ตอนที่ 1721

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1721  มีชีวิตอยู่ต่อไป (1)
  เหตุผลที่ผู้อาวุโสเยว่ไม่ได้ลงมือกับน้องสาวของเยว่อี้ก็เพราะเยว่อี้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษแม้ว่าเขาจะอยากกางกรงเล็บปีศาจของตนไปที่เยว่อี้ แต่เขากลับใช้น้องสาวของเยว่อี้มาข่มขู่เยว่อี้แทน เพื่อให้แน่ใจว่าเยว่อี้จะทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่างโดยไม่สามารถต้านทานได้
  แต่ถ้าเยว่อี้หมดประโยชน์ขึ้นมาผู้อาวุโสเยว่ย่อมมีวิธีทำให้เยว่อี้ได้ลิ้มรสนรกอย่างแท้จริง!
  และเยว่อี้ก็จะสูญเสียหนทางเดียวที่สามารถปกป้องน้องสาวของเขาไปด้วย
  ใบหน้าของเยว่อี้ปราศจากสีเลือดในทันทีขาวซีดราวกับกระดาษ
  จวินอู๋เสียมองเยว่อี้ที่สีหน้าดูไม่ได้อย่างใจเย็นจากนั้นก็พูดอย่างเฉยชาว่า “รับได้ไหม?”
  เยว่อี้อ้าปากริมฝีปากสั่นระริกเผยให้เห็นถึงหัวใจที่แทบจะแหลกสลาย
  “ข้าโกหกน่ะ”จู่ๆจวินอู๋เสียก็พูดคำนั้นออกมา
  เยว่อี้มองจวินอู๋เสียด้วยสายตาเหลือเชื่อ
  จวินอู๋เสียดูเหมือนจะไม่รู้สึกว่าการล้อเล่นของนางนั้นทำให้ผู้คน“อกสั่นขวัญหาย” อย่างมาก นางรักษาบาดแผลของเยว่อี้ต่อพร้อมกับพูดว่า “รักษาตัวอีก 1 เดือน เจ้าก็หายดีแล้ว”
  “ที่……ที่เจ้าพูดนั่นจริงหรือ? เจ้าไม่……โกหกข้าแน่นะ?” เยว่อี้ไม่กล้าเชื่อคำพูดของจวินอู๋เสียอีกแล้ว
  จวินอู๋เสียเลิกคิ้วจากนั้นก็พยักหน้า
  เยว่อี้อยากร้องไห้เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ว่าจวินอู๋เสียที่ดูเย็นชาอย่างมากนั้นมีความสามารถในการ “ล้อเล่น” ด้วย
  จริงอย่างที่ว่ากันคนไม่ค่อยพูด หากพูดออกมาจะน่าตกใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดล้อเล่น เกือบทำให้เขาตกใจตายแล้ว
  “ทีนี้รู้รึยังว่าเจ้าไม่สามารถรับทุกอย่างได้?”จวินอู๋เสียมองใบหน้าของเยว่อี้ที่กลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง
  เยว่อี้ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีได้แต่พยักหน้า เรื่องน่าตกใจเช่นนี้ หัวใจของเขารับไม่ไหวจริงๆ
  “ถ้ารู้แล้วก็จำใส่หัวไว้ให้ดีถ้าเจ้าห่วงใยน้องสาวของเจ้าจริงๆ เจ้าต้องเข้าใจว่าถ้าเจ้าตาย นางจะต้องเดินตามรอยเท้าของเจ้า” จู่ๆคำพูดของจวินอู๋เสียก็เปลี่ยนทิศทางไปซะอย่างนั้น
  เยว่อี้ตะลึงงัน
  “ถ้าเมื่อวานนี้เจ้าตายด้วยน้ำมือของจูเก๋ออินเจ้าคิดหรือว่าผู้อาวุโสเยว่จะปฏิบัติกับน้องสาวเจ้าอย่างดีเพราะความสำนึกผิด?” ดวงตาของจวินอู๋เสียทอประกายเยียบเย็น
  เยว่อี้อึ้งไปครู่หนึ่ง
  ผู้อาวุโสเยว่โหดร้ายและชั่วช้าขนาดไหนเยว่อี้รู้ดีที่สุด ถ้าเขาตาย น้องสาวของเขาก็จะต้องเจอกับนรก
  “ถ้าเจ้าอยากตายก็เชิญเลยแต่ถ้าเจ้ามีคนที่ห่วงใยอยู่ล่ะก็ เจ้าจะละทิ้งชีวิตไปง่ายๆไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคนที่จะต้องทุกข์ทรมานก็คือคนเหล่านั้น” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อย ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางได้เจอกับเยว่อี้ นางก็เห็นแล้วว่าสายตาของเยว่อี้ไม่มีชีวิตเลย เขาไม่กลัวความตายถึงขนาดที่หัวใจของเขาเรียกร้องหาความตายด้วยซ้ำ
  ทุกอย่างที่ผู้อาวุโสเยว่ทำกับเขามันทำให้เขาสูญเสียความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ การที่เขายังคงอยู่อย่างน่าสมเพชมาจนถึงตอนนี้เป็นเพราะน้องสาวของเขาเท่านั้น
  นี่เป็นเรื่องที่จวินอู๋เสียไม่เห็นด้วย
  “แต่……ถ้าข้าไม่ขึ้นไปบนเวทีประลองจูเก๋ออินจะบอกทุกคนถึงเรื่องทั้งหมดที่ผู้อาวุโสเยว่ทำ! ข้าน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ข้าไม่อาจปล่อยให้น้องสาวของข้า……” เยว่อี้พูดอย่างกังวล
  จวินอู๋เสียหัวเราะอย่างเย้ยหยันขัดจังหวะสมเพชตัวเองของเขา
  “เจ้าว่าข่าวลือและเสียงซุบซิบนินทาหรือการที่นางกลายเป็นของเล่นของผู้อาวุโสเยว่ อันไหนจะทำร้ายน้องสาวเจ้ามากกว่ากัน?”
  ถ้าเยว่อี้ตายผู้อาวุโสเยว่จะไม่ทุกข์ใจใดๆ ทุกอย่างที่ทำกับเยว่อี้จะไปตกอยู่กับน้องสาวของเขา
  คำพูดของจวินอู๋เสียเป็นเหมือนน้ำเย็นที่ราดลงบนหัวของเยว่อี้ความเย็นแล่นไปทั่วร่างเขา ทำให้เขาได้สติขึ้นมา

ตอนที่ 1722  มีชีวิตอยู่ต่อไป (2)
  คำพูดของจวินอู๋เสียเป็นเหมือนน้ำเย็นที่ราดลงบนหัวของเยว่อี้ความเย็นแล่นไปทั่วร่างเขา ทำให้เขาได้สติขึ้นมา
  ใช่แล้วถ้าเขาตาย จะมีใครเศร้าโศกเสียใจให้เขานอกจากน้องสาวของเขา
  คนที่เขาห่วงใยมากที่สุดก็คือน้องสาวของเขาคนนี้ไม่ใช่หรือ?
  หากเขาตายก็หมายความว่าเขาได้ผลักน้องสาวของตัวเองลงสู่ขุมนรก……
  เยว่อี้ปรารถนาความตายมาตลอดก็พลันได้สติด้วยน้ำเย็นที่จวินอู๋เสียราดใส่เขาทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องคิดให้ลึกซึ้งกว่านี้
  “ข้าขอโทษข้ามันโง่เกินไป” เยว่อี้ขอโทษอย่างจริงใจ เขาไม่ควรปล่อยให้บรรทัดฐานทางสังคมมากำหนดว่าเขาจะใช้ชีวิตของตัวเองอย่างไร และทำให้น้องสาวของเขาต้องตกอยู่ในอันตราย
  “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษข้าข้าช่วยเจ้าก็เพราะเราเป็นพันธมิตรกัน ข้าต้องยืมมือเจ้าทำลายวิหารเงาจันทรา เจ้าอยากช่วยน้องสาวเจ้า ข้าอยากทำลายวิหารเงาจันทรา ก็แค่นั้น” จวินอู๋เสียพูดอย่างเฉยเมย
  แต่เยว่อี้ยังคงมองจวินอู๋เสียอย่างขอบคุณไม่มีใครเคยพูดแบบนี้กับเขามาก่อน เขาอาจจะโง่ แต่ความคิดเขาก็กระจ่างชัดเจน เขารู้ว่าจวินอู๋เสียไม่มีความจำเป็นต้องพูดสิ่งเหล่านี้กับเขา ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะช่วยจวินอู๋เสียเหมือนเดิม แต่จวินอู๋เสียก็ยังพูดคำเหล่านั้นกับเขา
  ความใจดีนี้ถูกปกปิดไว้อย่างดีภายใต้บุคลิกที่เย็นชาของจวินอู๋เสียแต่มันทำให้เยว่อี้รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
  ในขณะนั้นเยว่อี้รู้สึกสงสัยจื่อจินมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจื่อจินถึงเข้าใจเจตนาดีของจวินอู๋เสียผิดไปได้ เขาไม่เชื่อว่าจูเก๋ออินจะปล่อยเขาโดยไม่มีเหตุผล จื่อจินก็บอกเองว่าเป็นเพราะการมาของจวินอู๋เสียที่ทำให้จูเก๋ออินเปลี่ยนท่าทีไป แม้ว่าเยว่อี้จะไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียพูดอะไร แต่เขาแน่ใจว่าเขารอดชีวิตมาได้เพราะจวินอู๋เสีย!
  “ไม่เกินสองวันเจ้าจะลงจากเตียงมาเดินได้ อย่าเพิ่งใช้พลังวิญญาณตอนนี้” จวินอู๋เสียกลับเข้าเรื่องเดิม นางไม่แสดงสีหน้าใดๆตั้งแต่ต้นจนจบ
  จวินอู๋เหยายืนเงียบๆอยู่ด้านข้างดูวิธีแสดงความใจดีแบบเขินๆของเด็กน้อยของเขา แล้วรู้สึกว่ามันน่าชมไม่น้อย
  วิธีการของจวินอู๋เสียแตกต่างจากคนอื่นมากความใจดีของนาง หากมอบให้กับคนที่ไม่ฉลาดมักจะถูกเข้าใจผิด แม้ว่านางจะช่วยเหลือผู้คน แต่ก็มักจะทำสีหน้าแบบ “หน้าที่ต้องเป็นหน้าที่” ไม่รู้เป็นเพราะว่านางไม่สามารถแสดงความเป็นตัวเองได้ หรือว่าเขินอายเกินกว่าจะยอมรับคำขอบคุณของผู้คน
  จนถึงวันนี้ทุกครั้งที่จวินอู๋เหยาเฝ้าสังเกตวิธีการทำสิ่งต่างๆของจวินอู๋เสีย เขาก็ยังรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก
  เด็กน้อยของเขาเป็นเด็กสาวที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกจริงๆ
  ด้วยแรงบันดาลใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเยว่อี้จึงให้ความร่วมมืออย่างมากกับการรักษาของจวินอู๋เสีย
  อีกด้านหนึ่งจื่อจินที่ความคิดวิ่งวุ่นอยู่ในหัวก็ไปที่ครัวของวิหารจิงหงเพื่อขอข้าวต้มและกับข้าวที่ย่อยง่าย นางถือถาดอาหารเดินไปที่ห้องของเยว่อี้ ในใจของนางยังคงสับสนวุ่นวายไปตลอดทาง นางไม่รู้ว่าทำไมนางถึงพูดคำเหล่านั้นกับเยว่อี้ เยว่อี้เป็นพันธมิตรของจวินอู๋เสีย และไม่ได้มาจากวิหารหยกวิญญาณ นางไม่มีสิทธิ์พูดมากในเรื่องของเยว่อี้ แต่ไม่รู้ทำไม คำพูดเหล่านั้นจึงหลุดออกจากปากนางได้
  ในขณะนั้นจื่อนจินรู้สึกเสียใจและสับสน
  จื่อจินเดินไปเรื่อยๆโดยที่ในหัวเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้ใส่ใจกับเส้นทาง นางกำลังจมอยู่ในความคิด แล้วจู่ๆก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ด้วยความตื่นตระหนก ถาดข้าวต้มและกับข้าวก็ตกลงมากระแทกพื้น
  “แม่งเอ๊ย!ไม่มีตาหรือไง!” เสียงตะคอกดังขึ้น
  เมื่อจื่อจินได้ยินเสียงนั้นนางก็ตัวแข็งทื่อทันที เด็กสาวเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนที่นางชนไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจูเก๋ออินที่เกือบฆ่าเยว่อี้เมื่อวานนี้นั่นเอง!
  หัวใจของจื่อจินหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที