‘ข้าแม่งเจอโคตรมหาสมบัติเข้าให้แล้ว!’

 

คำเหล่านี้ต่างปรากฏขึ้นในหัวของเฉินเฉิน ตาของเขาพร่าเบลอด้วยความสับสน

 

บึ้ม!

 

ในชั่วพริบตา เสียงระเบิดของก้อนหินก็ดังขึ้นจากชั้นหินด้านล่าง

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ สีหน้าของเฉินเฉินแข็งทื่อทันที วินาที่ตอมา เขาพุ่งตัวลงไปยังบ่อน้ำวิญญาณควบคู่ไปกับชั้นหินที่ถล่มลง

 

ฟู่ว!

 

เสียงน้ำที่ไหลลงไปและเมื่อเฉินเฉินตกลงไปในบ่อน้ำ น้ำก็สาดกระเด็นขึ้นไปด้านบน

 

เฉินเฉินรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเขามีปฏิกิริยาอะไรบางอย่าง เมื่อร่างกายของเขาสัมผัสเข้ากับบ่อน้ำวิญญาณ มันมีของแตกต่างมากมายเต็มไปหมดไหลเข้าไปในร่างกายของเขา

 

บึ้ม!

 

มันมีเสียงคำรามออกมาจากร่างกายของเขาออกมานับครั้งไม่ถ้วน เฉินเฉินรู้สึกมึนงง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าร่างกายของเขาจะมีเสียงดั่งกลับทะเลเช่นนี้ มันเหมือนกับเสียงของคลื่นน้ำที่ซัดกระแทกเข้ากับโขดหิน!

 

‘ร่างจิตวิญญาณของข้ากำลังดูดซึมน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์อย่างบ้าคลั่งถึงเพียงนี้เลยหรือเนี่ย!’

 

เขาฝืนตัวเองกับความมึนงง เฉินเฉินเห็นว่าระดับของบ่อน้ำกำลังลดลง เมื่อถึงจุดนี้แล้วมันก็ทำให้เขากังวลมาก

 

ถึงแม้ว่ามันจะไม่เสียอะไร ถ้าร่างกายของเขาดูดซึมไปจนหมด อย่างน้อยเขาควรที่จะเก็บมันไว้ใช้ทีหลังบ้าง มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมแหละที่จะดูดซึมพวกมันไปทั้งหมด แต่ความคิดที่จะเก็บไว้ใช้ในอนาคต มันทำให้เขารู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย

 

เฉินเฉินหยิบขวดออกมาจากแหวนเก็บของและเริ่มใส่น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ลงไปในขวด เมื่อมันเกือบจะเต็มขวดแล้ว สติของเขาก็เริ่มพร่าเบลอไป

 

สุดท้ายแล้ว วิสัยทัศน์ของเขาก็มืดบอดและเขาสลบไปในบ่อน้ำ

 

 

หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง เฉินเฉินก็ตื่นขึ้นมา ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เปิดตาของตัวเองก็ตาม เขาก็รู้สึกอบอุ่นมาก มันเหมือนกับว่ามีผ้าห่มกำลังปกคลุมร่างกายของเขาอยู่

 

“ข้าถูกคนแบกไปหรือเนี่ย? แล้วเจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ที่ข้าเก็บเอาไว้ละ?!”

 

ความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของเฉินเฉิน เขาเปิดตาออกและลุกขึ้นนั่งทันที

 

ยังไงก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขามาทำให้เขาตกอยู่ในความสับสนและตื่นตระหนก

 

ไม่มีใครแบกเขาออกไปที่อื่น เขายังคงนอนอยู่ในบ่อน้ำวิญญาณอยู่ดี ซึ่งมันได้แห้งเหือดไปหมดแล้ว แต่ว่าเขากลับถูกปกคลุมด้วยกองเส้นผมแทนเนี่ยสิ!

 

พูดให้ถูกแล้ว มันคือผมของเขาเองนั่นละ!

 

‘ข้าหมดสติไปนานแค่ไหนกันเนี่ย?!’

 

เมื่อมองที่ผมของตัวเองแล้ว ที่มันยาวจนเอาไปถักผ้าห่มได้ขนาดนี้ เฉินเฉินอดที่จะเหงื่อตกไม่ได้

 

ตามความเร็วปกติของความเร็วที่เส้นผมจะยาวแล้ว เขาจะต้องหลับไปนานกว่านับร้อยปีเลยใช่ไหมเนี่ย?

 

ถ้าหนึ่งร้อยปีผ่านไป พ่อแม่ของเขายังจะมีชีวิตอยู่อีกไหม?

 

เมื่อความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของเขาแล้ว เฉินเฉินรีบลุกขึ้นยืนจากบ่อน้ำวิญญาณและสำรวจตัวเองและสิ่งรอบข้าง

 

เขายังคงสวมชุดเดิมที่เขาใส่ตอนก่อนหมดสติและมันไม่มีร่องรอยของการเน่าเปื่อยเลยสักนิด กลับกันมันกลับสะอาดมากแทน

 

ขวดน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ที่เติมขวดไว้ก่อนหมดสติตั้งไว้ตรงขอบบ่อน้ำ

 

สิ่งแวดล้อมมันไมได้แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้มากสักเท่าไหร่

 

เมื่อเขาเห็นดังนี้แล้ว เฉินเฉินจึงหายใจออกมาอย่างโล่งอก มันเหมือนว่าผมของเขาไม่ได้ยาวตามปกติ มันกลับยาวเพราะเจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์นี่มากกว่า

 

“เฮ้อ มันทำให้ข้าตกใจแทบตายเลย”

 

หลังจากที่เฉินเฉินพึมพำกับตัวเองแล้วเขาก็หยิบมีดออกมาจากแหวนเก็บของและตัดผมตัวเองทิ้ง ซึ่งมันยาวจนเกือบจะทำผ้าห่มได้เลย

 

แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถที่จะทิ้งมันไปได้ เขาตัดสินใจที่จะใส่พวกมันเก็บลงไปในแหวนเก็บของ เขาคิดว่าผมเหล่านี้ที่มันยาวโดยน้ำวิญญาณน่าจะเป็นผมที่พิเศษ เขาสามารถที่จะนำพวกมันกลับมาทำเป็นผ้าห่มได้…..มันอาจจะได้เปลี่ยนกลายเป็นสมบัติไปแล้วก็ได้!

 

หลังจากที่ใส่ผมลงไปในแหวนเก็บของแล้ว เฉินเฉินก็เก็บขวดน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ลงไปด้วย

 

ขวดน้ำนี้มันมีน้ำอยู่ประมาณ 2.5ลิตร ซึ่งมันเทียบเท่าได้กับโค้กขวดใหญ่ ถ้าเขาใช้มันทีละหยดแล้ว มันจะอยู่กับเขาได้อีกเป็นเวลานานเลย

 

เฉินเฉินพึงพอใจมากกับสิ่งนี้ ตั้งแต่ที่เขามีน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์จำนวนมากอยู่กับตัวแล้ว เขาก็สามารถที่จะแบ่งมันให้กับคนอื่นได้

 

หลังจากที่เก็บทุกอย่างกลับไป เขาก็เริ่มที่จะตรวจสอบระดับการฝึกตนของตัวเอง

 

หลังจากที่ดูดซึมบ่อน้ำน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ไป เขาสงสัยว่าระดับการฝึกตนของเขานั้นขึ้นไปอยู่ในจุดใดแล้ว

 

เฉินเฉินตรวจสอบกระแสคลื่นในจุดตันเถียนของเขาอย่างตื่นเต้น ยังไงก็ตาม สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที รอยยิ้มของเขานั้นเปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัว ความไม่สบายใจและความประหลาดใจแทน!

 

“บัดซบ! จุดตันเถียนของข้าไปไหนกัน?!”

 

เฉินเฉินกระโดดตัวลอย เขารีบตรวจสอบร่างกายตัวเองอย่างถี่ถ้วน ไม่เพียงแต่กระแสนน้ำวนของเขาทั้งสามจะหายไป แม้แต่จุดตันเถียนของเขาก็หายไปด้วยเหมือนกัน!

 

ยังไงก็ตาม แม้ว่ามันจะหายไป แหวนเก็บของยังคงอยู่เหมือนเดิม สุดท้ายแล้วเขาก็พึ่งจะใช้แหวนเก็บของไป…

 

สีหน้าของเฉินเฉินเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างต่อเนื่อง วินาทีต่อมา เขาก็ยื่นมือออกไปและสายฟ้าที่ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้นับสิบเท่าก็ปรากฏขึ้นในมือ

 

ในเวลาเดียวกัน กระแสนน้ำวนสองจุดที่ควรจะปรากฏขึ้นในจุดตันเถียนก็ปรากฏขึ้นในร่างกายของเขาแทน

 

“นี่มัน..”

 

เฉินเฉินพูดไม่ออก จุดตันเถียนน่าจะมีขนาดเท่ากับกำมือหนึ่งและจุดกระแสน้ำวันทั้งสองในจุดตันเถียนมันน่าจะเล็กเท่ากับขนาดนิ้วมือ แต่ในตอนนี้จุดตันเถียนมันได้หายไป กระแสนน้ำวนทั้งสองมันจึงขยายกว้างออกมาขนาดเท่ากับแขนแทน

 

ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว เจ้ากระแสน้ำวนทั้งสองมันไม่ได้ส่งผลกระทบกับอวัยวะภายในในร่างกายของเขา แม้ว่าพวกมันจะหมุนเวียนอย่างบ้าคลั่งก็ตาม

 

ปกติแล้ว พลังปราณจะทำร้ายอวัยวะภายในของคนที่ใช้ จ้าวเสี่ยวหยาก็ตกอยู่ในสภาวะถูกครอบงำ ซึ่งเธอก็เป็นตัวอย่างที่ดีกับข้อนี้

 

เมื่อพลังปราณไหลออกมาจากจุดตันเถียนและเส้นลมปราณแล้ว เมื่อมันเริ่มที่จะไหลเวียนในอวัยวะภายใน มันจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในขึ้นทันที

 

แต่เขาละ? มันเหมือนกับว่าทั้งทั่งร่างของเขากลายเป็นจุดตันเถียน เมื่อพลังปราณของเขาสามารถที่จะหมุนเวียนในตัวได้อย่างไม่มีปัญหาอันใด

 

“นี่มันอะไรกัน…” เฉินเฉินสั่นสะท้านและรีบมุ่งตรงไปที่ด้านหน้าของถ้ำ

 

เขาจะต้องไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาได้ก้าวข้ามกฎธรรมชาติด้วยการใช้สมบัติสวรรค์แล้วก็จริง แต่เขาก็ใช้มันมากเกินไป เขาจะฝึกตนยังไงดีในอนาคตกันเนี่ย?

 

คนอื่นสามารถที่จะฝึกจากขั้นฝึกพลังปราณ เพื่อก้าวขึ้นไปเป็นขั้นรากฐานกันทีละก้าว แต่เขาได้สูญเสียจุดตันเถียนของเขาไปแล้ว ใครจะไปรู้กันอีกว่าเขานั้นอยู่ในระดับกันแล้วเนี่ย..

 

เพียงแค่นั้นเอง เฉินเฉินก็วิ่งตรงไปยังเขาหลักด้วยหัวใจที่หนักหน่วง มันเป็นช่วงเวลายามเที่ยงวัน แต่เฉินเฉินก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตอนนี้มันเป็นวันไหนแล้ว

 

ไม่กี่ชั่วขณะต่อมา เขาก็ได้ถึงตีนเขาหลัก

 

ในครั้งนี้ หูเซียงเอ๋อและเจ้าเหลืองก็ได้หายไปแล้ว เฉินเฉินไม่มีอารมณ์มากพอที่จะสนใจเกี่ยวกับดอกบัวหัวใจสวรรค์เพลิงโลกา เขาเพียงแค่ต้องการรับรู้ถึงสภาพร่างกายของเขาเองเท่านั้น

 

เมื่อเฉินเฉินกลับมายังเขาหลัก เขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้น

 

“เจ้านาย พี่สาวเซียงเอ๋อป่วยละ!”

 

“ปีศาจป่วยได้ด้วยเหรอ?” เฉินเฉินมองไปที่เจ้าผักบุ้งน้อยในสวนสมุนไพรด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ แต่ว่าเขาก็รีบเดินตรงไปที่ห้องนอนของหูเซียงเอ๋ออย่างรวดเร็ว

 

หูเซียงเอ๋อที่อยู่ในห้องนอนนั้นผอมบาง เธอนอนอยู่บนพื้น ขนขาวที่สะอาดของเธอนั้นมอดดำไปหมด มันเหมือนกับว่าเธอถูกอะไรบางอย่างเผาเข้าให้

 

ด้านข้างเธอ เจ้าเหลืองน้อยยังคงเอาตัวมันโหม่งเข้ากับขอบโต๊ะอย่างต่อเนื่อง เขาไม่รู้ว่ามันต้องการที่จะทำอะไร

 

“เซียงเอ๋อ เจ้าเป็นอะไร? ใครทำเจ้ากัน? ทำไมเจ้าถึงมีสภาพที่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้กัน?”

 

เฉินเฉินโกรธเคืองมาก เมื่อเขาเห็นสภาพที่น่าสงสารของหูเซียงเอ๋อ

 

หูเซียงเอ๋อไม่ได้ตอบกลับ เธอกลับยื่นกรงเล็บและชี้ไปที่โต๊ะที่อยู่ใกล้พวกเธอด้วยสายตาที่เคียดแค้น

 

เฉินเฉินมองไปที่ทิศที่เธอชี้ไป เขาเห็นดอกบัวสีแดงขนาดเท่ามือวางอยู่บนโต๊ะ มันเปล่งประกายสีแดงและดูศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

 

“เจ้าเด็กน้อย นี่คือ….สมบัติธาตุไฟชั้นสุดยอดซึ่งถูกเรียกว่าดอกบัวหัวใจสวรรค์เพลิงโลกาที่เจ้าให้เจ้าเหลืองน้อยขุดลงไป ข้าจึงรู้ว่ามันน่าจะมีสมบัติอยู่ด้านใต้นั้น แต่เมื่อเจ้าไม่ได้กลับมาสักที ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลงไปดูด้วยตัวของข้าเอง สุดท้ายแล้วข้าก็พบกับสมบัตินี้เข้าให้”

 

“หลังจากนั้น เมื่อข้าเห็นเจ้าสมบัติกำลังจะจมลงไปในเปลวไฟอีกครั้งหนึ่ง ข้าจึงเสี่ยงชีวิตที่เอามันออกมาจากเปลวเพลิง ยังไงก็ตาม พลังงานวิญญาณธาตุไฟที่อยู่ในนั้นมันทรงพลังมากเกินไป มันเผาข้าจนบาดเจ็บหนักขนาดนี้…”

 

เมื่อได้ยินมัน เฉินเฉินเอียงคอถาม “เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”

 

หูเซียงเอ๋อที่ขนไหม้จนเป็นสีดำแล้วไม่ได้ทำตัวเชื่อฟังอีกต่อไป เธอพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้าเด็กน้อย แล้วยังไงอีก? พูดตามจริงนะ ข้าหงุดหงิดกับเจ้ามานานละ เจ้าหมาเวร เจ้าให้ข้าทำอาหารและเรียนเนี่ยนะ ข้าไม่เคยพบเจอกับความน่าหงุดหงิดเท่านี้มาตั้งแต่ยังเด็กเลยนะ! ตอนนี้ หัวใจของข้ามันถูกเผาไหม้ไปแล้ว ข้าคงจะต้องตายอย่างแน่นอน ข้าไม่กลัวเจ้าแล้วละ!”

 

“อ๊า! อสูรที่กำลังจะตายพูดจาไม่ดีละ! มันเหมือนกับว่าเจ้าหงุดหงิดกับข้ามากเลยนะ! ตั้งแต่ที่เจ้าไม่มีความสุขกับข้าแล้ว ทำไมเจ้าถึงได้นำเจ้าดอกบัวนี่ออกมากันละ? เจ้ากำลังมอบของขวัญให้กับข้าอยู่นะ”

 

เฉินเฉินลูบหางของหูเซียงเอ๋อ ก่อนที่จะพูดออกมา

 

ตาของหูเซียงเอ๋อเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและน้ำตา

 

“เจ้าจะไปรู้อะไรกัน เจ้าโง่! ดอกบัวหัวใจสวรรค์เพลิงโลกามันมีคุณค่ามากๆ มันเป็นที่ต้องการที่แม้แต่คนที่ทรงพลังที่อยู่เหนือขั้นก่อกำเนิดวิญญาณเลย ข้าจะพลาดสมบัติเช่นนี้ไปได้ยังไงกัน?”

 

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอแล้ว มันก็ทำให้เฉินเฉินตระหนักได้ว่าหูเซียงเอ๋อเป็นคนขี้งกและต้องการสมบัติอย่างมาก เธอเป็นคนประเภทที่ยอมจมน้ำตายเพื่อแลกกับการได้สมบัติเลยละ

 

‘เธอหวงสมบัติยิ่งกว่าชีวิตของเธออีก…’

 

แม้ว่าสมบัตินี้จะไม่ได้เป็นของเธอ หูเซียงเอ๋อยังคงเสี่ยงชีวิตของเธอเองเพื่อคว้าสมบัตินี้ไว้…

 

เฉินเฉินประทับใจมาก เธอเป็นอสูรที่ผ่านประสบการณ์ที่แสนพิเศษเสียจริง

 

เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารของเฉินเฉิน ตาของหูเซียงเอ๋อที่กำลังอ่อนแอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

 

“เจ้ามองอะไรของเจ้ากัน? เจ้าคิดว่าทุกคนจะไปเก็บสมบัติได้ทุกที่ที่พวกเจ้าไปได้หรือไงกัน? มันจะมีใครเหมือนเจ้ากันอีก? ให้ข้าพูดตามตรงนะ ข้าแอบขโมยอาหารเจ้าไปสามส่วนในทุกครั้งที่ข้าทำอาหารให้เจ้าเลยละ! ข้าจะทำให้เจ้าโกรธจนตายเลย! ข้ายังทำให้เจ้าเสียวัตถุดิบที่ล้ำค่าเหล่านั้นไปอีก! ไอ้เวรเอ้ย! ไอ้เด็กนรก! ข้ายังไม่ยอมตายก็เพราะจะด่าเจ้านี่ละ ข้าสบายใจละ!”

 

หลังจากที่ได้พูดเสร็จ หูเซียงเอ๋อก็แลบลิ้นออกมา

 

เมื่อเห็นดังนี้ ใบหน้าของเฉินเฉินเต็มไปด้วยความดุร้าย

 

‘เจ้าอสูรนี่มันเริ่มทำตัวเหลวไหลแล้วสินะ ข้าไม่ได้สั่งสอนไปหลายวันมันก็กลับมาทำตัวเหลวไหลแบบนี้อีกแล้ว!’