1671-1 vs 1671-2 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1671-1

ป๋อจิ่วพกหูฟังบลูทูธมาด้วย หยิบเอาอุปกรณ์ที่เตรียมไว้แต่แรกมาใช้ เธอค้นหาตำแหน่งของหลีจิ่นทันที  แต่พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่าอีกฝ่ายยังคงอยู่ในบ้าน

เครื่องดักฟังที่เธอแอบติดตั้งไว้ที่คอมพิวเตอร์ของเขาก็ไม่ส่งสัญญาณใดใด แสดงว่าคิงยังไม่ติดต่อหุ่นเชิดของมัน? หรือข้อสันนิษฐานของเธอผิดพลาด?

ป๋อจิ่วหลับตาลง สมองของเธอคิดเพียงปฏิทินที่เห็นในบ้านของหลีจิ่น

วงกลมสีแดงบนนั้น

ไม่ เธอไม่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานผิด จะต้องมีอะไรที่เธอหลุดไป มันคืออะไรกันนะ?

ป๋อจิ่วกำโทรศัพท์ในอุ้งมือแน่น เวลานี้สถานะของเธอถูกเปิดเผยแล้ว การจะแอบแฝงต่อไปย่อมไร้ประโยชน์ เธอเปิดข้อมูลในกรุ๊ปแชทออกดู นัยน์ตาเธอเป็นประกายแวบ

อาจารย์คนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่าเธอเป็นนักเรียนห้องไหน ทำไมยังไม่เข้าไปศึกษาด้วยตัวเองในห้องเรียนอีก

ป๋อจิ่วยันมือข้างหนึ่งที่รั้ว กระโดดข้ามสนามกีฬาเอาดื้อๆ แสตนนั่นสูงถึงหนึ่งเมตร เธอกระโดดจนชายเสื้อลอยส่งเสียงสะบัดอย่างเท่

อาจารย์ “…”

ป๋อจิ่วไม่หันกลับไปมอง เธอวิ่งเข้าห้องเรียนด้วยความเร็วสูงสุด เวลานี้ ทุกคนต่างได้รับข้อความจากหลีจิ่นกันแล้ว เมื่อรู้ว่านักเรียนใหม่ถูกเลือกให้เป็นโจ๊กเกอร์คนใหม่  บ้างก็ประหลาดใจ บ้างก็หน้านิ่ว บ้างก็ไม่อยากจะเข้าร่วม บ้างก็ตื่นเต้นยินดี แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็ล้วนต้องทำตามกฎที่ตั้งไว้

ผู้ชายห่ามๆ ส่วนหนึ่งดีใจมากที่สุด เพราะไอ้หมอนี้มันหน้าตาหยิ่งแถมยังหล่ออีกด้วย เมื่อมีโอกาสทำให้มันทรมาน มีหรือที่จะไม่ดีใจจนเนื้อเต้น เจ้านั่นจะได้รู้ธรรมเนียมของโรงเรียนพวกเขาเสียที

ในขณะแต่ละคนกำลังคิดว่าจะรังแกป๋อจิ่วอย่างไร เมื่อป๋อจิ่วก็เดินเข้า พวกนั้นรุมจ้องเธอ หนึ่งในนั้นยื่นขาออกมาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง อยากจะให้ป๋อจิ่มล้มคะมำ

กลับต่างคาดไม่ถึงว่า ป๋อจิ่วแค่ยกขายันเก้าอี้ตัวที่มันนั่ง จนทำให้ทั้งคนและเก้าอี้ล้มไปกองกับพื้น จนเกิดเสียงดัง “โครม!” ทุกคนตาโตด้วยความตกตะลึง ผู้หญิงคนหนึ่งฉวยโอกาสสาดน้ำใส่ป๋อจิ่ว ก็ถูกฝ่ายหลังอัดร่างไว้บนโต๊ะ

ห้วงเวลานั้น เงียบกริบทั่วห้อง

ทุกคนมองดูภาพตรงหน้า น้ำเกาะบนผมสีดำของป๋อจิ่วที่ไหลเป็นหยดลงมาตามแนวคาง แต่ในตอนนี้เธอกลับหักข้อมือของไอ้คนที่ถือไม้เบสบอลที่ลอบกัดเธอไว้ แล้วถีบเปรี้ยงเข้าให้ จนมันกระเด็นไปนอนกองบนพื้น  และไม้เบสบอลนั่นก็มาอยู่ในมือเธอในที่สุด

ป๋อจิ่วเองไม่คิดจะเก็บอาการ เหวี่ยงไม้จนเกิดเสียงแล้วชี้ไปยังทุกคนที่มองเธอ เอ่ยเสียงปกติ “ยังมีใครอยากหาเรื่องอีกไหม?”

ไม่มีใครกล้าขยับ กระทั่งไอ้พวกที่เคยโดนฝังคำสั่งทางจิตเมื่อปีนั้นที่อยู่ในห้องนี้ถึงห้าคน ยังไม่กล้าปรี่ออกไป

คนหนึ่งถูกเล่นงานจนทำอะไรไม่ได้แล้ว ที่เหลืออีกสี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เด็กหล่อคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงสู้เก่งจัง เพราะพวกเขาได้รับข้อมูลเพียงว่า เจ้านั่นเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น

 “ไม่มีใครอยากหาเรื่องแล้วใช่ไหม” ป๋อจิ่วหิ้วไม้เบสบอลไว้ มุมปากแยกยิ้ม “ฉันเองก็ไม่ค่อยชอบมีเรื่องกับใครเหมือนกัน”

เล่นเอาสามคนที่โดนซัดจนหมอบกับพื้นถึงกับ “…”

………………………………………….

ตอนที่ 1671-2

“ในเมื่อไม่อยากมีเรื่องแล้ว งั้นมาคุยกันสักหน่อย” ป๋อจิ่วยืนบนแสตนที่ใช้ยืนสอนหนังสือ เพราะด้านหลังเป็นกำแพงย่อมปลอดภัยกว่าเป็นคน “ได้ยินว่าพวกเธอมีคนเป็นคิงเหรอ?”

ไม่มีใครตอบ

ป๋อจิ่วควงไม้เบสบอล “พวกเธอคงมีความสุขสินะที่ถูกคนรังแก ถูกคนบงการ ถูกคนหล่อหลอมความคิดน่ะ พวกเธอมันโง่เง่าเป็นบ้าเลยว่ะ ต่อไปพอเข้าสังคมแล้ว อีพวกขายตรงคงชอบ เพราะหลอกง่ายสุด ๆ”

“นายพูดอะไร!” ผู้หญิงบางคนรับไม่ได้ที่มีคนว่าตัวเองแบบนี้ จึงเถียงหน้าแดงหูแดงไปหมด “คิดว่าตัวเองเป็นใคร?”

ป๋อจิ่วตอบ “ไม่ได้เป็นใครอ่ะ ไม่ใช่พ่อแม่พวกเธอ แล้วก็ไม่ใช่อาจารย์พวกเธอด้วย ไม่ได้มีหน้าที่สั่งสอนให้พวกเธอเป็นคน ดีเหมือนกันนะ เวลาที่ฉันอยากอัดพวกเธอก็ทำได้เลย หึ เยี่ยม”

เด็กสาวคนนั้นถึงกับพูดไม่ออกอยู่นาน คนข้างๆ ยืนขึ้น เป็นหัวหน้าห้องนั่นเอง “เป็นถึงผู้ชายกลับมารังแกผู้หญิง”

ป๋อจิ่วหัวเราะเบาๆ “สำหรับฉันแล้ว ไอ้พวกรกโลกไม่เคยจำกัดเพศว่ะ”

“ในเมื่อไม่ชอบห้องพวกเรา ก็ใสหัวไปสิ” หัวหน้าห้องขยับแว่น หัวเราะหยัน

ป๋อจิ่วเงยหน้ามองดูนาฬิกาที่แขวนในห้อง “น่าจะเป็นนายมากกว่าที่ต้องไปก่อน”

“หมายความว่า…” ยังไง ไม่ทันพูดจบ ประตูหลังห้องก็ถูกถีบจนเปิดออก คนที่เข้ามาเป็นทหารพิเศษที่ปิดหน้าไว้

หัวหน้าห้องเห็นแล้ว กะจะคว้าใครสักคนมาเป็นตัวประกัน แต่ทหารพิเศษย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้ รวมถึงเจ้าสี่คนนั่น ล้วนถูกป๋อจิ่วชี้ตัวพลางเอ่ยสั้นๆ “เอาตัวไป”

ไม่ผิดหรอก สิ่งที่ป๋อจิ่วกระทำลงไปเมื่อครู่เป็นแค่การถ่วงเวลา ทั้งยังเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าห้าคนนั่นไม่ให้ทำอะไร

ในเวลาเดียวกัน คนที่ถูกกุมตัวไว้ยังมีหลีจิ่นและหลิวเจียหนิงอีกด้วย ส่วนคนอื่นๆ แตะต้องยาก

แม้จะรู้ว่ามีคนในนี้ที่ทำการบูลลี่เพื่อนๆ ในโรงเรียน แต่หากไม่มีเหยื่อออกมาร้องเรียน เรื่องชาวบ้านแบบนี้ย่อมจัดการยาก

การจู่โจมครั้งนี้ทำได้อย่างรวดเร็ว  นักเรียนคนอื่นๆ ยังไม่ทันได้ไหวตัว ทุกอย่างก็จบลง

 “คิงของพวกเธอก็จะหายตัวไปเหมือนกัน” ป๋อจิ่วยังยืนที่แสตนไม่ไปไหน พิงไม้เบสบอลนิดๆ สองตาเป็นประกายแวบ “ฉันขอถามพวกเธออีกครั้งหนึ่ง พวกเธอชอบอยู่รวมกันให้คนอื่นหลอกใช้ใช่ไหม?”

ผู้หญิงด้านหลังคนหนึ่งกำมือแน่น “ถือดียังไงมาหาว่าคิงหลอกใช้พวกเรา!”

“เพราะทุกเรื่องที่พวกเธอทำลงไปมันทำร้ายคนอื่นทั้งสิ้น คนดีๆ ที่ไหนจะให้พวกเธอทำแบบนี้?” ป๋อจิ่วเงยหน้ามองด้วยแววตาบาดกล้า “คนเราย่อมเห็นแก่ตัว นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่โปรดอย่าโง่เง่าอย่างนี้ เธอเป็นนักเรียนนะ นักเรียนควรต้องทำอะไร ไม่เข้าใจหรือไง? อ่านหนังสือให้มันเยอะๆ อย่างน้อยก็ต้องฉลาดขี้นมาบ้าง พ่อแม่เธอจ่ายเงินให้เธอมาเรียนหนังสือนะ แล้วเธอเอามาอวดร่ำอวดรวยหรือรังแกคนอื่นเหรอ? แล้วเธอรู้ไหมว่า พ่อแม่เธอเป็นห่วงเรื่องอะไรมากที่สุด พวกเขากลัวว่าเธอมีเงินไม่พอใช้ในโรงเรียน เงยหน้าสู้เพื่อนไม่ได้ กลัวว่าเธอจะถูกเพื่อนรังแก กับอีแค่อยากได้รับความสนใจ ก็ทำตัวต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างเนอะ มโนธรรมน่ะโยนให้หมากินหมดยังไม่เท่าไร นี่มีหน้าคิดว่าตัวเองฉลาดล้ำเลิศอีก ถ้าฉลาดจริงก็ตั้งใจเรียน ทำให้ตัวเองเก่งกว่านี้สิ คบหาเพื่อนที่จริงใจในโรงเรียน ว่างก็เล่นเกมเป็นเพื่อนพ่อแม่สิ มีเรื่องสนุกๆ ให้ทำตั้งหลายอย่างกลับไม่เอา ดันมาสุมหัวสร้างอากาศเป็นพิษ คิงของพวกเธอไม่ได้บอกรึไง มีแต่ไอ้หนูสกปรกที่ชอบซุกๆ ซ่อนๆ น่ะที่ชอบทำตัวแบบนี้?

 “แก แก๊!” นักเรียนหญิงคนนั้นถึงกับไหล่สั่นเทิ้ม

ป๋อจิ่วกลับขัดจังหวะเธอด้วยสีหน้าปกติ “เธอพูดสู้ฉันไม่ได้หรอก”

นักเรียนหญิง “…”

………………………………………….