เกี่ยวกับเทือกเขาพันยอด เย่ฉางไม่ได้บอกอะไรกับ ThornyRose, NalanPureSoul และคนอื่นๆ

“เอิร์ล PaleSnow ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณได้ทำเพื่อเทพธิดาอันย่าและเผ่าของเรา ฉันไม่รู้จะตอบแทนความดีความชอบของคุณครั้งนี้ยังไงดี แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณต้องการฉัน คุณเพียงแค่เรียกฉันก็พอ” ลีน่าพูดอย่างเต็มใจ

[ขอแสดงความยินดี คุณได้ทำเควสลับ ‘นำเผ่าฟามิเลียกลับคืนสู่มาตุภูมิ’ เสร็จสิ้น ได้รับ 3000 Exp, สุ่มความสามารถพิเศษอาชีพ และ 1 แต้มสกิล]

Advanced Shooting (Epic – Beginner Level, Ranger / Hunter / หรือคลาสอาชีพโจมตีระยะไกลอื่นๆ): +15% เจาะเกราะ, +20% ความเร็วของลูกศรหรือกระสุน, +15 ความเร็วในการยิง

“เยี่ยมมาก สมาคมเทพธิดาได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น แต่ตอนนี้เธอเพียงแค่ปกป้องชนเผ่าของเธอเอาไว้ให้ดีก็พอ …” เย่ฉางยิ้มอย่างแผ่วเบา

ลีน่าก้มหัวลงต่ำ “ฮู๊ดหมาป่าของคุณ ฉันสามารถทำใหม่ให้มันดีกว่าเดิมได้ นี่คือความปรารถนาดีของฉัน คุณแค่รับมันไว้ก็พอ…”

เย่ฉางถอดฮู๊ดหมาป่าของเขาออกมา เขานึกขึ้นได้ว่าเขายังมีหนังสัตว์จากการฆ่าเทพเจ้าหมาป่าอยู่ด้วย เขาจึงหยิบมันออกมาด้วยเช่นกัน ลีน่าพูดอย่างมีความสุข “ด้วยหนังหมาป่าที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้ มันจะดียิ่งขึ้นไปอีก ท่านเอิร์ล PaleSnow ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมีหนังหมาป่าที่หายากเช่นนี้…”

เย่ฉางสังเกตจากด้านข้าง เขาเห็นว่าความสามารถในการทำเครื่องหนังของลีน่านั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เธอยังสามารถเพิ่มเวทมนตร์ให้กับหนังสัตว์ได้อีกด้วย “เธอช่วยสอนฉันเกี่ยวกับการทำเครื่องหนังได้ไหม?”

“แน่นอน…” ลีน่ามีความสุขมากที่เย่ฉางต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเครื่องหนัง ซึ่งถูกสืบทอดต่อกันมาในชนเผ่าของเธอ

“ถ้าอย่างนั้น ได้โปรดชี้แนะด้วยครับ หัวหน้าเผ่าลีน่า” เย่ฉางโค้งคำนับ ลีน่ารีบเข้าไปหยุดเขาไว้อย่างรวดเร็ว เธอชื่นชมทัศนคติที่สุภาพของเขามากจริงๆ ‘เพื่อที่จะสามารถทำงานให้กับบุคคลที่น่าเกรงขามเช่นนี้ นับว่าเป็นเกียรติของฉันมากจริงๆ ฉัน ลีน่าคนนี้ ยินดีที่จะมอบทั้งชีวิตและหัวใจให้กับสมาคมเทพธิดา’

หลังจากนั้น ลีน่าก็ลงมือทำเครื่องหนัง ในขณะที่อธิบายถึงความซับซ้อนของการทำเครื่องหนัง และวิธีการเสริมพลังเวทมนตร์ให้เหมาะสมให้แก่เย่ฉาง เธอยังสอนเทคนิคการทอผ้าที่เธอได้รับรู้มาทั้งหมดให้กับเย่ฉางอีกด้วย

[เนื่องจากได้รับการสอนที่สมบูรณ์แบบจากลีน่า คุณจึงได้เรียนรู้การทำเครื่องหนังเวทมนตร์ของเผ่าฟามิเลีย]

ลีน่าส่งฮู๊ดหมาป่าที่เพิ่งทำใหม่ให้กับเย่ฉาง

Dina’s Protection (Dark Gold – Dina)

ปรเภท: ฮู๊ด

ความต้องการ: ไม่มี

+29 พลังป้องกัน

+20 Strength

+20 Dexterity

+21 Intelligence

+10% Dexterity

+15 พลังโจมตีเวทมนตร์

ได้รับความเสียหายจากเวทมนตร์ลดลง 20%

ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางกายภาพลดลง 15 หน่วย

Wolf Totem – Dina (ติดตัว): ฝ่ายพันธมิตรที่อยู่รอบๆจะได้รับ +10 พลังโจมตี, +5 พลังป้องกัน และ +5% ความเร็วในการเคลื่อนที่

เย่ฉางเห็นว่าฮู๊ดหมาป่าตัวใหม่ดูดีขึ้นมากกว่าเดิม ขนของหนังหมาป่าอ่อนและนุ่มเป็นอย่างมาก มันยังมีประกายแสงจางๆที่หนาวเหน็บออกมาจากดวงตาของหมาป่าทั้งสองข้าง เขาจึงใส่มันอย่างพึงพอใจอย่างมาก ส่วนผ้าคลุมเสือโคร่ง เย่ฉางวางแผนที่จะอัพเกรดมันด้วยตัวเอง เขาให้ลีน่าไปที่เมืองแบล็กร็อค เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมด้านการบริหารการจัดการในช่วงระยะแรก ตอนนี้ลีน่าที่กำลังงงงวยถูกส่งตัวไปตามเส้นทางของเขาแล้ว

ทุกคนมารวมตัวกันที่คลังแสงของชนเผ่าฟามิเลีย และซื้อไอเทมระดับ Uncommon ที่ดูดีบางอย่างมา SpyingBlade และ FrozenCloud สังเกตเห็นว่าเอฟเฟคของออร่าเพิ่มขึ้นมาหนึ่งอย่าง และมันยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อเย่ฉางเดินเข้ามา พวกเขาเห็นเย่ฉางสวมฮู๊ดหมาป่าตัวใหม่ที่ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

หวังได้รับสกิลซัมมอนระดับ Uncommon ชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมา [Earth Elemental – Barto] สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อูนาเห็นว่ารายการไอเทมมีแต่สกิลเวทมนตร์ธาตุดินเท่านั้น ทำให้เธอผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังคงซื้อสกิล [Boulder Strike] มาไว้ใช้

จางเจิ้งเฉียงเห็นสกิล [Earth Shield] (สร้างโล่ดินล้อมรอบตัวเอง ซ้อนทับกันได้ 3 สแต็ค ทุกครั้งที่คุณได้รับการโจมตี แสต็คจะถูกนำมาใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับคุณ 30 HP) เขาจึงซื้อมันอย่างไม่ลังเล

สำหรับเย่ฉาง เขาเห็น ‘กล่องลึกลับของเผ่าฟามิเลีย’ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ค่าชื่อเสียงระดับน่านับถือ, ใช้ห่วงภูติน้ำ 100 อัน และ 500 เหรียญทอง ว่าแต่อะไรคือห่วงภูติน้ำกัน?

“ห่วงภูติน้ำคืออะไร?” เย่ฉางสอบถาม

“สร้อยข้อมือที่พวกภูติน้ำสวมใส่” ผู้เฝ้าคลังแสงอธิบายออกมาสั้นๆ

เย่ฉางนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็หันไปมองที่หวังด้วยรอยยิ้มที่แสนดี “เรียกซัมมอนภูติน้ำของนายออกมาหน่อยสิ”

เมื่อหวังเห็นรอยยิ้มที่คุ้นเคย เขาจึบรีบอัญเชิญภูติน้ำของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ซัมมอนภูติน้ำที่เรียกออกมาจะสามารถยืนได้อย่างมั่นคง เย่ฉางก็แทงมันอย่างรุนแรงด้วยสกิล [Flame Blade] เขาเอื้อมมือออกไปหาห่วงภูติน้ำจากในตัวของโทบิระ (ชื่อภูติน้ำ) จากนั้นเขาก็หันกลับไป และพูดออกมาอย่างโศกเศร้า “อ่า ไม่เห็นมีอะไรเลย ฉันไม่สามารถแม้แต่จะเอาสร้อยข้อมือของมันออกมาได้”

หวังเห็นโทบิระที่เขารักมากตายไปตรงหน้า ‘หัวหน้าทีม … นาย … นายจะโหดร้ายเกินไปแล้วนะโว้ย’

“นายต้องการสร้อยข้อมือเพื่ออะไร?…” อูนาถามออกมาด้วยเม็ดเหงื่อที่ไหลย้อย

เย่ฉางโพสต์ข้อมูลกล่องลึกลับให้ทุกคนได้เห็น SpyingBlade เลิกคิ้วขึ้น สิ่งที่จำเป็นต้องใช้เงินถึง 500 เหรียญทอง แน่นอนว่ามันต้องมีบางสิ่งที่ดีอยู่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้ห่วงภูติน้ำ 100 อันด้วยเช่นกัน

ทุกคนมองไปที่หวัง “อัญเชิญมันออกมาอีกครั้ง…”

หวังเห็นทุกคนจ้องมองมาที่เขาและกลืนน้ำลาย เขาเริ่มอัญเชิญภูติน้ำออกมาอีกครั้ง และช่วงเวลาที่โทบิระปรากฏตัวออกมา ทุกคนก็ร่วมมือกันทุบตีมันไปสู่ความตาย หลินหลี่เข้าไปค้นศพ และส่ายหน้าไปมา “ไม่เห็นมีอะไรเลย…”

“ฉันคิดว่า เราอาจไม่สามารถฆ่าเพื่อนร่วมทีม เพื่อที่จะค้นไอเทมจากศพได้หรอกนะ” FrozenCloud กอดอกและอธิบายออกมา

เย่ฉางสอบถามผู้เฝ้าคลังแสงอีกครั้ง จากนั้นก็หันกลับไปหาทุกคน “ที่ทะเลสาบ มีภูติน้ำที่ดุร้ายอยู่ที่นั่น จุดสำรวจที่สองของเราก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน ไปกันเถอะ ออกเดินทางได้! กล่องลึกลับกำลังร้องเรียกหาหัตถ์พระเจ้าของฉันอยู่!”

ทุกคนมองไปที่แผ่นหลังของเย่ฉางและกลอกตาไปมา ‘กล่องลึกลับ หรือหีบสมบัติที่เรียกหานาย มันว่างเปล่าไปทั้งหมดนั่นแหละ…’

ตามถนนหนทาง เย่ฉางหยิบกองหนังจากรถเข็นออกมาเพื่อฝึกซ้อม จนเปลี่ยนเป็นกองเกราะหนังขนาดใหญ่ จนในที่สุดเขาก็อัพเกรดผ้าคลุมเสือโคร่งให้เป็นระดับ Dark Gold ได้สำเร็จ และถอนหายใจที่ฝีมือการตัดเย็บของเขาดีมากขนาดนี้ เมื่อเห็นเย่ฉางได้เรียนรู้การทำเครื่องหนังเวทมนตร์ SpyingBlade จึงคิดว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องของเกราะหนังของเขาอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสรรสร้างการตีเหล็กของเจ้าหมียักษ์ หลักฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ พวกเขามีวัสดุที่หายากเป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นทีมอื่นอาจจะต้องคิดมากเกี่ยวกับวัสดุเหล่านี้ แต่สำหรับทีมนี้นั่น เป็นสิ่งที่เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว … เหตุผลง่ายๆก็คือว่า พวกเขามีหัวหน้าทีมซุปเปอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกวาดของโลก…

เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ทะเลสาบ พวกสัตว์ป่าและสัตว์ปีศาจก็เริ่มที่จะปรากฏตัวออกมามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้บ้าคลั่งสมบัติอย่างเย่ฉาง พวกมันจึงถูกจัดการลงอย่างง่ายดาย ทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าหีบสมบัติจะมีบางสิ่งที่ดีอยู่ในนั้น

ทะเลสาบค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาในสายตาของพวกเขา เย่ฉางหยุดพักและเริ่มก่อกองไฟ แต่เดิมที่ทุกคนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แต่ตอนนี้พวกเขาได้แต่พากันถอนหายใจออกมาทันที ในที่สุดช่วงเวลานี้ก็มาถึง!

“ด้วยจิตวิญญาณการทำอาหารของฉัน หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ฉันจึงคิดค้นสูตรใหม่ได้แล้ว!” เย่ฉางโยนเนื้อออร์คตาเดียว, เนื้อซอมบี้, เนื้อหนู, กระดูกปีศาจ, สมุนไพรต่างๆ และเห็ดที่แม้ตัวเขาเองไม่รู้จักลงไปในหม้อ

“เรามาลองดูรสชาติของเนื้อออร์คกัน…” เย่ฉางปิดฝาแล้วเริ่มเตรียมอาหารจานทอด เขาหั่นเนื้อออร์คตาเดียว และเนื้อหมูป่าหินเป็นชิ้นบางๆ พร้อมกับเคลือบพวกมันด้วยเจลสไลม์ จากนั้นก็ใส่เห็ดเหม็นลงไปเพิ่ม เขาเริ่มผัดมัน ทุกคนเห็นว่าแม้แต่ตัวคนทำเองก็ไม่สามารถเปิดตาขณะผัดได้ เขาเพียงแค่อาศัยความรู้สึกในการผัด กลิ่นเหม็นของมันทำให้สัตว์ปีศาจ ซึ่งแต่เดิมตั้งใจจะซุ่มโจมตีพวกเขา ต่างพากันหนีหายไปราวกับหมอกควัน