บทที่ 1431 วิญญาณป่ามาหา

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ตำนานกล่าวว่ามีแม่น้ำสายหนึ่งที่รู้จักกันในนามของสายธารแห่งกาลเวลา

 

มันไหลผ่านอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

 

ทุกสิ่งในโลกนี้เปรียบเสมือนปลาในแม่น้ำที่สามารถว่ายไปตามกระแสของมันเท่านั้น

 

หากปราศจากสายธารแห่งกาลเวลา โลกจะหยุดนิ่งและกลายเป็นภาพวาด มีเพียงสายธารแห่งกาลเวลาที่สามารถเปลี่ยนแปลงและทำให้โลกเคลื่อนที่ไปข้างหน้าไม่ว่าจะรุ่งเรืองหรือตกต่ำ

 

‘ข้าอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาอีกครั้ง’ ฟางหยวนถอนหายใจ

 

เขามองไปรอบๆ แม้มันจะถูกเรียกว่าสายธารแห่งกาลเวลาแต่มันกว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร

 

ท่ามกลางความมืดมิด สายธารแห่งกาลเวลาไหลไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

 

น้ำในสายธารแห่งกาลเวลาเป็นสีขาวซีดแต่ระลอกคลื่นจำนวนนับไม่ถ้วนของมันปลดปล่อยสีสันที่งดงามออกมาตลอดเวลา

 

แสงสะท้อนใบหน้าของฟางหยวน

 

ฟางหยวนรู้สึกมึนงงอยู่ชั่วขณะก่อนจะได้สติอีกครั้ง

 

เขาเปิดประตูทางออกมิติช่องว่างและปล่อยอสูรปีวอกแรกกำเนิดออกมา

 

“เจี๊ยก เจี๊ยก เจี๊ยก…” อสูรปีวอกแรกกำเนิดตื่นเต้นมากเมื่อได้กลับบ้าน

 

มันกระโดดลงไปในแม่น้ำและทำให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่

 

ฟางหยวนอยู่ในร่างอสูรปีวอกบรรพกาล แต่เขาตัวเล็กกว่าอสูรปีวอกแรกกำเนิด ตอนนี้เขากำลังลอยอยู่กลางอากาศ เขาไม่ใช่อสูรปีที่แท้จริง แม้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาจะเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่มันจะดีกว่าที่เขาจะไม่แตะต้องสายธารแห่งกาลเวลาหากเขาทำได้

 

“ไปกันเถอะ” ฟางหยวนออกคำสั่งอสูรปีวอกที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ประโยชน์ของการทุบตีก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นแล้วว่ามันทำให้อสูรปีวอกแรกกำเนิดเชื่อฟังฟางหยวนมากกว่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

อย่างไรก็ตามแม้เขาจะใช้ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อย แต่เนื่องจากรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนตกต่ำลงมาก มันจึงค่อนข้างลำบากในการควบคุมวานรยักษ์ตัวนี้

 

‘แม้ตอนนี้สถานการณ์จะยังสงบแต่จิตวิญญาณของข้ายังแบกรับภาระหนักมาก หากเราเข้าสู่การต่อสู้ที่ดุเดือด ข้าอาจไม่สามารถออกคำสั่งอสูรปีวอกแรกกำเนิดตัวนี้’

 

ฟางหยวนเตือนตนเองอยู่ภายใน

 

นี่เป็นข้อบกพร่องแต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะฟางหยวนทำเต็มที่แล้ว

 

พวกเขาเดินทางต่อไปอย่างเงียบๆ

 

“ครืน…ครืน…ครืน…”

 

กระแสน้ำยังคงโหมกระหน่ำ

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนมาที่นี่ด้วยร่างกายภาพของเขา

 

สองสามครั้งก่อนหน้า วิญญาณกาลเวลานำเพียงดวงวิญญาณของเขาเดินทางมา นั่นทำให้เขาไม่สามารถสังเกตเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน กล่าวได้ว่าครั้งนี้เขาได้เปิดหูเปิดตาอย่างแท้จริง

 

สายธารแห่งกาลเวลาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพซึ่งเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง

 

แต่การเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีรากฐานลึกล้ำ ฟางหยวนเข้ามาได้เพราะวิธีบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงรวมถึงมรดกของราชันภูเขาม่วงและมรดกของไห่ฟาน

 

สายธารแห่งกาลเวลาไม่ได้ปราศจากรูปแบบชีวิต

 

ฟางหยวนเห็นวิญญาณป่ามากมาย บางดวงลอยไปตามกระแสน้ำ บางดวงบินอยู่กลางอากาศ

 

‘หือ?’ วิญญาณปีป่าหกดวงบินเข้ามาเกาะอยู่บนร่างกายของฟางหยวนอย่างเงียบๆและไม่เคลื่อนไหวอีก

 

‘เป็นเช่นนี้’ ฟางหยวนเข้าใจอย่างรวดเร็ว

 

ตอนนี้เขาเป็นอสูรปีวอกบรรพกาลและด้วยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย วิญญาณป่าจึงไม่สามารถแยกแยะกลิ่นอายของเขาและปฏิบัติต่อเขาเหมือนอสูรปีวอกบรรพกาลที่แท้จริง

 

วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งกาลเวลาเหล่านี้ถูกดึงดูดมาโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวน พวกมันรู้สึกว่าร่างกายของเขาเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย ดังนั้นพวกมันจึงเข้ามาหาเขา

 

มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

 

โดยธรรมชาติแล้ววิญญาณเป็นสิ่งบอบบาง แม้วิญญาณป่าจะสามารถดูดซับพลังงานสวรรค์พิภพได้โดยตรง แต่พวกมันก็ยังตกอยู่ในอันตรายแม้พวกมันจะมีความสามารถที่แข็งแกร่งก็ตาม

 

ดังนั้นการอาศัยอยู่ในร่างของรูปแบบชีวิตที่แข็งแกร่งจึงเป็นทางรอดของพวกมัน

 

ฟางหยวนเข้ามาในสายธารแห่งกาลเวลาเพียงไม่กี่นาทีแต่มีวิญญาณป่าระดับมนุษย์หลายร้อยดวงบินเข้ามาหาเขา

 

ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณวันกับวิญญาณเดือน ไม่มีวิญญาณปี

 

สำหรับอสูรปีวอกแรกกำเนิด มันยิ่งได้กำไรมากกว่า

 

เดิมทีอสูรปีวอกแรกกำเนิดมีวิญญาณป่าระดับมนุษย์อยู่มากมาย แต่พวกมันถูกทำลายในการต่อสู้กับฟางหยวนและเหลือเพียงไม่กี่ดวงเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้มันกำลังถูกเติมเต็ม

 

อสูรปีวอกแรกกำเนิดมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าฟางหยวนโดยธรรมชาติ มันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากวิญญาณป่าระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งกาลเวลา ขณะที่มันว่ายอยู่ในแม่น้ำ วิญญาณป่าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาบินเข้ามาหามันราวกับเมฆหมอกสีดำ

 

แต่สถานการณ์นี้กินเวลาเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อฟางหยวนและอสูรปีวอกแรกกำเนิดมีวิญญาณป่าระดับมนุษย์ในการครอบครองมากเกินไป พวกมันจะรู้สึกถึงความแออัดและหยุดเข้ามาหาพวกเขา

 

ฟางหยวนคิดและไม่ได้ทำสิ่งใดกับวิญญาณป่าระดับมนุษย์เหล่านี้

 

ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา มันเป็นเรื่องง่ายที่จะปรับแต่งวิญญาณป่าระดับมนุษย์

 

อย่างไรก็ตามนั่นจะทำลายการปลอมตัวของเขา

 

นอกจากนี้วิญญาณป่าระดับมนุษย์เหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษ เว้นเพียงพวกมันจะเป็นวิญญาณอมตะ พวกมันจึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของฟางหยวนได้เล็กน้อย

 

“โฮก…”

 

ขณะที่พวกเขากำลังเดินทาง พยัคฆ์ตัวหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำ แต่มันก็หลบหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุดพัก

 

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลายครั้ง

 

อาจกล่าวได้ว่าอสูรปีวอกแรกกำเนิดเหมือนใบเบิกทางของฟางหยวน

 

ในความเป็นจริงนอกจากอสูรปียังมีอสูรเดือนและอสูรวัน พวกมันคล้ายกับอสูรปีแต่พวกมันกินวิญญาณเดือนและวิญญาณวันเป็นอาหาร

 

หลังจากสองชั่วโมง สายธารแห่งกาลเวลายังคงซัดสาดท่ามกลางความมืด

 

ทิวทัศน์ของมันไม่เปลี่ยนแปลงราวกับพวกเขายังอยู่ที่เดิม

 

ครึ่งร่างของอสูรปีวอกแรกกำเนิดอยู่ในแม่น้ำ มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆราวกับเนินเขาที่ลอยอยู่

 

สำหรับฟางหยวนในร่างของอสูรปีวอกบรรพกาล เขาลอยอยู่เหนือแม่น้ำและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

 

ฟางหยวนมั่นใจเพราะเขาได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง ความรู้สึกที่อยู่ในหัวใจของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น ตราบเท่าที่เขาทำตามความรู้สึกนี้ เขาจะพบมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงที่อยู่ในการครอบครองของเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างแน่นอน

 

สิ่งที่จะขัดขวางเขานอกจากสายธารแห่งกาลเวลาก็คือการไล่ล่าและการซุ่มโจมตีของวังสวรรค์

 

“ครืน…”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่กระแสน้ำจากสายธารแห่งกาลเวลาพุ่งขึ้นสู่อากาศอย่างกะทันหัน

 

มันพุ่งขึ้นจากด้านซ้ายของฟางหยวน

 

“กรอ…” อสูรปีวอกแรกกำเนิดคำรามและซ่อนความจริงจังเอาไว้ภายใต้ใบหน้าที่ผ่อนคลาย

 

“นี่คือน้ำพุกะทันหัน” รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง

 

สายธารแห่งกาลเวลาไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย บางช่วงของแม่น้ำจะมีอันตรายและความไม่แน่นอนหลายประการซ่อนอยู่

 

น้ำพุกะทันหันเป็นหนึ่งในนั้น

 

หากถูกโจมตีโดยน้ำพุกะทันหัน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจะถูกสลักไว้บนร่างกายของเป้าหมาย พวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตด้วยการสูญเสียอายุขัย

 

ฟางหยวนค่อยๆเคลื่อนที่ไปตามอสูรปีวอกแรกกำเนิด เขาไม่สามารถรับมือน้ำพุกะทันหันและทำได้เพียงใช้ร่างกายอันใหญ่โตของอสูรปีวอกแรกกำเนิดเพื่อต่อต้านมันเท่านั้น

 

พวกเขาต้องเดินทางผ่านสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง

 

ขณะที่ฟางหยวนอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา ใกล้กับสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในทะเลทรายตะวันตก ผู้อมตะสามคนพึ่งมาถึง

 

หนึ่งเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่ดูสง่างาม อีกสองเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ดูแข็งแกร่งราวกับภูเขา

 

พวกเขาก็คือฟงจิวเก้อและสองผู้อมตะจากวังสวรรค์

 

แผนการของเทพธิดาจื่อเว่ยคือใช้ประโยชน์จากฟางหยวนเพื่อค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

 

ตอนนี้ฟางหยวนเข้าไปยังสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงแล้ว เป็นธรรมดาที่เทพธิดาจื่อเว่ยจะต้องส่งคนติดตามไป

 

“ผู้ใดจะคิดว่าปีศาจต่างโลกผู้นี้จะสามารถต่อสู้กับน้องฟงได้อย่างเท่าเทียม”

 

“ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเรา ไม่ว่าเขาจะยอดเยี่ยมเพียงใด เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากความตาย”

 

ฟงจิวเก้อพึ่งพบกับผู้อมตะจากวังสวรรค์ทั้งสองเพียงไม่นาน แต่เขาไม่ใช่คนที่จะปกปิดข้อมูลเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง เขาอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด

 

“หากเราร่วมมือกัน เราจะสามารถสังหารฟางหยวนได้อย่างแน่นอน” ฟงจิวเก้อพยักหน้าเล็กน้อย

 

ตอนนี้พลังการต่อสู้ของฟางหยวนใกล้เคียงกับฟงจิวเก้อ แต่เปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปดถึงสองคน มันยังไม่เพียงพอ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่าไม้ตายอมตะเสียงกลองหัวใจของฟงจิวเก้อได้รับการพัฒนาขึ้นอีกครั้งโดยเทพธิดาจื่อเว่ยเพื่อเป็นไพ่ตายในการกำจัดฟางหยวน

 

“หือ? อาณาจักรแห่งความฝันงั้นหรือ?” ฟงจิวเก้อและสองผู้อมตะระดับแปดพบอาณาจักรแห่งความฝันในที่สุด

 

“ดูเหมือนเราจะทำได้แค่รอ”

 

“อาณาจักรแห่งความฝันเคลื่อนที่ตลอดเวลา ช่องว่างจะปรากฏขึ้นในที่สุด เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเราจะสามาถเข้าไป”

 

“นอกจากพวกเรายังมีท่านหงซื่อที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ที่สายธารแห่งกาลเวลาในรอบหมื่นปี ฟางหยวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”

 

ผู้อมตะทั้งสามสนทนาและตัดสินใจรอคอยโอกาสอยู่ที่นี่

 

ในสายธารแห่งกาลเวลา

 

“เจี๊ยก!”

 

ร่างกายของอสูรปีวอกแรกกำเนิดเต็มไปด้วยบาดแผล

 

ฟางหยวนหันหลังกลับและรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

 

‘โชคดีที่อสูรปีวอกแรกกำเนิดช่วยปกป้องข้า มิเช่นนั้นเราจะผ่านมันมาได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?’

 

น้ำพุกะทันหันทรงพลังมาก อย่างน้อยพวกมันก็มีพลังอำนาจเทียบเท่ากับท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดและส่วนใหญ่ยังเทียบเท่ากับท่าไม้ตายอมตะระดับแปด ฟางหยวนยังได้เห็นน้ำพุกะทันหันระดับเก้าอีกด้วย

 

โชคดีที่ฟางหยวนอยู่ห่างจากการปะทุขึ้นอย่างกะทันหันของมัน นั่นทำให้เขายังปลอดภัยมาถึงตอนนี้

 

‘อสูรปีวอกแรกกำเนิดได้รับบาดเจ็บค่อนข้างมาก แต่วิธีการของข้าค่อนข้างจำกัด ข้าไม่สามารถรักษามันได้’ ฟางหยวนตรวจสอบและลอบถอนหายใจ

 

วิธีการรักษาบนเส้นทางสายอื่นจะถูกจำกัดพลังอำนาจเมื่ออยู่ที่นี่ ในแง่ของเส้นทางแห่งกาลเวลา ฟางหยวนมีเพียงวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า แต่วิญญาณอมตะดวงนี้ใช้ได้กับร่างกายของมนุษย์เท่านั้น

 

ฟางหยวนทำได้เพียงปล่อยให้อสูรปีวอกแรกกำเนิดฟื้นตัวขึ้นด้วยตัวมันเอง

 

‘ข้าควรหยุดสักครู่เพื่อให้อสูรปีวอกแรกกำเนิดมีเวลาฟื้นตัวหรือไม่?’

 

ฟางหยวนลังเล

 

น้ำพุกะทันหันเป็นเพียงอุปสรรคแรกในการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ฟางหยวนยังต้องเผชิญหน้ากับแมงมุมทมิฬ ฉลามนิ้วกาลเวลา และปราณดาบแห่งกาลเวลา

 

อุปสรรคทั้งสามอันตรายกว่าน้ำพุกะทันหัน

 

“น้ำพุกะทันหัน?” หงซื่อมองสายธารแห่งกาลเวลาที่อยู่ด้านหน้าและขมวดคิ้ว

 

“จากข้อมูลของเทพธิดาจื่อเว่ย ฟางหยวนอยู่ข้างหน้า” ดวงตาของหงซื่อส่องประกายขึ้นขณะที่เขาบินเข้าไปหาน้ำพุกะทันหันด้วยความเด็ดเดี่ยว