ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 670

“ฮะ… ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ช็อปเปอร์ ลียง เดอะดราก้อนเฮดลียงยังไม่กล้าที่จะแตะต้องตัวนายอย่างนั้นเหรอ?”

ไทเกอร์ เรย์นิ่งไปชั่วขณะ แต่นาทีต่อมาก็ระเบิดหัวเราะออกมา

“นายคงไม่ได้กำลังใช้ชื่อของหัวหน้าแก๊งดราก้อนเฮดลียงเพื่อที่จะทำให้ฉันกลัวเพียงเพราะนายรู้จักชื่อนี้ใช่ไหม?”

“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยในประเทศเอช! อย่าคิดที่จะใช้ชื่อของดราด้อนเฮดลียงเพื่อที่จะทำให้ฉันกลัว!”

“แม้ว่านายจะรู้จักชื่อของนายใหญ่ซีซาร์หรือฌอน บิล มันก็ไม่มีความหมายอะไรกับฉันทั้งนั้น! สถานภาพของผู้ที่สนับสนุนฉันอยู่คือ…”

ทันใดนั้นไทเกอร์ เรย์ก็ได้รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไปในขณะที่เขาพูด แต่แล้วเขาก็หยุดพูดอย่างกะทันหัน

จากนั้นเขาได้มองไปยังฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมและพูดต่อ “ไม่แปลกใจที่มีคนเตือนให้ฉันระวังนายให้ดี ฉันเกือบจะหลงกลความฉลาดของนายซะแล้ว!”

“เอาล่ะ หยุดเรื่องไร้สาระกันได้แล้วได้เด็กเวร ในเมื่อพ่อตาของนายเอาตัวนายมาแลกกับหนี้สินของเขา แล้วตามกฎแล้วฉันจะต้องตัดนิ้วของนายวันนี้!”

“พร้อมหรือยัง?”

จากนั้นไทเกอร์ เรย์ได้ดึงเอามีดออกมาและปักลงบนโต๊ะหลังจากที่เขาพูดจบ

“นายอยากจะทำด้วยตัวเองหรือเปล่า? หรืออยากจะให้เด็ก ๆ ช่วยนายดี?”

ฮาร์วีย์เอื้อมมือไปคว้ามีดมาและพินิจพิจารณามัน

“มีดที่ผ่านการใช้งานของกองทัพทางตอนใต้ของอเมริกา ไม่เลวนี่…”

ไทเกอร์ เรย์หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา

“ตาดีหนิ แต่มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”

ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากถือใบมีดด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลางของเขาพร้อมกับสะบัดมันเล็กน้อย

มีดที่ผ่านการใช้งานของกองทัพกำลังหมุนอยู่ระหว่างนิ้วของเขาราวกับลูกข่าง

“นี่มัน…”

ภายในพริบตาเดียวทุกคนต่างตกตะลึงเล็กน้อย

กลของฮาร์วีย์ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ถ้าไม่ได้คลุกคลีกับมีดมาเป็นเวลานาน

นี่ไม่ใช่มีดของเด็กเล่นที่จะเอามาเล่นกลได้เพราะใบมีดมีความคมอยู่พอสมควร

แต่ฮาร์วีย์กลับเล่นกับมันราวกับว่ามันเป็นเพียงของเล่น

ไทเกอร์ เรย์ถามขึ้นมาอย่างอัตโนมัติหลังจากที่เขานิ่งไป “ไอ้สารเลว แกไปเรียนมันมาจากไหน?! แกคิดว่ากำลังขู่ใครให้กลัวอยู่?!”

นักเลงคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความลังเล “บอสครับ ผมจำได้ว่าทหารที่เคยผ่านการรบจากสนามรบมักจะเล่นมีดแบบนี้ครับ”

“คนที่ไม่เคยเห็นการนองเลือดมาก่อนจะไม่กล้าที่จะเล่นแบบนี้แน่นอนครับ!”

การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่นักเลงคนนี้พูดขึ้นมา

ในตอนแรกไทเกอร์ เรย์ขมวดคิ้ว แต่แล้วเขาหัวเราะอย่างเยือกเย็นออกมา “โอ้ หยุดความคิดนั้นเถอะ คิดว่าคนอย่างเขาจะเป็นคนของกองทัพเหรอ? เขาดูไม่เหมือนเลย!”

“เขาคงจะเรียนมันมาจากอินเทอร์เน็ตหรือที่ไหนสักที่แน่ ๆ !”

“เขาคิดว่าเขากำลังพยายามหลอกใครให้กลัวอยู่?”

ฮาร์วีย์หยุดการเคลื่อนไหวที่มือของเขาและจับไปที่ใบมีด ต่อมาเขาจึงพูดอย่างใจเย็น “ก่อนที่ฉันจะหยุดเล่น นายจะต้องบอกฉันว่านายทำงานให้ใครอยู่ ฉันจะไม่ให้นายรับผิดชอบอะไรหรอกถ้านายยอมบอกมา…”

“แต่ถ้าไม่ นายจะต้องรับผลที่ตามมา ชาตะกรรมนั้นจะแย่กว่าการตายนะ!”

“ฉันไม่ใช่คนที่ใจเย็นนักหรอก รีบ ๆ ตัดสินใจได้แล้ว!” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงปกติ

แต่หลังจากที่ไทเกอร์ เรย์ได้ยินอย่างนี้ เขาและนักเลงหลายสิบของเขากำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

‘ลูกเขยที่เกาะเมียกินกำลังจะโดนตัดนิ้วอยู่แล้วแท้ ๆ เขายังขู่คนอื่นอย่างนี้อยู่ได้ยังไง?’

‘เขาละเมออยู่เหรอ?’

ทุกคนต่างกำลังมองไปที่ฮาร์วีย์ราวกับว่าเขาเป็นคนโง่

‘ผู้ชายคนนี้ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่ากำลังเล่นกับความตายอยู่’

‘ชะตากรรมที่แย่กว่าการตายอย่างนั้นเหรอ?’

ไทเกอร์ เรย์ระเบิดหัวเราะออกมา

“ไอ้เด็กนี่ เขาคิดว่าเขาจะทำให้คนกลัวได้จากกลมีดที่เขาเรียนมาเหรอ?”

“แต่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขาไม่กล้าที่จะทำด้วยตัวเอง พวกเราจะต้องช่วยเขาแล้วล่ะ!”

“ยังไงแล้วมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเราอยู่แล้ว…”

หลังจากที่ได้ยินไทเกอร์ เรย์และคนอื่น ๆ พูดจาไร้สาระ ฮาร์วีย์ก็ได้หลับตาของเขาลงและพูดอย่างใจเย็น “ฉันค่อนข้างใจร้อนนะ เวลาที่ฉันให้ไปเหลือไม่มากแล้วนะ ถ้านายยังไม่ยอมบอกสิ่งที่ฉันอยากรู้ล่ะก็ ฉันรับปากเลยว่าพวกนายทุกคนจะต้องมีชะตากรรมที่แย่กว่าการตายแน่นอน…”