟัง

 

เมื่อไปสู่ยหวงรู้ว่าไอ้ที่เรียกว่าห้องสมบัติอะไรนั่น สุดท้ายแล้วเป็นคอมสัตว์อสูร ก็ให้รู้สึกตกใจอย่างมาก แต่เมื่อได้ยินถึงความสามารถที่แสนอัศจรรย์ของอี้เทียนหยุน ก็ทําให้นัยน์ตาคู่งามของ เธอฉายประกายอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่

 

ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็พากันกังวลกับเรื่องของอี้เทียนหยุน บุกเข้าไปในแท่นบูชาเทียนหมิงคนเดียวนี่เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก แต่ใครจะรู้ ว่าจะมีข่าวร้ายแรงส่งออกมาอย่างรวดเร็วบอกว่าเทียนหยุนได้ทําการสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณไป 4 คนอย่างต่อเนื่องซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความตกใจให้กับทั่วทั้งเผ่าฟีนิกซ์

 

เพราะนอกจากอี้เทียนหยุนแล้ว พวกเขาก็คิดไม่ออกว่าผู้ที่บุกรุกเข้าไปในแท่นบูชาเทียนหมิงนั้นจะเป็นใครศัตรูของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนั้นมีอยู่มากมาย แต่ไม่มีใครกล้าที่จะบุกรุกเข้าไป ในแท่นบูชาเทียนหมิงอย่างนั้น เนื่องจากที่นั่นเป็นสถานที่อันตราย

 

แต่เนื่องจากเข้าไปยังถิ่นคนอื่นแล้วยังกล้าสังหารคนของอีกฝ่าย ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเป็นเทียนหยุน ทูตศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา

 

“เรื่องนี้อาจเป็นไปได้ ก่อนหน้านี้ที่สังหารเหมินห์เขาก็ทําได้อย่างเงียบเชียบ เมื่อพวกเรารู้ตัวอีกที เหมินหูก็ถูกเขาปักตรึงไว้ที่พื้นแล้ว บางที นั่นอาจจะเป็นพลังที่แท้จริงของทูตศักดิ์สิทธิ์” ผู้อาวุโสเหลยพูดด้วยรอยยิ้มเจ็บปวด “ดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้าใจผิดพลาด ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นเพียงเผ่ามนุษย์ที่ดีคนหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะท้าทายสวรรค์ขนาดนั้น”

 

เรื่องนี้สําหรับพวกเขาถือเป็นเรื่องน่าเฉลิมฉลอง ได้ทูตศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาเข้าร่วม แล้วจะไม่ให้พวกเขามีความสุขได้ยังไง?

 

“นี่เป็นเพราะสายตาที่แหลมคมของหัวหน้าเผ่า ที่ตอนแรกแต่งตั้งเขาเป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ บอก ตามตรงว่าเรื่องนี้ทําให้พวกเรารู้สึกตกใจจริงๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะไม่มีใครในเผ่ากล้าว่าหัวหน้าเผ่าในเรื่องนี้อีก” เถ้าแก่เย่ยิ้ม พร้อมกับนึกขึ้นได้อย่างตกใจ สายตาของหัวหน้าเผ่าช่างแหลมคมจริงๆ ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงพลาดทูตศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังคนนี้ไป

 

ผู้อาวุโสทั้งหลายพากันยิ้มหน้าบาน แต่ไปสู่ยหวงกลับกําลังขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่

 

“เขากําลังเข้ารับการทดสอบของแท่นบูชาเทียนหมิงเพื่อเป็นผู้สืบทอดของราชาศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือเปล่า? หากว่าเขาได้รับการสืบทอดสําเร็จ อนาคตของเขาจะต้องน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน” ไปสู่ยหวงมีท่าทางตกใจ เมื่อคิดถึงการทดสอบเพื่อเป็นผู้สืบทอดนี้

 

หลังจากผู้อาวุโสทั้งหลายได้ฟัง ก็พากันพยักหน้าหมึกหงัก เรื่องนี้พวกเขาก็ได้ยินมา แต่ว่าแท่นบูชาเทียนหมิงตกอยู่ภายใต้การจัดการของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะรู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริง

 

“ไว้ทูตศักดิ์สิทธิ์กลับมาแล้ว ให้รีบไปแจ้งข้าทันที!” หลังจากไปสู่ยหวงสั่งงานไว้ ก็ทําการออกไปจัดการเรื่องอื่นต่อทันที

 

ไม่เพียงแต่เผ่าฟีนิกซ์เท่านั้นที่ตกใจกับข่าวนี้ แต่เป็นทั่วทั้งโลกวิญญาณ มีผู้บุกรุกเข้าไปในแท่นบูชาเทียนหมิง ทั้งยังสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณไปถึง 4 คน นี่มันช่างเกินไปกว่าที่พวกเขาจะคาดคิดจริงๆ

 

ไม่รู้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงไปหาเรื่องยักษ์ใหญ่ที่ไหนเข้า หรืออาจจะเป็นตระกูลลับสักตระกูลแต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง เรื่องนี้ก็ได้ทําให้พวกเขาได้มีการถกเถียงกัน ต่างก็พากันคาดเดาถึงฐานะที่แท้จริงของผู้บุกรุกคนนี้

 

ส่วนที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนั้น ตอนนี้ได้ระเบิดออกโดยสมบูรณ์ พร้อมกับส่งผู้แข็งแกร่งออกไปสนับสนุนในทันทีทั้งตัวเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเองก็เต็มไปด้วยความโกรธ

 

ทั่วทั้งโลกวิญญาณต่างก็สั่นสะเทือน แต่ส่วนใหญ่ก็ต่างพากันยินดีต่อความโชคร้าย ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเท่านั้นสุดท้ายก็มีคนออกมาจัดการกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนี้สักทีแม้ว่าจะไม่สามารถจัดการกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจนสิ้นซาก แต่อย่างน้อยก็ทําให้อีกฝ่ายสูญเสียได้

 

ขณะที่ด้านนอกกําลังเป็นประเด็นอย่างร้อนแรง แต่อี้เทียนหยุนผู้ที่กระทําให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกลับไม่รู้ว่าตัวเองถูกส่งมาที่ไหน

 

หลังจากเทียนหยุนถูกส่งมา เมื่อเขารู้สึกตัว เขาก็พบว่าตัวเองได้ถูกส่งมายังพื้นที่พิเศษ ที่รอบๆ เต็มไปด้วยกําแพงหินที่ถูกจารอักขระเขาสรุปว่าเขายังคงอยู่ในแท่นบูชาเทียนหมิง ไม่ได้ ถูกส่งไปที่อื่น

 

และตรงนี้ก็ไม่ได้มีของแปลกประหลาดอะไร จะมีก็แต่เส้นทางหนึ่งที่ทอดยาวออกไปข้างหน้าโดยไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่รู้ว่าจะนําทางไปยังที่ไหน

 

แต่อี้เทียนหยุนไม่คิดมาก พร้อมกับทําการเดินเข้าไปด้านใน และเมื่อก้าวเข้าไป สภาพแวดล้อมรอบๆ ก็พลันเปลี่ยนไปในทันที กลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้นับไม่ถ้วนทั้งต้นไม้ ดอกไม้พวกนี้ยังเป็นสมบัติที่ล้ําค่าของสวรรค์และปฐพีอีกด้วย ต่างก็เป็นสมุนไพรชั้น 5 ชั้น 6 ด้ว ยกันทั้งนั้น นี่ช่างทําให้เขารู้สึกตกตะลึงจริงๆ

 

อี้เทียนหยุนได้ตกใจกับภาพตรงหน้า แต่ก็ได้ทําการหยุดฝีเท้าเพื่อทําให้จิตใจที่โลภได้สงบลงจากนั้นก็ได้ทําการก้าวเดินต่อ โดยไม่มองไปยังสภาพแวดล้อมรอบๆ อีก

 

ยังไงก็ตาม ขณะที่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ ที่ปาใกล้ๆ ตรงหน้าก็มีเสียงหัวเราะอย่างขี้เล่นดังมา อี้เทียนหยุนหันกลับไปดู และก็พบว่าที่ใกล้ๆ นั้นมีสระน้ําอย่างไม่คาดคิด ทั้งยังมีหญิงสาวที่งดงา มจับตากําลังเล่นน้ําอยู่ในสระหลายคน ทําให้ผู้คนที่ได้ดูรู้สึกเลือดลมสูบฉีด

 

“น้องชายสุดหล่อคนนี้จะมาเล่นด้วยกันไหม?” ในตอนนี้เอง พวกเธอได้สังเกตเห็นอี้เทียนหยุนที่กําลังเดินอยู่ จึงได้กวักนิ้วเรียก บอกให้เขาเข้ามาเล่นด้วยกัน

 

อี้เทียนหยุนยิ้ม แต่ไม่ได้เดินเข้าไป พร้อมกับออกเดินต่ออย่างมั่นคง! รอบๆ ต่างก็มีสิ่งที่เข้ามาล่อตาล่อใจไม่หยุด พยายามจะแทรกซึมเข้ามาในร่างของเขา เพื่อส่งผลแต่จิตเต่ของเขา

 

แต่จิตเต๋าของเขามั่นคงมาก ยังคงเดินหน้าต่อด้วยใจที่ไม่วอกแวก ไม่สนใจสิ่งล่อใจรอบๆ ใดใดเพราะเขารู้ว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นของปลอม หากว่าตกลงไป กลัวว่าคงจะไม่มีวันได้ออกมาตลอดกาล