”เชสเตอร์พี่ยังเห็นผมเป็นน้องอยู่รึเปล่า?!” แด๊กซ์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและน้ำตาคลอเบ้า “ทำไมพี่ไม่บอกผมว่าจะพานิกายตำหนักอมตะไปบุกสำนักง้อไบ๊? ผมคงไม่รู้เรื่องแน่ถ้าไม่ใช่เพราะคนของผมคอยรายงานให้ฟัง! ไหนบอกว่าเราจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันไง!”

แด๊กซ์เพิ่งทราบข่าวว่าเชสเตอร์นำกองทัพไปสู้กับสำนักง้อไบ๊และพ่ายแพ้กลับมายับเยิน ตัวเชสเตอร์ได้รับบาดเจ็บแสนสาหัสก่อนจะถูกหามส่งตัวมาที่โรงพยาบาล แด๊กซ์นั้นทั้งตกใจทั้งโกรธเคืองในเวลาเดียวกัน เขารีบมาที่โรงพยาบาลเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

เขาอดทนอดกลั้นกับความร้อนรนในใจไม่ไหวเมื่อเขาเข้าไปในแผนกผู้ป่วยและเห็นสภาพของเชสเตอร์ที่ถูกพันแผลไว้ราวกับผีมัมมี่

เมื่อได้ยินสิ่งที่แด๊กซ์ตะโกนออกมา เชสเตอร์ก็รู้สึกซาบซึ้งใจ “แด๊กซ์ นายกับแดร์ริลเป็นพี่น้องร่วมสาบานของฉัน ก่อนหน้านี้พวกเราทั้งสามคนต่อสู้กับกองทัพโลกใหม่ด้วยกัน ทำให้สำนักภูเขาบุปผาของนายเสียหายไปมาก

ฉันจะลากนายเข้ามาเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทของฉันกับสำนักง้อไบ๊ได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นพี่น้องสาวกของนายก็ยังไม่หายดี พวกเขาจะทำยังไงถ้าหากนายเป็นอะไรไป? ใครจะเป็นคนดูแลพวกเขา?”

แด๊กซ์ปาดน้ำตาเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะติติง “ไม่ต้องมาแก้ตัว! ความทุกข์ของพี่ที่สูญเสียภรรยาไปไม่ใช่แค่พี่คนเดียวที่จะต้องแบกรับไว้! ถ้าหากพี่อยากจะพูดเรื่องนี้ ผมกับแดร์ริลก็อยู่ที่นั้นด้วย เราทั้งคู่ก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกันที่ปกป้องอดีน่าไว้ไม่ได้ ”

จากนั้นแด๊กซ์ก็มองด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ “ยังไงก็แล้วแต่ สำหรับเรื่องนี้พี่เข้าใจผิด…”

“โอเค โอเค! เป็นความผิดของฉันเอง” เชสเตอร์ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาจึงหัวเราะชอบใจออกมาและพยักหน้า

“ค่อยชื่นใจหน่อย” แด๊กซ์ฉีกยิ้ม เดินไปเข้าหาเชสเตอร์และต่อยไปที่ไหล่เบา ๆ ก่อนที่จะเล่นมายากลดึงขวดไวน์ออกมาสองขวด “เอานี่ เชสเตอร์ ดื่มเลย”

“ฮ่าฮ่า! ไอ้ตัวแสบ! ดันอยากจะมาแข่งดื่มกับฉันในตอนที่ฉันอ่อนแอ!” เชสเตอร์ลุกขึ้นอย่างปวกเปียก “ได้ ได้ ได้! ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ถ้าฉันไม่ทำให้นายเมาคอพับไปก่อน!”

“โอ้โห พี่นี่มันขี้โม้ตัวจริง! มาดื่มกันเลย!” แด๊กซ์หยิบเก้าอี้ตัวเล็กสองตัวมาตั้ง ก่อนจะหยิบเอาถั่วกระป๋องและขนมขบเคี้ยวออกมาจากกระเป๋าของเขา

เชสเตอร์เปิดขวดไวน์และกำลังจะดื่ม เชลลีก็รีบเข้ามาประชิดพวกเขาและดึงขวดไวน์ออกจากมือเชสเตอร์

“คุณสติหลุดไปแล้วรึไง? คุณยังดื่มไม่ได้!” เชลลีกระทื้บเท้า

เธออยู่ในวงการแพทย์มานานหลายปีและนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้ป่วยมีแผลถูกแทงเป็นสิบ ๆ แผลแต่ก็ยังโหยหาต้องการดื่มสุรา เธอรับไม่ได้อย่างยิ่ง!

แด๊กซ์หยอกล้อเชลลี เขากล่าวถามอย่างสงสัยไม่มั่นใจ “นี่… พี่สะใภ้คนใหม่ของผมเหรอ?”

เชลลีไม่ได้สวมเสื้อกาวน์แพทย์ แต่สวมชุดลำลองกระโปรงสั้นและเสื้อเชิ้ต

“ฉัน ฉันไม่ใช่พี่สะใภ้ของคุณ” เธอรู้สึกท้องไส้เริ่มปั่นป่วน และหน้าแดงฉานขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เชสเตอร์รู้สึกเคอะเขินและต่อว่าแด๊กซ์ “ไอ้แสบ อย่ามาพูดจาไร้สาระ! เธอชื่อว่าเชลลี เป็นถึงหัวหน้าทีมแพทย์ของที่นี่ ให้ตายสิพับผ่า! นายนี่มันปากปีจอจริง ๆ !”

“อ่อ” แด๊กซ์หัวเราะอย่างเขินอายและเกาหัวก่อนจะกล่าว “คุณหมอเชลลี คุณช่วยส่งไวน์ให้กับเชสเตอร์ได้ไหม เขาแข็งแรงมาก แอลกอฮอล์นิดหน่อยทำอะไรเขาไมได้หรอก”

แด๊กซ์กล่าวถูกต้องแล้ว ในตอนนี้เชสเตอร์อยู่ในระดับปราชญ์ยุทธแล้ว อาการบาดเจ็บพวกนี้อาจจะดูร้ายแรงแต่มันไม่มีผลอะไรมากมายสำหรับเขา และอีกอย่างแผลทั้งหมดของเขาจะหายดีภายในอีกสองวัน

เชลลีกล่าวตอบอย่างหนักแน่น “ไม่ได้ เชสเตอร์ยังดื่มไม่ได้ตอนนี้ ฉัน ฉันจะไปดื่มกับเขาด้วยเลยในตอนที่อาการดีขึ้น แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

จากนั้นเชลลีก็ยึดขวดไวน์ของแด๊กซ และเดินออกจากห้องแผนกผู้ป่วยไปอย่างฉับไว

“โอ้ ว้าว เชสเตอร์ พี่สะใภ้คนใหม่เป็นห่วงเป็นใยพี่จริง ๆ” แด๊กซ์ขบขัน

เชลลีผู้เดินไปถึงหน้าประตู ได้ยินสิ่งที่แด๊กซ์กล่าวและทำให้หน้าของเธอแดงฉานยิ่งกว่าเดิม

บนถนนอันกว้างใหญ่ในทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่ รถม้ากำลังเคลื่อนที่ในความเร็วที่พอเหมาะ แดร์ริลและจีเวลกำลังนั่งสนทนาและหยอกล้อเล่นกันอยู่ภายในรถ

ในตอนแรกพวกเขาขับรถยนต์ จนกระทั่งมันน้ำมันหมด ไม่นานหลังจากนั้นแดร์ริลจึงเรียกใช้บริการรถม้า ทั้งสองคนพากันชื่นชมทิวทัศน์ที่เคลื่อนผ่านไปและจีเวลจะร้องเพลงให้แดร์ริลฟังเมื่อพวกเขารู้สึกเบื่อ ตลอดการเดินทางเป็นเรื่องที่น่าชื่นใจ