ตอนที่ 616 เปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่
ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง หลิงอวี้จื้อก็แสร้งทำเป็นสูญเสียความทรงจำ เพื่อไม่ให้เจียงสือเห็นพิรุธอะไรได้ ด้วยเทคนิคการแสดงชั้นยอดของเธอ เจียงสือนึกว่าเธอสูญเสียความทรงจำไปจริง ๆ การที่เธอสอบถามทุกอย่างที่อยากรู้ จนได้ความกระจ่างแจ้งภายในเวลาสองสามวันนี้จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
ตอนนี้เป็นเวลาห้าปีที่เธอจากไป
ฮ่องเต้น้อยเติบโตแล้ว และปกครองบ้านเมืองเอง ซ้ำยังมีฮองเฮาแล้ว
ห้าปีก่อน เซียวเหยี่ยนกวาดล้างจวนอู๋อ๋อง เฉินเสี้ยวหรูและฟางฮุ่ยหรูตายในจวนอู๋อ๋อง มีเพียงเฉินปี้คนเดียวที่รอดตายไปอย่างหวุดหวิด เฉินปี้เดินหน้ากล่าวหาเซียวเหยี่ยน มู่หรงกวานเย่ว์ใช้เรื่องนี้จับตัวเซียวเหยี่ยน ยึดตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาจากเซียวเหยี่ยน บังคับให้เขาส่งตราพยัคฆ์ให้
เซียวเหยี่ยนได้รับการช่วยเหลือออกจากคุกใหญ่โดยผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ออกจากเหมืองหลวงติดกันหลายคืน ก่อกบฏทันที ตอนนี้เซียวเหยี่ยนสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิ ทุกคนต่างเรียกเขาว่าคังเหอตี้ หรือจักรพรรดิคังเหอ ครอบครองครึ่งหนึ่งของแคว้นเว่ยตะวันตก ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาวะชะงักงัน ใครก็ทำอะไรใครไม่ได้
นึกไม่ถึงเลยว่าเวลาเพียงห้าปีจะเกิดเรื่องราวมากมายขนาดนี้ แคว้นเว่ยตะวันตกเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่
ตอนนี้เซียวเหยี่ยนสร้างเมืองหลวงที่อวิ๋นเฉิง ไกลจากเซินโจวที่เจียงสืออยู่ไปอีกมาก เธอต้องคิดหาวิธีไปอวิ๋นเฉิงถึงจะถูก คราวนี้เธอมาเพราะเซียวเหยี่ยน ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ต้องไปหาเซียวเหยี่ยน
เพียงแต่เจียงสืออยู่ที่นี่ทุกวัน ซ้ำยังสั่งให้คนคอยดูแลเธอไม่ห่าง ปฏิเสธไม่ได้ เจียงสือรักใคร่เอ็นดูน้องสาวคนนี้สุดจิตสุดใจ ดูจากวัยของทั้งคู่ในตอนนี้ เจียงสือก็เป็นเหมือนแม่ของเจียงอวี้ไปแล้ว ตอนนั้นเจียงอวี้ตายตอนอายุสิบสามปี จากนั้นก็สลบไปหลายปี หน้าตาไม่เปลี่ยน จนกระทั่งตื่นขึ้นมาเมื่อห้าปีก่อนถึงได้เติบโตต่อไป ตอนนี้ก็อายุเพิ่งสิบเจ็ดปี
หลังจากเฉินเสี้ยวหรูกับฟางฮุ่ยหรูตายแล้ว เจียงสือก็ไม่มีกำลังสนับสนุน ประกอบกับเจียงอวี้ฟื้นขึ้นมาด้วย นางจึงไม่มีใจจะฟื้นฟูสำนักอู๋จี๋แล้ว ตั้งใจจะดูแลน้องสาวเท่านั้น มีเจตนาถอนตัวออกจากยุทธจักรอย่างเงียบ ๆ
คิดไม่ถึงว่าเจียงอวี้จะโดนคนวางยาพิษ คนที่วางยาพิษเป็นคนของเซียวเหยี่ยนพอดี เจียงสือเกิดความคิดจะแก้แค้นเซียวเหยี่ยนขึ้นมาอีก นั่นทำให้หลิงอวี้จื้อเป็นห่วงความปลอดภัยของเซียวเหยี่ยนมาก
เจียงสือดูแลหลิงอวี้จื้ออย่างไม่ขาดตกบกพร่องเช่นนี้ ทำให้เธอหาโอกาสออกไปไม่ได้เลย มันน่ากลุ้มใจจริง ๆ
สิบวันแล้ว หากหาโอกาสไปจากเซินโจวไม่ได้อีก เธอต้องเป็นบ้าแน่
วันนี้ เจียงสือออกไปทำธุระ ในที่สุดหลิงอวี้จื้อก็สบโอกาส แอบหนีออกไป ไม่พูดไม่ได้ว่าเจียงสือรวยมาก ถึงแม้จะไม่ฟื้นฟูสำนักอู๋จี๋ขึ้นมาใหม่ นางก็มีทรัพย์สมบัติมากมายเหลือคณานับ ไม่เพียงแต่ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่มาได้ ภายในยังหรูหราสุด ๆ
เธอไม่คุ้นเคยกับเซินโจว เธอแอบหยิบเงินตำลึงกับตั๋วเงินมาเล็กน้อยจากเจียงสือ เตรียมตัวเช่ารถม้าไปอวิ๋นเฉิง
เพิ่งจะเจรจาต่อรองราคากับผู้ขายได้ จู่ ๆ ก็มีคนใช้ผ้าเช็ดหน้าอุดจมูกปากเธอจากข้างหลัง หลิงอวี้จื้อต่อสู้สุดชีวิต แล้วก็สลบไปอย่างรวดเร็ว
ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่าตัวเองอยู่บนรถม้าคันหนึ่ง ถูกมัดมือมัดเท้า รถม้าห้อตะบึงไป เธอไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมต้องมาจับเธอ
เพิ่งต่อสู้ไปสักครู่ ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอก็แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์
“หากยังกล้าดิ้นอีก ข้าจะตัดเส้นลายมือของแม่นางเสีย”
เสียงของผู้ชายแหลม ๆ ฟังดูแปลก ๆ หลิงอวี้จื้อเห็นเขาไม่มีเครา ผิวก็ขาวสะอาด ก็วินิจฉัยฐานะของเขาได้ทันที นี่คือขันที หรือว่าจะเป็นคนในวัง
หากเป็นคนในวัง จะไม่ถูกพาตัวไปเมืองหลวงหรือ ไม่เอานะ คราวนี้ไกลจากอวิ๋นเฉิงเข้าไปอีก
“พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดต้องจับตัวข้า”
หลิงอวี้จื้อไม่กล้าดิ้น ถามไปประโยคหนึ่ง เพียงแต่ขันทีที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอไม่มีทีท่าจะตอบคำถามเธอ เพียงแต่พูดเตือนว่า
“แม่นางอยู่นิ่ง ๆ หน่อยเถิด มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
ตอนที่ 617 ตกอยู่ในมือของเฉินมั่วฉือ
ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไรกับหลิงอวี้จื้อเลย หลิงอวี้จื้อได้แต่แบกอารมณ์หดหู่ไปกับรถม้าที่พาไปเมืองหลวง
สิบวันจากนั้น รถม้าก็มาถึงเมืองหลวงอย่างราบรื่น เวลานี้ตัวหลิงอวี้จื้อเหม็นไปหมด สิบวันเธอไม่ได้อาบน้ำเลย
จากนั้นรถม้าก็เข้าวังไป เธอถูกนำทางเข้าวังไป เพิ่งจะเข้าวังมาก็มีสาวใช้พาเธอไปอาบน้ำ
จากนั้นก็มีคนหวีผมให้เธอ จนกระทั่งแต่งหน้าแต่งตัวให้เธอเสร็จแล้ว ถึงมีสาวใช้นำทางเธอไปที่วังกานเฉวียนกง
ที่นี่เป็นวังของเฉินมั่วฉือ เมื่อก่อนเธอเคยมามากกว่าหนึ่งครั้ง นึกไม่ถึงว่าข้ามพบมาอีกครั้งแล้ว คนที่เธอพบเป็นคนแรก ๆ จะเป็นเฉินมั่วฉือ
เฉินมั่วฉือนั่งบนบัลลังก์มังกร หลิงอวี้จื้อคุกเข่าลงคารวะเฉินมั่วฉือตามระเบียบ การตกแต่งภายในวังกานเฉวียนกงกับเมื่อห้าปีก่อนไม่ได้มีความแตกต่างมากนัก เพียงแต่เฉินมั่วฉือที่นั่งอยู่ข้างบนนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก
ห้าปีก่อน เฉินมั่วฉือยังเป็นหนุ่มน้อยอายุสิบห้าปี ยังไม่โต ตอนนี้เขาโตเป็นหนุ่มร่างสูงใหญ่ รูปหน้าก็ดูเป็นชายฉกรรจ์ขึ้นมาก ไม่สามารถมองเขาเป็นเด็กแสบซนได้อีกแล้ว
เฉินมั่วฉือตรงหน้าเติบโตเป็นผู้ชายแล้ว มิหนำซ้ำยังเป็นจักรพรรดิปกครองพื้นปฐพี ตัวของเขายังแฝงมาดจักรพรรดิอยู่ด้วย
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา สติของหลิงอวี้จื้อยังไม่กลับมาเต็มที่ เฉินมั่วฉือเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แล้วเซียวเหยี่ยนล่ะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นอย่างไร
“ลุกขึ้นเถิด!”
เสียงของเฉินมั่วฉือก็เปลี่ยนไปมาก เสียงต่ำมาก มีความแข็งแรงแบบชายชาตรี
“เพคะ”
หลิงอวี้จื้อยังคงลุกขึ้นตามกฎระเบียบ เธอไม่รู้ว่าเฉินมั่วฉือจับเธอมาทำอะไร ไม่ใช่เพราะถูกใจเธอแน่นอน
“พวกเจ้า ยกที่นั่งมา”
หลิงอวี้จื้อนั่งบนเก้าอี้ที่คนใช้ในวังยกมาให้ แต่ในใจรู้สึกกังวลอยู่บ้าง หากเฉินมั่วฉือเกิดคิดจะกำจัดเจียงสือขึ้นมา เช่นนั้นตนเองจะไม่ตายหรอกหรือ เทวดาช่างล้อเล่นเก่งเสียจริง นึกไม่ถึงว่าจะให้เธอกลายเป็นพี่น้องกับเจียงสือ
“เจียงอวี้ เราเชิญเจ้ามาเพียงเพื่อต้องการของสิ่งหนึ่ง”
หลิงอวี้จื้อถามอย่างเคารพ
“ฝ่าบาทเป็นประมุขของประเทศ หญิงสามัญชนจะมีของที่ฝ่าบาทอยากได้ได้อย่างไรเพคะ”
“ได้ยินว่าเจ้าสลบมาหลายปี เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วใบหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เจียงอวี้ เราต้องการหินอาตมันกับไข่มุกเมฆาสวรรค์”
หลิงอวี้จื้อไม่รู้ว่าเฉินมั่วฉือต้องการหินอาตมันกับไข่มุกเมฆาสวรรค์ไปทำอะไร หรือว่าอยากใช้สมบัติล้ำค่านี้คุ้มครองดวงเมือง นี่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้แคว้นเว่ยตะวันตกแบ่งเป็นสองซีก เขาย่อมหวังที่จะปราบเซียวเหยี่ยน
เพียงแต่สมบัติชิ้นนี้ไม่ได้อยู่กับตัวเจียงสือด้วยซ้ำ
ปีนั้นเจียงสือใช้หินอาตมันกับไข่มุกเมฆาสวรรค์ฟื้นคืนชีพให้เจียงอวี้ที่เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย ได้ยินว่าหลิงอวี้จื้อตายแล้ว เพื่อไม่ให้ของทั้งสองอย่างตกอยู่ในมือของเซียวเหยี่ยน เจียงสือจึงโยนสมบัติทั้งสองชิ้นทิ้งไปทันที
ใช่แล้ว ก็คือถูกทิ้งไปแล้ว เจียงสือบอกว่าทิ้งลงในมหาสมุทร คำพูดนี้หลิงอวี้จื้อเชื่อ เจียงสือไม่มีความจำเป็นจะต้องหลอกเธอ
เพียงแต่คนอื่นไม่เชื่อคำพูดของเธอ เซียวเหยี่ยนตามหาเธอ ตอนนี้เฉินมั่วฉือก็ตามหาเธอ
ตอนนี้คิดไปคิดมา หลิงอวี้จื้อรู้สึกว่าเรื่องที่เจียงอวี้โดนวางยากับสมบัติสองชิ้นมีความเกี่ยวข้องกัน เป็นไปได้สูงว่าเซียวเหยี่ยนต้องการบังคับเจียงสือให้มอบหินอาตมันกับไข่มุกเมฆาสวรรค์ให้ ดังนั้นจึงวางยาพิษเจียงอวี้ ตอนนี้เจียงสือก็คงเสียดายที่โยนหินอาตมันกับไข่มุกเมฆาสวรรค์ทิ้งไป
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เคยเห็นสิ่งของที่ฝ่าบาทตรัสออกมาเลยเพคะ”
หลิงอวี้จื้อตอบกลับตามจริง
“เจ้าไม่เคยเห็นไม่สำคัญ เจียงสือรู้ก็พอ เราได้ยินว่าเจียงสือรักใคร่เอ็นดูเจ้ามาก ขอเพียงเจ้าอยู่ในกำมือเราแล้ว เราไม่กลัวว่าเจียงสือจะไม่มาไถ่ถอนตัวเจ้า เจ้าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ ก็ต้องดูว่าเจียงสือยินดีช่วยเจ้าหรือไม่ เจ้าจะเขียนจดหมายถึงเจียงสือก็ได้”