บทที่ 479 การฝึกพิเศษของหวังชูเหริน
หลังจากที่หวังชูเหรินส่งส่วนผสมให้กับเขาแล้ว ซูหยางก็ใช้ไฟปรุง
ยาหุ้มเตา เพิ่มความร้อนให้กับทั้งเตาอย่างรวดเร็ว
“มิว่ากี่ครั้งที่ข้าได้เห็น วิชาและความแม่นยำในด้านอุณหภูมิของเขา
สร้างความตะลึงพรึงเพริดให้แก่ข้าเสมอ หรือว่าเขาเองก็เป็นนักปรุง
ยาในชีวิตก่อนเช่นเดียวกัน…” หวังชูเหรินครุ่นคิดในใจขณะที่เธอ
หลงใหลไปกับเปลวเพลิงที่เต้นระริกอยู่ด้านหน้า
ในสายตาของเธอมันเหมือนกับว่าเปลวเพลิงได้มีชีวิต และพวกมัน
ล้วนเต้นด้วยจังหวะเพลงเดียวกัน ราวกับว่าพวกมันกำลังแสดงละคร
ต่อหน้าผู้ชมซึ่งก็คือหวังชูเหริน
สองสามนาทีให้หลัง ครั้นเมื่อเตาปรุงยาร้อนพอแล้ว ซูหยางก็โยน
ส่วนผสมเข้าไปภายในและปิดฝา
“ดูให้ดี” ซูหยางพลันกล่าวกับเธอ
หวังชูเหรินพยักหน้าด้วยสีหน้าตึงเครียดและจ้องมองที่เตาปรุงยา
พร้อมกับหรี่ตา
แม้ว่าเตาปรุงยาจะอยู่ใกล้และไม่ได้เปิดฝา หวังชูเหรินก็สามารถเห็น
ภายในเตาปรุงยาและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเตาปรุงยาได้ภายในใจ
ของเธอ
ส่วนผสมบางอย่างถูกเผาอย่างรุนแรงจนกระทั่งมีเพียงส่วนผสมที่
บริสุทธ์ิเท่านั้นเหลืออยู่ และส่วนผสมบางอย่างก็ถูกเผาอย่างสมบูรณ์
เปลี่ยนมันไปเป็นควัน แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อควันไม่สามารถหนี
ออกไปจากเตาได้ มันก็เริ่มรวมตัวกับส่วนผสมอื่นกลายเป็นบางอย่าง
ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
และภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที หลังจากที่ส่วนผสมทั้งหมดรวมตัว
เข้าด้วยกันหมดแล้ว มันก็สร้างรูปเม็ดยาอย่างรวดเร็ว
หวังชูเหรินมองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเตาปรุงยาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เธอไม่เคยเห็นใครปรุงยาด้วยความแม่นยำและรวดเร็วปานนี้ แม้กระทั่ง
จากซูหยางเองก่อนหน้านี้ มันราวกับว่าเธอกำลังดูปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
ต่อหน้าต่อตา
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็เปิดเตาและนำเอาเม็ดยาสีทองที่เกิดขึ้น
ภายในนั้นออกมา
“นี่เป็นโอสถเหนือสวรรค์คุณภาพระดับไร้ที่ติ” ซูหยางกล่าวด้วย
สีหน้าเรียบเฉย ทำทีเหมือนกับว่าเขาได้ทำอะไรที่ปกติมาก
“ในเมื่อมันเป็นคุณภาพระดับไร้ที่ติ ถ้าเจ้ากินยานี้ครั้นเมื่อเจ้าเข้าสู่
ระดับสูงสุดของเขตปฐพีวิญญาณ เจ้าก็จักเข้าสู่เขตอัมพรวิญญาณได้
อย่างง่ายดาย แน่นอนว่าเจ้ายังจักไม่สามารถที่จะปรุงยาเหล่านี้ใน
ระดับไร้ที่ติได้ในทันที ดังนั้นพวกมันทั้งหมดจะมีประสิทธิภาพไม่
เท่ากัน”
“อย่างไรก็ตาม เจ้าเข้าใจวิชาของข้าได้บ้างหรือไม่ ข้าตั้งใจทำอย่าง
ช้า ๆ เพื่อที่เจ้าจะได้เห็นมันอย่างชัดเจน” เขาถามเธอ
“แม้ว่าข้ายังมิเข้าใจมันในตอนนี้ แต่ข้าก็จักตีความวิชานี้ให้เข้าใจใน
ที่สุด ในเมื่อข้าได้ประทับทุกการเคลื่อนไหวที่ท่านกระทำไว้ในใจ
ข้าแล้ว” หวังชูเหรินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “ดี เช่นนั้นเจ้าจักเริ่มปรุงยาด้วยวิชานี้
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าอาจจะเผาสักสองสามร้อยหรือกระทั่ง
นับพันตัวยาระหว่างเจ้าฝึก แต่ครั้นเมื่อเจ้าเข้าใจวิชานี้แล้ว ฝีมือการ
ปรุงยาของเจ้าก็จักเข้าสู่ระดับใหม่อย่างเป็นสากล ระดับที่ไม่มีใคร
ในโลกนี้ที่สามารถเข้าถึงได้”
หวังชูเหรินพยักหน้าและกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจักเริ่มปรุงยาในทันที”
แต่ทว่าซูหยางรีบกล่าวว่า “ใครกล่าวว่าเจ้าได้รับอนุญาตให้ปรุงยา
ในตอนนี้”
“เอ๋” เธอมองดูเขาด้วยใบหน้างงงัน
“ถอดออก” เขาพลันกล่าวสร้างความมึนงงให้กับเธอมากยิ่งกว่าเดิม
“พวกเราจะร่วมฝึกวิชากันในตอนนี้ ครั้นเมื่อเจ้าหมดแรงแล้ว เจ้าจึง
ค่อยเริ่มฝึกปรุงยา”
“เอ๋?!?!” หวังชูเหรินมีสีหน้าตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “ถ้าข้า
ฝึกปรุงยาหลังจากที่ข้าหมดแรง มันจะยิ่งมิยากขึ้นกว่าเดิมสำหรับข้า
ในการเรียนรู้หรอกรึ”
“แน่นอน เจ้าย่อมมิสามารถที่จะเรียนรู้ได้รวดเร็วในตอนแรก แต่ทว่า
ถ้าเราใช้วิธีนี้ในการฝึกฝนตัวเจ้า พลังวิญญาณของเจ้าจักเพิ่มขึ้นอย่าง
เห็นได้ชัด และครั้นเมื่อเจ้าคุ้นเคยกับการปรุงยาภายใต้แรงกดดัน เจ้า
ก็จักสามารถปรุงยาได้อย่างง่ายดายเมื่อยามที่เจ้ามิมีแรงกดดัน และ
วิชาของเจ้าก็จักเพิ่มขึ้นสู่ระดับใหม่” ซูหยางอธิบายให้กับเธอ
“ข้าเข้าใจแล้ว…” หวังชูเหรินพยักหน้าราวกับว่าเธอเข้าใจวิธีการ
ฝึกฝนของเขา
ไม่นานหลังจากนั้น หวังชูเหรินก็ถอดเสื้อผ้าออกเผยให้เขาเห็นร่างที่
เติบโตเต็มวัยและเบ่งบานเต็มที่ของเธอ
ร่างของเธอสูงและมีรูปทรงคล้ายกับนาฬิกาทราย ทรวงอกที่ใหญ่โต
และบั้นท้ายกลมกลึงอิ่มอวบมีอำนาจมากพอที่จะสร้างความหลงใหล
ให้กับชายเกือบทุกคนใต้แผ่นฟ้าแม้กระทั่งยามที่ปกปิดด้วยเสื้อผ้า
ดังนั้นจึงสามารถจินตนาการได้ถึงอำนาจการทำลายล้างของมันยาม
ที่เปิดเผยเปลือยเปล่าอย่างหมดจด
“การปรุงโอสถเหนือสวรรค์นั้นใช้ปราณไร้ลักษณ์ของข้าไปถึงครึ่ง
หนึ่งเมื่อกี้นี้ และข้าก็ได้ให้ยานั้นแก่เจ้าไปแล้ว ดังนั้นข้าจักให้ร่างเจ้า
ชดเชยให้แก่ความสูญเสียของข้า ชูเหริน” ซูหยางตรงเข้าไปหาเธอ
พร้อมรอยยิ้ม
“พวกเราจะทำกันตรงนี้รึ นี่มิใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ
การกระทำเช่นนั้น และก็มิได้มีเตียงที่นี่เช่นกัน” เธอกล่าวกับเขา
“อย่ากังวลเรื่องเตียง ข้าได้เตรียมมาไว้ให้พวกเราหนึ่งเตียงแล้ว” จาก
นั้นซูหยางก็จึงนำเอาแหวนมิติออกมาและดึงเอาเตียงขนาดคิงไซส์
ออกมาจากภายในนั้น สร้างความตกใจให้กับหวังชูเหริน
“ท-ท่านพกเตียงติดตัวไปด้วยรึ”
“ในชีวิตก่อนของข้า ข้าได้มีแหวนมิติทั้งวงที่มีไว้ใช้สำหรับเก็บเตียง
แต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นข้าจึงมีเตียงพิเศษเฉพาะนับพันเตรียมไว้
สำหรับทุกสถานการณ์ทุกอย่างที่เป็นไปได้” ซูหยางกล่าวกับเธอใน
น้ำเสียงภาคภูมิใจที่ฟังดูแปลกประหลาด
เวลาถัดไป หวังชูเหรินและซูหยางก็เริ่มฝึกวิชาบนเตียง
ดังคาดหวังชูเหรินเริ่มครวญครางเสียงดัง ถมห้องนั้นด้วยเสียงร้อง
เร่าร้อน ในขณะที่ซูหยางกระหน่ำหลืบร่องของหวังชูเหรินด้วยแท่ง
แกร่ง ร่างของเธอสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนทำให้อกใหญ่อวบอิ่ม
ของเธอสั่นกระเพื่อม
หลังจากที่ใช้เวลาหลายนาทีในการฝึกวิชาร่วม เมื่อสุดท้ายหวังชูเหริน
หมดแรงอย่างสิ้นเชิงแล้ว ซูหยางก็ให้เธอฝึกวิชาการปรุงยาด้วยการ
ปรุงยา
“ลืมเรื่องปรุงยาในสภาพนี้ไปได้เลย ข้ามิสามารถแม้จะกระทั่งยก
แขนขึ้นให้เหมาะสมได้” หวังชูเหรินร่ำร้องในใจ รู้สึกเหมือนกับว่า
เธอเพิ่งตื่นขึ้นจากการหลับมานับพันปี
ยิ่งไปกว่านั้นทุกตารางนิ้วบนร่างเธอยังอ่อนไหวถึงที่สุดในตอนนี้
กระทั่งเพียงเหงื่อหยดเดียวที่ไหลไปตามผิวของเธอก็ยังจะทำให้ร่าง
ของเธอมีปฏิกิริยา ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทุ่มเทความสนใจ
ในเตาปรุงยาเมื่อเธอเริ่มมีเหงื่อระหว่างการปรุงยา
“ยินดีต้อนรับสู่ประสบการณ์นรกสวรรค์ของข้า ชูเหริน” ซูหยางกล่าว
กับเธอด้วยรอยยิ้มซาดิสต์ “เมื่อไหร่ที่ข้าฝึกฝนเจ้า เจ้าจักมิได้รับ
อนุญาตให้ปรุงยานอกจากว่าเจ้าจะตกอยู่ในสภาพนี้เท่านั้น”