ส่วนที่ 4 ตอนที่ 8

เจาะเวลาสู่ต้าถัง

ตัวต่อไม้

 

 

 

ที่ราบของแดนกวนจงในเดือนเก้ายังคงเป็นช่วงที่พืชพันธุ์เขียวชอุ่ม เมืองโบราณของซั่วฟาง หิมะรอบแรกได้ตกลงมาแล้ว หิมะที่ร่วงหล่นลงมาอย่างหนักปกคลุมทั่วทั้งทุ่งหญ้า การใช้ชีวิตในทุ่งหญ้าในปีนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ในตอนแรกต้องประสบกับภัยแล้ง ตามมาติดๆ ด้วยภัยพิบัติจากตั๊กแตน แม้ว่าจะไม่น่ากลัวเท่ากับภัยพิบัติในแดนกวนจง แต่ก็สูญเสียวัวและแพะไปจำนวนมาก เมื่อหญ้าไม่ดี ความสมบูรณ์ของสัตว์ที่เลี้ยงย่อมไม่ดีด้วย ข่านเจี๋ยลี่ได้กวาดล้างชนกลุ่มน้อยที่ต่อต้านมากที่สุดไปหลายชนเผ่า และใช้ศีรษะของพวกเขาป่าวประกาศไปทั่วทุกสารทิศ ทุ่งหญ้าเงียบสงบลงและไม่มีเสียงอื่นๆ อีก ขณะที่เขากำลังลำพองใจ ทูลี่น้องชายสุดที่รักของเขาได้แอบลงนามในพันธสัญญากับต้าถังแล้ว…

 

 

หลี่จิ้งหายตัวไปไม่เห็นแม้เงาและหลี่จีก็เช่นกัน แม้กระทั่งไฉเซ่าหัวหอกใหญ่แห่งเมืองโบราณซั่วฟางก็หายตัวไปท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก ราชสำนักของต้าถังนั้นสงบสุข ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเตรียมงานวันคล้ายวันเกิดของไท่ซั่งหวงหลี่หยวน ไม่มีใครสนใจหลายๆ ท่านนั้นที่หายตัวไป ทุกคนต่างมองว่า พวกเขาไปที่เขาฉินหลิ่งเพื่อล่าสัตว์ให้หลี่หยวน การเก็บเกี่ยวในปีนี้ไม่ค่อยดี หรือยังจะไม่อนุญาตให้ล่าสัตว์เพื่อให้เป็นของขวัญกันอีก

 

 

อวิ๋นเยี่ยอยู่ที่เมืองซั่วฟางเต้นเป็นเจ้าเข้า ใครจะนึกถึงว่าเป็นถึงไท่ซั่งหวงแท้ๆ แต่กลับใช้ทหารหน่วยข่าวกรองเดินทางไกลนับพันลี้เพื่อทวงหนี้ เงินไม่กี่ตำลึงทองเองไม่ใช่หรือ ทั้งยังคำนวณดอกเบี้ยอย่างละเอียดยิบอีกด้วย นี่ไม่ใช่ดอกเบี้ยค้างจ่ายที่เลยกำหนดแล้ว แต่มันคือดอกเบี้ยชนิดนำไปตั้งตัวใหม่ได้เลย กลางคืนคุณปัสสาวะบ่อย ทำไมต้องมาคิดรวมใส่ที่ฉันด้วย ก็แค่หาผู้หญิงให้น้อยลงหน่อย ก็ไม่ต้องเป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ

 

 

สีหน้าของไฉเซ่าดูแปลกไป เซวียว่านเช่อ เซวียว่านเริ่นสองพี่น้องท่าทางซื่อๆ ไม่พูดอะไร คิดว่าคงอึ้งทึ่งไปหมดแล้ว

 

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเหล่าเหอก่อวีรกรรมไว้ ขบวนรถขนสินค้าของบ้านเขาไปอวดเบ่งแสดงตัวในเมืองฉางอันอย่างเอิกเริกว่า ชาวเผ่าหูที่นอกด่านนั้นโง่เขลาและมีเงินเยอะ อยากหลอกอย่างไรก็หลอกได้หมด เมื่อเรื่องที่ว่าผ้าหนึ่งพับแลกวัวได้สามตัวแพร่ออกไป ตลาดในเมืองฉางอันก็อยู่ในสภาพที่จ้อกแจ้กจอแจ ตระกูลเหล่าเหอนั้นล้มเหลวมาตั้งแต่ต้นแล้ว จึงไม่สนใจหน้าตาของเหล่าชนชั้นสูง ทำการค้าเพื่อฉีกหน้ากันตรงๆ ให้ทุกคนอิจฉาเลย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกดูถูกเพิ่มขึ้นอีก

 

 

เหล่าเหอทำตามคำแนะนำของอวิ๋นเยี่ยอย่างเคร่งครัด อย่ากินอาหารเพียงลำพัง ตัวเองหยิบได้ก้อนเนื้อชิ้นใหญ่กินจนน้ำมันไหลเยิ้มปาก แน่นอนว่าต้องดึงพี่น้องที่น่าสงสารมากินเนื้อด้วยกัน เมื่อมีผู้คนจำนวนมากการค้านี้จึงจะสามารถทำต่อไปได้เป็นเวลานาน

 

 

ทุกคนที่รู้จักเหล่าเหอต่างก็รู้ว่า ชายอ้วนเสเพลคนนั้นไม่มีทางมีวิสัยทัศน์เช่นนี้และไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้ด้วย เมื่อพวกเขารู้ว่าอวิ๋นเยี่ยหัวหอกของเภทภัยทั้งสามผู้โด่งดังอยู่ที่เมืองซั่วฟาง ต่างก็พากันปิดปากเงียบ เพียงแค่รีบติดต่อกับลูกหลานของที่บ้านที่อยู่ในเมืองซั่วฟางเพื่อสอบถามรายละเอียด

 

 

ทุกครั้งที่จั่งซุนเห็นอวิ๋นเยี่ยหากำไรได้ นางมักจะรู้สึกอิจฉา คราวนี้ไม่เหมาะที่จะไปหาหลี่ซื่อหมินเพื่อให้เขากดดันอวิ๋นเยี่ย เพราะหลี่ซื่อหมินเล่นบทคนชั่วร้ายหลายครั้งเกินไปแล้ว จำนวนที่มากเกินไปจะทำให้สะเทือนถึงความสัมพันธ์ได้ น่ากลัวว่าในตอนนี้เจ้าหนุ่มนี่คงอยู่ในฉางอันแล้วและอยู่ให้ห่างจากพระราชวังให้ไกลๆ คราวที่แล้วไท่ซั่งหวงบอกว่าอวิ๋นเยี่ยยังเป็นหนี้เงินเขาอยู่ พระองค์ตรัสอย่างรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างว่าเจ้าเด็กคนนี้ตอนนี้ก็ไม่ได้เข้าวังแล้ว บางทีอาจจะลืมชายชราอย่างเขาไปนานแล้ว

 

 

เมื่อเป็นหนี้ต้องชดใช้นี่คือสัจธรรม นี่คือที่มาที่ไปของการที่ทหารหน่วยข่าวกรองไปทวงเงินจากอวิ๋นเยี่ย

 

 

เหล่าราชนิกุลมักจะแทรกเท้าข้างหนึ่งเข้าไปในทุกๆ สิ่ง นี่คือความปรารถนาในการควบคุมที่มีมาแต่กำเนิดของพวกเขาที่กำลังแผลงฤทธิ์อยู่ โชคดีที่จั่งซุนยังคงรู้จักให้ไท่ซั่งหวงมารับหน้าแทนจึงปกปิดความต้องการเงินอันรุนแรงของนางได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางยังไม่ถึงจุดที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง

 

 

ต้าถังมีข้าราชการหลายหมื่นคน ดูเหมือนว่านางจะเพ่งเล็งที่จะจัดการอวิ๋นเยี่ยเท่านั้น ในสายตาของไฉเซ่าและพี่น้องตระกูลเซวียนี่เป็นสัญญาณของการได้รับความโปรดปราน จดหมายรีดไถที่ส่งมาเหมือนเป็นจดหมายจากทางบ้านทำให้พวกเขาเกือบคลั่งใจตาย เหล่าราชนิกุลไม่เคยเห็นอวิ๋นเยี่ยเป็นคนนอก ความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเงินจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ ไฉเซ่าบุตรเขยของตระกูลหลี่ก็เกิดความริษยาขึ้นเล็กน้อย เขาไม่เคยถูกหลี่หยวนหรือหลี่ซื่อหมินรีดไถเงินมาก่อน เขาคิดว่านี่เป็นความสุขอย่างหนึ่ง

 

 

   อวิ๋นเยี่ยไม่คิดอย่างนั้น เขามักจะถูกรังแก ซึ่งนี่ทำให้เขาโกรธแค้นอยู่เต็มอก ตั้งแต่ที่เขามาถึงต้าถัง ทุกสิ่งอย่างที่เขาพบล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ แม้ว่าเขาจะสามารถกลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอกว่าตัวเองได้ ตัวเขาที่คิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนโบราณที่ป่าเถื่อนเหล่านี้อยู่เล็กน้อยนั้นทำให้เขาทำไม่ลงจริงๆ แม้แต่ตอนที่เขาเตะบั้นท้ายคนอื่นตอนที่อยู่หล่งโย่ว เขาก็ไม่ลืมที่จะชดเชยให้คนเหล่านั้นเล็กน้อย จั่งซุนไม่เคยชดเชยให้ คำว่าแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของนาง

 

 

หลังจากอวิ๋นเยี่ยสงบจิตใจลงและอ่านจดหมายรีดไถเงินต่อ ได้ยินว่าบนทุ่งหญ้ามีหนังลูกแกะม่วงประเภทหนึ่งที่หนังอ่อนนุ่มสามารถทำเป็นเสื้อคลุมได้ ที่สวมแล้วทำให้ดูดีมีสง่า ขอให้ขณะที่อยู่ที่เมืองซั่วฟางคอยสังเกตุและนำมาสักหนึ่งร้อยสิบผืน เมื่อกลับมาจะได้ทำเสื้อผ้าหลายๆ ตัว ยังมียาสมุนไพรชนิดหนึ่งที่เรียกว่า หยินหยางฮั่ว[1]ที่มีสรรพคุณในการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ให้ขุดกลับมาหลายๆ คันรถเพื่อนำกลับมาต้มใส่โจ๊กทาน สำหรับรางวัลก็ให้หักออกจากบัญชีการพนันเหล่านั้น ส่วนที่เหลือก็เอาดีวัวเหลือง[2]หลายๆคันรถได้ตามใจที่ได้มาจากทุ่งหญ้าที่มีจำนวนมากจนนับไม่ไหวเอาไปผสมให้ครบจำนวน เขาก็จะยอมรับมันไว้ ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วจะให้เด็กรุ่นหลังเอาเปรียบหน่อยก็เป็นเรื่องสมควรอยู่

 

 

เมื่ออ่านถึงตรงนี้อวิ๋นเยี่ยก็แทบจะเป็นลม เรื่องสมุนไพรหยินหยางฮั่วยังพอว่า เพราะบนทุ่งหญ้ามีมากมาย ท่านจะกินมันเป็นอาหารก็ไม่เป็นไร เมื่อตอนที่มาถึงซุนซือเหมี่ยวได้ให้คนไปขุดไว้มากมาย สามารถตอบสนองความต้องการได้ ก็อยู่ในช่วงธาตุหยางแข็งแรงนี่นะ มีชายคนไหนไม่ต้องการกันบ้าง หนังลูกแกะม่วงอวิ๋นเยี่ยก็มีแค่เจ็ดหรือแปดชิ้นอยู่ในมือ ของสิ่งนี้มีค่อนข้างน้อย ไม่มีการผลิตหนังลูกแกะม่วงบนทุ่งหญ้า มีเพียงบางส่วนที่ได้มาจากกองคาราวานจากซีอวี้เท่านั้น ซึ่งราคาสูงมาก และหลายผืนนี้อวิ๋นเยี่ยก็กัดฟันซื้อมา ตั้งใจจะเอากลับไปทำหมวกให้พวกท่านย่าและซินเย่ว์ สำหรับดีวัวเหลืองนั้น เหล่าเหอได้ฆ่าวัวไปหลายพันตัว จึงได้ดีวัวเหลืองมาไม่ถึงห้ากิโลกรัม เจ้าต้องการกี่คันรถกัน

 

 

“เหตุใดอวิ๋นโหวถึงต้องกังวลด้วย ไท่ซั่งหวงไม่เคยเอ่ยปากต้องการสิ่งของอะไรจากข้าเลย ในครั้งนี้ไท่ซั่งหวงเอ่ยปาก ไม่เพียงแต่พูดให้อวิ๋นโหวฟังแต่ผู้เดียว แต่พูดให้ทหารห้าหมื่นคนในเมืองซั่วฟางฟัง สามารถแบ่งเบาความวิตกของไท่ซั่งหวงได้ เป็นหน้าที่ของข้าราชบริพารอย่างพวกเราที่พึงกระทำ อย่าว่าแต่มันเป็นเพียงของพื้นๆ เพียงไม่กี่คันรถ แม้เป็นศีรษะของข่านเจี๋ยลี่ พวกเราก็ต้องทำอย่างสุดกำลัง หนังลูกแกะม่วง ดีวัวเหลือง ข้าไม่เชื่อว่าหากเราค้นบนพื้นที่พันกว่าลี้ของเมืองซั่วฟางจะรวบรวมของขวัญเหล่านี้ให้ครบไม่ได้”

 

 

ไฉเซ่าเป็นคนดี เป็นคนที่ดีมากๆ คนที่ยอมออกมาเป็นแพะรับบาปแต่โดยดีช่างเป็นคนดีจริงๆ รู้ว่าเขาต้องการที่จะสร้างผลงานต่อหน้าตาเฒ่าบ้าง จึงออกอาการอิจฉาอวิ๋นเยี่ยเล็กน้อย ตาเฒ่าอยากได้ของพวกนี้กลับไม่ไปหาเอาจากลูกเขย แต่กลับมาหาอวิ๋นเยี่ยซึ่งเป็นคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองถูกกีดกัดออกไป

 

 

พี่น้องตระกูลเซวียกำหมัดขัดมืออยากแสดงทักษะของพวกเขาเช่นกัน เซวียว่านเช่อได้เดินออกไปแล้ว เขาเดินพลางพูดกับไฉเซ่าว่า “แม่ทัพใหญ่ ขอโปรดวางใจ ข้าจะรีบไปดูที่ชนกลุ่มน้อยร้อยกว่าเผ่าที่อยู่บริเวณชายแดน เพียงแค่ของขวัญไม่กี่คันรถ ไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน”

 

 

อวิ๋นเยี่ยไม่อยากประจบสอพลอฮ่องเต้ แต่ห้ามผู้อื่นไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประจบประเภทนี้ที่สามารถแก้ปัญหาในบ้านตัวเองได้ อวิ๋นเยี่ยรู้สึกว่ายิ่งมีมากยิ่งดี

 

 

“แม่ทัพเซวีย คราวนี้ท่านถือโอกาสนำวัวและแพะกลับมาเพิ่มบางส่วนด้วย เนื้อตากแห้งที่พวกเราเตรียมไว้ยังไม่เพียงพอ” อวิ๋นเยี่ยตามออกไปตะโกนบอกเซวียว่านเช่อ

 

 

มีคนจัดการเรื่องขวัญให้แล้วย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา ทหารหน่วยข่าวกรองครั้งนี้คือคำสั่งของหลี่หยวนที่จะออกไปจากวังเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ผ่านมา จั่งซุนเข้าใจดี หลี่ซื่อหมินเข้าใจดี หลี่หยวนเองก็เข้าใจดีว่านี่คือการลองปรับตัวเข้าหากันของพวกเขา ลองเชื่อใจกัน เพียงแค่วิธีการค่อนข้างหยาบคายไปเล็กน้อย แน่นอนว่าสำหรับอวิ๋นเยี่ย หลายๆ ท่านในพระราชวังคงจะไม่ได้คิดที่จะพิจารณาถึงความลำบากของโหวเยี๋ยตัวเล็กๆ พวกเขาแค่ต้องการโอกาสนี้และอวิ๋นเยี่ยเป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่สามารถมอบทางลงนี้ให้ได้

 

 

บุคคลสำคัญ ปัญหาของบุคคลสำคัญเมื่อต้องการแก้ไขก็แทบจะเอาชีวิตกันเลย ศึกที่ประตูเสวียนอู่เหมินได้ทำลายความรักความสัมพันธ์ของตระหลี่จนหมดสิ้น สำหรับราชวงศ์ถังที่เริ่มต้นนับจากหลี่ซื่อหมินจนถึงสิ้นราชวงศ์ การสืบทอดราชวงศ์ของพวกเขาเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เมื่อมีรถวิ่งผ่านย่อมต้องเหลือรอยล้อรถ ดังนั้นหลี่จื้อจึงรับช่วงการฆ่าต่อ อู่เหมยเหนียงรับช่วงการฆ่าต่อ เมื่อมาถึงหลี่หลงจีมีพี่น้องไม่กี่คนที่จะให้เขาฆ่าแล้ว จึงได้สร้างคฤหาสน์สิบหกอ๋องขึ้นและเลี้ยงพี่น้องเหมือนหมู

 

 

หลี่ซื่อหมินฆ่าพี่ชายและน้องชาย ฆ่าลูกชายและลูกสาว เกรงว่าในใจของเขาจะเป็นหลุมโหว่มานานแล้วกระมัง คนปกติเมื่อพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ไม่กลายเป็นคนบ้าหรือคนสติฟั่นเฟือนสิจึงเป็นเรื่องแปลก แต่หลี่ซื่อหมินกลับกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ อดชื่นชมในความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้จริงๆ หรือบางทีเขาอาจจะเป็นคนเลือดเย็นมาตั้งแต่เกิดก็ได้

 

 

พวกเหล่าจวงไม่ยอมให้อวิ๋นเยี่ยออกไปคนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองชายแดนที่ไฟลุกโชนเช่นนี้ ไกลที่สุดที่ออกมาได้คือกำแพงเพื่อมองดูทุ่งหญ้าจากไกลๆ หลังจากหิมะตกพื้นดินขาวโพลน สะท้อนแสงจ้าจนแสบตา มีหญ้าเ**่ยวแห้งอยู่สองสามต้นที่พยายามจะงอกออกมา ทันใดนั้นก็ถูกพวกนกสาลิกาจิกคาบไปสร้างรังใหม่ของพวกมัน กระต่ายป่าวิ่งบนพื้นหิมะจะเกิดร่องเป็นเส้นๆ มันอาจจะหิวมาก แม้แต่นกอินทรีที่อยู่บนศีรษะก็ไม่สนใจ พยายามหาเมล็ดหญ้าที่สามารถทานได้เพียงอย่างเดียว

 

 

ไม่มีอะไรถูกส่งมาเสริมในแดนกวนจงอีก หิมะหนาทึบปิดกั้นการจราจรทั้งหมด มีเพียงม้าศึกเท่านั้นที่สามารถฝืนเดินอย่างลำบากบนหิมะได้ การลาดตระเวนครั้งนี้ของเซวียว่าเช่อดูท่าแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขามีจิตใจที่ทะเยอทะยานอันร้อนแรงที่จะประจบประแจงฮ่องเต้ ต้องเอาชนะปัญหาเล็กๆ ที่อยู่เบื้องหน้าเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

 

 

ตอนนี้ในกองทัพนั้นยุ่งเหยิงมาก พวกนายทหารสวมใส่ทุกอย่างที่พวกเขาสามารถสวมใส่ได้ ทุกคนดูเหมือนสัตว์ร้ายในสมัยดึกดำบรรพ์ บางคนดูเงอะงะ แต่โดยมากแล้วกลับจะดูดุร้ายมากกว่า

 

 

ไฉเซ่าเป็นผู้นำกองทัพผู้บุกเบิกของตระกูลหลี่ หนึ่งในหมู่พวกเขามีกองทัพเสวียนเจี่ยห้าร้อยคน ที่เคยได้แต่อ่านจากตำราเรียนประวัติศาสตร์ ตอนนี้ได้เห็นตัวจริงเสียงจริง ทำให้อวิ๋นเยี่ยได้เปิดมุมมองเกี่ยวกับเครื่องจักรสังหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคอาวุธระยะประชิดเช่นนี้อย่างละเอียด เกราะเหล็กทั้งชุดหรือที่เรียกว่า สือซันไข่ แผ่นเหล็กป้องกันที่เงาวับสองแผ่นตรงหน้าอกช่วยป้องกันจุดสำคัญ ไม่เพียงแค่คนสวมชุดเกราะหนัก แม้แต่ม้าก็สวมเกราะทั้งตัว อวิ๋นเยี่ยเดินเข้าไปหยิบมาดูมันหนักมาก รวมเหล็กป้องกันของคนและม้าเข้าด้วยกันมีน้ำหนักอย่างน้อยสี่สิบกิโลกรัม รูปร่างของทหารม้ากองทัพเสวียนเจี่ยนั้นไม่ได้สูงใหญ่เสียเท่าไหร่ทั้งยังต้องสวมเกราะหนักแต่กลับใต้หล้าไร้ศัตรู ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด

 

 

ในฐานะที่เป็นคนว่างงานในกองทัพ ไปที่ไหนก็ได้รับการยอมรับ ทุกที่ที่เขาไปไม่มีใครไม่ยิ้มต้อนรับ ทำให้นักพรตซุนที่ทำงานหนักไม่พอใจอย่างมาก ท่านนี้มอบดาบเสี้ยวจันทร์ที่ทำอย่างประณีตให้ ท่านนั้นมอบสายขาดเอวฝังทองคำและเงินชิ้นใหญ่ให้ ทั้งยังมีนายทหารที่ดูโดดเด่นหลายคนส่งกล่องไม้ที่ประณีตมาให้โหวเยี๋ย เพียงมองแวบแรกก็รู้ว่ามันทำจากไม้จันทน์ วางไว้ในมือโดยไม่ให้ปฏิเสธได้ ได้แต่ต้องยอมรับเพียงอย่างเดียว จึงได้สั่งให้มอบรางวัลเป็นอาหารและเครื่องดื่มแก่ทหารเหล่านี้ แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความสุข

 

 

อวิ๋นเยี่ยมักจะรู้สึกว่าทหารที่ให้กล่องเล็กๆ แก่เขาดูแปลกๆ เมื่อกลับไปถึงที่พัก ควานหากล่องไม้ออกมาจากกองของขวัญ เมื่อเปิดออกจึงตกใจมาก ในกล่องไม้มีตัวต่อไม้แบบสิบสองชิ้น อวิ๋นเยี่ยมีทักษะมากในเรื่องนี้ ขณะที่อยู่ในโรงงาน เขาได้ใช้วัสดุของโรงงานเพื่อทำของเล็กๆ อันนี้อยู่ไม่น้อย ตัวเองได้ใช้เครื่องกลึงแปรรูปทำตัวต่อแบบคลาสสิกหกชิ้นที่มีความเป็นไปได้มากมาย คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นที่นี่ ทำให้เขารู้สึกห่างไกลจากอีกโลกหนึ่ง

 

 

สั่งให้เหล่าจวงไปตามหานายทหารหลายคนนั้น แต่พวกเขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

 

 

สถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ อวิ๋นเยี่ยพบเป็นครั้งแรก ที่ฉางอันไม่มีตัวต่อไม้ เมื่อตอนที่สร้างไพ่นกกระจอก อวิ๋นเยี่ยได้ตรวจสอบตลาดของเล่นของต้าถังแล้ว ไม่มีของสิ่งนี้ เป็นใครกันที่ส่งมันมา

 

 

เมื่อกดตัวต่อชิ้นแรกและเลื่อนตัวที่สองออก อวิ๋นเยี่ยปลดล็อคตัวต่อไม้ด้วยความเคยชิน พบกระดาษชิ้นหนึ่งในช่องว่างของตัวต่อไม้ ซึ่งเมื่อเปิดออกอ่าน ด้านบนเขียนไว้เพียงสามคำเท่านั้น ไป๋อวี้จิง

 

 

 

 

——

 

 

[1] หยินหยางฮั่ว เป็นสารสกัดที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมสำหรับการเสริมสร้างการทำงานของไต ใช้เป็นสารเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ชาย

 

 

[2] ดีวัวเหลือง เป็นชื่อยาสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง