“ดำเนินการ จำลองการสอบเสมือนจริง”

ทุกคนต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล “จำลองการสอบเสมือนจริง? แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีการจำลองสอบเช่นนี้มาก่อน”

“นั่นหน่ะสิ! พวกเราก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

ค่อก ค่อก ค่อก! อาจารย์ใหญ่ไอค่อกแค่กขึ้น ใบหน้าแดงเล็กน้อย

“เป็นเพราะว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ สำนักศึกษาหนานเฟิงของพวกเราสอบเข้าสำนักศึกษาซวนเสียได้น้อยมาก หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับอาจารย์และท่านผู้อาวุโสของสำนักศึกษา เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องดำเนินการจำลองสอบเสมือนจริงขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการสอบเข้าได้ของสำนักศึกษาเรา”

“สถานที่การทดสอบครั้งนี้คือป่าโยวอ้าน พวกเจ้าสามารถเลือกได้อย่างตามใจ”

“ป่าโยวอ้าน!”

“เป็นป่าอันตรายที่ติดสิบอันดับแรกของเสียโจว!”

“ในป่านั่นส่วนใหญ่ก็มีแต่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น! ให้ตายสิ!”

สำนักศึกษาหนานเฟิงนั้น ในทุก ๆ ปีจะมีนักเรียนจำนวนน้อยมากที่สุดที่สอบเข้าสำนักศึกษาซวนเสียได้ และนี่ทำให้สำนักศึกษาหนานเฟิงอยู่ในลำดับท้ายสุดของสิบอันดับสำนักศึกษาในเสียโจว ช่างน่าอับอายขายหน้ายิ่งนัก

วิธีการสอนของสำนักศึกษาหนานเฟิงนั้นอ่อนโยนเกินไป นักเรียนเหล่านี้มักจะต่อสู้กันเองภายในสำนักศึกษา กำลังการต่อสู้ไม่เพียงพอ ไม่มีจิตใจที่เข้มแข็ง เมื่อเผชิญหน้ากับการทดสอบสุดโหดของสำนักศึกษาซวนเสียแล้ว พวกเขาจึงได้พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า

ดังนั้นเพื่อเพิ่มอัตราการสอบเข้าได้ เพื่อการต่อสู้แข่งขันในครานี้ ครั้งนี้สำนักศึกษาหนานเฟิงจึงลงทุนทุ่มทั้งหน้าตัก

“พวกเจ้าสามารถเลือกที่จะสละสิทธิ์ได้ หลังจากสละสิทธิ์ พวกเจ้าก็ยังคงมีสิทธิ์สอบเข้าสำนักศึกษาซวนเสียอยู่”

“สำหรับนักเรียนที่ไม่สละสิทธิ์ ตอนนี้สามารถมาสมัครได้”

โม่ซางคงกล่าวถามว่า “แม่นางมู่ เจ้าตัดสินใจเช่นไร ?”

มู่เฉียนซี “ทดสอบการต่อสู้นี้หน่ะเหรอ ? ข้าสนใจเป็นอย่างมากเลยหล่ะ”

โม่ซางคง “อืม!”

สมญานามของป่าโยวอ้านนี้ทำให้หลายคนหวั่นกลัว แน่นอนว่ามีนักเรียนไม่น้อยที่ขยันตั้งใจจะสอบเข้าจริง ๆ เต็มใจที่จะเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ และนี่ทำให้อาจารย์ใหญ่ปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ทุกคนได้สมัครกันเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ใหญ่ก็กล่าวขึ้นว่า “การรับสมัครสิ้นสุดลงแล้ว หลังจากนี้ผู้ที่ไม่ได้ลงสมัคร ก็ถือว่าถอนตัวไปเอง”

“การจำลองการสอบเหมือนจริงนี้ อาจารย์ใหญ่ได้เชิญผู้แข็งแกร่งของสามกองกำลังหลักมาด้วย รวมไปถึงอาจารย์และผู้อาวุโสทั้งหมดในสำนักศึกษาก็จะไปคุ้มกันพวกเจ้า หากพวกเจ้ามีอันตรายถึงชีวิตก็จะได้เข้าไปช่วยได้ทันเวลา”

การสอบเสมือนจริงของสำนักศึกษาของพวกเขา ไม่ใช่เพื่อส่งนักเรียนไปตาย ดังนั้นสำนักศึกษาหนานเฟิงจึงได้เชิญคนภายนอกเข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียขึ้น

เชิญคนนอกมาช่วยเหลือมากมายเช่นนี้ สำนักศึกษาจึงได้ตอบแทนด้วยการแบ่งที่ดินให้!

ผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแน่นอน ทว่า พวกเขานั้นได้สละสิทธิ์นี้ไปแล้ว!

นักเรียนที่ไม่ได้สมัครเหล่านั้น ตอนนี้คิดเสียดายขึ้นมาแล้ว แต่บนโลกใบนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง

มู่เฉียนซีกล่าว “โม่ซางคง ข้าคิดว่าพวกเจ้าน่าจะรู้แล้วใช่ไหม!”

สำนักศึกษาหนานเฟิงยืมคนของตำหนักโม่อวี่มา โม่ซางคงคงจะรู้เรื่องนี้แล้ว

โม่ซางคงพยักหน้า “อืม!”

ดังนั้นนักเรียนของสามกองกำลังใหญ่ไม่มีผู้ใดที่สละสิทธิ์ เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องราวภายในแล้ว

อาจารย์ใหญ่ประกาศว่า “วันนี้อาจารย์จะให้พวกเจ้าเตรียมตัววันหนึ่งวัน เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราจะออกเดินทางไปที่ป่าโยวอ้านเพื่อทำการทดสอบกัน”

“ขอรับ!”

เป็นเพราะการทดสอบเสมือนจริงของสำนักศึกษาหนานเฟิงนี้ ทำให้วันนี้กิจการของหอหมอปีศาจขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ถึงอย่างไร การออกไปฝึกประสบการณ์เช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างป่าโยวอ้าน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมยาให้พร้อม

เช้าตรู่ของวันต่อมา อาจารย์ได้เรียกทุกคนมารวมตัวกัน และเดินทางออกจากสำนักศึกษาหนานเฟิง เมื่อออกจากประตูเมือง สัตว์วิญญาณบินได้จำนวนสามสิบกว่าตัวก็ได้มารอแล้ว

ในตอนนี้เอง วิหคเพลิงสีแดงฉานตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และมันก็บินว่อนเปล่งประกายอยู่บนท้องฟ้า

ร่างสีแดงร่างหนึ่งกระโดดขึ้นบนหลังวิหคเพลิงตัวนี้ และกล่าวถามขึ้นว่า “อาจารย์ใหญ่ ข้าใช้สัตว์วิญญาณของตัวเองได้หรือไม่ ?”

ทุกคนมองไปยังหญิงสาวชุดแดงผู้นั้น ที่แท้ก็เป็นชิงฮุ้ยนี่เอง หลังจากที่กลับไปพิจารณาตัวเองอยู่ที่จวนระยะหนึ่ง นึกไม่ถึงว่านางจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น นางกลับมายังสำนักศึกษาอย่างโอ่อ่าเพื่อล้างความอับอายให้กับตัวเอง

อาจารย์ใหญ่กล่าวว่า “ได้อยู่แล้ว แต่นักเรียนชิงฮุ้ย ตามมาอย่าได้หลงทางเชียวหล่ะ”

ชิงฮุ้ยยิ้มพลางกล่าว “วิหคเพลิงของข้าเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง สัตว์วิญาณเหล่านี้ก็เทียบไม่ได้ จะหลงทางได้ยังไงกัน”

“ท่านพ่อของข้าตั้งใจหาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มาให้ข้าโดยเฉพาะ การสอบเข้าสำนักศึกษาซวนเสียครานี้ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ถึงยังไงนี่ก็เป็นการทดสอบเสมือนจริงของสำนักศึกษา ข้าก็ต้องเห็นแก่หน้าอาจารย์ใหญ่อยู่แล้วใช่ไหมหล่ะ ?”

ชิงฮุ้ยหยิ่งผยองกว่าเดิมมาก

โม่ซางคงกล่าว “ได้ยินมาว่าคุณหนูรองชิงกับนายน้อยแห่งสำนักเทียนกังชอบพอกัน ก่อนหน้านี้ไม่นานก็ได้หมั้นหมายกันแล้ว หลังจากเรียนจบจากสำนักซวนเสียก็จะแต่งงานกัน”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าคิดว่าต้องเป็นตาเฒ่าไร้ยางอายของหอชิงลั่วนั้นแน่ ๆ ที่บีบบังคับให้แต่งงานเช่นนี้ได้!”

โม่ซางคงพยักหน้าพลางกล่าว “เป็นเพราะว่าหัวหน้าหอชิงมีลูกสาวแค่สองคน ที่ผ่านมาก็ชอบยกระดับให้ลูกสาวตัวเองอยู่สูงขึ้นอยู่แล้ว คราก่อนชิงฮุ้ยถูกเทียนฉีปู้ยี้ปู้ยำเช่นนั้น พวกเขายอมปล่อยไปง่าย ๆ ได้ยังไงหล่ะ!”

“วิหคเพลิงนี่ก็คงจะเป็นสินสอดกระมัง!”

“หญิงสารเลว!” เทียนฉีเห็นท่าทีของชิงฮุ้ยที่อิ่มอกอิ่มใจเช่นนั้นก็แอบด่านางด้วยความโกรธเคือง

เดิมทีวิหคเพลิงตัวนี้เป็นของเขา แต่คิดไม่ถึงว่าจะตกไปอยู่ในมือของหญิงสารเลวผู้นี้ได้ เป็นของเล่นของใครมานักต่อนักแล้วก็ไม่รู้ ยังกล้าคิดว่าตัวเองมีเกียรติและมีค่าอยู่ได้

อาจารย์ใหญ่ “ออกเดินทาง!”

สัตว์วิญญาณที่บินได้ขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ส่วนชิงฮุ้ยนั่งอยู่บนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สีเพลิงตัวหนึ่งอยู่คนเพียงผู้นี้

เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน ข้าว่าหากจัดการย่างนกตัวนั้นซะ รสชาติมันคงไม่เลวเลย!”

ชิงฮุ้ยที่อยู่กลางอากาศจ้องมองมู่เฉียนซีอยู่ด้านหลัง ทั้งหมดก็เป็นเพราะนังบ้านี่ที่ทำให้นางต้องไปแต่งงานกับเทียนฉีผู้วิปริตนั่น!

มู่เฉียนซี เจ้าคอยดูก็แล้วกัน ป่าโยวอ้านนี่แหละที่จะเป็นที่ฝังศพเจ้า

มู่เฉียนซี “หากจับมันย่างต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ก็ต้องแบ่งให้คนอื่นกินด้วยหน่ะสิ รอให้เข้าไปในป่าโยวอ้านตอนที่ไม่มีใครก่อน แล้วเราค่อยลงมือไม่ดีกว่าเหรอ ?”

อู๋ตี้กล่าว “นายท่านปราดเปรื่องยิ่งนัก สมองของเจ้าหมูโง่นี่ทำให้ข้าเป็นกังวลเสียจริง!”

หากชิงฮุ้ยผู้ที่ภาคภูมิใจกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสองของตัวเองรู้ว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองนั้นเป็นแค่อาหารเลิศรสในสายตาของมู่เฉียนซีแล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่านางจะรู้สึกเช่นไร!

หลังจากที่นั่งสัตว์วิญญาณบินล่องกลางอากาศมาทั้งวัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเขตป่าโยวอ้านแล้ว

อาจารย์ใหญ่กล่าวว่า “ภารกิจของพวกเจ้าก็คือ เอาชีวิตให้รอดปลอดภัยอยู่ในป่าโยวอ้านแห่งนี้ จากนั้นล่าสัตว์วิญญาณ เพื่อเก็บแกนวิญญาณมา คะแนนการทดสอบเสมือนจริงครั้งนี้ ตัดสินจากแกนวิญญาณที่ได้มา จากนั้นก็รับรางวัล”

“พวกเราเข้าใจแล้วขอรับ”

อาจารย์ใหญ่กล่าว “เอาหล่ะ เช่นนั้นตอนนี้ก็ออกเดินทางกันได้แล้ว!”

พวกเขาต่างก็พรวดเข้าไปในป่าโยวอ้านด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัว

“นายน้อยโม่ เราไปกลุ่มเดียวกันดีหรือไม่!”

“นายน้อยโม่……”

ถึงแม้ว่ามีคนคอยคุ้มกันอยู่ แต่พวกเขาก็อยากจะอยู่นั้นให้นานสักหน่อย จึงจำเป็นต้องหาสหายร่วมกลุ่ม และโม่ซางคงก็กลายเป็นคนเนื้อหอมในทันที

เทียนฉีเดินไปตรงหน้ามู่เฉียนซี และกล่าวว่า “แม่นางมู่ ให้ข้าร่วมกลุ่มไปกับเจ้าได้ได้หรือไม่ ?” เทียนฉียังคงไม่ตัดใจ หญิงผู้นี้ช่างรับมือได้ยากนัก แต่ผู้หญิงเช่นนี้เขาก็ยังไม่เคยจีบมาก่อนซะด้วยสิ ไม่แข็งใช้ไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้อ่อน เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนความอ่อนโยนของเขาจะทำให้นางชอบเขาไม่ได้