“ตอนนั้นเธออยู่ห่างจากเขาตั้งห้าร้อยเมตร อยู่ห่างกันขนาดนั้นยังได้กลิ่นอีกเหรอ นั่นมันจมูกสุนัขหรือไง ?” เธอรู้สึกง่วง และกำลังหาวอยู่
“เงียบไปเลยนะ!”นาโนยกมือขึ้น และตบไปที่หลังเธอเบาๆ “ง่วงก็นอนไปเลย ถึงที่แล้วฉันจะปลุก ”
พยักหน้าให้ ยู่ยี่ปรับเบาะที่นั่งให้เอนลงเล็กน้อย จากนั้นก็หลับตานอน เธอนอนจนถึงเวลาบ่ายสามโมง หัสดินก็โทรมาหาเธอ บอกว่าตอนค่ำมีงานเลี้ยงรุ่น เขาเลิกงานแล้ว จะขับมารับเธอ
รับคำ เธอก็กดวางสาย แล้วนอนต่อ นอนถึงหกโมงเย็นก็ตื่นขึ้นมา ย่างเข้าสู่ปลายของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ท้องฟ้าก็มืดเร็วขึ้น ยังไม่ถึงทุ่มหนึ่ง ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
อันที่จริง เวลาเธอออกจากบ้านก็ไม่ค่อยจะแต่งตัวอะไร ไม่แต่งหน้า และสวมใส่รองเท้าส้นสูงไม่ได้ ดังนั้นออกจากบ้านในแต่ละครั้งก็จึงสะดวกสบายมาก
ในตอนทุ่มหนึ่ง หัสดินก็โทรเข้ามา รถได้จอดอยู่ที่หน้าคอนโดแล้ว ให้เธอลงไปได้
หยิบกระเป๋า ยู่ยี่ก็ลงไป เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่ง หัสดินยื่นนมกล่องหนึ่งให้เธอ “วันนี้ทำอะไรบ้าง ?”
“ไปแต่งหน้าเป็นเพื่อนกับนาโน จากนั้นก็นอน”รสชาติของนมกล่องนี้เธอไม่ค่อยชอบมันเท่าไร แต่ก็กัดฟันดื่ม“ งานเลี้ยงคืนนี้จัดขึ้นที่ไหน ?”
“ที่ร้านเดอะพรีเมี่ยมหลังจากที่กินเสร็จแล้ว ก็จะไปต่อกันที่สถานบันเทิง ”
ร้านเดอะพรีเมี่ยมเป็นร้านอาหารระดับห้าดาวที่มีชื่อเสียงในเมืองs หัสดินกับยู่ยี่ไปถึงเป็นคนสุดท้าย ในห้องรับรองส่วนตัวก็เต็มไปด้วยผู้คน ที่ล้วนต่างพาแฟนของตัวเองมาด้วยกันทั้งนั้น
“ทำไมยังไม่สั่งอาหารกันอีก ? ”หัสดินเอ่ยถาม
“คนจ่ายเงินยังไม่มา ใครจะกล้าสั่งอาหารกันเล่า กลัวว่าต้องควักกันจนหมดเนื้อหมดตัว ก็ไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารนะสิ ”
เมื่อสิ้นเสียง ทุกคนต่างก็หัวเราะกันอย่างครื้นเครง บรรยากาศก็ถือว่าไม่เลว เพื่อนหลายๆคนที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี แต่เวลาเจอก็ยังรู้สึกสนิทสนมเหมือนเก่า กินไปด้วยคุยไปด้วย จากนั้นก็ไปต่อกันที่สถานบันเทิง
คนทั้งกลุ่มต่างก็พูดคุยและหัวเราะกัน ไม่รู้ว่าใครเปลี่ยนบทสนทนามาเป็นเรื่องของยู่ยี่“ในบรรดาเพื่อนๆก็มีแค่เธอสองคนเลยนะที่ลงเอยแต่งงานกัน และกำลังจะมีลูกในอีกไม่ช้า”
ยู่ยี่เหยียดริมฝีปากแล้วยกยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร ในห้องมีคนสูบบุหรี่ด้วย เธอรู้สึกคัดจมูก และอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
แม้จะเรียกว่าเป็นงานเลี้ยงรุ่น แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหัสดิน เธอเป็นรุ่นน้องของหัสดินอยู่สองเทอม ดังนั้นก็จึงไม่ได้สนิทอะไรมากกับคนเหล่านี้
เธอสูดดมกลิ่นควันบุหรี่ไม่ได้ แต่ที่ตรงนี้ล้วนเป็นเพื่อนของหัสดิน และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชาย เพียงเพราะเธอ แล้วห้ามทุกคนไม่ให้สูบบุหรี่ บางครั้ง ผู้หญิงก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำตัวให้กลมกลืน
หลังจากที่ดื่มกินไปร่วมครึ่งชั่วโมง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เรนนี่เดินเข้ามา“ฉันไม่ได้มาผิดที่ใช่ไหมคะ ”
“นี่เป็นรุ่นน้องของฉัน พวกนายต่างก็มีเพื่อนผู้หญิงกันหมด ฉันตัวคนเดียวไม่มีคนติดตามมาด้วย ก็เลยชวนเธอมาเป็นเพื่อน ยังไงก็มาจากสถาบันเดียวกัน ไม่มีใครว่าอะไรใช่ไหม ?”
“ไม่แน่นอน คนสวยๆมาเป็นเพื่อนด้วยขนาดนี้ ใครจะไปว่าอะไรได้ ? ”
มือที่ถือน้ำผลไม้อยู่ของยู่ยี่ก็ไหวสั่นเล็กน้อย หันมองไป เรนนี่ก็นั่งลงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เอื้อมมือและเกี่ยวดึงเส้นผมที่กระจายทั่วลาดไหล่ทัดไปที่ใบหู ช่างละมุนนัก“ งั้นต้องรบกวนทุกคนแล้ว ”
หัสดินไม่ได้แสดงอาการอะไร ราวกับมองไม่เห็นเรนนี่ยังไงอย่างนั้น และกำลังดื่มกินกับคนที่อยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นเรนนี่ สีหน้าของยู่ยี่ก็ดูไม่ดี ที่หน้าอกก็ราวกับมีอะไรมากดทับ และเหมือนกับมีก้างปลามาติดอยู่ที่ลำคอของเธอ
ในตอนนั้นที่เรนนี่ดื่มจนเมาและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหัสดิน เธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อกล้ำกลืนทุกอย่างเอาไว้ ให้ตัวเองไม่ต้องเก็บมาคิด และอย่าไปคิดถึงมัน!
ในตอนนี้ เธอก็พอจะลืมเรื่องนั้นไปได้บ้างแล้ว แต่เรนนี่ก็กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“เรนนี่ ชื่อนี้ทำไมฟังคุ้นหูจัง ใช่แล้วๆฉันนึกออกแล้วคนที่คอยวิ่งตามหัสดินคนนั้นไง ”ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้นมา“ว่ากันว่ารูปร่างหน้าตาของผู้หญิงนั้นเปลี่ยนอยู่ตลอดทั้งชีวิต นี่ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีจากลูกเป็ดขี้เหร่ก็กลายเป็นหงส์ซะแล้ว ตอนนั้นมีตาหามีแวว ไม่อย่างนั้นคงตามจีบรุ่นน้องสาวสวยคนนี้ไปแล้ว”
ได้ยินดังนั้น สายตาของผู้ชายทุกคนก็จับจ้องมองไปที่เรนนี่ ต่างพากันไม่เชื่อว่าหญิงสาวคนนี้ก็คือคนที่คอยวิ่งไล่ตามหัสดินในตอนนั้น!
เพราะในตอนนั้นหัสดินก็ถือเป็นคนดังในยุคสมัยนั้นอยู่พอควร วีรกรรมของเขาก็ขึ้นชื่อลือชามากในโรงเรียน
ผู้หญิงที่ชอบหัสดินนั้นมีมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่ถ้าจะให้พูดถึงที่น่าจดจำก็มีอยู่สองคน คนหนึ่งคือยู่ยี่ และอีกคนก็คือเรนนี่
หัสดินกับยู่ยี่นั้นต่างชอบพอกัน แต่เรนนี่คือคนที่คอยตามตื๊อหัสดินอย่างที่สุด และเธอก็เป็นคนที่อึดมาก
เรนนี่ในตอนนั้นยังใส่เหล็กดัดฟัน และแต่งตัวเฉิ่มเชยมาก หัสดินถูกเธอตามตื้อจนรำคาญ อีกทั้งยังเคยพูดจาแย่ๆกับเธอ รวมถึงยังเคยสาดน้ำใส่หน้าเธอต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนมาแล้ว
จากนั้น เรนนี่ก็กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งโรงเรียน ใครก็ตามที่เห็นเธอต่างก็ชี้หน้าต่อว่าต่อขานเธอ ว่าไม่เจียมตัว
“เธอคือเรนนี่คนนั้นเหรอ ?”ทุกคนต่างพากันไม่อยากจะเชื่อ
เรนนี่กลับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แล้วพยักหน้าให้อย่างไม่ถือตัว “ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะรุ่นพี่ทุกคน ”
เธอถอดเสื้อโค้ตขนสัตว์ของเธอออก ด้านในเป็นกระโปรงยาวถึงข้อเท้า ซึ่งดึงดูดสายตาอันน่าทึ่งของผู้ชายเป็นอย่างดี
ยู่ยี่รู้สึกนั่งไม่ติด เธอกับเรนนี่ไม่ชอบขี้หน้ากัน ตอนนี้มานั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันก็ยิ่งอึดอัดมากเข้าไปใหญ่ แต่จะลุกออกจากโต๊ะไปเลยก็กระไรอยู่ ดังนั้นก็จึงต้องทนนั่งอยู่ต่อ
ดื่มกันอย่างเดียวมันน่าเบื่อเกินไป จึงมีคนเสนอให้เล่นเกมไพ่กัน เป็นเกมที่เล่นง่ายๆ จากไพ่เลขหนึ่งถึงคิงทั้งหมดวางอยู่ในมือของทุกคน แน่นอนว่ามีไพ่ใบเอก พอแจกไพ่เสร็จ ทุกคนห้ามให้เห็นไพ่ของตัวเอง จากนั้นคนที่ถือไพ่ใบเอกหรือไพ่คิงจะเลือกไพ่ออกมาสองตัวเลข คนที่มีไพ่สองตัวเลขนี้จะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่มีข้อแม้ ห้ามอิดออด ต้องเชื่อฟัง และทำตามกฎของเกมเท่านั้น
ยู่ยี่ส่ายหัว ไม่คิดที่จะเล่นเกมนี้ด้วย และในตอนที่หัสดินกำลังจะพูดปฏิเสธ ทุกคนต่างก็ไม่ยอมปล่อยผ่านเขา“พวกเธอสองสามีภรรยาเป็นตัวหลักของคืนนี้เลยนะ จะปฏิเสธทั้งสองคนเลยได้ยังไงกัน ต้องมีคนหนึ่งที่เล่นด้วยซิ ”
หัสดินหันไปหายู่ยี่ เลิกคิ้ว และพยักหน้าให้ “ถ้าอย่างนั้นก็ฉันแล้วกัน”
คนแรกที่จับไพ่คิงได้เลือกไพ่หมายเลข 2กับ5 และคำสั่งคือให้คนที่ได้ไพ่หมายเลข 2แบกไพ่หมายเลข5ไว้บนหลังเป็นเวลาห้านาที
ไพ่หมายเลข2เป็นผู้หญิง และ5เป็นผู้ชาย หญิงสาวร่างผอมบางออกแรงแล้วแบกร่างของชายคนนั้นขึ้น เหนื่อยเหมือนวัวหอบ และหอบหายใจหนัก
การสุ่มเลือกรอบที่สองไพ่ที่เลือกคือเลข4กับเลข8 คำสั่งคือให้จูบกัน และต้องเป็นการจูบแบบจริงจังเป็นเวลาสองนาที คนที่ได้เลข4กับ8เป็นผู้หญิงทั้งคู่ หลังจากที่ทั้งคู่จูบกันเสร็จต่างก็วิ่งกรูกันเข้าห้องน้ำ ผ่านไปสักสามนาทีก็ถึงออกมา ทั้งบ้วนปาก ทั้งแปรงฟัน จนเลือดแทบไหล
การสุ่มเลือกในรอบที่สามได้เลข9กับเลข10 คำสั่งคือให้จูบที่ลำคอ คนที่ถือไพ่เลข9คือแฟนสาวที่ถูกพามาด้วย และหมายเลข10เป็นผู้ชาย ทุกคนต่างส่งเสียงร้องฮือ ให้แฟนของคนหมายเลข9นั้นอย่าโกรธเคือง มันเป็นแค่เกม และหญิงสาวคนนั้นก็รู้ดีว่ามันคือกฎของเกม เธอคว้าไปที่คอของแฟนหนุ่มแล้วบีบเพื่อระบายอารมณ์ ชายหนุ่มหมายเลข10ก็ถึงกับหัวเราะจนหายใจหอบถี่ แล้วจูบเป็นเวลาหนึ่งนาที