บทที่ 1009 ทำไมเหมือนกำลังตามจับชู้ / บทที่ 1010 หลงไม่ไหวแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1009 ทำไมเหมือนกำลังตามจับชู้ 

 

 

เพราะห่วงว่าจะมีแฟนคลับจำได้ หานเซี่ยนอวี่จึงไม่อาจไปทุกที่ ได้แต่หาจุดที่มองเห็นได้มุมกว้างบนระเบียงชั้นบน 

 

 

ถึงได้แต่มองจากที่ไกลๆ ตามไปไม่ได้ แต่เขาก็พอเห็นเหตุการณ์ที่ทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์กัน 

 

 

ซือเยี่ยหานกับเยี่ยหวันหวั่นเหมือนคู่รักที่กำลังอยู่ในช่วงรักร้อนแรงไม่มีผิด 

 

 

เนื่องจากมีเวลาเพียงพอ ทั้งสองจึงเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าด้วยกัน แวะซื้อขนมกินเล่นตามบูธข้างทางหลายครั้ง กินกันอย่างคุณคำฉันคำ 

 

 

รอจนเดินเล่นสักพักแล้ว เยี่ยหวันหวั่นถึงตามซือเยี่ยหานไปสถานที่ที่เขานัดไว้เพื่อรับชุดราตรี 

 

 

เฟ่ยหยางเห็นหานเซี่ยนอวี่สะกดรอยตามชายหญิงสองคนเข้าไปในสโมสรออกแบบส่วนตัวชื่อดังแห่งหนึ่ง เขามองชายหญิงคู่นั้น แล้วมองหานเซี่ยนอวี่ที่สวมแว่นตาดำปกปิดใบหน้าจนเห็นไม่ชัดเจน ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตัว “นี่เซี่ยนอวี่ ทำไมฉันรู้สึกว่านายกำลังตามจับชู้เลย หรือว่าผู้หญิงนั้นคือคนที่นายชอบ เชี่ย! เซี่ยนอวี่ คงไม่ใช่ว่านายกำลังปกปิดฉันว่ากำลังเดตสาวอยู่หรอกนะ” 

 

 

หานเซี่ยนอวี่จับจ้องทางร้านค้านั้นพลางตอบลวกๆ “ไม่ใช่ครับ” 

 

 

“โอ้…งั้นก็ดี…งั้นก็ดี…ฉันตกใจหมด…ถ้านายออกเดตต้องบอกฉันล่วงหน้านะ…ไม่อย่างนั้นฉันจะรับมือไม่ได้…” เฟ่ยหยางตบอกอย่างกลัวไม่หาย 

 

 

“แต่ถ้าไม่ได้จับชู้ งั้นมันสถานการณ์อะไรเนี่ย” 

 

 

หานเซี่ยนอวี่ได้ยินดังนั้นก็ไม่ตอบ ในหัวสับสนอยู่บ้างจริงๆ 

 

 

ในหัวเขาเต็มไปด้วยคำถามว่า ถ้าเป็นจริงเขาควรทำยังไง ควรบอกเยี่ยไป๋ยังไงดี… 

 

 

ทว่าเขายังหวังว่าจะมีโชคดีอยู่เสี้ยวหนึ่ง กำลังคิดว่าหญิงสาวคนนั้นอาจเป็นญาติอย่างพวกน้องสาวของอีกฝ่ายก็ได้? 

 

 

สโมสรออกแบบ SPE 

 

 

กวนเสี่ยวเหอหัวหน้าสไตลิสต์อายุสามสิบกว่าปีที่นำสมัยและมากประสบการณ์รออยู่นานแล้ว จั่วซั่งจิ่งผู้จัดการร้านที่นานๆ ทีจะโผล่หน้าก็เร่งรีบกลับมาจากต่างประเทศ แถมยังหยุดทำการวันนี้ชั่วคราว 

 

 

อย่างไรเสียปกติบุคคลอย่างซือเยี่ยหานก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เจออยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าเขากลับมาที่ร้านของพวกตนด้วยตัวเอง พวกเขาย่อมต้องต้อนรับอย่างรอบคอบอยู่แล้ว 

 

 

เดิมทีผู้จัดการร้านจั่วซั่งจิ่งตั้งใจจะออกหน้าด้วยตัวเอง แต่ว่า…ผู้ช่วยของซือเยี่ยหานระบุเป็นพิเศษว่าต้องการแค่สไตลิสต์หญิง งานนี้จึงวนมาถึงกวนเสี่ยวเหอ 

 

 

“ผู้ช่วยสวี่ ไม่ทราบว่าประธานซือจะมาเมื่อไรเหรอครับ” จั่วซั่งจิ่งเริ่มถาม 

 

 

สวี่อี้ย่อมไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร จึงตรงมารอที่ร้านก่อนล่วงหน้า พอได้ยินดังนั้นก็เอ่ยตอบ “คุณชายกำลังเดินห้างเล่นกับแฟน น่าจะใกล้ถึงแล้วครับ” 

 

 

จั่วซั่งจิ่ง กวนเสี่ยวเหอ รวมถึงสไตลิสต์คนอื่นๆ ในร้านได้ยินแบบนั้นต่างก็มีสีหน้าตกใจ เหมือนนึกไม่ถึงว่าคนอย่างซือเยี่ยหานก็เดินห้างฯ เป็นเพื่อนแฟนสาวเป็นด้วย 

 

 

ไม่นานก็ถึงเวลาที่นัดหมายไว้ ทางเข้าพลันมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา ชายหญิงที่เหมือนคู่รักคู่หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน 

 

 

หญิงสาวผิวขาวราวหิมะ หน้าตาสวยงามมาก ผู้ชายยิ่งหล่อเหลาเป็นพิเศษ บุคลิกไม่ธรรมดาเลย 

 

 

เห็นแค่หญิงสาวแต่งตัวตามสบาย มือหนึ่งถือไอศกรีม อีกมือหนึ่งถือชานม ฝ่ายชายก็ช่วยเธอหิ้วของกินเล่นกับเสื้อผ้าถุงใหญ่ถุงเล็ก… 

 

 

“ขออภัยทั้งสองท่านด้วยครับ วันนี้ร้านพวกเราหยุด…” 

 

 

วันนี้ร้านพวกเราหยุดทำการ กวนเสี่ยวเหอเห็นเช่นนี้ก็คิดจะเข้าไปเตือน แต่ไม่นึกว่าสวี่อี้ผู้ช่วยของซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างจะลุกขึ้นไปต้อนรับคู่รักหนุ่มสาวคู่นั้นอย่างรวดเร็ว 

 

 

“คุณชายเก้า เตรียมชุดราตรีไว้เสร็จแล้ว สไตลิสต์ก็มาถึงแล้วครับ” 

 

 

พอได้ยินสวี่อี้เอ่ยปากแบบนั้น พวกกวนเสี่ยวเหอทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง นึกไม่ถึงสักนิดเดียวว่าคนตรงหน้าคือซือเยี่ยหานกับคนรักของเขา 

 

 

พวกเขายังนึกว่าซือเยี่ยหานมาเยือนจะต้องมีคนตะโกนเปิดทางด้านหลังมีคนห้อมล้อม ใครจะรู้ว่าเขาจะมีบรรยากาศติดดินขนาดนี้ แถมยังช่วยแฟนสาวถือกระเป๋ากับของกินเล่นอีก… 

 

 

——————————————————————————————- 

 

 

 

 

 

บทที่ 1010 หลงไม่ไหวแล้ว 

 

 

“อืม” ซือเยี่ยหานผงกศีรษะ จากนั้นรับไอศกรีมกับชานมที่เยี่ยหวันหวั่นกินไม่หยุดมา เอ่ยปากว่า “ไปลองชุด” 

 

 

“อีกคำ ขออีกคำ!” เยี่ยหวันหวั่นจับมือของซือเยี่ยหานแล้วกินคำสุดท้ายก่อนจึงจะพอใจ 

 

 

“ประธานซือ!” 

 

 

“ประธานซือสวัสดีครับ!” 

 

 

พวกกวนเสี่ยวเหออึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะรีบร้อนเอ่ยทักทาย 

 

 

“ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงท่านนี้…ควรเรียกว่าอะไรคะ” กวนเสี่ยวเหอถามอย่างระวัง 

 

 

“สวัสดี ฉันแซ่เยี่ยค่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นตอบ 

 

 

กวนเสี่ยวเหอเอ่ย “สวัสดีค่ะคุณหนูเยี่ย!” 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามองประเมินสไตลิสต์ตรงหน้า “คุณคือ…กวนเสี่ยวเหอ อาจารย์กวนใช่ไหมคะ” 

 

 

กวนเสี่ยวเหอเอ่ยปาก “ใช่ค่ะ ฉันคือกวนเสี่ยวเหอสไตลิสต์ของคุณในวันนี้ คุณหนูเยี่ยรู้จักฉันด้วยเหรอคะ” 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นตอบว่า “แน่นอน คุณกับคุณจั่วมีชื่อเสียงมากในวงการ” 

 

 

ถึงแม้กวนเสี่ยวเหอเพิ่งจะสามสิบนิดๆ แต่ก็เคยแต่งหน้าออกแบบเครื่องแต่งกายให้ดาราแถวหน้ามามากมาย มีประสบการณ์โชกโชน ส่วนผู้จัดการร้านจั่วซั่งจิ่งยิ่งมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ แม้แต่เยี่ยมู่ฝานก็ยังนับถือมาก 

 

 

ตอนนี้จั่วซั่งจิ่งเป็นสไตลิสต์ประจำตัวของเซี่ยเจ๋อจือ 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นนึกไม่ถึงเลย ก่อนหน้านี้ตัวเองแค่พูดลอยๆ ถึงสโมรสรออกแบบ SPE ต่อหน้าซือเยี่ยหานไม่กี่ประโยค เขาก็ช่วยเธอนัดหมายสไตลิสต์ของที่นี่ให้แล้ว 

 

 

เพียงแต่…เอ่อ…แต่ไม่นัดจั่วซั่งจิ่งให้เธอจริงด้วย… 

 

 

กวนเสี่ยวเหอกับจั่วซั่งจิ่งเห็นเยี่ยหวันหวั่นมีท่าทีสุภาพอ่อนน้อม ก็ประทับใจในตัวเธอมาก 

 

 

หลังจากพูดคุยทักทายกับกวนเสี่ยวเหอและจั่วซั่งจิ่งเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็ไปลองชุดราตรีที่ห้องเปลี่ยนชุดก่อน 

 

 

ซือเยี่ยหานเป็นคนจัดเตรียมชุดราตรีทั้งหมด กระทั่งการวัดตัวเธอก็ไม่ต้องทำ ขนาดและดีไซน์ซือเยี่ยหานล้วนเป็นคนจัดการ 

 

 

ตอนแรกเธอยังกังวลว่าจะพอดีตัวหรือเปล่า ผลคือพอลองใส่ถึงพบว่า เอ่อ พอดีตัวพอสมควร… 

 

 

สายตาของซือเยี่ยหานนี่ ไม่มีอะไรจะต้องพูดถึงแล้ว… 

 

 

มิหนำซ้ำดีไซน์ของชุดราตรีนี้ยังเหนือความคาดหมายของเธออยู่บ้าง ถึงจะออกแบบมิดชิดสักหน่อย แต่ก็ไม่กระทบถึงสุนทรียภาพความงามแม้แต่น้อย ชุดปักดอกไม้มุกงดงาม ตอนอยู่ใต้แสงไฟราวกับภาพฝัน สง่างามและภูมิฐาน มีการจัดการรายละเอียดบางจุด อย่างเช่นเย็บปักกุหลาบที่คอเสื้อ ทั้งยังไม่ลืมความน่ารักสดใสของช่วงวัยเธอ 

 

 

ด้านนอกห้องลองชุด กวนเสี่ยวเหอพลันนึกได้เรื่องหนึ่ง จึงรีบเอ่ยปาก “คือว่า ซิปชุดของคุณหนูเยี่ยอาจต้องใช้คนช่วย…” 

 

 

ฝั่งนี้เพิ่งพูดเสร็จ ด้านในก็มีเสียงของเยี่ยหวันหวั่นดังขึ้นมา “คุณเก้า ซิปของฉัน ช่วยฉันหน่อยสิ…” 

 

 

ซือเยี่ยหานลุกจากโซฟาเดินไปช่วยแฟนสาวรูดซิปอย่างเป็นธรรมชาติมาก 

 

 

ด้านนอก กวนเสี่ยวเหอมองชายหนุ่มที่มีออร่าทรงพลังและหล่อเหลาราวกับเทพ บนใบหน้าเปี่ยมด้วยความชื่นชมปนอิจฉา 

 

 

ถึงแม้คนระดับคนซือเยี่ยหานเป็นคนที่พวกเขาไม่อาจได้สัมผัสพูดคุยโดยสิ้นเชิง แต่เมืองหลวงก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเขามากมาย 

 

 

หนึ่งในข่าวลือที่แพร่หลายที่สุดคือเขาไม่สนใจผู้หญิง กระหายเลือดโหดเหี้ยม ทั้งยังมีคนบอกว่าเขาอัปลักษณ์เกินไปจึงไม่เคยโผล่หน้าในที่สาธารณะ 

 

 

นึกไม่ถึงสักนิดเดียวว่าหลังจากได้เห็นตัวจริงแล้วจะมีสภาพอย่างนี้… 

 

 

ถึงดูเหมือนเย็นชาไม่แยแส แต่เห็นได้ชัดว่าเขาหลงแฟนสาวไม่ไหวแล้ว แถมยังไม่คาดคิดว่าจะหล่อขนาดนี้! 

 

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนชุดเสร็จ เดินมาหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และเริ่มแต่งหน้าออกแบบสไตล์ 

 

 

ส่วนใหญ่กวนเสี่ยวหงเป็นคนลงมือ มีจั่วซั่งจิ่งตรวจตราอยู่ด้านข้าง คอยเสนอความคิดเห็น 

 

 

“คุณหนูเยี่ย คุณผิวดีมากค่ะ แทบไม่มีช่องว่างให้ฉันแสดงฝีมือเลย แค่เติมรองพื้นให้คุณนิดหน่อยเอง การแต่งหน้าเป็นโทนอุ่นที่เข้ากับชุดราตรีของคุณ…คุณลองดูหน่อยว่าถูกใจหรือเปล่าคะ” 

 

 

……………………………………………