บทที่ 343 ผมจะพยายามชดเชยให้คุณ

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

เธอมีนิสัยเคยชินกันการไม่ชอบสวมชุดนอนทุกคืนเวลาเข้านอน

ขณะพรมน้ำหอมก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึกขนาดนี้แล้วใครจะมาที่นี่ได้อีก?

เธอเดินไปเปิดประตูวิลล่า แต่กลับเจอหัสดินที่ดื่มจนเมามายยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าเตือน ดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะดื่มมากเกินไป

หัสดินหรี่ตาดอกท้อของเขามองไปที่เธอ กลับมองไปที่ส่วนที่ยื่นออกมาทั้งสองข้างใต้ชุดนอนพอดิบพอดี ราวกับว่ากำลังยั่วยวนเขา

ฝ่ามือใหญ่ยื่นออกไปแตะเอวบางของเธอแล้วดึงตัวเธอเข้าหาอ้อมแขนของเขาทันที

เรนนี่กอดเขา มุมปากโค้งยิ้มเล็กน้อย แต่มือกลับผลักตัวหัสดินออก “ไม่นะคะ พวกเราไม่สามารถจะทำแบบนี้ต่อไปได้แล้ว!”

ตอนนี้หัสดินคลั่งไปแล้ว เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เรนนี่ถามอีกครั้งว่า “หัสดินคะ ฉันคือใคร?”

“ยู่ยี่!” เสียงของเขาอู้อี้

เธอโกรธจึงผลักเขาออก บอกว่าฉันไม่ใช่ แต่เขากลับกอดเธอแน่นขึ้น การกระทำเริ่มไร้ความเกรงใจ พูดอย่างคลุมเครือว่า เรนนี่ นีนี่…

นีนี่คือชื่อเล่นของเธอ เมื่อก่อนเวลาทั้งสองอยู่ด้วยกัน เขาเคยเรียกเธอว่านีนี่

เรนนี่อ่อนลง คลี่ยิ้มออก ปล่อยให้เขาอุ้มเธออย่างตามใจ

หลังจากที่มีอะไรกันมาเมื่อคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น

ตอนที่เรนนี่ตื่นขึ้นมาก็เห็นหัสดินยืนอยู่หน้าหน้าต่าง เขาไม่พูดอะไร กำลังสูบบุหรี่ปล่อยควันให้ลอยขึ้นไป

เธอมองออกได้อย่างชัดเจนว่าในใจเขายังคงรู้สึกผิดต่อยู่ยี่ มีเพียงผู้หญิงที่ฉลาดเท่านั้นที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรในตอนนี้

หากคุณบีบบังคับอย่างรีบร้อนเกินไป เขาจะยิ่งเกลียดคุณมากขึ้นเท่านั้น หากคุณปล่อยเขาให้สบายเกินไป คุณจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง

มันก็เหมือนกับการปล่อยว่าว หากคุณคอยจับสายตลอดไม่ปล่อย มันก็จะบินได้แค่ระดับต่ำๆ ถ้าหากปล่อยสายมันก็จะบินสูง แต่ต่อให้บินสูงแค่ไหน มันก็จะมีจังหวะที่ตกลงพื้น รอจนมันตกลงพื้นเมื่อไร ก็ย่อมกลับคืนสู่อ้อมแขนของคุณ

“ฉันรู้ว่าเมื่อคืนคุณไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะถือว่ามันเป็นความผิดพลาด คุณวางใจได้ ฉันรู้ว่าต้องทำอย่างไร” เรนนี่กล่าว

พอหัสดินที่ไม่พูดอะไรสักคำได้ฟังประโยคนี้ ร่างกายที่ตึงเครียดมาตลอดก็ผ่อนคลายลง ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความผิดเมื่อคืนนี้เป็นความผิดของเขาทั้งหมด

“ต้องการอะไรก็บอกผม ผมจะพยายามชดเชยให้คุณ…”

“ฉันไม่ต้องการ ฉันมีทุกอย่างแล้ว เพียงแต่สิ่งที่ฉันต้องการมาโดยตลอดมันไม่ใช่ของฉัน คุณไปเถอะ ฉันจะนอนสักพัก…”

คำพูดของเรนนี่เต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง แต่ความหมายในนั้นเธอเข้าใจ หัสดินก็ย่อมเข้าใจอย่างแน่นอน

สุดท้ายหัสดินไม่พูดอะไร เขาเหลือบมองเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เลิกคิ้วขึ้น แต่ดวงตากลับหม่นลง

เรนนี่ไม่ใส่ใจท่าทีของเขาในตอนนี้ เธอกำลังวางแผนสำหรับอนาคตในระยะยาว มีบางเรื่องคุ้นเคยให้มันเกิดขึ้น ตราบใดที่มีครั้งแรก ต่อจากนี้มันก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

ตอนที่ยู่ยี่เตรียมจะไปที่ห้องครัว เธอก็เจอกับหัสดินที่เดินเข้ามาพอดี เขาสวมชุดกีฬา

เธอเหลือบมองสองครั้งไม่พูดอะไร นึกว่าเขาจะไปออกกำลังกายตอนเช้า แต่ที่จริงแล้วชุดนี้เขาให้คนขับรถเอามาให้ตอนกลับมา

กางเกงสูทกับเสื้อเชิ้ตย่อมไม่สามารถใส่ได้แล้ว เพราะมีรอยลิปสติกและกลิ่นน้ำหอม

ยู่ยี่ไม่พูดอะไร หัสดินก็ไม่พูดอะไร เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี พอมองดูท้องเธอก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ความรู้สึกผิดปะปนกับความหงุดหงิดทำให้เขาไม่อยากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว และไม่อยากเอ่ยปาก

ในคอนโดขนาดใหญ่ขนาดนี้ ทั้งสองคนต่างก็ไม่พูดอะไรกัน ยู่ยี่กินโจ๊ก เขาไปห้องหนังสือ

เมื่อนึกถึงค่ารักษาพยาบาลเมื่อวาน ยู่ยี่วางถ้วยลง เธอไม่รู้เบอร์โทรของฉันทัช แม้ว่าจะรู้ว่าบ้านของเขาอยู่ในวิลล่าเกสรแต่เธอก็ไม่คิดจะไป

ความรู้สึกคุกคามข่มขู่ที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัด อีกอย่างผู้หญิงท้องอย่างเธอก็สร้างปัญหาให้เขาหลายครั้งแล้ว ไม่รู้ว่าเขารำคาญเธอรึเปล่า ไม่อยากจะไปรบกวนเขาอีกแล้วจริงๆ

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอใช้วิธีส่งไปรษณีย์ดีกว่า เอาเงินห่อไว้ส่งให้แม่บ้านแล้วให้ที่อยู่เธอไป ให้เธอเอาไปส่ง

เธอรู้ดีว่าการทำแบบนี้สำหรับผู้ชายแล้วนับว่าไม่มีมารยาทมากๆ แต่เธอไม่อยากรบกวนเขาอีกต่อไปแล้วจริงๆ

จากนั้นสายตาเธอก็กวาดตาประตูห้องหนังสือที่ปิดสนิท เธอเลิกคิ้วขึ้นสูง เดินออกจากคอนโดอย่างไม่สนใจ…

ไม่นานหลังจากที่เธอออกไป หัสดินก็สวมเสื้อกวาดตามองคอนโดแล้วเดินออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ยู่ยี่ไปโรงพยาบาลก่อน เปมิกาดึงตัวเธอเพื่อถามเรื่องฉันทัชอีกครั้ง เธอปวดหัว ไม่ตอบ

เหลวไหลมากพอแล้วจริงๆ!

เปมิกาและเจ้าเอยยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้ ยู่ยี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าเอยเคยคิดที่จะล่อลวงหัสดิน เพียงแต่เธอยังไม่ได้ทำเท่านั้น เธอมีความคิดนี้มาโดยตลอด

เฟริส์ตื่นขึ้นมาสามารถกินข้าวได้ ยู่ยี่ก็โล่งใจ เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่ในโรงพยาบาลนาน และมันไม่ง่ายเลยขอตัวออกมา เธอแกล้งมีธุระโทรหาเชอร์รีน ถึงจะสามารถขอปลีกตัวออกมาได้…

ร้านอาหารเปิดใหม่ในเมืองS ข้างในล้วนรับรองบรรดาคนมีหน้ามีตาและคนดัง ยู่ยี่และเชอร์รีนนัดเจอกันที่ร้านอาหารร้านนั้น

พอยู่ยี่มาถึงนอกร้านอาหารก็เห็นนาโนที่แต่งตัวอย่างงดงามฉูดฉาดหรูหราอย่างไม่คาดคิด

ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง มีลมหนาวพัดมาเป็นบางครั้ง แต่เธอกลับสวมเสื้อโค้ต ข้างล่างสวมเพียงถุงน่องคู่เดียว แม้แต่ขาขาวก็โผล่ออกมาให้เห็นหมด

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหนาว ร่างกายของยู่ยี่สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ เธอไม่รู้สึกหนาวบ้างรึไง?

เมื่อเห็นเธอสวมชุดจนตัวกลม เปลือกตาของนาโนก็พลิกขึ้น “แม่ทูนหัวของลูกฉัน ช่วยใส่เสื้อผ้าที่ทันสมัยกว่านี้ได้ไหม? ถ

ใส่หนาขนาดนี้จะไปเป็นหมีขั้วโลกเหนือเหรอ?”

เชอร์รีนพูดขึ้น “ตอนนี้เธอกำลังท้อง ร่างกายจะโดนลมเย็นไม่ได้ มิฉะนั้นจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรัง รอเธอตั้งครรภ์แล้วยังใส่แบบนี้ เธอจะต้องเสียใจทีหลัง”

“ใส่หนาขนาดนี้ ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่ารักออก” ยู่ยี่ไม่เห็นด้วย เธอยิ้มตาหยี แล้วแปะมือกับซาราง

นาโนโกรธจนไม่อยากสนใจเธออีกต่อไปแล้ว ยังมาน่ารกน่ารัก น่ารักกับผีสิ!

ทั้งสามคนเดินเข้าไป จู่ๆดวงตาของนาโนก็เป็นประกายขึ้นทันที สองมือจับแขนของยู่ยี่และเชอร์รีนที่ยืนอยู่ข้างๆ กระซิบอย่างตื่นเต้นว่า “เทพบุตร เทพบุตรของฉันปรากฏตัวแล้ว!”

ทั้งสองมองตามสายตาเธอไป ยู่ยี่ก็ตัวแข็งทื่อ ในขณะที่เชอร์รีนขมวดคิ้ว เทพบุตรไหน?

ที่ตำแหน่งริมหน้าต่าง ก็เห็นร่างโปร่งของฉันทัชนั่งอยู่บนโซฟา ออร่าของเขาทรงพลัง ขายาวสองข้างวางซ้อนกันอย่างสง่า เขาถือแก้วกาแฟมาจิบเบาๆ

เมื่อมองจากมุมนี้ ก็เห็นด้านข้างที่สมบูรณ์แบบอย่างลึกซึ้งของเขาพอดี ฝั่งตรงข้ามเขามีผู้ชายนั่งอยู่คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ยู่ยี่เคยเห็นในคืนนั้น

ทั้งสามนั่งที่โต๊ะอาหารหลังบาร์ ตรงข้ามกับที่ของทั้งสองพอดี

เชอร์รีนและนาโนต่างก็ดื่มกาแฟ ในขณะที่ยู่ยี่ยังคงดื่มนม แม้ว่าเธอได้กลิ่นนมแล้วอยากจะอ้วกมาก

“โลกกว้างใหญ่ซะขนาดนั้น การได้เจอพ่อเทพบุตรของฉันมันคือพรหมลิขิตชัดๆ ถ้าฉันไม่ไปทักทายเขา คงจะผิดต่อการที่พระเจ้าอุตส่าห์เตรียมการให้ ใครก็ห้ามมาห้ามฉัน!” เธอสะบัดผมหยักศกไปด้านหลัง ยกแก้วกาแฟ บิดสะโพก เดินไปอย่างมีสไตล์