ตอนที่ 556: ละเลงเลือด!

Crazy Leveling System

ตอนที่ 556: ละเลงเลือด!

 

อี้เทียนหยุนตลุยเข้าไปสังหารอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่ตอบพวกเขาแม้สักครึ่งคําเริ่นเหลียงเฉินกับพวกก็ตามเข้าไปสังหารอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน ไม่มีใครหยุดต่างก็สังหารเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

 

ด้วยอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ในมือ ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ พวกเขาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการผ่าแตงโมอย่างไงอย่างงั้น เป็นไปอย่างเรียบ ง่าย

 

“เปิดใช้งาน บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 10 เท่า!”

 

“เปิดใช้งาน บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 50 เท่า!”

 

บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ถูกเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ที่เขามีอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้ซื้อเพิ่มจากร้าน อุตส่าห์มีผู้ฝึกตนนับพันให้จัดการอยู่ที่นี่ แล้วอย่างนี้จะให้เขาพลาดมันได้ยังไง?

 

หลังจากเปิดใช้งาน ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็เพิ่มพรวดอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นระดับผันแปรวิญญาณ แต่เมื่อรวมกับบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ ก็ทําให้เขาได้รับค่าประสบการณ์หลายล้านแต้มต่อคนแม้จะน้อย แต่หากรวมกันก็มหาศาลเช่นกัน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่ก็มีผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้อยู่หลายคนเช่นกัน เมื่อสังหารพวกเขาก็ยิ่งทําให้ค่าประสบการณ์ที่ได้มากขึ้นยิ่งกว่าเก่า

 

ทันใดนั้น ที่นี่ที่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน บางคนรีบพากันวิ่งหนีออกไปด้านนอกตัวเรือ ในทันทีหวังที่จะหนีไปจากที่นี่ เพราะที่นี่ไม่สามารถต้านรับอะไรได้อีกต่อไปแล้ว ต่างก็เป็นดง สังหารของอีกฝ่ายไม่สามารถต่อต้านได้

 

แต่ในขณะที่พวกเขากําลังจะหนีอยู่นั้น ก็ได้มีร่างเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าพวกเขา ซึ่งร่างนี้ก็คืออี้เทียนหยุน! เมื่อเห็นร่างที่เข้ามาขวาง ก็เหมือนกับพวกเขาเห็นผี ต่างก็พากันตกใจ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายวิ่งมาดักหน้าตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่ากําลังสังหารผู้คนอยู่กลางดงผู้คนหรอกเหรอแต่ทําไมอยู่ๆถึงได้มาโผล่ที่ขอบเรือได้

 

แต่เมื่อพวกเขาหันกลับไปดู ก็เห็นว่าอี้เทียนหยุนยังคงทําการสังหารอย่างบ้าคลั่งที่อยู่ที่นั่นและพวกเขากระทั่งเห็นอี้เทียนหยุนอีกหลายร่าง นับรวมกันได้ถึง 4 คน!

 

ในตอนนี้ แน่นอนแล้วว่าอี้เทียนหยุนจะต้องใช้วิชาแยกร่างออกมาแล้ว ไม่อย่างนั้นมันจะต้องมีคนหนีไปได้จํานวนมากอย่างแน่นอน เรือลํานี้ไม่ใช่เล็กๆ หากว่ามีคนซ่อนตัวอยู่แล้วแอบหนีไปตอนที่เขากําลังยุ่งนั่นจะทําให้การหนีเป็นไปได้ง่ายมาก

 

ดังนั้น เพื่อที่จะเข่นฆ่าไม่ให้เหลือ เขาจึงได้เรียกใช้ทักษะแยกร่างออกมา เพื่อทําการสังหารอย่างบ้าคลั่งต่อ!

 

ก็เหมือนกับผู้ฝึกตนเจ็ดคนนี้ ต่างก็พากันถูกกําจัดอย่างรวดเร็ว ขณะที่พากันกรีดร้องหาบิดามารดาแต่ก็ไม่ช่วยอะไร ไม่มีใครเข้ามาช่วยพวกเขา

 

ไม่มีใครคิดว่าอยู่ๆ จะมีคนเข้ามาขวางพวกเขา นี่เป็นถึงเรือเหาะที่มีชื่อเสียงของ แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงการเข้ามาขวางเรือเหาะลํานี้ ก็เท่ากับไม่ไว้หน้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง แต่ว่าน่าเสียดายที่ยังมีบางคนที่ไม่คิดจะเห็นแก่ใบหน้าเหล่านั้นหนึ่งนั้นคืออี้เทียนหยุนและอีกหนึ่งคือเผ่าฟีนิกซ์!

 

ขณะที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณหนี ก็ไม่ได้รอให้พวกเขาได้ไปไหนไกล เพ ราะทันใดนั้นก็ได้มีเปลวเพลิงพุ่งผ่านไปพร้อมกับโอบล้อมเหล่าปลาที่หลุดร่างแห ก่อนที่จะเผาอีกฝ่ายจนกลายเป็นจุด

 

แม้เพลิงนี้ทําให้อี้เทียนหยุนสังเกตเห็น ว่าที่มุมหนึ่งนั้น มีร่างหนึ่งที่ปากกําลังเผยรอยยิ้มออก มาเห็นได้ชัดว่าที่นี่มีคนของเผ่าฟีนิกซ์อยู่ เมื่อเขาลงมือ อีกฝ่ายก็เลยช่วยเขากําจัดปลาที่หลุดร่างแห

 

พวกเขาไม่กล้าที่เผชิญหน้ากับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงตรงๆ แต่ถ้าหากให้ลอบโจมตีแล้วล่ะก็ถือว่าไม่มีปัญหา เมื่อมีปลาที่หลุดร่างแหออกไป ก็จะถูกพวกเขาขวางเอาไว้ ทําให้ไม่สามารถหนีออกไปได้!

 

แม้ว่าอี้เทียนหยุนจะบอกว่าไม่ต้องช่วย แต่ทางฝั่งเผ่าฟินิกซ์ก็ยังตัดสินใจส่งคนมาช่วยอยู่ดี ไม่ใช่เพื่ออี้เทียนหยุนเท่านั้น แต่เพื่อตัวพวกเขาเองด้วย

 

ไม่ว่ายังไงก็จะต้องกําจัดแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงอย่างแน่นอน เพราะว่าหากไม่กําจัด แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงแล้วไซร้ กลัวว่าคนที่ตายจะเป็นตัวพวกเขาเอง

 

“ตูม!”

 

และสุดท้ายก็ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น เปลวเพลิงก็ได้ปกคลุมทั่วทั้งเรือเหาะลํานี้อย่างรวดเร็วพร้อมกับลุกไหม้อยู่ท่ามกลางท้องฟ้า ทําให้ดูแล้วคล้ายกับบอลไฟยักษ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างรวดเร็วบอลไฟยักษ์ลูกนี้ก็ตกลงสู่พื้น “ตูม” พร้อมกับก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น

 

เรือเหาะแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงตกกระแทกพื้นจนไม่เหลือชิ้นดี พร้อมกับผู้ฝึกตนมากกว่าพันที่ถูกสังหารจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ!

 

ผู้ฝึกตนคนอื่นที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ต่างก็ตกใจจนขวัญแทบบินหาย จะกล้าเข้ามาใกล้ที่นี่ได้ยังไงต่างก็พากันรีบบินเข้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้าย รีบหนีไปยังโลกมนุษย์อย่างรวดเร็วด้วยความตกใจไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่น้อย

 

พวกเขาสงสัยว่าเป็นปีศาจคลั่งการสังหารปรากฏขึ้น ไม่อย่างนั้นจะทําการเข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่งอย่างนั้นได้ยังไง และไม่ว่าจะเกี่ยวกับพวกเขาหรือไม่ พวกเขาต่างก็พากันหนีไปจากที่นี่โดยไว ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแตกตื่น

 

“ ลูกพี่?” ทั่วทั้งร่างพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยเหงื่อไคล ยิ่งกว่านั้นยังมากไปด้วยคราบเลือดอีกด้วย ไม่รู้ว่าเป็นคราบเลือดของตน หรือของคนอื่น

 

“เรียบร้อยแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ” เทียนหยุนโยนโอสถสามขวดให้กับพวกเขา พวกเขาก็รับไปอย่างไม่เกรงใจ พร้อมกับเทโอสถออกมายัดใส่ปากอย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่ามือทั้งสองข้างจะเต็มไปด้วยเลือด อี้เทียนหยุนก็ไม่เคยบอกว่าตัวเองไม่ใช่ฆาตกรบอกว่า ฆ่าเป็นฆ่า ไม่มีอะไรให้ต้องอธิบาย

 

จากนั้น เขาก็นําพวกของตนบินไปยังเมฆดํากลุ่มนั้น อย่างรวดเร็ว ก็หายเข้าไปในเมฆ จากนั้นผู้ฝึกตนที่หนีไปซ่อนอยู่ไม่ไกลก็พากันบินออกมา

 

“แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นใครกัน ถึงกับกล้าขวางกระทั่งเรือเหาะของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงช่างน่ากลัวยิ่งนัก…”

 

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็มีบางคนกล้าออกมาจัดการกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงสักที นี่ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ! แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงนั้นน่ารังเกียจเกินไป ก่อนหน้านี้พวกเราก็อยู่ที่เมืองใกล้ๆ แต่ก็ถูกแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเข้าปล้นสะดมอย่างไม่ไว้หน้า แถมยังสังหารและวางเพลิงไม่หยุด ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก!”

 

“อย่าพูดดังไป พวกเรารีบหนีไปจากที่นี่ดีกว่า ไม่อย่างนั้นหากมีคนมาพบเข้า พวกเราจะเป็นกลุ่มแรกที่ต้องเจอกับหายนะ!”

 

พวกเขาไม่กล้าอยู่คุยกันที่นี่ต่อ หากไม่เลือกที่จะไปจากที่นี่ ก็เลือกที่เข้าไปยังเส้นทางนี้ ยังไงก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าเข้าไปยังเส้นทางนี้ เพราะยังไงเส้นทางนี้ก็เป็นเส้นทางที่เชื่อมไปยังโลกมนุษย์ หากว่าพวกเขาเกิดไปเจอกับพวกอี้เทียนหยุนเข้า ก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาจะถูกสังหารหรือเปล่า

 

ดังนั้น พวกเขาจึงพากันแยกย้ายอย่างรวดเร็ว หากว่าเรื่องนี้แพร่ออกไป แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจะต้องออกมากู้หน้าอย่างแน่นอน เพราะถือว่าพวกเขาได้เสียหน้าอย่างใหญ่หลวง

 

หลังจากอี้เทียนหยุนพาพวกเขาบินเข้ามายังเมฆดําแล้ว เขาก็ได้เรียกฟีนิกซ์น้ําแข็งออกมา พร้อมกับบอกให้พวกเขาขึ้นมาขี่ ฟีนิกซ์น้ําแข็งร้องออกมาคําหนึ่ง จากนั้นก็บินไปบนเมฆดําอย่างรวดเร็ว และเมื่อสายฟ้ารอบๆ สัมผัสได้ถึงพวกเขา มันก็ได้ทําการโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อgห็นสายฟ้าเส้นเขื่องฟาดมา ก็ทําให้พวกเขาตกใจจนสะดุ้งโหยง

 

และตอนนี้เอง ในมือของอี้เทียนหยุนก็ได้ปรากฏไข่มุกสมบัติเทียนเหลยขึ้น นี่เป็นสมบัติที่เขาได้มาเมื่อก่อนหน้า และเมื่อเพิ่งจะเอาออกมา สายฟ้ารอบๆ ก็ถูกดูดเข้าไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีเหลือไว้แม้แต่น้อย

 

ไม่ว่าจะมามากเท่าไหร่ ต่างก็ถูกไข่มุกสมบัติเทียนเหลยดูดเข้าไปไม่มีเหลือ แต่ว่าของสิ่งนี้มีความจุที่จํากัดแต่ถ้าแค่นิดหน่อยล่ะก็ ไม่มีปัญหา

 

“ช่างเป็นไข่มุกที่มหัศจรรย์จริงๆ” พวกเขาพากันประหลาดใจ สายฟ้าสวรรค์ที่อยู่รอบๆ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรือทรงพลังแค่ไหน ต่างก็ถูกไข่มุกสมบัติเทียนเหลยดูเข้าไปจนหมด

 

“จับให้ดีๆ ละ พวกเราต้องเร่งความเร็วกลับไปให้เร็วกว่านี้”

 

สีหน้าของอี้เทียนหยุนดําคล้ํา ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็นไปได้ว่าอาจผ่านไปแล้ว หรือไม่ก็ตายอยู่ที่นี่

 

แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องรีบกลับไปยังวังเทียนหยุนให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น

 

หากว่าผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณผ่านไปได้ มันจะต้องทําการถล่มให้ราบเป็นหน้ากลอง อย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยในโลกมนุษย์ก็สามารถทําอย่างนั้นได้

 

“เปรี้ยง!”

 

สายฟ้าที่อยู่รอบๆ ต่างก็ผ่าลงมาไม่หยุด พุ่งเข้าใส่อี้เทียนหยุน ถึงยังไงระดับของเขาที่สูงที่สุด ดังนั้น สายฟ้าที่โจมตีเข้าใส่เขาจึงมีเส้นที่หนาที่สุด และก็น่ากลัวที่สุดด้วย

 

อี้เทียนหยุนแหงนหน้ามองขึ้นไป และก็พบว่าสายฟ้าพวกนี้ต่างก็มีพลังรบสูงเกิน 560 ล้าน ถีงกับมีบางครั้งที่สายฟ้ามีพลังรบสูงถึง 2-3 พันล้าน ไม่แปลกที่ยิ่งระดับสูงก็ยิ่งผ่านยากส่วนสายฟ้าที่ผ่าลงมายังพวกเงินเหลียงเฉิน อย่างมากก็มีพลังรบแค่ไม่กี่ล้าน ซึ่งถือว่าเหมาะกับระดับของพวกเขา

 

ความต่างระหว่างทั้งสองนั้นใหญ่มากจริงๆ แต่เพราะมีไข่มุกสมบัติเทียนเหลยอยู่ ทําให้สามารถผ่านที่นี้ไปได้โดยที่ไม่เกิดปัญหาอะไร