กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 903

สภาพการเสียชีวิตของท่านพ่อของเขาเหมือนกับตระกูลมู่ไม่มีผิด

ล้วนต่างถูกคนใช้มีดกรีดเอาเลือดเนื้อออกไปทั้งหมด สุดท้ายเหลือเพียงกระดูกเท่านั้น หรือแม้ว่า……ศีรษะก็ถูกตัดออก

เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า ก่อนที่ท่านพ่อของเขาจะหมดลมหายใจไปนั้นต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากเพียงใด

และไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า กู้ชูหน่วนลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้อย่างไร

เมื่อปิดตาลง ภาพเหตุการณ์ที่ชาวเผ่าเพลิงเฟ้าถูกฆ่าสังหารยังคงปรากฏขึ้นในหัวของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ไม่สามารถทำใจยอมรับได้ แต่กลับยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ในเผ่ามีคนชรามากกว่าแปดสิบคน มีเด็กทารกที่ยังคงนอนแบเบาะ

พวกเขาผิดตรงไหน?

หุบเขาแห่งซากศพและทะเลเลือด กลิ่นเลือดที่ลอยคละคลุ้งในอากาศและเปลวไฟที่พุ่งไปยังท้องฟ้า

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนวัน เขายังคงได้ยินเสียงกรีดร้องโอดครวญท่ามกลางทะเลเพลิงอันเจ็บปวดทรมาน

ความโกรธแค้นปะทุขึ้นมาในใจของเขา

เขารักกู้ชูหน่วนมากเพียงใด เขาก็เกลียดแค้นนางเท่านั้น

แม้ว่านางจะตายไปแล้ว ขอเพียงเป็นคนที่นางให้ความสำคัญ เผ่าหยกที่สำคัญ หากได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสังหารคนของเผ่าเพลิงฟ้า เขาจะไม่มีทางปล่อยไปแม้แต่คนเดียว

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา เขาจะเอาคืนร้อยเท่าพันเท่า

ความอ่อนโยนราวกับหยกของเหวินเส่าอี๋เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและร่างกายของเขาแผ่ซ่านไปด้วยความเยือกเย็นที่น่าสะพรึง

แม้แต่อุณหภูมิในอากาศก็ลดลงอย่างมาก ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านจากความหนาวเย็น

“นายท่าน……”

อารั่วกล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง

เมื่อได้ยินเสียงของอารั่ว รัศมีอันเยือกเย็นของเหวินเส่าอี๋ก็หายไปและกลับคืนสู่ความอ่อนโยนราวกับหยกที่บางเบาอ่อนช้อย

เพียงแต่ความเจ็บปวดในใจของเขา เกรงว่าจะมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่เข้าใจ

“ยังตรวจสอบไม่ได้หรือว่าเหตุใดนางถึงสามารถใช้มหาเวทดูดพลังได้?”

“ข้าน้อยตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบขอรับ ร่างกายของผู้หญิงคนนี้มีความลึกลับมากมาย ไม่ว่าจะค้นหาอย่างไรก็ไม่พบ แต่สิ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือ ไม่มีใครสามารถปลอมตัวเป็นนาง วรยุทธ์ความสามารถของนางนั้น ดูเหมือนจะได้มาโดยไม่รู้ตัวขอรับ”

“เรียกผู้อาวุโสสูงสุดทุกคนกลับมาและประชุมกันในสามวันข้างหน้า”

อารั่วสูดลมหายใจ “ผู้อาวุโสสูงสุดทุกคน……?”

“คำพูดของข้ายากจะเข้าใจอย่างนั้นหรือ?”

“ขอรับ ข้าน้อยจะรีบไปปฏิบัติเดี๋ยวนี้ขอรับ”

เหวินเส่าอี๋มองไปยังมู่หน่วน ราวกับต้องการมองนางให้ทะลุปรุโปร่ง

ไม่ว่านางและกู้ชูหน่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร หรือนางจะเป็นกู้ชูหน่วนหรือไม่ อีกไม่กี่วันก็ได้รู้แน่

เผ่าหยกมีคาถาชั่วร้าย

คิดว่าเผ่าเพลิงฟ้าของพวกเขาไม่มีอย่างนั้นหรือ?

เวทมนตร์คาถาของเผ่าเพลิงฟ้านั้นดีกว่าเผ่าหยกแน่นอน

หากดวงวิญญาณที่แตกกระจายของกู้ชูหน่วนมาอยู่ในร่างกายของนางจริง และกลายเป็นนาง

เช่นนั้นนาง……

ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก

ดวงตาของเหวินเส่าอี๋ฉายแววเฉียบคมและรัศมีอาฆาต

เป็นเวลานาน จากนั้นเขาจึงเขย่งเท้าขึ้น ร่างกายของเขาราวกับลมอ่อนไหวที่หลอมรวมกัน เพียงชั่วพริบตาก็หายวับไปในป่าเขา

อาจเป็นเพราะอากาศที่นี่เย็นลงเล็กน้อย กู้ชูหน่วนมองไปยังทิศทางที่เหวินเส่าอี๋อยู่ แต่กลับไม่เห็นอะไร

“ฝ่อๆๆ……”

“โฮกๆๆ……”

เมื่อได้ยินเสียงของงูและเสียงคำรามของเสือที่หายไปนาน ร่างกายของกู้ชูหน่วนสั่นสะท้านและหันไปยังทิศทางของเสียง

ในที่สุด เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเจ้าเสือน้อยก็โผเข้ามาด้วยความดีใจ

“นายท่าน……พวกข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านไปไหนมา พวกข้าหาอยู่นานกว่าจะหาเจอ”

งูและเสือต่างแย่งกันปีนขึ้นไปบนร่างกายของกู้ชูหน่วน จากนั้นถูไถออดอ้อนกู้ชูหน่วนและต่างใช้แววตาอันเศร้าสร้อยมองไปที่นาง

“ก่อนหน้านี้พวกเจ้าไปอยู่ที่ไหนมา? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”

“ก่อนหน้านี้ได้เจอกลุ่มคนชั่วร้ายมาและตอนนี้ก็จัดการไปได้หมดแล้ว นายท่าน……ท่านอย่าเสียใจไปเลย ข้าและเจ้าเสือน้อยจะอยู่เป็นเพื่อนท่านเอง”

“ขอโทษด้วยที่พวกข้าไม่สามารถปกป้องดูแลท่านเป็นอย่างดี”

กู้ชูหน่วนลูบไล้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ จากนั้นหันไปลูบไล้เจ้าเสือน้อย

บนโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล ดูเหมือนว่านาง……เหลือเพียงเจ้าเสือน้อยและเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เท่านั้นที่เป็นคนใกล้ชิดสนิทสนม

“นายท่าน ท่านอย่าเสียใจไปเลย พวกข้าได้หาผู้ช่วยมาช่วยท่านได้แล้ว ใครที่ฆ่าสังหารตระกูลมู่ เช่นนั้นพวกข้าก็จะฆ่าพวกเขาให้สิ้นทั้งตระกูลเช่นกัน”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กัดฟันกรอด มันส่งเสียงขู่ฝ่อๆ อยู่หลายครั้ง จากนั้นจู่ๆ ก็เกิดลมกระโชกแรงในป่าไผ่และมีเสียงฝ่อของงูดึงกึกก้องขึ้น

เจ้าเสือน้อยกล่าว “นายท่าน ข้าก็ได้มาผู้ช่วยมาจำนวนมากเช่นกัน”

“โฮกๆๆ……”

“เจี๊ยกๆ……”

“เมียว…….”

ลมเริ่มแรงขึ้นในป่าไผ่

เสียงร้องของการเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ดังขึ้นจากระยะไกลและค่อยๆ ใกล้เข้ามา

หัวใจของกู้ชูหน่วนเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย

เจ้าสองแสบสองตัวนี้ คงไม่ได้เรียกสัตว์มาทั้งป่าเลยหรอกกระมัง?

เมื่อหันหลังไป

กู้ชูหน่วนขนหัวลุก

เพราะนางเห็นงูหลากสีต่างพากันเลื้อยเข้ามาอย่างน่าหวาดกลัว

และเบื้องหลังของเหล่าฝูงงูเหล่านั้น ยังมีเสือโคร่ง สิงโต แมวลายสลิด สุนัขจิ้งจอก กระทิง ราชาหมาป่าและอื่นๆ มากมาย……

พวกเขาวิ่งมาอย่างเร็ว ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน

“โฮ่กๆ……”

“ฝ่อๆ……”

“พี่ใหญ่ พวกข้าต่างมากันแล้ว”

“ดี คารวะพี่ใหญ่ของพวกข้าสิ” เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเจ้าเสือน้อยกล่าวออกมาด้วยความพอใจ

“คารวะพี่ใหญ่ของพี่ใหญ่”

สัตว์ดุร้ายทุกชนิดต่างโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น

ถึงแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีความสามารถไม่สูงนัก แต่นางเป็นเจ้าของของราชางูเหลือมและเสือดำโบราณ นั่นก็คือเพื่อนของพวกเขา

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ พวกเจ้ากำลังทำอะไร?”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กล่าวอย่างขุ่นเคือง “พวกเขาต่างก็รังแกนายท่าน รังแกนายท่านก็เหมือนกับรังแกพวกข้า ฉะนั้นพวกข้าจึงเรียกเพื่อนๆ มาเพื่อออกหน้าแทนนายท่าน”

เจ้าเสือน้อยกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว “พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นงูประจำถิ่น นายท่าน……ผู้ช่วยของพวกข้ายังมีอีกเยอะเลย เพราะพวกเขาต่างก็มีผู้ช่วย”

เจ้าเสือน้อยพูดออกมาอย่างคลุมเครือ กู้ชูหน่วนกลับเข้าใจในสิ่งที่มันพูด

มันอยากจะบอกว่า เพียงแค่พวกเขาออกคำสั่ง สัตว์ที่อยู่ในอาณาเขตของพวกเขาก็จะออกมาช่วยนางด้วย

“นายท่าน ข้าและเจ้าเสือน้อยได้แอบบุกรุกเข้าไปยังตระกูลไป๋หลี่มาแล้ว พวกข้าได้จดจำแผนที่เส้นทางเดินทั้งหมดของตระกูลไป๋หลี่จนละเอียดแล้ว ตระกูลอื่นนั้นพวกข้าไม่อาจรับปากได้ แต่หากต้องการทำลายล้างตระกูลไป๋หลี่ละก็ พวกข้ามีความเชื่อมั่นอย่างมาก”

“ฮู่ๆ……”

กระทิงเก้าเขาพายอดฝีมือกระทิงมาด้วยจำนวนหนึ่ง

“โอ้ พวกเจ้าวิ่งมาเร็วเช่นนี้เพื่ออะไร เหตุใดถึงไม่รอพวกข้า ทำให้พวกข้าต้องหลงทางและต้องอ้อมไปไกลกว่าจะมาถึง……ข้าพาเพื่อนของข้ามาช่วยท่านเป็นฝูงเลย ข้างหลังยังมีเพื่อนของข้าอีกหนึ่งฝูง อีกไม่นานพวกเขาจะมาถึง”

“ใครกันที่กล้าทำร้ายท่าน ข้าจะกระทืบเขาให้ตายไปเลย”

“ข้าจะกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเลย”

“พี่ใหญ่ ท่านมีอะไรก็สั่งมาได้เลย พวกข้าจะพยายามช่วยท่านอย่างสุดความสามารถเลย”

“……”

กู้ชูหน่วนมองออกไปรอบๆ และเห็นสัตว์ทุกชนิดที่อยู่ข้างหน้าของนางทั้งบนพื้นที่ต่างวิ่งกันกันเข้ามา บนฟ้าที่กระพือปีกบิน แม้แต่ว่ายอยู่ในน้ำก็มี

และ……

ระดับความสามารถของพวกเขาก็ไม่ธรรมดา ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือในบรรดาอสุรร้าย

สายตาที่จ้องมองมาที่นางเต็มไปด้วยความจงรักภักดี

จู่ๆ กู้ชูหน่วนก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

นางลูบไล้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเจ้าเสือน้อยและรอยยิ้มที่หายไปนานก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของ

“ขอบคุณพวกเจ้ามาก ขอบคุณทุกคน”

“นายท่าน เช่นนั้นตอนนี้ก็ไปจัดการเลย ไปทำลายล้างตระกูลไป๋หลี่ก่อน จากนั้นค่อยบุกไปทำลายล้างตระกูลซั่งกวน”

กู้ชูหน่วนมองไปยังทิศทางของเมืองหลวงและรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

“ตอนนี้ไม่ได้”

“เหตุใดถึงไม่ได้? นายท่านกลัวว่าจำนวนคนไม่พอหรือ? หากไม่พอ เช่นนั้นข้าจะเรียกมาเพิ่มอีก”

“ตระกูลไป๋หลี่มีประวัติศาสตร์มานานกว่าพันปี กำลังความสามารถของพวกเขาคงไม่เพียงเท่าที่เห็นปรากฏออกมาเท่านั้นหรอก และ……หากตระกูลอื่นมาช่วยพวกเขาล่ะ? จัดการตระกูลเดียวนั้นเป็นเรื่องง่ายไม่มีปัญหาอะไร แต่หากต้องเผชิญกับสามตระกูลนั่นสิ คงไม่ใช่เรื่องง่ายอะไร”

อีกทั้งเบื้องหลังยังมีจักรพรรดินีอีกหนึ่งคน

และไม่รู้ว่าจักรพรรดินีและตระกูลไป๋หลี่นั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร?

ปล่อยนางออกมาหนึ่งวันเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร

“เช่นนั้นพวกเราไม่ล้างแค้นแล้วหรือ?”

“ไม่แก้แค้นการฆ่าล้างตระกูลได้อย่างไร แต่ไม่ใช่ตอนนี้”