Sign in Buddha’s palm 324 มีความสามารถใดบ้าง

บนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้าทั้งหลายพากันตื่นตระหนก

แม้แต่จอมยุทธจํานวนมากในต่างดินแดนก็รู้ว่าซูฉินจะเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง นับประสาอะไรกับศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้า?

“การที่มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังสังหารเซียนเทพปฐพีของนิกายเรายังไม่เพียงพออีกหรือต้องการจะทําลายพวกเราทั้งหมดเลยหรือไร?” บรรพชนนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในชุดคลุมสีดําที่เพิ่งตื่นขึ้นกระซิบค่าออกมา

ในความคิดของเขา นิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้สูญเสียเซียนเทพปฐพีไปแล้ว เพียงพอที่จะนับเป็นการสูญเสียที่หนักหน่วงแต่ซูฉินก็ยังปฏิเสธที่จะให้อภัย

แต่บรรพชนผู้นี้ไม่ได้คิดเรื่องที่นิกายเทพเจ้าสายฟ้ายั่วยุซูฉินครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็เป็นเหลยเฉียนจือที่โจมตีเมืองฉางอันหากซูฉินไม่มีความแข็งแกร่ง ทั้งอาณาจักรถังคงถูกทําลายลงไปแล้ว

“เอาล่ะ”

“ไม่จําเป็นต้องพูดคุยอะไรกันแล้ว”

“ค่ายกลสังหารเก้าอัสนีพร้อมหรือยัง?” หนึ่งในบรรพชนที่เก่าแก่ที่สุดในนิกายเทพเจ้าสายฟ้าส่ายศีรษะเล็กน้อยมองไปที่ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้าแล้วเอ่ยถามออกมา

“เรียนบรรพชน ค่ายกลสังหารทั้งเก้าได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว” ผู้นํานิกายกล่าวตอบในทันที

“ทําได้ดี”

ใบหน้าของบรรพชนเก่าแก่แห่งนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในที่สุดก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ค่ายกลสังหารเก้าอัสนีของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเป็นค่ายกลสังหารที่ไร้เทียมทาน สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาหลายพันปีถูกสร้างขึ้นโดยเซียนเทพปฐพี่นิกายเทพเจ้าสายฟ้ารุ่นก่อนถึงสองคน

เมื่อค่ายกลสังหารเก้าอัสนีเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ มันจะเชื่อมโยงกับฟ้าดินไปถึงกลุ่มเมฆสายฟ้าเพียงพอจะระเบิดพลังในขอบเขตเซียนเทพปฐพีออกมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ

แน่นอน แม้แต่นิกายเทพเจ้าสายฟ้ายังต้องจ่ายราคามหาศาลเพื่อระดมพลังของค่ายกลสังหารเก่าอัสนีหลังจากวันนี้ไป แม้นิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะขวางซูฉินไว้ได้ ก็คงจะตกต่ําไปอีกเป็นพันปีกว่าจะฟื้นตัว

ถ้าไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่ซูฉินมีต่อนิกายเทพเจ้าสายฟ้า บรรพชนก็คงไม่เต็มใจให้กระตุ้นใช้ค่ายกลสังหารเก้าอัสนีนี้

เมื่อค่ายกลสังหารเก้าอัสนีถูกกระตุ้นใช้ จะเท่ากับพานิกายเทพเจ้าสายฟ้าให้ตกต่ําไปพันปีใครเล่าจะยอมรับผลที่ตามมาได้?

“ด้วยการคุ้มกันจากค่ายกลสังหารเก่าอัสนี ควบคู่ไปกับพลังปราบปรามของสมบัติล่าค่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าของพวกเราควรจะต่อสู้กับมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังได้…”

บรรพชนเก่าแก่แห่งนิกายเทพเจ้าสายฟ้าพึมพํากับตนเอง

ในฐานะที่เป็นนิกายใหญ่ซึ่งมีความเป็นมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในต่างดินแดนนิกายเทพเจ้าสายฟ้านั้นเหนือกว่าพรรคหมื่นดาบที่อ้างชื่อเซียนเทพปฐพีเพื่อก่อตั้งขึ้นมามากโขพวกเขาสามารถรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ได้อย่างมั่นคง เมื่อเวลาผ่านเลยไปนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ได้สะสมสิ่งต่างๆไว้มากมายและเมื่อนําทั้งหมดออกมาใช้ในครานี้ใครจะจินตนาการได้ว่ามันจะสะเทือนฟ้าเพียงใด

“บางที่มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังอาจจะพูดออกมาเล่นๆ ในตอนนั้น และไม่ได้ตั้งใจจะลงมีอกับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าของเราจริงๆ…”

ยังคงมีความหวังเล็กๆ อยู่ภายในใจของสมาชิกนิกายเทพเจ้าสายฟ้า

“พูดเล่นๆ งั้นหรือ?”

บรรพชนที่เก่าแก่ที่สุดส่ายศีรษะออกมาเล็กน้อย ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เงยหน้าขึ้นไปมองทิศทางหนึ่งจากระยะไกล“มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังมาที่นี่แล้ว”

พูดยังไม่ทันจบดี

พลันได้ยินเสียงคํารามก้องไปทั่วเกาะเทพเจ้าสายฟ้า และรอบตัวเกาะก็สั่นสะท้าน แตกออกเป็นเสี่ยงๆราวกับเจอกับพลังที่คาดไม่ถึง

“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง นั่นคือมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังใช่หรือไม่?!”

ศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้าหลายคนพบว่าซูฉินกําาลังขี่คลื่นยักษ์ความยาวกว่าหลายร้อยลี้เหมือนกับเทพมังกรข้ามผืนทะเลและแผ่นฟ้า

“น่ากลัวเกินไปแล้ว”

“น่ากลัวยิ่งนัก”

“มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

ศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้าต่างรู้สึกสันสะท้านในใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีขุมกําลังจํานวนมากบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้าเกรงว่าพวกเขาคงหนีไปแล้วในตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันยิ่งใหญ่ได้เปรียบจะมีใครบนโลกบ้างที่ไม่ตกใจ?จะมีใครบ้างที่ไม่กลัว?

อันที่จริง ไม่ใช่แค่ศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้นที่หวาดกลัว แต่จอมยุทธจํานวนมากจากทั่วทุกมุมโลกที่ได้เห็นฉากที่เซียนเทพปฐพี่เดินทางมาถึงก็ล้วนหวาดกลัวด้วยเช่นกัน

จากมุมของพวกเขา เห็นซูฉินขี่คลื่นทะเลมาและท้องฟ้าเบื้องหลังเขาก็มีเมฆปกคลุมไปหมดสายฟ้าปลิวว่อนคลื่นยักษ์ที่ใหญ่ราวกับกําแพง พายุมังกรที่กินอาณาบริเวณออกไปกว่า หลายร้อยลี้ สิ่งเหล่านี้ช่างเหนือจินตนาการโดยสมบูรณ์ มีเพียงเทพเซียนหรือปีศาจในตํานานเท่านั้นถึงจะทําสิ่งนี้ได้

“ตํานานว่าเอาไว้ว่า อาณาเขตขนาดใหญ่ของขอบเขตเซียนเทพปฐพี่สามารถครอบคลุมพื้นที่ร้อยลี้ได้เพียงความคิดเดียวภายในระยะหนึ่งร้อยล์นี้เซียนเทพปฐพี่เปรียบเสมือนเทพเซียนที่แท้จริง มีอํานาจเหนือทุกสิ่งเรียกลมเรียกฝนเรียกสายฟ้าได้อย่างง่ายดาย”

“แม้ว่ามนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังจะสร้างฉากดังกล่าวด้วยความช่วยเหลือจากอาณาเขตขนาดใหญ่แต่อาณาเขตขนาดใหญ่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากสุดแค่ร้อยล์แต่คลื่นยักษ์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้นเห็นได้ชัดว่าเกินกว่าร้อยล์ไปมาก กลวิธีเช่นนี้ช่างเกินคาดคิดจริงๆ…”

บรรพชนสํานักเอกะวิถีซึ่งเป็นครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีถอนหายใจออกมาพร้อมทั้งพูดช้าๆ

“มิผิด”

“กลวิธีของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังนั้นเหนือกว่าเซียนเทพปฐพีธรรมดาๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทําไมเหลยเฉียนจือจึงตกตายด้วยน้ํามือของเขา”

บรรพชนสํานักผู้วิเศษที่อยู่ถัดออกไปก็ถอนหายใจออกมา “แม้แต่พ่อมดราชันทั้งสองคนที่กําเนิดขึ้นจากสํานักผู้วิเศษก็ยังไม่สามารถทําเช่นนี้ได้หลังจากฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งนานหลายร้อยปีจนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต”

“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง ยอดเยี่ยม ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!”

น้ําเสียงของบรรพชนสํานักผู้วิเศษนั้นซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะไม่รู้ว่าซูฉินมีอายุขัยเหลืออยู่เท่าไหร่ แต่อาศัยดูจากปราณเลือดที่พลุ่งพล่านออกมาก็เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังอยู่ห่างไกลจากจุดสิ้นสุดของชีวิตอีกนานโข

กล่าวอีกนัยหนึ่งซูฉินยังคงมีอายุขัยเหลือเฟือ

แค่เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าพ่อมดราชันทั้งสองจากสํานักผู้วิเศษมากแค่ไหน

พลังที่แม้แต่พ่อมดราชันแห่งสํานักผู้วิเศษทั้งสองก็ไม่สามารถครอบครองได้แม้จวบจนสิ้นชีวิตแต่ซูฉินกลับสามารถมีได้ในขณะนี้

“ความกว้างใหญ่ของพายุลูกนี้กว้างไกลถึงหลายร้อยลี้ เป็นไปได้ไหมว่ามนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังจะก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดในขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แล้ว?”

บรรพชนสํานักเอกะวิถีที่เป็นครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่างทันใดนั้นร่องรอยความตกใจก็ฉายออกผ่านสีหน้าของเขา

เซียนเทพปฐพีขั้นกลับคืนต้นกําเนิดไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดเซียนเทพปฐพึกว่าสิบคนที่ตกตายกันไปหมดแล้วในดินแดนโพ้นทะเลต่างติดอยู่ในขั้นแบ่งจิตอย่างมากที่สุดก็ไปถึงขั้นแบ่งจิตระดับสูงสุดในวัยชราแทบสิ้นอายุขัย

สําหรับขั้นกลับคืนต้นกําเนิดที่อยู่เหนือชั้นแบ่งจิต มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

เพราะในยุคที่กระแสปราณจี้เงียบงันเช่นนี้ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นแบ่งจิตถือเป็นขีดจํากัดแล้วส่วนขั้นกลับคืนต้นกําเนิดและขั้นสถิตเทพที่อยู่เหนือขึ้นไปนั้นจะฝึกฝนไปถึงได้อย่างไร?

ครื้น

ขณะที่จอมยุทธนับไม่ถ้วนกําลังตื่นตะลึง

ในที่สุดคลื่นยักษ์ยาวหลายร้อยล์ก็เคลื่อนมาถึง

ในเวลานี้ราวกับโลกทั้งใบได้ถูกกดลง คลื่นยักษ์ปกคลุมท้องฟ้า โถมเข้าใส่เกาะเทพเจ้าสายฟ้าแต่จอมยุทธที่อยู่รอบๆกลับได้เห็นภาพหลอนว่าโลกกําลังจะพังทลายลงมา

พลังที่ครอบคลุมระยะทางหลายร้อยลี้ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นแบ่งจิตระดับสูงสุดแม้จะเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดหรือแม้แต่ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ก็ยังต้องรู้สึกว่าตนเล็กจ้อยราวกับฝุ่นผง

“ไม่ถูกต้อง”

“เกาะเทพเจ้าสายฟ้า”

จู่ๆ เหล่าตํานานยุทธก็มองไปทางเกาะเทพเจ้าสายฟ้า

ต่อหน้าคลื่นยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แม้เกาะเทพเจ้าสายฟ้าจะมีขนาดหลายร้อยล์ ไม่สามารถถูกคลื่นโถมซัดจมได้ทั้งเกาะตั้งแต่คลื่นลูกแรก แต่บริเวณขอบของเกาะจะต้องถล่มลงมาอย่างแน่นอน และท้ายที่สุดมันย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเกาะโดยตรง

อย่างไรก็ตาม

ท่ามกลางสายตาอึ้งทึ่งของทุกคน

ต่อหน้าคลื่นยักษ์ที่บดบังท้องฟ้าและดวงอาทิตย์เห็นประกายหมอกลอยขึ้นมาจากเกาะเทพเจ้าสายฟ้าในฉับพลันประกายหมอกปกคลุมทั่วทุกซอกทุกมุมของเกาะเทพเจ้าสายฟ้าไม่ว่าคลื่นยักษ์จะซัดสาดมามากเพียงใดก็มีประกายหมอกระลอกที่สองระลอกที่สามออกมาราวกับมันไม่มีที่สิ้นสุด

“โอ?”

ซูฉินยืนอยู่บนท้องฟ้า มองดูเกาะเทพเจ้าสายฟ้าที่ปิดกั้นคลื่นยักษ์ได้อยู่เงียบๆ ใบหน้าแสดงอาการครุ่นคิด

คลื่นยักษ์ที่ครอบคลุมรัศมีหลายร้อยลี้นี้ใช้สภาวะจิตของขอบเขตเซียนเทพปฐพีร่วมกับอาณาเขตขนาดใหญ่

พลังมันเทียบเท่ากับเหลยเฉียนจือที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แล้วโจมตีด้วยพลังเต็ม

ในความคิดของซูฉิน แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะไม่สามารถทําลายนิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้แต่ก็น่าจะพอทําให้เกิดปัญหาได้บ้าง

แต่ยามนี้ดูเหมือนว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะมีค่าเหมาะสมกับที่สืบทอดมรดกมานานนับหมื่นปีภูมิหลังมากมายจนไม่อาจหยั่งถึงและสามารถต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้

“น่าสนใจ”

ซุฉินหรี่ตาและมองลงไปยังเกาะเทพเจ้าสายฟ้า

จากสายตาของซูฉิน มีจุดพลังฉีจํานวนนับไม่ถ้วนบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้าจุดพลังฉีเหล่านั้นส่วนใหญ่อยู่ต่ํากว่าตํานานยุทธระดับนภาชนที่เจ็ดนอกจากพลังฉีแล้วซูฉินยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของค่ายกลสังหาร

คล้ายคลึงกับค่ายกลสังหารเปลวเพลิงบนเกาะหยิงโจวที่จัดตั้งโดยจ้าวทะเลบูรพา

แต่เห็นได้ชัดว่าค่ายกลสังหารบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธาตุไฟ มันเหมือนกับค่ายกลสังหารธาตุสายฟ้าเสียมากกว่า

“มันเป็นค่ายกลสังหารที่เซียนเทพปฐพีได้จัดตั้งเอาไว้งั้นหรือ?”

ใบหน้าของซูฉินดูครุ่นคิด ค่ายกลสังหารธรรมดาจะสามารถปิดกั้นการระเบิดพลังของเซียนเทพปฐพีได้อย่างไร? ที่เห็นตรงหน้านี้อาจจะเป็นค่ายกลที่เซียนเทพปฐพี่ทิ้งเอาไว้

และไม่ใช่เซียนเทพปฐพี่ธรรมดาๆ ด้วย

ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ หรือค่ายกลรูปแบบสังหาร พลังของมันย่อมลดลงตามกาลเวลา

“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง”

ขณะที่ซูฉินกําลังจะขยับตัวอีกครั้งเพื่อทําลายค่ายกลสังหารบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ชายชราคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นโค้งคํานับซุฉินพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า“เหลยตู้ฝ่าจากนิกายเทพเจ้าสายฟ้าคารวะมนุษย์สวรรค์”

“ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี?”

ซูฉินเหลือบมองชายชราที่ชื่อว่าเหลยต์ฝ่า ท่าทีของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ที่ซูฉินตรวจสอบเกาะเทพเจ้าสายฟ้าด้วยดวงตาแห่งสัจจะ เขาก็พบว่ายังมีครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีอยู่อีก

ในสายตาของซูฉิน ระยะเวลาในการเป็นครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีของคนผู้นี้ยังมากยิ่งกว่าบรรพชนสายฟ้าเสียอีก

“นิกายเทพเจ้าสายฟ้าของข้ามีตาหามีแววไม่ ถึงกับมีเรื่องบาดหมางกับมนุษย์สวรรค์ หวังว่ามนุษย์สวรรค์จะยกโทษให้กับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าของข้า…

เหลยตู้ฝ่ากล่าวออกด้วยเสียงต่ํา

“ให้อภัยพวกเจ้า?”

ซูฉินหัวเราะ ร่องรอยประชดประชันฉายออกมาทางสีหน้าของเขา “ถ้าข้านั้นไม่ใช่เซียนเทพปฐพีไม่มีความแข็งแกร่งเท่าตอนนี้ นิกายเทพเจ้าสายฟ้าของเจ้าจะปล่อยข้าไปหรือไม่เล่า?”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ความเย็นชาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน กระแทกเสียงออกมาทุกถ้อยคํา “วันนี้ข้าต้องการจะดูซิว่านิกายใหญ่ที่สืบทอดมานับหมื่นปีจะมี! ความสามารถ!ทานทน!ได้เช่นไรบ้าง”

หลังจากที่ซูฉินกล่าวจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้า

ทันใดนั้น พลังปราณฉีฟ้าดินก็พลันระเบิดออก จอมยุทธต่างดินแดนจํานวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูการต่อสู้จากระยะไกลก็รู้สึกได้ว่าท้องฟ้าและผืนดินกลายเป็นภาพหลอน เหลือเพียงฝ่ามือขวาที่คล้ายกับเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์กดทับลงไปบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า