Sign in Buddha’s palm 326 (II) กายเนื้อโยกคลอนสมบัติ
“ไม่จําเป็น
น้ําเสียงของซูฉินสงบนิ่ง ก้าวเท้าขวาออกไป หายวับไปกับอากาศ
ในทันทีหลังจากนั้น
ร่างของซูฉันก็ไปปรากฏอยู่บนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า
บูม!!!
ราวกับก้อนหินลงกระทบผิวน้ํา แม้ซุฉินจะโจมตีภาพลวงตาของสมบัติล้ําค่าด้วยดวงตาตะวันสีทอง แต่ทั้งเกาะเทพเจ้าสายฟ้าก็ยังคงอยู่ในขอบเขตอํานาจของสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า เมื่อซุฉินปรากฏตัวขึ้นก็เท่ากับเป็นการต่อสู้แย่งชิงการควบคุมเกาะเทพเจ้าสายฟ้าจากสมบัติค่า
ต่ง!!!
เสียงระฆังที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับเทพเจ้าสายฟ้าลั่นระฆังโบราณอย่างรุนแรง คลื่นเสียงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากวาดไปทั่วบริเวณใจกลางเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ซูฉินถึงกับต้องถอยหลังกลับไปสองสามก้าว
ไม่เพียงเท่านั้น เสียงระฆังอันน่าสะพรึงกลัวยังคงปกคลุมไปทั่วทุกทิศทาง ไม่ว่าจะแผ่ไปที่ไหน ทุกที่ก็เหมือนจะพังทลาย จอมยุทธหลายคนร่างระเบิดออกเมื่อเผชิญกับเสียงระฆังอันน่ากลัวนี้
“สมบัติล้ําค่าน่ากลัวจนเกินไปแล้ว”
บรรพชนตําหนักเทพเจ้าหิมะและบรรพชนคนอื่นๆ ใบหน้าซีดเซียว รีบโคจรแก่นแท้แห่งพลังแทบจะต้านเสียงระฆังที่ดังลั่นไม่ไหว
ขนาดอยู่ห่างออกไปหลายสิบหลายร้อยลี้ หลังจากที่ซูฉินรับพลังไปเต็มๆ กว่าเก้าสิบเก้าในร้อยส่วน พลังจากระฆังส่วนที่เหลือยังก่อให้เกิดพลังทําลายล้างเช่นนี้
และในขณะที่จอมยุทธต่างดินแดนจํานวนนับไม่ถ้วนตกอยู่ในห้วงแห่งความหวาดกลัวจาก เสียงระฆังซูฉันยังคงไม่ถอย กลับก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ก้าวต่อไปหลายก้าว ข้ามผ่านระยะทางหลายลี้
ครั้น!
การเคลื่อนไหวของซูฉันดูเหมือนจะทําให้ระฆังเทพสายฟ้าโกรธเกรี้ยวโดยสมบูรณ์ ระฆังดังลั่นต่อเนื่อง ราวกับเสียงฟ้าร้องนับแสนครั้งระเบิดก้องอยู่ภายในหูพร้อมๆกัน ฟ้าดินปั่นป่วนไปหมด
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ไม่มีประโยชน์!”
ซูฉันไม่ได้เกรงกลัวเลย คราวนี้ไม่มีแม้แต่ถอย ก้าวเดินเข้าหาจุดที่ระฆังเทพสายฟ้าตั้งอยู่
ในช่วงเวลานี้ ขณะที่ระฆังยังส่งเสียงออกมา ร่างกายของซูฉินก็เริ่มปริแตกออกอย่างต่อเนื่อง ราวกับทานทนไม่ไหว
ท้ายที่สุดแล้วระฆังเทพสายฟ้านั้นก็เป็นสมบัติล้ําค่า แม้จะไม่ได้อยู่ในการควบคุมของผู้ทรงพลังถึงขีดสุด แต่ก็ยังมีร่องรอยพลังของผู้ทรงพลังถึงขีดสุดอยู่ เพียงร่องรอยของพลังนี้ก็เพียงพอ แล้วที่จะทําให้เซียนเทพปฐพีธรรมดาๆหวาดกลัว ซูฉันสามารถต้านรับมันได้เป็นเวลานาน เพราะร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองค่าซึ่งเหนือกว่ากายแห่งธรรมชาติมาก และแก่นแท้ของอีกาทองคํายังคงโคจรอย่างต่อเนื่องต้านรับพลังส่วนใหญ่ของระฆัง
กระนั้น ร่างกายของซูจินก็เริ่มปริแตก
“ทิพยอํานาจ กายเนื้อกําเนิดใหม่!”
ความคิดเคลื่อนคล้อย ฉับพลันกายเนื้อที่ปริแตกอย่างต่อเนื่องก็เริ่มฟื้นตัว พลังอันยิ่งใหญ่ก็โผล่ออกมาจากภายในร่างของซูฉิน ซ่อมแซมกายเนื้อที่เสียหายอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน
ด้านนอกเกาะเทพเจ้าสายฟ้า จอมยุทธต่างดินแดนจํานวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูการต่อสู้จากระยะไกลต่างตกตะลึง
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังเตรียมจะโจมตีสมบัติล้ําค่างั้นหรือ?” ตํานานยุทธขั้นสูงสุดเบิกตากว้างด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
หากซูฉินทําลายร่างลวงตาของระฆังเทพสายฟ้าด้วยดวงตาตะวันสีทองเมื่อครู่เป็นเพียงการทดสอบขีดจํากัดพลัง แต่ตอนนี้ซูฉินกลับเข้าไปใกลสมบัติล้ําค่า เท่ากับเป็นการใช้กายเนื้อเข้าต่อกรกับสมบัติล้ําค่า
สิ่งนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไร?!
“กายเนื้อของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังฟื้นฟูตัวเองได้เร็วจนน่าเหลือเชื่อ” บรรพชนสํานักเทพโอสฤดูเหมือนจะค้นพบบางสิ่ง ม่านตาของเขาหดตัวกะทันหัน
ในตอนที่เหลยเฉียนจือต่อสู้กับซูฉินในเมืองฉางอัน
เหลยเฉียนจือเกือบจะฟันซูฉันขาดเป็นสองส่วนด้วยดาบสายฟ้าภายในมือ
ในตอนนั้น ซูฉินก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ แต่ทุกคนคิดว่านั่นเป็นเพียงลักษณะพิเศษของร่างจําแลง ท้ายที่สุดร่างจําแลงก็ไม่ได้มีกายหยาบ มันเป็นสิ่งที่ถูกแยกออกมาจากจิตวิญญาณแรกกําเนิด ตราบใดที่ไม่ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ มันก็เป็นปกติที่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
แต่ตอนนี้ ภายใต้เสียงจากระฆังเทพสายฟ้าที่ดังอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังปริแตกออกอย่างรวดเร็วก็จริง แต่ก็ฟื้นตัวได้ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าซึ่งน่าตกใจอย่างยิ่ง
รู้หรือไม่ว่ากายเนื้อนั้นต่างจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดอย่างสิ้นเชิง
โดยพื้นฐานแล้วจิตวิญญาณแรกกําเนิดเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ตราบใดที่มีพลังงานเพียงพอก็สามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย
แต่กายเนื้อที่แปรสภาพพลังมาแล้ว ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งฟื้นตัวได้ยากขึ้นเท่านั้น
แต่ซูฉันเล่า?
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าร่างกายของซูฉินแตกออกตลอดเวลา บรรพชนหุบเขาเทพโอสถก็คงคิดว่าซูฉันไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
และในตอนนี้
ซฉินก็ได้มาถึงระยะสิบเมตรห่างจากระฆังเทพสายฟ้า
ในบริเวณนี้แทบจะเต็มไปด้วยพลังของสมบัติล้ําค่า เหมือนหล่มลึกที่ดักจับซุฉินเอาไว้แน่น ทั้งยังพยายามแทรกซึมซูฉินด้วยพลังของสมบัติล่าค่า
หากไม่ใช่เพราะมีร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําคอยสนับสนุนซึ่งมีศักดิ์สูงกว่าสมบัติล้ําค่า ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูร่างกายด้วยทิพยอํานาจกายเนื้อกําเนิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ฉันเป็นเพียงเซียนเทพปฐพขั้นแบ่งจิตระดับสูงสุดเลย ต่อให้เป็นเซียนเทพปฐพขั้นสูงสุดอย่างจ้าวทะเลบูรพาก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วในเวลานี้
ท้ายที่สุดแล้วเซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุดก็ไม่ใช่ผู้ทรงพลังถึงขีดสุด แต่สมบัติล้ําค่านั้นได้รับการปรับแต่งมาจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุด
ถึงแม้ซูฉินจะสามารถก้าวเดินภายในระยะสิบเมตรห่างจากระฆังเทพสายฟ้าได้ก็ตาม แต่มันก็ยากเย็นอย่างยิ่ง ในขณะที่เสียงระฆังยังดังลั่น ความเร็วในการฟื้นฟูร่างกายของซูฉินก็ช้ากว่าเดิมเล็กน้อย
“มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถัง ทําไมเจ้าถึงทําเช่นนี้เล่า ถ้าเจ้าล่าถอยกลับไป แม้ว่าข้าจะถือสมบัติล้ําค่าเอาไว้ ข้าก็ทําอะไรเจ้าไม่ได้อยู่ดี”
เหลยตู้ฝ่านั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ระฆังเทพสายฟ้า แม้ว่าเขาจะได้รับการคุ้มครองโดยสมบัติล้ําค่า ในตอนนี้พลันได้เห็นซูฉันเดินเข้ามาทีละก้าว ต่อต้านพลังอํานาจบีบบังคับของสมบัติล้ําค่า ก็ตระหนกตกใจไม่น้อย
“งั้นหรือ?”
“ข้าใกล้จะเข้าประชิดได้แล้ว”
ร่างกายของซูฉินเปล่งประกายออกมาเล็กน้อยด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมองไปที่เหลยตู้ฝ่าที่นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ระฆังเทพสายฟ้า รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ประชิดแล้ว?”
เหลยตู้ฝ่าตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ไม่ได้ตอบสนองอะไรไปพักใหญ่
ระฆังเทพสายฟ้าเป็นถึงสมบัติล้ําค่า จะเกิดอะไรขึ้นหรือถ้าซูฉินเข้ามาประชิดได้?
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง”
เหลยต้ฝ่าตั้งสติ ใบหน้ากลับมาเย็นชา “ถ้าเจ้าจากไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เจ้าจะยังสามารถล่าถอยกลับไปได้”
ถึงแม้นิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะมีสมบัติล้ําค่า แต่สมบัติล้ําค่าที่ตื่นขึ้นนั้นก็เพียงพอแค่ปกป้องนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ไม่สามารถดําเนินการตามล่าใครได้
“แต่ตอนนี้”
“ในเมื่อเจ้ากล้าเข้ามาลึกถึงในเขตของสมบัติล้ําค่า ก็จงตายอยู่ที่นี่เสียเถอะ” เหลยต้ฝ่าสูดลมหายใจเข้า พ่นเลือดออกมาจากปาก กระจายเข้าใส่ระฆังเทพสายฟ้า
เสียงดังลั่นเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
กลิ่นอายของระฆังเทพสายฟ้าพุ่งสูงขึ้นเกือบครอบคลุมฟ้าดิน และครอบคลุมซูฉินเอาไว้
การระเบิดพลังครั้งนี้แม้จะเป็นแค่แรงกระตุ้นเล็กน้อยจากเหลยตู้ฝ่า แต่สิ่งที่ซูฉินต้องเผชิญ จริงๆคือพลังอันน่าสะพรึงกลัวของสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า
“เจ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าต้องการจะสื่อ”
ซูฉินสายศีรษะเล็กน้อย ถอนหายใจออกมาเบาๆ “ถ้าข้าเข้าประชิดสมบัติล้ําค่าได้ แสดงว่าข้าได้ผ่านด่านที่แข็งแกร่งที่สุดของสมบัติล้ําค่ามาแล้ว……”
หลังจากซูฉินกล่าวจบ เขาก็ก้าวเท้าไปอีกก้าวและปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าระฆังเทพสายฟ้า จาก นั้นก็ยื่นฝ่ามือเรียวยาวและทรงพลังออกมา ท่ามกลางสายตาที่แสดงความรู้สึกเหลือเชื่อของ เหลยต้ฝ่าและจากจอมยุทธต่างดินแดนจํานวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ ฝ่ามือนั้นก็ประทับลง ไปบนตัวระฆังเทพสายฟ้าเบาๆ
ต่ง!!!
มีเสียงระฆังดังขึ้นอีกหนึ่งเสียง แต่เมื่อเทียบกับเสียงลั่นระฆังก่อนหน้านี้ คราวนี้เสียงระฆังดูทื่อขึ้นอย่างชัดเจน ราวกับเป็นเสียงกระทบที่เกิดจากภายนอกเข้าสู่ภายใน
“เจ้ากําลังจะทําอะไร?!!”
เหลยตู้ฝ่าที่ตอนแรกดูมั่นใจ เหมือนจะรู้สึกได้ถึงบางอย่าง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก และมองจ้องไปที่ซูฉันราวกับเห็นภูตผี
ตอนต่อไป →