ตอนที่ 515 อ้อมค้อม / ตอนที่ 516 เรื่องน่าอาย

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 515 อ้อมค้อม

 

 

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหยียนเค่อกลับมาถึงเมือง N แล้ว ขณะที่ชายหนุ่มเดินลากกระเป๋าเดินทางออกมา ซย่าเสี่ยวมั่วก็กำลังรอขึ้นเครื่องอยู่ที่สนามบินเช่นกัน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วยืนอยู่ตรงทางออก เห็นเหยียนเค่อเดินออกมา ยังดีที่ชายหนุ่มไม่เห็นเธอ

 

 

โชคดีที่ชายหนุ่มเป็นพวกดึงดูดสายตาผู้คน แค่เขาเดินออกมาก็เป็นจุดสนใจของคนมากมาย ซย่าเสี่ยวมั่วยังนึกเลยว่าดาราคนไหนมา แต่พอเห็นว่าเป็นเหยียนเค่อที่มีบอดี้การ์ดล้อมรอบอยู่ จึงรบแฝงตัวไปหลบอยู่กับฝูงชนทั้งหลาย

 

 

แค่จะไปเที่ยวยังจะต้องมาคอยระวังว่าจะเจอคนที่รู้จัก มันน่าปวดหัวจริงๆ

 

 

หลายวันมานี้เธออดหลับอดนอนเพื่อวาดรูปให้เสร็จ อย่างน้อยจนถึงสิ้นปีก็จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเร่งเรื่องงาน ฉะนั้นเธอจึงวางใจทิ้งงานไปพักผ่อนได้ เพียงแต่ว่าตอนขอลางานไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่นัก

 

 

เบลล์คงไม่คิดว่าเพิ่งจะเข้าเดือนธันวาซย่าเสี่ยวมั่วก็ขอใช้วันหยุดสิ้นปีแล้ว ดังนั้นตอนเธอไปขอวันหยุดหล่อนทำท่าทางตกใจ

 

 

“เธอจะลาตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอ”

 

 

“ใช่ค่ะ ปีใหม่ค่อยกลับมาทำงาน” ซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่รู้ว่าเธอเอาความกล้ามาจากไหนไปพูดแบบนั้นกับผู้จัดการ

 

 

อย่างไรก็ต้องอนุญาตให้ซย่าเสี่ยวมั่วหยุดอยู่แล้ว แต่เธอก็ต้องถามเหตุผลให้ชัดเจน ครั้งนี้ถือไดว่าเบลล์สิ้นเปลืองพลังงานในการถามอยู่มาก

 

 

“เธอบอกว่าจะลาหยุดไปเที่ยว จะไปที่ไหนเหรอ”

 

 

“ยังไม่ได้คิดค่ะ” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากไปอยู่ที่กุ้ยโจวทั้งเดือน แต่จะไปเที่ยวไหนต่อเธอก็ยังไม่ได้วางแผน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพูดแบบนี้แล้ว ถึงเบลล์อยากจะช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงแต่พูดอ้อมๆ “ทางที่ดีเธอควรบอกลายละเอียดมาด้วยนะ ว่าไปที่ไหน ทำอะไร เพราะหากเกิดอะไรขึ้น…”

 

 

“ฉันเซ็นรับประกันให้ได้นะคะ ว่าจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันบริษัทก็ไม่ต้องมารับผิดชอบ”

 

 

เบลล์จนปัญญาที่จะหว่านล้อม “ปัญหาไม่ใช่ที่ตรงนั้นหรอก อย่างไรบริษัทก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเธอด้วย หากเพื่อนที่ทำงานมีธุระกับเธอล่ะจะทำอย่างไร”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่เข้าใจว่าคนที่ดูเหมือนสบายๆง่ายๆอย่างหญิงสาว ทำไมถึงมาใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับเธอนัก

 

 

“ไปร่วมงานแต่งเพื่อนที่เกาะบาหลีค่ะ” ซย่าเสี่ยวมั่วเอาสวีรั่วชีมาอ้าง

 

 

เบลล์จึงอนุญาตให้เธอหยุดได้ แต่ก็ยังไม่วายกำชับ “มีเรื่องอะไรโทรหาฉันได้นะ”

 

 

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

 

 

พอได้ใบลางานมาซย่าเสี่ยวมั่วรีบกลับบ้านด้วยความดีใจ เธอเอาเจ้าโกลเด้นไปส่งที่ศูนย์รับฝากสัตว์เลี้ยงเสร็จ ก็รีบไปสนามบินทันที

 

 

เจ้าโกลเด้นไม่ได้ไปอยู่ที่ศูนย์รับฝากสัตว์เลี้ยงนานแล้ว ว่าจะยอมเข้าไปได้ก็ทำเอาซย่าเสี่ยวมั่วเหนื่อยอยู่ไม่น้อย

 

 

เจ้าโกลเด้นเอาแต่ยื้อตัวอยู่หน้ากรง สะบัดเชือกยังไงก็ไม่ยอมเข้าไปในกรง เธอกับคนดูแลปลอบกันอยู่พักใหญ่ๆถึงจะลากมันเข้าไปได้

 

 

พนักงานดูแลหันมาพูดกับซย่าเสี่ยวมั่วอย่างปวดหัว “อย่างไรก็รีบมารับเขากลับไปนะคะ ดูเขาอารมณ์ไม่ดี น่าจะเป็นเพราะอยู่กับคุณนานแล้ว เลยไม่เอาคนอื่นเลย กลัวว่าถ้าห่างคุณนานๆแล้วเดี๋ยวจะอาละวาดขึ้นมา”

 

 

“ค่ะ ฉันจะรีบมารับมันกลับ” ซย่าเสี่ยวมั่วยื่นมือที่สวมถุงมือเข้าไปรูปหัวเจ้าโกลเด้นในกรง

 

 

พนักงานดูแลคิดแล้วก็ให้คำแนะนำซย่าเสี่ยวมั่ว “มีเพื่อนหรือว่าคนนี้สุนัขพอจะคุ้นเคยบ้างไหมคะ ส่งไปอยู่กับเขาน่าจะดีกว่า ฉันกลัวว่าเขาไม่ได้มาอยู่นี่นานแล้ว จะปรับตัวให้คุ้นไม่ได้”

 

 

คนแรกที่หญิงสาวนึกถึงคือเหยียนเค่อ แต่มันก็เป็นแค่ความคิดชั่ววูบ เธอต้องปัดไป สวีรั่วชีกำลังท้องเลี้ยงสุนัขไม่ได้แน่ๆ อีกอย่างเธอก็แอบมาเที่ยวโดยไม่ได้บอกหล่อน ส่วนคนอื่นๆก็ไม่มีใครเหมาะสมสักคน ยังไงก็คงต้องลำบากเจ้าโกลเด้นสักระยะหนึ่ง “ลองดูไปก่อนแล้วกันค่ะ ถ้าไม่ไหวจริงๆเดี๋ยวฉันจะให้เพื่อนมารับมันไป”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วนั่งยอง กระซิบที่หูของเจ้าโกลเด้น“แกอยู่ที่นี่เป็นเด็กดีนะ อดทนอยู่สงบๆสักเดือนหนึ่งนะ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วหันไปกำชับกับพนักงานดูแล “ยังไงก็รบกวนฝากมันด้วยนะคะ ถ้าไม่ไหวจริงๆโทรหาฉันได้ทันทีเลย ขอบคุณมากค่ะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 516 เรื่องน่าอาย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วด้านหนึ่งก็ยังอาลัยอาวรณ์หมาของตัวเอง ด้านหนึ่งก็ต้องพยายามหาทางหลบเหยียนเค่อ ทั้งนั้นเลยไม่ทันระวังเดินไปชนคนอื่นเข้า

 

 

“ขอโทษค่ะ ขอโทษ” ซย่าเสี่ยวมั่วรับผิดโดยดี เธอถูกคนเบียดอัดแน่นจนจะกลายเป็นปลากระป๋องอยู่แล้ว

 

 

ผู้ชายที่ใส่สูทคนนั้นไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เดินตามฝูงจนออกไปด้านนอก แต่กระเป๋าเดินทางที่เขาถืออยู่มันไปเกี่ยวเข้ากับสายกระเป๋าของซย่าเสี่ยวมั่วอย่างไม่ทันระวัง ทำให้ซย่าเสี่ยวมั่วที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านในต้องเดินตามออกมาเกือบถึงด้านหน้าสนามบินด้วย 

 

 

“เฮ้ คุณอย่าดึงกระเป๋าฉันสิ” ซย่าเสี่ยวมั่วร้อนรนอยากจะเอากระเป๋าตัวเองคืนมา แต่คนมันอัดแน่นเกินไป แถมผู้ชายคนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่ามีกระเป๋าของเธอติดไปกับเขาด้วย แต่เขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงเรียกของเธอเลยหันมามองทางเธอ “คุณเดินตามผมมาทำไม”

 

 

“กระเป๋าคุณ” ซย่าเสี่ยมั่วโดนคนด้านหลังดันมาเลยทำให้เอนไปชนหลังชายหนุ่ม แต่ดูเหมือนเขาจะดูรีบร้อน ไม่อยากเสียเวลาต่อเถียงกับหล่อน “ช่างเถอะ เราออกไปข้างนอกก่อนค่อยว่ากัน”

 

 

“ฉัน…” ซย่าเสี่ยวมั่วจนคำพูด ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมเดินตามชายหนุ่มออกไปด้านนอก

 

 

ตอนแรกหญิงสาวไม่ได้สังเกต แต่ตอนนี้เพิ่งพบว่าชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะเดินไปทางเดียวกับเหยียนเค่อ เธอเริ่มกังวล พอดีกับที่ฝูงชนเริ่มเบาบางลง เธอรวบรมกำลังทั้งหมดแล้วกระชากกระเป๋าตัวเองที่ติดอยู่กลับมา

 

 

ชายคนที่ถือกระเป๋าอยู่ถึงแรกดึงตรงกระเป๋าทำให้ต้องหมุนตัวกลับมามอง “เฮ้ย คุณ…”

 

 

เขายังพูดไปทันจบ เธอก็รีบกอดกระเป๋าวิ่งหนีไป ซวยจริงๆเลยๆ ไม่มีเรื่องดีๆเลยสิน่า

 

 

เหยียนเค่อกำลังรอผู้ช่วยของสวีอันหรานอยู่ ด้วยความสูงของชายหนุ่ม ทำให้เขาสังเกตเห็นแผ่นหลังที่ดูคล้ายซย่าเสี่ยวมั่วอยู่ในฝูงชน

 

 

“ประธานเหยียน” ผู้ช่วยของสวีอันหรานอดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อตัวเอง กล้าให้ประธานเหยียนมารอตน เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ

 

 

เหยียนเค่อยังคงมองไปตรงที่ตรวจตั๋ว แต่ว่าไม่เห็นแม้แต่เงาของหล่อนแล้ว ชายหนุ่มอดเอ่ยถามไม่ได้ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น”

 

 

“ไม่…”

 

 

ผู้ช่วยหวังเอ่ยแทรกขึ้น “ผู้หญิงเมื่อครู่น่าจะเป็นเพื่อนของประธานเหยียน”

 

 

“ห้ะ” เขาเกือบทำผิดใหญ่หลวงแล้วไหมล่ะ ชายหนุ่มรีบเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เหยียนเค่อฟัง ตอนสุดท้ายเอ่ยขึ้น “ผมบอกว่าให้มาที่ทางออกก่อน แต่ไม่รู้ทำไมมาได้ไม่ถึงครึ่งทางเธอก็วิ่งหนีไปแล้ว”

 

 

“หึ” เหยียนเค่อหัวเราะเสียงเย็น จะเพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะไม่อยากเจอหน้าเขา

 

 

ผู้ช่วงหวังมองสีหน้าที่เหยียนเค่อแสดงออกมาก็รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มกำลังหงุดหงิด ก็รู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งมันไม่เคยมีเรื่องดี ก็ยังอยากจะรู้อีก นี่มันหาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้รับรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มรู้ว่าเป็นเธอแล้ว ได้แต่บ่นว่าผู้ชายคนนั้น เสียเวลาเธอจริงๆเลย

 

 

ถ้าเธอไม่วิ่งกลับมาเสียก่อน สนามบินต้องประกาศตามชื่อเธอแน่ๆ ถึงตอนนั้นการเผชิญหน้าของเธอกับ เหยียนเค่อคงไม่ใช่แค่เรื่องน่าอาย แต่ชื่อของเธอก็จะกลายเป็นเรื่องที่สามารถเอาไปล้อต่อได้อีกด้วย แค่คิดก็ไม่รู้จะมุดหัวไปอยู่ที่ไหนแล้ว

 

 

เหยียนเค่อพาตัวเองออกมาจากสนามบิน ตอนแรกสีหน้าดูปกติ แต่ตอนนี้ดูบึ้งตึงมาก แม้แต่ผู้ช่วยหวังก็ไม่กล้าเข้าใกล้ชายหนุ่ม

 

 

“ประธานเหยียนจะกลับบ้านหรือเข้าบริษัทครับ” ผู้ช่วยหวังเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

 

 

“ไปบริษัท” ในมือของชายหนุ่มถือเครื่องประดับหยกชิ้นหนึ่งอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร นอกจากใบหน้าที่แสดงสีหน้าเย็นชาแล้ว ก็เดาอะไรไม่ออกอีกเลย

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไปทันเวลาพอดี เธอเคลียร์ของที่จะนำขึ้นเครื่องเล็กน้อย ตอนนี้ใจของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เห็นสถานที่แปลกใหม่ ลืมเรื่องหงุดหงิดเมื่อครู่ไปโดยปริยาย

 

 

หญิงสาวรู้ว่านอกจากจะได้ไปเห็นบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ก็อาจจะมีโอกาสเผชิญกับเรื่องที่ไม่คาดคิดได้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกมี่อยากไปสัมผัสสิ่งใหม่ๆมันมากกว่าความกลัวที่จะเผชิญอุปสรรคต่างๆ เสียอีก