1680-2 vs 1680-3 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1680-2
ฝานเจียไม่ได้พูดอะไร เพราะร่างนั้นเธอคุ้นเคยมากที่สุด คนที่เธออุตส่าห์ตามหามานาน ไม่คิดเลยว่าอาจารย์จะได้พบก่อน เท่ากับตบหน้าเธอชัดๆ
“ไปทำคลิปมาคลิปหนึ่ง” เสียงของคิงราบเรียบมากเหมือนจะควบคุมอารมณ์ได้แล้ว เขาสวมชุดกาวน์ตัวขาว เดินเข้าไปใกล้หน้าจอ “ใช้ข้อมูลในนี้แหละ แต่เปลี่ยนเนื้อหาเสียหน่อย ถึงเวลาให้ฉินมั่วได้ลิ้มรสกับความสูญเสียครั้งที่สองแล้วว่ามันเป็นยังไง ถ้าครั้งนี้นักธุรกิจจีนเป็นเขาจริงๆ คลิปของเธอจะได้ประโยชน์มาก”
ไม่ต้องอธิบายให้ชัดเจนเกินไป ฝานเจียก็เข้าใจความหมายของอาจารย์ในวินาทีถัดมา
ปีนั้น เธอปลอมตัวเป็นเพื่อนเขาในวัยเด็ก เพื่อเข้าไปใกล้ชิดเขา คิดไม่ถึงว่าแค่ไม่ถึงสิบวัน เขาก็จับติด แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเธอก็จับจุดอ่อนเขาได้เหมือนกัน จากนั้นจึงหาเส้นปกป้องทางใจของเขา ก่อนจะทำลายแล้วแฝงคำสั่งทางจิตให้ชายหนุ่ม ตอนนี้อาจารย์คงจะกระตุ้นคำสั่งแฝงทางจิตในตอนนั้นอีกครั้ง
หากเป็นเช่นนั้น ถึงเวลาจิตใจของชายหนุ่มก็จะเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นคนของพวกตน คิดมาถึงตรงนี้ ฝานเจียก็กลั้นยิ้มมุมปากไม่ไหว แววตาเป็นประกาย “ฉันจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้แหละค่ะ!”
ภายในเรือยอร์ช หลังจากที่วางสาย เจ้าชายน้อยก็ถีบเก้าอี้ตรงหน้า แววตาเคร่งเครียดหนัก ซึ่งคนที่อยู่ตรงนั้นต่างเข้าใจความรู้สึกที่ว่าดี เพื่อนร่วมปฏิบัติการณ์ถูกจับอีกคนแล้ว ไม่ต้องคิดก็เดาได้ว่า เขาคนนั้นจะต้องโดนคิงทรมานมากแค่ไหน จึงเป็นไปไม่ได้หากจะบอกว่าไม่โกรธ
เวลานี้ทุกคนต่างคิดกันว่า ขอเพียงจับไอ้ตัวก่อความรุนแรงอย่างคิงได้ ก็จะทำให้มันหมดอำนาจในโลกนี้อีก
มีเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งบนเก้าอี้ เคาะนิ้วเรียวๆ บนโต๊ะ ฟังเสียงบันทึกนั่นครั้งแล้วครั้งเล่าจนครบครั้งที่สาม เขาก็ถอดหูฟังออก เหยียดตัวตรง หน้าตายังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม “คิงแค่เล่นกลกับนาย ทุกประโยคเป็นแค่การลองใจ อธิบายได้ว่า เขากำลังสถานะของพวกเรา และนายก็เกือบจะหลุด”
เจ้าชายน้อยได้ยินแล้วถึงกับชะงัก ดวงตาเบิกโต ไม่คิดเลยว่าจะรุนแรงขนาดนี้ เขารู้ว่าคิงเหมือนจงใจยั่วโมโหเขา ที่เหลือ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทว่าได้มายินคำพูดของฉินมั่วในตอนนี้ เจ้าชายได้แต่รู้สึกว่าเหงื่อไหลเต็มศีรษะแต่ชั่วเวลายกมือ คิงตัวจริงทำให้พวกเขาต้องระแวดระวังมากกว่าที่คิดไว้
“ถ้าคิงระแวงสถานะของพวกเรา งั้นเราจะไปคุยธุรกิจกับเขาไหม?” นักมายากลรู้สึกไม่สบายใจ
ฉินมั่วลุกขึ้นยืน “อย่าลืมสิว่าภารกิจของเราในครั้งนี้คืออะไร การที่พวกเขาสงสัยเราก็ถือว่าปกติ คิงเป็นคนขี้ระแวงอยู่แล้ว แถมไม่มีใครหรอกที่จะรีบเชื่อใจตัวนักธุรกิจจีนที่เพิ่งจะมาเจอกัน ต้องรายงานสถานการณ์ตอนนี้ให้เบื้องบนทราบก่อน เจ้าอ้วนตรวจสักหน่อยว่า ทหารหน่วยพิเศษที่ถูกจับมาจากกองทัพไหน แล้งยังมีนักท่องเที่ยวที่เป็นตัวประกันอีกไหม ลองดูว่าจะช่วยยังไง”
“ครับ” ต่างคนต่างแยกย้ายปฏิบัติงาน
ฝ่ายจีนได้รับข้อมูลจากฉินมั่ว ก็เปิดการประชุมใหญ่ทันทีด้วยบรรยากาศเคร่งเครียดกันมาก
จะลงมือต่อดีหรือไม่ เป็นตัวเลือกที่น่าลำบากใจ เพราะหลายครั้งที่เราต้องตัดสินใจ และจำเป็นต้องทำ หากจะบอกว่าก่อนหน้านี้ยังไม่รู้ข่าวอะไร อาจถือว่านักท่องเที่ยวชาวจีนที่ถูกฆ่าตายจนหมด
……………………………………………………………….
ตอนที่ 1680-3
เวลานี้ได้รู้ข่าวแล้ว ในมือของคิงยังมีนักท่องเที่ยวอีก 17 ชีวิต ญาติของนักท่องเที่ยวเหล่านั้น คงเฝ้าหวังว่าพวกเขาจะมีโอกาสกลับมาได้ ทางการจึงไม่อาจละเลยความคาดหวังที่ว่า เช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าคิงสงสัยฉินมั่วและเพื่อนเข้าให้แล้ว ก็ยังปล่อยให้คนเหล่านั้นออกปฏิบัติการณ์ต่อไป อันที่จริงพวกเขาเองก็ไม่อยาก แต่นั่นเป็นทหารพิเศษนอกด่านที่เก่งที่สุดของจีน โดยมีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 25 ปี
ใครๆ ต่างรู้กันว่านี่เป็นภารกิจที่อาจกลับมาไม่ได้อีก คนที่เข้าร่วมการประชุม ไม่ได้มีเพียงท่านเสธฉินและท่านบิ๊ก การจะให้พวกเขาตัดสินใจ จึงยากมาก แต่คนที่แอบแฝงเข้าไปล้วนแต่สละชีวินตนกันแล้วทั้งนั้น เหลือเพียงทีมนี้
พวกเขาอยู่ใกล้รังเก่าของคิงมากที่สุด ถ้าเตรียมพร้อมไว้ดี พอเข้าทะลวงก็จะเกาะตำแหน่งของคิงสำเร็จ ทั้งยังมีคลิปเป็นหลักฐานว่า นักท่องเที่ยวเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจึงจะมีสิทธิใช้อำนาจทางทหารนอกอาณาเขต แต่ทั้งหมดนี้ ต้องมีคนประจันหน้ากับคิง ไม่งั้นก็จะไม่มีใครรู้ว่า นักท่องเที่ยวทั้งสิบเจ็ดคนนี้ รวมถึงทหารพิเศษที่คิงกักตัวไว้ จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือเปล่า
นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจ
และในเวลาเดียวกัน ป๋อจิ่วก็ได้รับข้อความเสียงที่สองจากคุณชายถัง เธออยู่ห่างจากชายแดนเพียงห้าร้อยกิโลเมตร
เธอขับรถแลมโบกินี่ด้วยความเร็วแทบจะเหาะ ทั้งยังขับเร็วกว่ากำหนด แววตาดำทะมึนเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เพราะเธอรู้ดีว่า แม้จะไม่มีการประชุมครั้งดังกล่าว ชายหนุ่มก็ตัดสินใจที่จะช่วยตัวประกัน เพราะยูนิฟอร์มที่อยู่บนตัวเขาและเพราะเขาเป็นทหารของประเทศจีนที่เกิดมาเพื่อช่วยผู้คน
“เสี่ยวเฮย” ป๋อจิ่วหักพวงมาลัยพลางออกคำสั่ง “ต่อสายหาโฮชิโนะให้ฉันที”
“ครับ เจ้านาย” ภาพบนจีพีเอสเปลี่ยนไปเป็นการเชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ต หน้าจอจึงไม่โชว์แผนที่ แต่กลายเป็นฉายภาพคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง จากนั้น หน้าหล่อๆ ยิ้มนิดๆ ของโฮชิโนะก็ปรากฏสู่สายตาของป๋อจิ่ว เขาน่าจะเพิ่งซ้อมเสร็จ สวมชุดทีมไว้บนร่าง ยังคงสวมสายของหูฟังสีดำค้างไว้อยู่ ป๋อจิ่วเห็นเขาสวมสเวตเตอร์มาจนชินแล้ว พอมาเปลี่ยนก็ทำให้รู้สึกถึงแสงตะวันอ่อนๆ ที่สดใส “ยากนะเนี่ยที่คุณจะติดต่อผมผ่านวิดิโอคอล”
“โฮชิโนะ ฉันอยากให้คุณช่วยเช็คที่ที่หนึ่งให้หน่อย” ป๋อจิ่วหันไปมอง แววตาเป็นประกาย “ใช้อำนาจจากโลกแฮกเกอร์”
โฮชิโนะตะลึงทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะหัวเราะ “ผมเข้าใจแล้ว ที่มีมีผมคนเดียว แถมยังมีข้อจำกัดในการสืบค้นด้วย แต่จะติดต่อเครือข่ายในระดับเขต ผมต้องใช้แอคเคาน์คุณ คงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?
“ไม่มีปัญหา” ป๋อจิ่วตอบเด็ดเดี่ยว ทำให้แววตาของโฮชิโนะอ่อนโยน
เมื่อยูกิชินผลักประตูเข้ามาก็เห็นพอดี ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าอีกฝ่ายคุยกับใคร แต่โฮชิโนะดันทำสัญญาณมือให้เขาออกไป ยูกิชินจึงรวบผม หล่อบาดตา แต่ทำให้เขาดูเย็นชา จากนั้นก็เหวี่ยงประตูปิด กระทั่งเค้กที่ซื้อมาให้ก็ไม่เอาแล้ว เหวี่ยงขาคร่อมมอเตอร์ไซด์รุ่น Dodge Tomahauk คันดำสนิท
……………………………………………………………….